พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

วางใจให้พระเจ้าทำตามวิถีของพระองค์
บางครั้งผมก็อยากจะบันทึกเรื่องราวในไดอารี่ไว้มากกว่านี้ อย่างน้อยผมก็ดีใจที่ผมได้บันทึกคำอธิษฐานของผมไว้ ควบคู่ไปกับคำเทศนาวันนี้ที่ว่า ‘พวกข้าพระองค์ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร แต่ดวงตาของข้าพระองค์ทั้งหลายเพ่งมองที่พระองค์’ (2 พงศาวดาร 20:12) ผมได้จดปัญหาและสถานการณ์ที่ดูเหมือนผ่านไม่ได้ที่เราเผชิญตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์และวิเศษมากที่ได้เห็นและได้บันทึกว่าพระเจ้าได้ทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากสิ่งเหล่านั้นในเวลาของพระองค์และในวิถีของพระองค์ การย้ำเตือนถึงฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าที่ทรงช่วยเรา เพิ่มความเชื่อของเราว่าพระองค์สามารถช่วยเราได้อีกครั้ง พระเจ้าเป็นผู้ทรงฤทธานุภาพ ที่จริง พระเจ้าเป็นผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด พระองค์เป็น ‘พระเจ้าผู้ทรงอำนาจ’ คุณสามารถวางใจพระองค์ได้สดุดี 102:12-17
วางใจพระเจ้าที่ทรงตอบคำอธิษฐาน
‘การอธิษฐานเป็นเส้นประสาทที่เพรียวบางซึ่งเคลื่อนกล้ามเนื้อของพระเจ้าผู้ทรงอำนาจ’ ชาร์ลส สเปอเจียน ได้กล่าวเอาไว้
เมื่อคุณเห็นปัญหาในชีวิตและในประเทศของคุณ การตอบสนองอย่างแรกของคุณคืออะไร? เมื่อผู้เขียนสดุดีมองดูปัญหาที่คนของพระเจ้ากำลังเผชิญเรื่องที่เมืองของพวกเขากำลังพังทลาย การตอบสนองอย่างแรกของพวกเขาคือการร้องทูลต่อพระเจ้า
ผู้เขียนสดุดียกย่องพระเจ้าสำหรับฤทธิ์เดชและความรักของพระองค์ โดยประกาศถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่พระองค์ประทับบนบัลลังก์เป็นนิตย์’ (ข้อ 12ก) และ ‘พระกรุณา’ (ข้อ 13) ของพระองค์สำหรับเยรูซาเล็ม ‘เพราะบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์รักก้อนหินของเธอและสงสารผงคลีของเธอ’ (ข้อ 14)
เมื่อผมมองไปรอบ ๆ ประเทศของเราในทุกวันนี้ ผมเห็นว่าคริสตจักรส่วนใหญ่กำลังพังทลายลง แต่พระเจ้าทรงมีฤทธิ์อำนาจที่จะสร้างประชากรของพระองค์ขึ้นใหม่ในแผ่นดินนี้
คุณสามารถมั่นใจในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าที่จะตอบคำอธิษฐานของคุณ มันไม่ใช่ว่าคุณสามารถควบคุมฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าได้โดยการอธิษฐาน แต่พระเจ้าจะทรงทำการในชีวิตของผู้คนและโลกของพระองค์เสมอ ‘พระองค์ทรงสนพระทัยในคำอธิษฐานของคนยากจน พระองค์จะไม่ทรงละเลยคำอธิษฐานของพวกเขา’ (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์ขอทรงสร้างคริสตจักรขึ้นใหม่ในประเทศนี้ โปรดส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์มาเหนือพวกเราอีกครั้งและเหนือประเทศของเรา ข้าพระองค์ขออธิษฐานต่อพระองค์
1 โครินธ์ 15:35-49
วางใจพระเจ้าในการเป็นขึ้นจากความตาย
การสูญเสียคนที่เรารักนั้นเจ็บปวดมาก และการเผชิญความตายของเราเองก็เป็นเรื่องที่ดูน่ากลัว พระธรรมตอนนี้ให้มุมมองใหม่แก่เราเกี่ยวกับความเศร้าโศกและความกลัวของเรา เมื่อพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่กล่าวถึงความรักของพระเจ้า พระคริสตธรรมคัมภีร์มักจะชี้ไปที่ไม้กางเขนของพระเยซู เมื่อพูดถึงฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า พระคริสตธรรมคัมภีร์ก็มักจะชี้ไปที่การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู นั่นคือ ‘ฤทธิ์อำนาจอันหาที่เปรียบมิได้ของพระองค์’ ที่ทำให้พระเยซูเป็นขึ้นจากความตาย (เอเฟซัส 1:19–20)
ในตอนนี้ อัครสาวกเปาโลพูดถึงว่าฤทธิ์อำนาจเดียวกันนั้นจะทำให้คุณเป็นขึ้นจากความตายเช่นเดียวกัน เขาใช้ภาพเปรียบเทียบของเมล็ดข้าวสาลี มันจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเว้นแต่มันจะตายก่อนและถูกฝังไว้ ‘โอ คนเขลา สิ่งที่ท่านหว่านนั้น ถ้าไม่ตายก่อนก็จะไม่งอกขึ้นใหม่’ (1 โครินธ์ 15:36) มีความต่อเนื่องกันระหว่างเมล็ดกับข้าวสาลี แม้ว่าทั้งสองจะดูแตกต่างกันมากทีเดียว
เพราะการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู คุณสามารถวางใจได้ว่าพระเจ้าจะทรงทำให้คุณเป็นขึ้นมา ในวิถีของพระองค์ และนั่นดีกว่าทุกสิ่งที่คุณจะจินตนาการได้
สำหรับคนขี้สงสัยที่ถามว่า ‘ร่างกายที่เป็นขึ้นจากความตายเป็นแบบไหน?’ อาจารย์เปาโลตอบว่า ‘ถ้าท่านพิจารณาถามนี้อย่างใกล้ชิด ท่านจะรู้ว่ามันโง่เขลา... เราเคยมีประสบการณ์ในการทำสวน เมื่อท่านปลูกเมล็ดพันธุ์ที่ “ตายแล้ว” ในไม่ช้าก็มีพืชผลงอกงาม… ร่างกายที่ตายแล้วที่เราฝังในดินและร่างกายที่เป็นขึ้นจากความตายนั้นแตกต่างกันอย่างมาก’ (ข้อ 35–38, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เขาชี้ไปที่ความหลากหลายของการทรงสร้างของพระเจ้า ซึ่งแนะนำว่าคุณไม่ควรพยายามเป็นเหมือนคนอื่น พระเจ้าทรงสร้างคุณให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เป็นไรที่จะแตกต่าง ความหลากหลายเป็นสิ่งที่ดี
คุณจะสังเกตเห็นว่าความหลากหลายของร่างกายนั้นสวยงาม (คน สัตว์ นก ปลา) ‘ท่านได้คำใบ้ของการเป็นขึ้นจากความตายโดยจ้องมองไปที่ความหลากหลายของร่างกายไม่เพียงแค่บนโลกแต่บนท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ความงดงามของความหลากหลายเหล่านี้ แต่เรากำลังดูเฉพาะ ‘เมล็ดพันธุ์’ ก่อนการเป็นขึ้นจากความตาย ใครจะจินตนาการได้ว่า ‘ต้นพืช’ แห่งการเป็นขึ้นจากความตายนั้นจะเป็นอย่างไร!’ (ข้อ 40–41, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เขากล่าวต่อไปว่า ‘ภาพการหว่านเมล็ดพืชที่ตายแล้วและการเลี้ยงพืชที่มีชีวิตเป็นภาพร่างที่ดีที่สุด แต่บางทีมันอาจจะช่วยในการเข้าใกล้ความล้ำลึกของร่างกายที่เป็นขึ้นจากความตาย แต่ท่านจงจำไว้ว่าเมื่อเราเป็นขึ้นมา เราจะเป็นขึ้นมาอย่างดี มีชีวิตตลอดไป!
‘สิ่งที่ถูกหว่านลงนั้นไร้เกียรติ แต่เมื่อเป็นขึ้นมานั้นมีสง่าราศรี สิ่งที่ถูกหว่านลงนั้นอ่อนกำลัง แต่เป็นขึ้นมาอย่างมีพลัง สิ่งที่ถูกหว่านลงนั้นเป็นกายเนื้อหนัง สิ่งที่เป็นขึ้นมานั้นเป็นกายจิตวิญญาณ ถ้ามีกายเนื้อหนัง กายจิตวิญญาณก็มีด้วย เมล็ดพันธุ์เดียวกัน ร่างกายเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือเมื่อร่างกายที่เสื่อมสลายได้เป็นขึ้นมาสู่กายจิตวิญญาณที่ไม่เสื่อมสลาย!’ (ข้อ 42–44, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ร่างกายที่เป็นขึ้นจากความตายและร่างกายฝ่ายวิญญาณเป็นสิ่งเดียวกัน แม้สสารบางส่วนจะเปลี่ยนแปลงไป การเป็นขึ้นจากความตายคือการสร้าง ex vetere (จากสิ่งเก่า) มากกว่า ex nihilo (จากความว่างเปล่า) ต้นพืชมาจากเมล็ด ร่างกายปัจจุบันของเราจะไม่ถูกแทนที่ด้วยร่างกายใหม่ แต่จะแปลงร่างเป็นร่างกายที่เป็นขึ้นมา
สาวกของพระเยซูยังคงจำพระองค์ได้ (ด้วยความช่วยเหลือ!) มันมีความต่อเนื่องและไม่ต่อเนื่องในร่างกายที่เป็นขึ้นจากความตาย (พระเยซูสามารถเดินผ่านกำแพงได้ แต่ยังกินปลาอยู่) สิ่งที่เกิดขึ้นกับพระเยซูจะเกิดขึ้นกับคุณ คุณก็เหมือนอดัมที่มีร่างกายที่เสื่อมสลายได้ วันหนึ่ง เช่นเดียวกับพระเยซู อาดัมคนที่สอง คุณจะมีร่างกายฝ่ายวิญญาณ (ข้อ 44–48) ‘และเช่นเดียวกับที่เรามีลักษณะของมนุษย์ดิน เราก็จะมีลักษณะของมนุษย์สวรรค์’ (ข้อ 49)
องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ขอบพระคุณที่พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ ทรงถูกฝังและฟื้นคืนพระชนม์ ดังนั้นด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ เราจะเป็นขึ้นจากความตายและมีร่างกายฝ่ายวิญญาณเหมือนพระเยซู
2 พงศาวดาร 18:28-21:3
วางใจพระเจ้าที่จะทรงต่อสู้แทนคุณ
คุณกำลังต่อสู้กับอะไรในชีวิต? เยโฮชาฟัททรงออกศึก เขากำลังเผชิญกับชาวต่าง ๆ ‘คนโมอับ คนอัมโมน และคนเมอูนี’
แต่สำหรับเรา อย่างที่จอยซ์ ไมเยอร์ เขียนว่า ‘มันคือ ‘ความกลัว’ ‘โรคภัยไข้เจ็บ’ ‘ความยากจน’ ‘ชีวิตสมรสที่แย่’ ‘ความเครียด’ ‘เพื่อนบ้านที่ไม่น่ารัก’ ‘ความไม่ปลอดภัย’ ‘การปฏิเสธ’ และอื่น ๆ’
เมื่อเขาต่อสู้กับกษัตริย์แห่งอารัม ‘เยโฮชาฟัททรงร้องขึ้น และพระยาห์เวห์ทรงช่วยพระองค์’ (18:31) เราเห็นถึงการจัดเตรียมและอำนาจอธิปไตยของพระเจ้าในเรื่องนี้ พระเจ้าทรงยอมให้ลูกธนูสุ่มฆ่ากษัตริย์แห่งอิสราเอล แต่ทรงปกป้องเยโฮชาฟัทผู้ร้องทูลต่อพระเจ้า (ข้อ 28–34)
เยโฮชาฟัท ‘นำ (ประชาชน) ทั้งหลายกลับมายังพระยาห์เวห์’ (19:4) และแต่งตั้งผู้พิพากษา เรียกพวกเขาให้หลีกเลี่ยง ‘ความอยุติธรรม’ ‘ความลำเอียง’ หรือ ‘การรับสินบน’ (ข้อ 7) มันจะสร้างความแตกต่างให้กับโลกทุกวันนี้สักเพียงไร ถ้าผู้พิพากษาทั้งโลกเป็นแบบนั้น
ทั้งๆ ที่เยโฮชาฟัทติดตามพระเจ้า (‘พระองค์ทรงดำเนินตามทางของอาสาพระราชบิดาของพระองค์ และไม่ได้ทรงหันเหจากทางนั้น พระองค์ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์’ 20:32) แต่ก็ยังคงต้องเผชิญหน้าการต่อสู้ต่าง ๆ ดังนั้นเพียงเพราะคุณกำลังต่อสู้กับบางเรื่องในชีวิตของคุณในขณะนี้ ไม่ได้หมายความว่าคุณทำอะไรผิด บางครั้งคุณต้องเผชิญกับการต่อสู้ ไม่ใช่เพราะคุณกำลังทำอะไรผิด แต่เพราะคุณกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง
กองทัพมหึมาโจมตีเขา (ข้อ 2) เยโฮชาฟัทประกาศถือศีลอดอาหารและเรียกทุกเมืองมาประชุมอธิษฐานครั้งใหญ่ (ข้อ 3–4)
เขาอธิษฐานต่อพระเจ้า เขารับรู้ถึงอำนาจของพระเจ้า ‘พระองค์ทรงครอบครองเหนือบรรดาราชอาณาจักรของประชาชาติไม่ใช่หรือ? พระองค์ทรงมีฤทธิ์เดชและพลานุภาพในพระหัตถ์ของพระองค์ จึงไม่มีใครอาจต่อต้านพระองค์ได้’ (ข้อ 6)
เขาตระหนักดีว่า ‘เพราะว่าพวกข้าพระองค์ไม่มีฤทธิ์เดชที่จะต่อสู้คนมากมายนี้ ที่กำลังมาต่อสู้กับข้าพระองค์ทั้งหลาย พวกข้าพระองค์ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร แต่ดวงตาของข้าพระองค์ทั้งหลายเพ่งมองที่พระองค์’ (ข้อ 12)
พระเจ้าทรงตอบด้วยถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะ พระวิญญาณของพระเจ้าสถิตกับพวกเขาขณะที่พวกเขารอคอยพระเจ้า (ข้อ 14)
เขากล่าวว่า ‘อย่ากลัว และอย่าท้อแท้เพราะคนมากมายเหล่านี้เลย เพราะการรบนั้นไม่ใช่เรื่องของท่าน แต่เป็นของพระเจ้า’ (ข้อ 15) ‘ท่านทั้งหลายไม่ต้องต่อสู้ในการรบครั้งนี้ จงเข้าประจำที่ ยืนนิ่งและมองดูชัยชนะของพระยาห์เวห์เพื่อพวกท่าน ... พรุ่งนี้จงออกไปสู้กับพวกเขาและพระยาห์เวห์จะสถิตกับท่านทั้งหลาย’ (ข้อ 17)
เยโฮชาฟัทนมัสการพระเจ้า (ข้อ 18) ‘พวกเขาสรรเสริญพระเจ้าด้วยเสียงดังมาก!’ (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาบอกกับผู้คนในนี้เกี่ยวกับข้อความที่สรุปจากหนังสือพงศาวดารทั้งเล่มว่า ‘จงวางใจในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย แล้วท่านจะได้รับความมั่นคง จงเชื่อบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แล้วท่านจะได้รับความสำเร็จ’ (ข้อ 20)
พวกเขาเริ่มสรรเสริญพระเจ้าและร้องว่า ‘จงขอบพระคุณพระยาห์เวห์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์’ (ข้อ 21) การนมัสการเป็นอาวุธของพวกเขาขณะที่พวกเขานมัสการ พระเจ้าได้ทรงช่วยกู้พวกเขา (ข้อ 22)
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์วางใจพระองค์ในการต่อสู้ที่ข้าพระองค์เผชิญในวันนี้ ขอบคุณที่นั่นเป็นการรบของพระองค์ ข้าพระองค์ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร แต่ข้าพระองค์จับจ้องสายตาที่พระองค์
Pippa Adds
1 โครินธ์ 15:42
“การเป็นขึ้น… นั้นไม่เสื่อมสลาย…สิ่งที่เป็นขึ้นมานั้นมีศักดิ์ศรี… สิ่งที่เป็นขึ้นมานั้นมีพลัง… สิ่งที่เป็นขึ้นมานั้นเป็นกายจิตวิญญาณ’
ช่างน่าตื่นเต้น! เป็นสิ่งที่น่ารอคอยอย่างยิ่ง!
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Spiritual Portals

Victory Is Yours: Overcome Life’s Challenges God's Way

Helping Your Kids Know God's Good Design

Living LifeWise: The Good Samaritan

Be Fruitful

God With Us: Lessons From the Incarnation

Letting Go of Your Past

THE PRAYER of JABEZ

The Power of Generosity: Sharing God’s Abundance
