พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

อุทิศตนด้วยสุดหัวใจ
ผมยังจำมันได้ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ผมลุกขึ้นออกจากที่นั่งแล้วเดินไปข้างหน้า ผมพึ่งเป็นคริสเตียนได้เพียงไม่กี่เดือน ผมตอบสนองคำเทศนาด้วยการอุทิศทั้งชีวิตให้แก่องค์พระผู้เป็นเจ้าและติดตามพระองค์ด้วยสุดหัวใจของผมไม่ว่าอยู่แห่งหนไหน แน่นอนว่า ผมมีทั้งช่วงที่ดีและไม่ดี ผมมีช่วงเวลาที่พลาดพลั้ง พวกเรายังห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบ ผมยังคงทำสิ่งที่ผมไม่ปรารถนาทำแต่ผมยังตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดหัวใจและอุทิศทั้งชีวิตเพื่อพระองค์ การ ‘อุทิศทั้งชีวิต’ ด้วย ‘สุดหัวใจ’ หมายถึงการอุทิศทั้งหมด 100% นั่นคือการพยายามทำสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกให้คุณทำ และรวมถึงการกำจัดรากปัญหาของสิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ คุณควรต้องทำลายบรรดารูปเคารพของคุณและละทิ้งพระอื่น ๆ ในชีวิต องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมองหาผู้ที่ ‘*จริงใจ*ต่อพระองค์’ (2 พงศาวดาร 16:9) ผู้เขียนสดุดีอธิษฐานว่า ‘ขอทรงรวมใจของข้าพระองค์เป็นใจเดียว’ (สดุดี 86:11) สำนวนที่ว่า ‘ด้วยสุดใจ’ ปรากฎอยู่หลายครั้งในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องทำสิ่งต่อไปนี้ ‘*ด้วยสุดใจของคุณ*’ ได้แก่ * รักพระเจ้า (เฉลยธรรมบัญญัติ 6:4-5, มัทธิว 22:36-38) * วางใจพระเจ้า (สุภาษิต 3:5) * เชื่อฟังพระเจ้า (สดุดี 119:34,69, 1 พงศาวดาร 29:19) * สรรเสริญพระเจ้า (สดุดี 111:1, 138:1) * ทำงานเพื่อถวายพระเจ้า (เนหะมีย์ 4:6, โคโลสี 3:23) นี่คือวิธีที่จะชื่นชมยินดีกับชีวิตและมีชีวิตอย่างครบบริบูรณ์ (ยอห์น 10:10) เป็นชีวิตแห่งความรัก ความไว้วางใจ การขอบพระคุณ ความชื่นชมยินดี และการงานที่มีความหมาย ในข้อพระคริสตธรรมคัมภีร์สำหรับวันนี้ เราจะเห็นเหตุผล และวิธีที่เราควรดำเนินชีวิต*อย่างสุดใจ*สดุดี 102:1-11
ชีวิตนั้นแสนสั้น
ผู้เขียนสดุดีรู้ว่าชีวิตนั้นสั้นเพียงใด 'เพราะวันเวลาของข้าพระองค์สลายไปอย่างควัน’ (ข้อ 3ก) ‘วันเวลาของข้าพระองค์เหมือนเงาเวลาเย็น ข้าพระองค์เหี่ยวไปเหมือนหญ้า’ (ข้อ 11) เขามีความรู้สึกว่าเวลากำลังจะหมดลง ชีวิตบนโลกนี้ช่างสั้นนัก ดังนั้นจงทำทุกวันให้ดีที่สุด
ผู้เขียนสดุดีกำลังเป็นทุกข์ เขาร้องว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ ขอให้เสียงร้องของข้าพระองค์มาถึงพระองค์ ขออย่าซ่อนพระพักตร์ของพระองค์จากข้าพระองค์ ในยามที่ข้าพระองค์ทุกข์ยาก ขอเงี่ยพระกรรณฟังข้าพระองค์ ขอทรงตอบโดยเร็ว เมื่อข้าพระองค์ร้องทูล’ (ข้อ, 1–2)
นี่เป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของการอุทิศตนด้วยสุดใจต่อพระเจ้าแม้ในยามทุกข์ยาก คือการเลือกที่จะหันไปหาพระเจ้า ตระหนักว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าเนื่องนิตย์ (ข้อ 12) และเขาสามารถวางใจพระองค์ได้
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ขอบคุณพระองค์แม้ว่าชีวิตของข้าพระองค์ ‘เหมือนเงาเวลาเย็น’ พระองค์ทรงดำรงอยู่นิรันดร์และข้าพระองค์สามารถวางใจในพระองค์ได้ ข้าพระองค์ขอวางภาระปัญหาทุกอย่างลงต่อพระองค์ในเวลานี้ ข้าพระองค์ร้องขอให้การช่วยกู้มาจากพระองค์
1 โครินธ์ 15:1-34
ความแน่นอนของการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู
เปาโลบอกเราถึงหัวใจของคำเทศนาของเขาและสาเหตุที่เขาติดตามพระเยซูอย่างสุดใจ ‘ข้าพเจ้าขอให้คำนึงถึงข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าเคยประกาศแก่ท่านทั้งหลายนั้น พวกท่านได้รับไว้และได้ตั้งมั่นอยู่บนนั้นแล้ว’ (ข้อ 1) นี่คือข่าวประเสริฐที่ทำพวกท่านรอด (ข้อ 2) จงยึดมั่นเอาไว้
1. ข้อความ
เป็นข้อความที่เรียบง่ายที่ว่า ‘ท่านคือพระคริสต์วายพระชนม์เพราะบาปของเรา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์และทรงถูกฝังไว้ แล้ววันที่สามพระองค์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์’ (ข้อ 3–4)
การตายของพระองค์นั้นมีจุดประสงค์ที่ใหญ่ยิ่ง นั่นคือเพราะ ‘บาปของเรา' โทษของความบาปได้รับการชำระแล้ว อำนาจของบาปถูกทำลาย และวันหนึ่งความบาปถูกขจัดออกไปทั้งหมด
คุณมั่นใจได้เพราะการเป็นขึ้นมาจากความตาย คือความหวังของคุณในอนาคต
พระเยซูสิ้นพระชนม์และถูกฝังไว้ วันหนึ่งคุณเองก็จะต้องตายและถูกฝัง พระเยซูทรงฟื้นจากความตาย วันหนึ่งคุณจะทำให้เป็นขึ้นมาจากความตายสู่ชีวิตที่สมบูรณ์และเป็นนิรันดร์เช่นกัน
2. หลักฐาน
การเป็นขึ้นมาจากความตายเป็นสัญญาณในโลกแห่งอนาคตที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ อาจารย์เปาโลพูดถึงอนาคตโดยพิจารณาถึงสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำ 'พระเจ้าทรงให้คนทั้งปวงมีความมั่นใจในเรื่องนี้โดยทรงให้บุคคลผู้นั้นเป็นขึ้นจากตาย’ (กิจการ 17:31) ความเชื่อมีพื้นฐานมาจากหลักฐานของการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู
เปาโลให้หลักฐานบางอย่างเกี่ยวกับการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู:
-
เขาเน้นว่าพระเยซูถูก ‘ฝัง’ และ ‘ถูกทำให้เป็นขึ้นมาตามพระคริสตธรรมคัมภีร์’ ชีวิต การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูมีบันทึกไว้ก่อนที่พระองค์จะประสูติ
-
เขาชี้ไปที่การปรากฎของพระเยซูคริสต์แก่เปโตร กับอัครสาวกสิบสองคนกับสาวกคนอื่น ๆ อีก 500 คน กับยากอบ กับอัครทูตทั้งหมด และสุดท้ายกับเปาโลเอง (1 โครินธ์ 15:6–8)
นี่ไม่ใช่ทั้งหมดของการปรากฎตัว แต่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นได้ว่ามีหลักฐานยืนยันอย่างดี เขาแสดงให้เห็นว่าการฟื้นคืนพระชนม์มีรากฐานมาจากประวัติศาสตร์ มีพื้นฐานมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์และได้รับการยืนยันจากประสบการณ์
3. ความสำคัญ
การเป็นขึ้นจากความตายมีความสำคัญจริง ๆ หากไม่มีการเป็นขึ้นจากความตาย ผลที่ตามมาก็เลวร้าย การเป็นขึ้นจากความตาย เป็นพื้นฐานของคำเทศนาของเปาโล หากปราศจากสิ่งนี้ ‘การประกาศของเรานั้นก็ไร้ประโยชน์...คนก็จะเห็นว่าเราเป็นพยานเท็จในเรื่องพระเจ้า’ (ข้อ 14ก–15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เนื่องจากสิ่งนี้คือสิ่งที่พวกเขายึดมั่นในความเชื่อของพวกเขา หากปราศจากการเป็นขึ้นจากความตาย ‘และความเชื่อของท่านทั้งหลายก็ไร้ประโยชน์ด้วย’ และ ‘ท่านก็ยังคงอยู่ในบาปของตน’ (ข้อ 17) จะไม่มีความหวังสำหรับอนาคต ‘คนทั้งหลายที่ล่วงหลับในพระคริสต์ก็พินาศไปด้วย’ (ข้อ 18) อันที่จริง เปาโลสรุปว่าถ้าปราศจากพระคริสต์แล้วมันยิ่งเลวร้ายกว่าสิ่งทั้งปวง ‘ถ้าเรามีความหวังในพระคริสต์เพียงแค่ในชีวิตนี้ เราก็เป็นพวกน่าเวทนาที่สุดของคนทั้งหมด’ (ข้อ 19)
4. ผลลัพธ์ ‘แต่บัดนี้ พระคริสต์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และทรงเป็นผลแรกของพวกที่ล่วงหลับไป’ (ข้อ 20, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ดังนั้นการเป็นขึ้นจากความตายจึงเป็นสิ่งที่แน่นอน วันหนึ่งทุกคนที่ ‘อยู่ในพระคริสต์’ จะฟื้นจากความตาย จากนั้นความตายจะถูกทำลาย (ข้อ 26) ‘อำนาจพระเจ้านั้นปกครองทุกสิ่ง ช่างเป็นตอนจบที่สมบูรณ์แบบ!’ (ข้อ 28, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เนื่องจากการเป็นขึ้นจากความตายเป็นสิ่งที่แน่นอน เปาโลเขียนว่า เราเสี่ยงอันตรายตลอดเวลา (ข้อ 30) ‘ข้าพเจ้าตายทุกวัน’ (ข้อ 31) เปาโลอุทิศตนอย่างเต็มที่ต่อพระเจ้าอย่างสุดใจ 100% ทั้งยังต่อสู้กับสัตว์ป่าในเมืองเอเฟซัส (ข้อ 32) ท่านเต็มใจเสี่ยงชีวิตเพราะความจริงแท้ของการเป็นขึ้นจากความตาย
นี่คือเหตุผลที่เปาโลเรียกร้องให้เรา ‘อย่าทำบาป' (ข้อ 34) อุบายของซาตานมักเริ่มด้วยความไม่เชื่อ ถ้ามันทำให้คุณสงสัย ต่อไปมันจะล่อลวงให้คุณทำบาป ซึ่งบาปทั้งหมดนั้นเกิดจากความไม่เชื่อ
การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์เป็นข่าวดี นี่คือข่าวประเสริฐ คุณต้องรับเอาไว้และเชื่อในข่าวประเสริฐ คุณต้องยืนหยัด คุณต้องจับมันให้แน่น เช่นเดียวกับเปาโล และส่งต่อให้ผู้อื่น
ข้าแต่พระบิดา ขอบพระคุณที่พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของข้าพระองค์ และพระองค์ได้ทำให้พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย เพื่อที่ข้าพระองค์จะได้รับการอภัยโดยสิ้นเชิง ได้รับปลดปล่อยให้เป็นอิสระ และจะมีชีวิตใหม่เป็นขึ้นมากับพระคริสต์ โปรดช่วยข้าพระองค์เช่นเดียวกับเปาโล ให้ข้าพระองค์อุทิศตนอย่างสุดหัวใจต่อข่าวดีนี้ และจัดให้เป็น ‘ความสำคัญอันดับหนึ่ง' ในชีวิตของข้าพระองค์
2 พงศาวดาร 16:1-18:27
พระเนตรของพระเจ้า
‘พระเจ้าทรงทำการอยู่เสมอ คอยเฝ้ามองหาคนที่อุทิศตนเพื่อพระองค์อย่างหมดใจ’ (16:9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ฮานานีผู้ทำนายมาเข้าเฝ้าอาสาพระราชาของยูดาห์และทูลว่า พระราชากำลังมีปัญหาเพราะอาสาเลิกพึ่งพาพระเจ้าอย่างหมดใจ (ข้อ 7–9) ‘เพราะว่าพระเนตรของพระยาห์เวห์สอดส่องอยู่เหนือแผ่นดินโลกทั้งหมด เพื่อให้กำลังกับคนเหล่านั้นที่จริงใจต่อพระองค์’ (ข้อ 9)
พระเจ้าเห็นทุกสิ่งที่คุณทำ พระองค์กำลังมองหาผู้ที่มี ‘หัวใจ’ ที่ ‘จริงใจต่อพระองค์’ ให้กับพระองค์ ‘พระเนตรของพระยาห์เวห์’ กำลังมองเข้าไปในใจคุณ คุณมีชีวิตอยู่อย่างสุดใจเพื่อพระองค์หรือไม่?
อาสาทำสิ่งที่ดีมาเกือบทั้งชีวิต ในปีสุดท้าย ‘แม้ทรงเป็นโรคอยู่พระองค์ก็ไม่ได้ทรงแสวงหาพระยาห์เวห์ แต่แสวงหาการช่วยเหลือจากแพทย์’ (ข้อ 12) การขอความช่วยเหลือจากแพทย์ไม่ใช่เรื่องผิด เขาไม่ได้ถูกตำหนิเพราะขอความช่วยเหลือจากแพทย์ แต่เขาถูกตำหนิเพราะว่าเขาไม่แสวงหาความช่วยเหลือจากพระเจ้า
ลูกชายของเขา เยโฮชาฟัท: ‘พระทัยของพระองค์ก็เข้มแข็งขึ้นในพระมรรคาของพระยาห์เวห์’ (17:6) นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาเริ่มต้นได้ดีมาก ‘พระองค์ไม่ได้โง่เขลา... แต่ทรงแสวงหาพระเจ้าของพระราชบิดาของพระองค์ และทรงดำเนินตามพระบัญญัติของพระเจ้า... พระทัยของพระองค์ก็เข้มแข็งขึ้นในพระมรรคาของพระยาห์เวห์พระองค์จึงทรงรื้อปูชนียสถานสูงและบรรดาเสาอาเช-ราห์เสียจากยูดาห์’ (ข้อ 3–6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เขาถูกทดสอบโดยผู้เผยพระวจนะ 400 คนทุกคนที่มี ‘วิญญาณมุสา‘ (18:21) มีเพียงมีคายาห์บุตรอิมลาห์เท่านั้นที่กล้าพูดความจริง มารเป็นผู้มุสา ในยุคที่เสียงของพระเจ้าดูเงียบไป เราต้องการสติปัญญาของพระเจ้าเพื่อไม่ให้หลงไปโดยการหลอกลวง แต่ให้ตั้งใจฟังเหมือนอย่างมีคายาห์ว่า ‘พระเจ้าของข้าพเจ้าตรัสว่าอย่างไรข้าพเจ้าจะพูดอย่างนั้น’ (ข้อ 13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอบพระคุณที่พระเนตรของพระองค์ ‘สอดส่องอยู่เหนือแผ่นดินโลกทั้งหมด เพื่อให้กำลังกับคนเหล่านั้นที่จริงใจต่อพระองค์’ (16:9) ขอทรงโปรดเสริมกำลังข้าพระองค์ในขณะที่ข้าพระองค์สัญญากับตัวเองอีกครั้งว่าจะรับใช้พระองค์อย่างสุดหัวใจ
Pippa Adds
2 พงศาวดาร 16:7
‘เพราะฝ่าพระบาททรงพึ่งพระราชาของซีเรีย แต่ไม่พึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของฝ่าพระบาท’
แม้แต่ผู้นำที่ใกล้ชิดพระเจ้าก็อาจพึ่งพาตนเอง หรืออาจพึ่งพาสิ่งผิด ๆ หรือคนผิด ๆ ได้ แม้จะยากเพียงใด เราต้องเปิดใจรับการแก้ไขและพึ่งพาพระเจ้าอยู่เสมอ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Spiritual Portals

Victory Is Yours: Overcome Life’s Challenges God's Way

Helping Your Kids Know God's Good Design

Living LifeWise: The Good Samaritan

Be Fruitful

God With Us: Lessons From the Incarnation

Letting Go of Your Past

THE PRAYER of JABEZ

The Power of Generosity: Sharing God’s Abundance
