YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 232 OF 365

วิธีฟังเสียงพระวิญญาณบริสุทธิ์

วิลล์ วิสบี เป็นตัวแทนอสังหาริมทรัพย์หนุ่มผู้ประสบความสำเร็จ เขาสงสัยในความเชื่อคริสเตียนอย่างยิ่ง ในวันอาทิตย์หนึ่ง เพื่อนคนหนึ่งเชิญเขามาที่คริสตจักรโฮลี่ ทรินิตี้ บรอมพ์ตัน ในระหว่างการนมัสการ บางคนมีของประทานคือ ‘ถ้อยคำแห่งความรู้' ได้กล่าวว่า ‘มีชายคนหนึ่งอยู่ที่นี่ ผู้ซึ่งกำลังรอคอยรถสปอร์ตเปิดประทุนซึ่งจะส่งมาถึงในอีกสองวัน เขาทำงานหนักมาตลอดชีวิตเพื่อบรรลุความสำเร็จ รักทำงานเป็นชีวิตจิตใจ เขามีรถ มีบ้าน มีวิถีชีวิตที่ดี แต่เขาไม่มีความสุข พระเจ้าอยากให้เขารู้ว่า มีบางสิ่งสำคัญยิ่งกว่าที่เขาจะต้องหันมาสนใจ’ ต่อมาภายหลัง วิลล์ได้เขียนว่า ‘ผมแทบไม่อยากจะเชื่อ ผมเพิ่งซื้อรถคันใหม่ที่ดีที่สุด มันจะมาถึงภายในสองวัน และผมไม่ได้บอกใคร ผมหาเงินได้ปีละ 100k ปอนด์ (ประมาณ 4.4 ล้านบาท) งานคือชีวิตของผม คืนนั้น เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ผมได้อธิษฐานอย่างจริงจัง’ วิลล์สัมผัสกับพระเยซูคริสต์และเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขาพูดว่า ‘ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าพระเยซูทรงมีอยู่จริง พระองค์ทรงรักผม และพระองค์ทรงอยู่กับผม’ พวกเราหลายคนดำเนินชีวิตในโลกที่อึกทึกและวุ่นวาย ในท่ามกลางทุกเสียงที่รบกวน และการพูดคุยสนทนาต่าง ๆ แล้วคุณจะได้ยินเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้อย่างไร?

สุภาษิต 20:15-24

จบฟังปัญญาและความรอบรู้

หนึ่งในวิธีที่คุณสามารถได้ยินเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์คือผ่านทางคำแนะนำอันมีปัญญาของผู้อื่น ผู้คนที่มีสติปัญญาและความรอบรู้นั้นล้ำค่ามาก 'มี​ทอง​คำ​และ​มี​ทับ​ทิม​มาก​มาย แต่​ปาก​ที่​มี​ความ​รู้​ก็​เป็น​ของ​ล้ำ​ค่า​ยิ่ง’ (ข้อ 15) ‘การดื่มด่ำจากจอกแห่งความรู้ที่งดงามนั้นดียิ่งกว่า การประดับประดาตนเองด้วยทองคำและอัญมณีที่หายาก’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

แสวงหาความช่วยเหลือเมื่อต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ ‘แผน​งาน​ดำ​รง​อยู่​ได้​ด้วย​คำ​แนะ​นำ’ (ข้อ 18) คุณยังคงต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของคุณ ‘สร้างจุดมุ่งหมายของคุณโดยขอคำแนะนำ จากนั้นดำเนินการโดยใช้ทุกความช่วยเหลือทั้งหมดที่คุณจะหาได้’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ในพระธรรมสุภาษิตเต็มไปด้วยคำแนะนำที่ชาญฉลาด ซึ่งบอกคุณให้ระวังคนที่ชอบนินทาซึ่งทรยศความไว้วางใจและให้หลีกเลี่ยงคนที่พูดมากเกินไป ‘คนชอบนินทาเก็บความลับไว้ไม่ได้ ดังนั้นอย่าไว้ใจคนที่ปากพล่อย’ (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) หนึ่งในคนชอบนินทาซึ่งรู้จักกันดี ได้ปักคติพจน์นี้ไว้บนหมอนอิงของเธอ: ‘ถ้าคุณไม่มีอะไรดี ๆ จะพูดถึงคนอื่น มานั่งนี่กับฉันซิ’

คำแนะนำอันชาญฉลาด ๆ อีกอย่างที่เป็นคำเตือนเรื่องการแก้แค้นคือ อย่าพูดเลยว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ!” จงรอคอยพระเจ้า พระองค์จะทรงชำระความแค้นให้’ (ข้อ 22, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

การฟังเสียงองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ หมายถึง การฟังพระวจนะของพระเจ้า ‘ย่างเท้าของมนุษย์นั้นพระยาห์เวห์ทรงกำหนดแล้วคนจะเข้า​ใจ​ทาง​ของ​เขา​เอง​ได้​อย่าง​ไร?’ (ข้อ 24) จงฟังเสียงพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่พระองค์ทรงตรัสกับคุณผ่านทางพระวจนะ

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสกับข้าพระองค์ผ่านทางพระวจนะ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ได้ยิน และเชื่อฟังเสียงของพระองค์

1 โครินธ์ 14:1-19

จงฟังผ่านของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์

จงยกย่องความรัก และอย่าทำอะไรเพื่อลดคุณค่าความสำคัญแห่งของประทานแห่งองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ เปาโลเน้นทั้งสองสิ่ง: ‘จง​มุ่ง​หา​ความ​รัก และขวน​ขวายของประทานจากพระวิญญาณ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​การ​เผย​พระ​วจนะ’ (ข้อ 1) บางคนกล่าวว่า เราควร ‘ปรารถนาในตัวผู้ให้ ไม่ใช่ตัวของประทาน’ แต่ผู้ให้สั่งเราให้ปรารถนาของประทาน

การเผยพระวจนะเป็นหนึ่งในของประทานแห่งองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงตรัสกับคริสตจักร เปาโลเน้นความสำคัญว่าของประทานมีไว้เพื่อคริสตจักร ซึ่งสำคัญยิ่งกว่าการพูดภาษาแปลก ๆ ‘ข้าพเจ้าต้องการให้พวกท่านทุก​คน​พูด​ภา​ษา​แปลก ๆ แต่​ยิ่ง​กว่า​นั้น ข้าพเจ้าต้องการให้พวกท่านเผยพระวจนะ’ (ข้อ 5ก)

แม้ว่าเปาโลกำลังพูดในสถานการณ์ที่ของประทานเรื่องภาษาแปลก ๆ นั้นอันตรายหากใช้ในทางที่ผิด เขายังคงคิดบวกอย่างน่าทึ่งเกี่ยวกับเรื่องของประทานชนิดนี้ อาจารย์เปาโลกล่าวว่า ผู้ที่อธิษฐานในภาษาแปลก ๆ ก็ทำให้ตัวเองเจริญขึ้น (ข้อ 4) นี่เป็นของประทานที่ดีสำหรับทุกคน (ข้อ 5) ของประทานภาษาแปลก ๆ เป็นวิธีหนึ่งในการอธิษฐานในพระวิญญาณ (ข้อ 14) และนี่เป็นการขอบพระคุณ และการสรรเสริญเป็นหลัก (ข้อ 16–17) เขาเป็นพยานเรื่องการใช้ของประทานนี้เอง ‘ข้าพเจ้าขอบ​พระ​คุณ​พระ​เจ้า ข้าพเจ้าพูด​ภา​ษา​แปลก ๆ มากกว่าท่านทั้งหลายอีก’ (ข้อ 18)

เปาโลสร้างความแตกต่างระหว่างการใช้ของประทานเป็นการส่วนตัว (ซึ่งท่านหนุนใจโดยทั่วไป) และการใช้ของประทานนี้ในที่สาธารณะในคริสตจักร ถ้าคนหนึ่งพูดภาษาแปลก ๆ ในคริสตจักร ก็จำเป็นต้องมีการแปล (ข้อ 5,18–19) เมื่อถูกใช้ร่วมกับของประทานในการแปล ก็เท่ากับเป็นการเผยพระวจนะ (ข้อ 5ข)

ของประทานในการแปลทำให้คริสตจักรเจริญขึ้นหลังจากที่ภาษาแปลก ๆ ถูกพูดในที่สาธารณะ (ข้อ 5) ทุกคนที่มีของประทานภาษาแปลก ๆ ควรอธิษฐานสำหรับของประทานนี้เช่นกัน เพื่อคริสตจักรสามารถจำเริญขึ้น

การเผยพระวจนะเป็นความสามารถในการฟังสิ่งที่พระเจ้าตรัส และส่งต่อให้กับคนอื่น ๆ นี่เป็นของประทานทางฝ่ายวิญญาณที่มีความสำคัญมากในคริสตจักร และควรขวนขวายหา (ข้อ 1) นี่ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเรื่องการพยากรณ์อนาคต แต่กลับกันนี่เป็นการบอกล่วงหน้าถึงสิ่งที่พระเจ้ากำลังตรัสในสถานการณ์ปัจจุบัน

คริสเตียนในยุคแรกมาถึงจุดที่มองเห็นพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมว่าเป็นการเผยพระวจนะ (2 เปโตร 1:20) พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมผู้เผยพระวจนะเป็นพยานเรื่องพระเยซู พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่อัครสาวกเป็นพยานถึงพระเยซู ปัจจุบันไม่มีสิ่งใดเทียบเท่าในแง่ของสิทธิอำนาจ

ถ้อยคำเรื่องการเผยพระวจนะในปัจจุบันไม่ได้มีสิทธิอำนาจเทียบเท่ากับผู้เผยพระวจนะและอัครทูต พระคริสตธรรมคัมภีร์สำหรับคริสเตียนทุกคนในทุกที่ทุกเวลา ถ้อยคำเผยพระวจนะนั้นเป็นถ้อยคำเฉพาะเจาะจง ที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า ให้กับบางคนหรือหลายคนอย่างเฉพาะเจาะจง ในช่วงเวลาที่เจาะจง เพื่อวัตถุประสงค์ที่เจาะจง นี่คือการเผยพระวจนะโดยมนุษย์ถึงบางสิ่งซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ดลความคิดและจิตใจและบางครั้งก็กระทำผิดพลาดไปบ้าง

แต่ถึงอย่างไรเปาโลให้คุณค่าสูงกับของประทานในการเผยพระวจนะ (1 โครินธ์ 14:1) เพราะว่านี่เป็นของประทานซึ่งเสริมสร้างคริสตจักร (ข้อ 4) และยังสามารถส่งผลกระทบต่อ ‘คนที่ไม่เชื่อ' ‘แต่ถ้าทุกคนเผยพระวจนะ คน​ที่​ไม่​เชื่อ​หรือ​คน​ที่​ไม่​รู้​เข้า​มา...ความลับในใจของเขาจะถูกทำให้ปรากฎ เขา​ก็​จะ​ทรุด​ตัว​ลง​ซบ​หน้า​นมัส​การพระเจ้ากล่าวว่า “พระเจ้าสถิต​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​ท่าน​อย่าง​แน่​นอน!”’ (ข้อ 24–25) นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับวิลล์ วิสบี

การเผยพระวจนะจำเป็นต้องถูกวินิจฉัย: 'ให้​พวก​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​พูด​ได้สอง​หรือ​สาม​คน และให้คนอื่น ๆ วินิจฉัยสิ่งที่พูด’ (ข้อ 29)

1. นี่ตรงกับพระคัมภีร์ไหม?
พระเจ้าจะไม่ทำสิ่งที่ขัดแย้งกับพระองค์เอง

2. อะไรคือลักษณะนิสัยของผู้ที่เผยพระวจนะ?
พวกเขาเป็นผู้คนที่เต็มไปด้วยความรักไหม? (ข้อ 1)

3. ผลกระทบของการเผยพระวจนะคืออะไร?
เปาโลเขียนว่า '… แต่ผู้ที่เผยพระวจนะนั้น พูดกับมนุษย์เพื่อให้เจริญขึ้น ให้มีการชูใจและการปลอบใจ’ (ข้อ 3) ถ้อยคำเผยพระวจนะที่แท้จริงจะเป็นบวกเสมอในแง่ของการทำให้จำเริญขึ้น ชูใจ และปลอบใจคนอื่น ๆ

โดยรวม ถ้อยคำเผยพระวจนะนั้นยืนยันสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ใส่ไว้ในหัวใจเราเรียบร้อยแล้ว หากคุณไม่แน่ใจเรื่องถ้อยคำการเผยพระวจนะ อย่าเร่งรีบ แต่จงทำในสิ่งที่มารีย์มารดาของพระเยซูทรงทำ คือรอคอยและไตร่ตรองถึงสิ่งเหล่านั้นในใจของคุณ (ลูกา 2:19)

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ในฐานะคริสตจักรที่จะสร้างบรรยากาศแห่งการคาดหวังที่จะได้ยินเสียงขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะตรัสกับพวกเรา และเมื่อเราได้ฟัง ขอที่พวกเราจะติดตามวิถีแห่งความรักของพระองค์และขวนขวายของประทานของพระวิญญาณบริสุทธิ์

2 พงศาวดาร 10:1-12:16

จงฟังคำแนะนำที่ดีและถ้อยคำเผยพระวจนะ

เรโหโบอัมทำพลาดครั้งใหญ่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสกับเขาผ่านทางผู้อาวุโส พวกเขากล่าวว่า 'ถ้า​ฝ่า​พระ​บาท​ทรงรับใช้​ต่อ​ประ​ชา​ชน​นี้ และทรงพิจารณาถึงความต้องการของพวกเขา และตอบสนองด้วยความเมตตา แก้ปัญหากับพวกเขา เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​ทำทุกสิ่งเพื่อของ​ฝ่า​พระ​บาท​เป็น​นิตย์’ (10:7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เรโหโบอัมทำพลาดโดยปฏิเสธคำแนะนำของผู้อาวุโส (ข้อ 8) แต่กลับไปฟังคำแนะนำอันเลวร้ายของคนหนุ่มที่เติบโตมาด้วยกันแทน (ข้อ 10–11) เรโหโบอัมบอกกับประชาชนว่า ‘พระ​ราช​บิดา​ของ​เรา​ฟาด​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ด้วย​แส้ แต่​เรา​จะ​เฆี่ยนท่าน​ด้วย​โซ่!’ (ข้อ 11ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เรโหโบอัม ‘ไม่​ทรง​ฟัง​ประ​ชา​ชน’ (ข้อ 15) เมื่ออิสราเอลทั้งหมดเห็นว่า ‘พระ​ราชา​ไม่​ทรง​ฟัง​เขา​ทั้ง​หลาย’ (ข้อ 16) พวกเขาจึงกบฏ

แต่พระเจ้าไม่ได้ล้มเลิกที่จะตรัสกับเรโหโบอัม ‘พระ​วจนะ​ของ​พระ​ยาห์​เวห์​มา​ยัง​เช​ไม​อาห์ คน​ของ​พระ​เจ้า​‘ และเขาถูกบอกให้ไปและ​ทูล​เร​โห​โบ​อัม​ 'พระ​ยาห์​เวห์​ตรัส​ดัง​นี้​ว่า...’ (11:2–4ก)

นี่เป็นช่วงเวลาที่พระราชาและประชาชนไม่เป็นหนึ่งเดียวกันในการฟังเสียงพระเจ้า ‘แล้ว​พวก​เขา​จึง​เชื่อ​ฟัง​พระ​วจนะ​ของ​พระ​ยาห์​เวห์ และ​กลับ​ไป​โดย​ไม่​ได้​สู้​รบ​กับ​เย​โร​โบ​อัม’ (ข้อ 4ข)

ภายหลัง พระเจ้าตรัสอีกครั้งผ่านทางผู้เผยพระวจนะ เชไมอาห์ ‘พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “พวก​เจ้า​ได้​ละ​ทิ้ง​เรา เรา​จึง​ละ​ทิ้ง​พวก​เจ้า​”’ (12:5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) อีกครั้งที่พวกเขาฟัง พวกเขา ‘ถ่อม​ตัวลง​และ​กล่าว​ว่า “พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ชอบ​ธรรม​แล้ว”’ (ข้อ 6) ผลก็คือ ‘เมื่อ​พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​เห็น​ว่า เขา​ทั้ง​หลาย​ถ่อม​ตัว​ลง พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​ได้​มา​ถึง​เช​ไม​อาห์​ว่า “เขา​ทั้ง​หลาย​ได้​ถ่อม​ตัว​ลง​แล้ว เรา​จะ​ไม่​ทำ​ลาย​เขา แต่​เรา​จะ​ให้​การ​ช่วย​กู้​แก่​พวก​เขา​บ้าง…”’ (ข้อ 7)

ข้าแต่พระเจ้า ขอประทานสติปัญญาแก่ข้าพระองค์ในการได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้เรียนรู้ที่จะฟังเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์

Pippa Adds

1 โครินธ์ 14:4

‘คน​ที่​พูด​ภา​ษา​แปลก ๆ นั้น​ก็​ทำ​ให้​ตัว​เอง​เจริญ​ขึ้น’

เมื่อเพื่อนคนหนึ่งของฉันถูกถามเมื่อหลายปีก่อนว่า เธออยากจะมีของประทานภาษาแปลก ๆ ไหม เธอตอบว่า ‘ถ้ามันช่วยนะ’ ฉันต้องการทุกความช่วยเหลือเท่าที่ฉันจะหาได้ ฉันขอบพระคุณพระเจ้าอย่างยิ่งสำหรับของประทานนี้ในหลายต่อหลายครั้ง เมื่อฉันไม่สามารถออกเสียงสิ่งที่ฉันรู้สึกได้ ฉันใช้ของประทานนี้เพื่อเทสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More