พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

ครอบครัวที่เข้มแข็ง
คุณพ่อผู้แสนยุ่งกำลังมองหาวิธีที่จะสร้างความบันเทิงให้กับลูกสาวตัวน้อยของเขา เขาพบแผนที่โลกในนิตยสาร และตัดมันออกเป็นชิ้น ๆ เขามอบชิ้นส่วนที่ตัดแล้วให้กับลูกของเขา และแนะนำให้เธอพยายามต่อชิ้นส่วนของแผนที่กลับเข้าด้วยกัน ไม่นานนักเธอก็บอกว่า ต่อเสร็จแล้ว เขาประหลาดใจมากว่าทำไมเธอถึงทำมันได้เร็วขนาดนี้ เขาถามเธอว่าเธอทำยังไงถึงทำได้เร็วขนาดนี้ เธอตอบกลับไปว่า หนูสังเกตว่าตอนที่พ่อตัดกระดาษด้านหลังของแผนที่โลกมีรูปผู้ชายและผู้หญิงอยู่ หนูคิดว่า *ถ้าหนูสามารถนำผู้ชายและผู้หญิงกลับมารวมกันได้ หนูสามารถทำให้โลกกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้*' การแต่งงานและชีวิตครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญมาก พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของการทรงสร้างของพระเจ้าและเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างของสังคม สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 เคยเขียนไว้ว่าครอบครัวเป็น ‘รากฐาน’ ของสังคมและ ‘หล่อเลี้ยง’ สังคมอย่างต่อเนื่อง นิคกี้และซีล่า ลี ได้ทุ่มเททั้งชีวิตของพวกเขาเพื่อเสริมสร้างชีวิตแต่งงานและชีวิตครอบครัว หลักสูตรและหนังสือของพวกเขา เช่น **หนังสือคู่สมรส** และ **หนังสือแด่พ่อแม่** สร้างผลกระทบอย่างเหลือเชื่อกับผู้คนนับพันในคริสตจักรท้องถิ่นของเราและตอนนี้ยังสร้างผลกระทบในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ไม่นานมานี้เจ้าหน้าที่ของรัฐในประเทศหนึ่งพูดกับนิกกี้และซีล่าว่า ‘สังคมที่เข้มแข็งขึ้นอยู่กับครอบครัวที่เข้มแข็ง และครอบครัวที่เข้มแข็งขึ้นอยู่กับการแต่งงานที่เข้มแข็ง นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมพวกเราสนใจงานของคุณ’ พระคริสตธรรมคัมภีร์พูดถึงชีวิตครอบครัวอย่างมากมาย ไม่เพียงแต่ครอบครัวตามธรรมชาติเท่านั้น แต่ในฐานะคริสเตียนเราเป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักรซึ่งในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่มองว่าคริสตจักรเป็น ‘ครอบครัวของพระเจ้า’สดุดี 102:18-28
ลูกหลานและคนรุ่นต่อไป
คนทุกยุคสมัยมีหน้าที่ที่จะต้องคิด และวางแผนเกี่ยวกับอนาคต เราไม่ควรคิดถึงแค่สิ่งที่เกิดขึ้นในยุคของเราแต่ควรคิดถึงคนรุ่นต่อไปด้วย ผู้เขียนสดุดีนั้นเป็นห่วงถึงผู้คนในรุ่นถัดไป: ‘เรื่องนี้จะถูกบันทึกไว้ให้คนรุ่นหลัง เพื่อประชาชนที่จะทรงสร้างมานั้นจะได้สรรเสริญพระยาห์เวห์’ (ข้อ 18)
พระเยซูทรงเป็นคำตอบสำหรับคนทุกยุคสมัย สิ่งที่หน้าสนใจคือผู้เขียนพระธรรมฮีบรูอ้างถึงข้อ 25-27 ของสดุดีนี้เพื่อเล็งถึงพระเยซูคริสต์ (ฮีบรู 1:10-12): ‘พระเยซูคริสต์ทรงเหมือนเดิมทั้งวานนี้ และวันนี้ และตลอดไปเป็นนิตย์’ (ฮีบรู 13:8) พระองค์ทรง ‘ทรงวางรากฐานของแผ่นดินโลกในกาลก่อนและทรงสร้างฟ้าสวรรค์ด้วยผลงานแห่งฝีพระหัตถ์‘ (สดุดี 102:25, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเยซูทรงดำรงอยู่เหมือนเดิม ‘ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีพระองค์ทรงดีเสมอ’ (ข้อ 27, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
สดุดีตอนนี้จบลงด้วยความหวังสำหรับคนรุ่นต่อไป ‘ลูกหลานของบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะอยู่อย่างมั่นคง และอยู่รวมกับพระองค์’ (ข้อ 28, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
นี่คือความหวัง คำอธิษฐาน และพระสัญญา ในขณะที่ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของตน แต่พระเจ้าทรงปฏิบัติต่อประชากรของพระองค์เสมือนเป็นครอบครัว เราสามารถมีความหวัง อธิษฐาน และเชื่อในลูกหลานและทายาทของเราที่จะอยู่ในการทรงสถิตของพระองค์และได้รับการสถาปนาไว้เฉพาะพระพักตร์พระองค์ (ข้อ 28)
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์อธิษฐานเผื่อครอบครัวของข้าพระองค์และเพื่อคนในคริสตจักร ขอให้เราอยู่ในการทรงสถิตอยู่พระองค์และลูกหลานของเราจะเติบโตขึ้นมาเพื่อรู้จัก เพื่อรัก เพื่อรับใช้ และได้รับการสถาปนาไว้เฉพาะพระพักตร์พระองค์
1 โครินธ์ 16:5-24
ครอบครัวและบ้าน
คริสตจักรฮิลซองในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มีป้ายขนาดใหญ่อยู่ด้านนอกเขียนว่า ‘ยินดีต้อนรับกลับบ้าน’ นิมิตของไบรอันและบ๊อบบี้ ฮูสตัน ศิษยาภิบาลอาวุโส คือทุกคนที่มาที่คริสตจักรจะได้รับการต้อนรับ ได้รับความรักและได้รับการดูแลอย่างอบอุ่นที่เราจะมอบให้กับแขกในบ้านของเราเอง
เราต้องหวนนึกภาพของคริสตจักรในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่นี้ว่าเป็นบ้าน แน่นอน คริสเตียนยุคแรกไม่มีอาคารโบสถ์ พวกเขาพบกันตามบ้าน (ข้อ 19) อาจารย์เปาโลเขียนถึงชาวโครินธ์ว่า ‘เมื่อทิโมธีมาถึง จงดูแลเขาให้ดี ทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่บ้านท่ามกลางท่าน’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
คริสตจักรคือครอบครัวของพระเจ้า พระเจ้าเป็นพ่อของเรา อาจารย์เปาโลมองทั้งคริสตจักรเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน เขาพูดถึงคริสเตียนคนอื่น ๆ ว่าเป็น ‘พี่น้อง’ ของเขา (ข้อ 15) คริสตจักรไม่ใช่องค์กรที่คุณเข้าร่วม แต่เป็นครอบครัวที่มีที่สำหรับคุณ บ้านที่คุณจะถูกรัก และเป็นโรงพยาบาลที่คุณจะพบการรักษา
เปาโล ซึ่งยังเป็นโสดและไม่มีภรรยาหรือลูก เขารักชาวโครินธ์และมองว่าพวกเขาเป็นครอบครัวของเขา เขาพบความสดชื่นฝ่ายวิญญาณเมื่อได้ใช้เวลากับพวกเขา (ข้อ 17) เขาลงท้ายจดหมายว่า ‘ข้าพเจ้ารักพวกท่าน' (ข้อ 24, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เปาโลคาดหวังให้พวกเขา ‘รักองค์พระผู้เป็นเจ้า’ (ข้อ 22) และรักซึ่งกันและกัน พวกเขาควรแสดงความรักนี้ด้วยการทักทายกัน ‘ด้วยธรรมเนียมจูบอันบริสุทธิ์’ (ข้อ 20)
นี่ไม่ใช่แค่ทฤษฎีที่ดี มันเป็นเรื่องส่วนตัวมาก ท่านปรารถนาที่จะเห็นพวกเขา (ข้อ 5) เปาโลรู้ว่าพวกเขาจะ ‘ช่วย’ ท่าน (ข้อ 6) ท่านอยู่กับพวกเขาแค่ระยะหนึ่ง แต่เปาโลต้องการอยู่กับพวกเขานานกว่านั้นมาก ‘ถ้าพระเจ้าทรงเห็นชอบ’ (ข้อ 7) ถ้อยคำของเปาโลมาจากความรักและความห่วงใยต่อผู้คนในคริสตจักร ท่านได้ปฏิบัติในสิ่งที่ท่านเทศนาเมื่อท่านเขียนว่า ‘จงทำทุกสิ่งด้วยความรัก’ (ข้อ 14)
เหตุผลเดียวที่เปาโลไม่มาให้เร็วกว่านี้ก็คือ ‘เพราะว่าที่นี่มีประตูเปิดให้ข้าพเจ้าอย่างกว้างขวางที่จะทำงานเกิดผล และคนขัดขวางก็มีมากด้วย’ (ข้อ 9) (เหมือนว่าเมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าเปิด “ประตูแห่งโอกาสที่จะทำงานที่เกิดผล” เราควรคาดหวังว่าจะมี “ผู้ขัดขวาง” ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) อย่าปล่อยให้การต่อต้านขัดขวางคุณจากการฉวยโอกาสที่จะทำสิ่งดีเมื่อมันเกิดขึ้น
ท่านพูดต่อไปถึงทิโมธี ผู้ที่เปาโลอธิบายว่าเป็นลูกของท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้า (4:17) ‘อปอลโล ซึ่งเป็นพี่น้อง’ (16:12) และ ‘ครอบครัวของสเตฟานัส’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องปกติที่ทั้งครอบครัวจะกลับใจใหม่ และรับบัพติศมาพร้อมกัน
เรายังเห็นในพระธรรมตอนนี้เป็นตัวอย่างของคู่สมรสที่ทำพันธกิจร่วมกัน อาควิลลาและปริสสิลลาเปิดคริสตจักรในบ้านของพวกเขา (ข้อ 19) ในที่นี้อาควิลลาเป็นผู้ที่ถูกเอ่ยชื่อก่อน อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว ปริสสิลลาคือคนที่เปาโลเอ่ยชื่อก่อน (ดูโรม 16:3) เห็นได้ชัดว่าพวกเขาดูแลคริสตจักรด้วยกัน
ครอบครัวของคริสตจักรประกอบด้วยคนโสดอย่างเปาโล คู่สมรสอย่างปริสสิลลาและอาควิลลา และครัวเรือนทั้งหมดเหมือนกับครอบครัวของสเตฟานัส เมื่อมาอยู่ด้วยกันเราร่วมสร้างครอบครัวของพระเจ้าด้วยกัน
สิ่งที่เปาโลเขียนใช้ได้กับเราทุกคน ‘จงระมัดระวัง จงยึดมั่นในความเชื่อ จงอุทิศตัว เด็ดเดี่ยวและรักโดยไม่หยุดยั้ง’ (1 โครินธ์ 16:13–14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
องค์พระผู้เจ้า ขอโปรดประทานความรักแก่กันและกันให้กับพวกเรา ไม่ว่าเราจะเป็นโสดหรือแต่งงาน เราทุกคนต่างมีประสบการณ์กับความมั่นคั่งและความชื่นบานในการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพระเจ้า
2 พงศาวดาร 24:1-25:28
พ่อแม่และลูกหลาน
การเลี้ยงลูกที่ดีเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากในชีวิต บิดาของโยอาชสิ้นพระชนม์เมื่อยังทรงพระเยาว์ และเขาทรงเป็นกษัตริย์เมื่ออายุได้เจ็ดขวบ มารดาของเขามั่นใจว่าเขาได้รับการ ‘อบรบสั่งสอนโดยปุโรหิตเยโฮยาดา’ (24:2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับการอบรมที่ดีและ ‘ทำในสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัยตลอดชีวิตของเยโฮยาดา’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) โยอาชมีครอบครัวของตนเอง มีทั้ง ‘พระราชโอรสและพระราชธิดา’ (ข้อ 3 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะอวยพรดาวิดและครอบครัวของเขา พระองค์จะทรงตั้งกษัตริย์ในเชื้อสายของดาวิด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความรักของพระเจ้านั้นไม่มีเงื่อนไข แต่ละคนก็ต้องรับผิดชอบว่าพวกเขาควรตอบสนองต่อความรักนี้อย่างไร ‘หนังสือธรรมบัญญัติของโมเสส’ (อาจเป็นวิธีในการอ้างอิงถึง ‘ธรรมบัญญัติ’ หนังสือห้าเล่มแรกของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม) ถูกยกมาเพื่อสนับสนุนความจริงที่ว่า ‘อย่าประหารบิดาเพราะการกระทำของลูกหลาน หรืออย่าประหารลูกหลานเพราะการกระทำของบิดา เพราะแต่ละคนจะต้องถูกประหารเพราะบาปของตัวเอง’ (25:4) (‘เราแต่ละคนต้องจ่ายราคาสำหรับบาปของเรา’ พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เราเห็นหลักการนี้ได้ผลที่นี่ โยอาชนั้นเริ่มต้นได้ดี เขา ‘ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรพระยาห์เวห์’ (24:2) เขา ‘ตั้งพระทัยที่จะซ่อมแซมพระนิเวศของพระยาห์เวห์’ (ข้อ 4) ทุกคนมีส่วนร่วม ‘แล้วเจ้านายทั้งหมดและประชาชนทุกคนก็เปรมปรีดิ์ และเขาทั้งหลายนำค่าบำรุงมาหย่อนลงในหีบจนเต็ม’ (ข้อ 10) ‘เขาทั้งหลายซ่อมแซมพระนิเวศของพระเจ้าตามขนาดเดิม และเสริมให้แข็งแรงขึ้น’ (ข้อ 13) (พระวิหารสำหรับการนมัสการนั้นมีความสำคัญและสามารถถูกซ่อมแซมได้เมื่อทุกคนมีส่วนร่วม)
น่าเศร้าที่การปกครองของโยอาชจบลงไม่ดี (ข้อ 17–27) มันสำคัญมากที่จะไม่ใช่แค่เริ่มต้นได้ดี แต่ยังต้องจบด้วยดีอีกด้วย
น่าเศร้าที่รูปแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในชีวิตของอามาซิยาห์บุตรชายของเขา เขาเริ่มต้นได้ดี (25:2) แต่จบได้ไม่ดี เขากลายเป็นคน‘ผยองขึ้นในความโอ้อวด’ (ข้อ 19) และ ‘หันไปจากการติดตามพระยาห์เวห์’ (ข้อ 27)
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงช่วยให้เราเป็นแบบอย่างที่ดีและจบลงด้วยดี ข้าพระองค์อธิษฐานขอให้ชีวิตครอบครัวเป็นรากฐานในการหล่อเลี้ยงสังคมของเรา ขอให้การแต่งงานที่ล้มเหลวได้ฟื้นกลับขึ้นมา และขอการฟื้นฟูครอบครัวที่เข้มแข็งให้กลับคืนมา
Pippa Adds
2 พงศาวดาร 24:1-25:28
ด้วยคำแนะนำที่ดี เด็ก ๆ ก็สามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ เราต้องไม่ประเมินพวกเขาต่ำเกินไป
โยอาชขึ้นเป็นกษัตริย์เมื่ออายุได้เจ็ดขวบ ด้วยความช่วยเหลือของเยโฮยาดาปุโรหิตในฐานะที่ปรึกษา โยอาชได้สร้างพระวิหารขึ้นใหม่ ในขณะที่เขามีที่ปรึกษาที่ดี คนอิสราเอลก็นมัสการพระเจ้า น่าเศร้า เมื่อที่ปรึกษาของเขาเสียชีวิต เขาก็ออกนอกลู่นอกทาง เป็นสิ่งสำคัญที่จะแสวงหาคำแนะนำที่ชาญฉลาดต่อไป และเราทุกคนจำเป็นต้องให้หนุนใจคนรุ่นต่อไป
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Spiritual Portals

Victory Is Yours: Overcome Life’s Challenges God's Way

Helping Your Kids Know God's Good Design

Living LifeWise: The Good Samaritan

Be Fruitful

God With Us: Lessons From the Incarnation

Letting Go of Your Past

THE PRAYER of JABEZ

The Power of Generosity: Sharing God’s Abundance
