YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 230 OF 365

ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนม

ในหนังสือที่ชื่อ *All I Want is You* ของบิชอป แซนดี้ มิลล่าร์เขียนไว้ว่า ‘เมื่อผมได้ไปเยือนคริสตจักรไวน์ยาร์ดในแคลิฟอร์เนียเป็นครั้งแรก ผมพบว่าหนึ่งในค่านิยมหลักของพวกเขาคือ “ใกล้ชิดสนิทสนมกับพระเจ้า” ดังนั้นเมื่อผมกลับมา ผมก็เริ่มพูดถึงสิ่งนี้ให้เป็นหนึ่งในค่านิยมของเราด้วยเช่นกัน’ เขาเขียนต่อไปว่า ‘หนึ่งในสมาชิกที่น่ารักมาก ๆ คนหนึ่งในคริสตจักรของเรา พูดในตอนนั้นที่พาผมออกไปข้าง ๆ ว่า “อย่าพูดคำว่า ‘ใกล้ชิดสนิทสนม’ เพราะว่าเราไม่ใช้คำนั้นในบริบทนี้” ดังนั้นผมจึงเริ่มพูดเกี่ยวกับ “สัมพันธ์ภาพที่ใกล้ชิดที่สุดเท่าที่น่าจะเป็นไปได้กับพระเจ้า” ซึ่งค่อนข้างจะพูดได้ยาก แต่หลังจากผมหยุดไปสักครู่ เพราะว่าสิ่งที่ผมหมายถึงจริง ๆ คือ “ใกล้ชิดสนิทสนม” และผมคิดว่า นั่นเป็นสิ่งที่พระคริสตธรรมคัมภีร์หมายถึงสำหรับความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าด้วยเช่นกัน’ มีความหิวกระหายในส่วนลึกในจิตวิญญาณของเราต่อสัมพันธภาพที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับพระเจ้า และกับมนุษย์คนอื่น ๆ

สดุดี 99:1-9

ใกล้ชิดสนิทสนมกับพระเจ้า

คุณและผมถูกสร้างมาเพื่อมีสัมพันธภาพที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับพระเจ้า นี่เป็นเรื่องส่วนบุคคล: ‘พระ​ยาห์​เวห์​พระ​เจ้า​ของ​เรา’ (ข้อ 9) กระนั้นความสนิทสนมกับพระเจ้าไม่ควรถูกมองข้าม พระเจ้าทรงมหิทธิฤทธิ์ บริสุทธิ์ และยุติธรรม

‘พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ครอบ​ครอง...พระ​องค์​ประ​ทับ​เหนือ​เค​รูบ’ (ข้อ 1) เครูบเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ของพระเจ้า (ดู ปฐมกาล 3:24, เอเสเคียล 1:4 เป็นต้นไป ,10:1 เป็นต้นไป) พระบัลลังก์ของพระเจ้านั้นถูกวาดภาพไว้ว่าอยู่ ‘ระหว่างเครูบสองตน’ (กันดารวิถี 7:89) นี่คือสถานที่ที่ซึ่งพระเจ้าตรัส

สดุดีบทนี้เน้นที่ความบริสุทธิ์ของพระเจ้า คำว่า ‘บริสุทธิ์’ (สดุดี 99:3) เน้นความห่างไกลระหว่างพระเจ้า กับมนุษย์ พระเจ้าไม่เพียงทรงมหิทธิฤทธิ์ และบริสุทธิ์ พระองค์ยังทรงยุติธรรมอีกด้วย ‘พระองค์ ทรง​รัก​ความ​ยุติ​ธรรม’ (ข้อ 4) การตอบสนองที่เหมาะสมคือ ‘นมัส​การ​ที่​แท่น​รอง​พระ​บาท​ของ​พระ​องค์’ (ข้อ 5)

บางครั้งบนลำธารที่อยู่ระหว่างพระเจ้ากับเราก็มีสะพานทอดข้ามไป เรารู้แล้วว่าสิ่งนี้เป็นไปได้ผ่านทางพระเยซู และสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อเราผ่านทางกางเขน และการฟื้นคืนพระชนม์จากความตาย และการเทลงมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ สดุดีบทนี้พยากรณ์ถึงความใกล้ชิดสนิทสนมกับพระเจ้าแห่งฤทธิ์เดช บริสุทธิ์ และยุติธรรมองค์นี้ ซึ่งเป็นไปได้ผ่านทางพระเยซูคริสต์

พระเจ้า ‘ตรัสกับพวกเขา’ (ข้อ 7) พระองค์ตรัสกับโมเสส อาโรน และซามูเอล (ข้อ 6) พระองค์ตรัสกับแต่ละบุคคล พระองค์ตรัสกับเราเป็นการส่วนบุคคล ‘พวกเขาอธิษฐานถึงพระเจ้า และพระองค์ทรงตอบพวกเขา’ (ข้อ 6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ไม่เพียงแต่พระองค์จะเป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรม พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งพระเมตตาและการทรงให้อภัย ‘พระ​เจ้า​ผู้​ยก​โทษ​‘ (ข้อ 8) พระองค์ทรงเป็น ‘พระเจ้าของเรา (ข้อ 8–9) ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ไม่เคยลดน้อยถอยลง แต่ถ้อยคำสุดท้ายที่ตรัสกลับเป็นเรื่องของความใกล้ชิดสนิทสนม

ข้าแต่พระเจ้า นี่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งฤทธิ์เดช ทรงเป็นความบริสุทธิ์ และเต็มไปด้วยความยุติธรรม และพระองค์ทรงเรียกข้าพระองค์เข้าสู่ความสัมพันธ์ที่เป็นส่วนตัว และได้ใกล้ชิดกับพระองค์ ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงเป็น พระเจ้าของข้าพระองค์

1 โครินธ์ 12:1-26

ใกล้ชิดสนิทสนมกันและกัน

ความเหงาและโดดเดี่ยวเกิดขึ้นมากมายในสังคมของเรา ทั้งผู้อาวุโสที่บ่อยครั้งถูกทอดทิ้ง ให้แยกตัวออกไป และเดียวดาย แม้กระทั่งคนหนุ่มสาวมากมายในปัจจุบัน ที่ไม่รู้จะหันไปทางไหนเพื่อจัดการกับความเจ็บปวด พวกเขาเลยหันไปพึ่งพาเหล้า ยาเสพติด ความสำส่อนทางเพศ หรือวิธีอื่น ๆ เพื่อพยายามจัดการกับความเจ็บปวดภายใน

คุณไม่ได้ถูกกำหนดให้อยู่ตามลำพัง พระเจ้าทรงสร้างคุณมาเพื่ออยู่เป็นกันเป็นชุมชน คือเป็นชุมชนที่ใกล้ชิด และพึ่งพาอาศัยกันเช่นเดียวกับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ อาจารย์เปาโลอุปมาว่าคริสตจักรเปรียบเหมือนพระกายของพระคริสต์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานของประทานที่แตกต่างกันต่อสมาชิกทุกคนในคริสตจักร (ข้อ 1–11)

‘อวัยวะ​ทั้ง​หมด​ของ​ร่าง​กาย​นั้น​แม้​จะ​มี​หลาย​ส่วน’ ​ก็​ยัง​เป็น​ ‘ร่าง​กาย​เดียว’ (ข้อ 12) คนที่เข้าสู่คริสตจักรล้วนมีภูมิหลัง ชนชาติ และตำแหน่งในสังคมที่แตกต่างกัน ‘เพราะ​ว่า​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ยิว​หรือ​กรีก ทาส​หรือ​เสรี​ชน’ (ข้อ 13ข) ดังนั้นไม่ว่าเราจะมาจากไหน ‘บัดนี้เราแต่ละคนก็เป็นส่วนหนึ่งของพระกายที่เป็นขึ้นของพระองค์ สดใหม่ และถูกผดุงไว้ที่น้ำพุหนึ่งเดียว นั่นคือพระวิญญาณของพระองค์ ที่ซึ่งเราล้วนมาเพื่อดื่ม’ (ข้อ 13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

บัดนี้เราล้วนเป็นของกันและกัน ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นใกล้ชิดกันเหมือนอวัยวะที่แตกต่างกันของร่างกาย เราล้วนต้องพึ่งพากันและกันอย่างที่สุด (ข้อ 12–13)

ยิ่งเราต่างแตกกันมากเท่าไหร่ เรายิ่งต้องการกันและกันมากเท่านั้น ดวงตาต้องการมือมากกว่าต้องการตาอีกหลาย ๆ ดวงในร่างกายเดียวกัน (ข้อ 16–17) ความแตกต่างนั้นสำคัญ (ข้อ 17ข) นี่เป็นความจริงไม่เพียงแค่คริสตจักรท้องถิ่น แต่รวมทั้งคริสตจักรระดับโลก เราไม่ควรดูแคลนอวัยวะที่แตกต่างกับเราในพระกายพระคริสต์ แล้วพูดว่า ‘พวกเขาแตกต่างกัน ต้องมีบางอย่างผิดปรกติไปแน่เลย’ แต่ควรพูดว่า ‘พวกเขาแตกต่างออกไป เราจำเป็นต้องมีพวกเขา’

'ป้ายเดิม ๆ ที่ครั้งหนึ่งเราเคยใช้บ่งบอกความเป็นตัวเอง...จะไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เราต้องการบางสิ่งที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งครอบคลุมมากขึ้น’ (ข้อ 13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) นี่เป็นเวลาที่จะต้องทิ้งป้ายเดิม ๆ ซึ่งไว้ใช้อธิบายตัวตนของเรา หรือคนอื่น ๆ ว่าเป็นคริสเตียนประเภทไหน

พระเจ้าทรงออกแบบร่างกายมาให้มีการพึ่งพาอาศัยกัน ‘ข้าพเจ้ายังอยากให้ท่านคิดว่า สิ่งนี้ทำให้ความสำคัญของคุณลำพองเป็นการสำคัญตนผิด ต่อให้คุณจะสำคัญแค่ไหน ก็เป็นเพียงเพราะสิ่งที่คุณร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมัน’ (ข้อ 19–20, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เราต้องการอวัยวะที่ ‘เราคิดว่าอ่อนแอกว่า’ เป็นอย่างยิ่ง (ข้อ 22) อวัยวะภายในของเรา ‘ดูเหมือนอ่อนแอกว่า’ หรือที่ดูเปราะบางมากกว่า นี่เป็นเหตุผลที่พวกมันจำเป็นต้องได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม อวัยวะเหล่านั้น ‘เป็นสิ่งที่จำเป็น’ (ข้อ 22) เช่นเดียวกัน อวัยวะส่วนอื่น ๆ ในร่างกายที่ ‘ควรปกปิด’ เราก็ควรกระทำด้วย ‘ความสุภาพเป็นพิเศษ’ (ข้อ 23) ไม่มีใครควรพูดว่า อวัยวะเหล่านั้นไม่สำคัญ ที่จริงแล้ว พวกมันสำคัญมาก

เพราะว่าเราต้องการกันและกันอย่างยิ่ง ควรมี ‘ความห่วงใยแบบ​เดียว​กัน​ต่อ​กัน​และ​กัน’ (ข้อ 25) ควรมีความสนิทสนมและรักกันเพราะ ‘ถ้า​อวัยวะ​หนึ่ง​ทุกข์ อวัยวะ​ทั้ง​หมด​ก็​ร่วม​ทุกข์​ด้วย’ (ข้อ 26ก) นี่เป็นชุมชนที่เราต้องการ ที่ซึ่งผู้คนสามารถจัดการกับความเจ็บปวดของพวกเขาได้ นี่ยังเป็นที่ซึ่งผู้คนสามารถแบ่งปันความชื่นบานแก่กัน ‘ถ้า​อวัยวะ​หนึ่ง​ได้​รับ​เกียรติ อวัยวะทั้งหมดก็ร่วมชื่นชมยินดีด้วย’ (ข้อ 26ข) ดังที่นักบุญออกัสตินกล่าวไว้ว่า ‘ทิ้งความอิจฉาไปเสีย และทุกสิ่งที่ข้าพระองค์มีก็เป็นของพระองค์ด้วย และถ้าข้าพระองค์ทิ้งความอิจฉาริษยาออกไป สิ่งสารพัดที่เป็นของพระองค์มีก็เป็นของข้าพระองค์ด้วย’

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้สำแดงความเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ ให้ข้าพระองค์สำแดงความรักและความใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่น้องชายหญิงของเรา ที่ทำให้โลกเห็นพระคริสต์งดงาม

เพลงซาโลมอน 1:1-4:16

ความใกล้ชิดสนิทสนมในชีวิตสมรส

พระธรรมเล่มนี้สามารถอ่านได้ในหลายระดับ ใช้อธิบายความชื่นบานและความเป็นของกันและกัน ความงดงาม และพลัง ความเจ็บปวดและความปีติยินดีของความรักด้านเพศสัมพันธ์ของมนุษย์ ทั้งยังกล่าวถึงชีวิตสมรสตามที่ควรจะเป็น คือความสนิทสนมอันงดงามของความรักในชีวิตสมรสระหว่างชายและหญิง

ชีวิตสมรสเป็นการอุปมาเพื่ออธิบายบางสิ่งที่งดงามยิ่งกว่านั้น อันเป็นความสัมพันธ์ของพระเจ้ากับประชากรของพระองค์ สำคัญที่สุด คือ ใช้เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างพระคริสต์กับคริสตจักรของพระองค์ (เอเฟซัส 5:21–33) นี่เป็นภาพของความรักที่ลึกซึ้งและรุ่มร้อนของพระเจ้าที่มีต่อคุณ และความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับพระเยซู ผู้ทรง ‘ปกคลุม (คุณ) ด้วยความรัก’ (เพลงซาโลมอน 2:4) ด้วยเหตุนี้ ผ่านทางประวัติศาสตร์คริสตจักร ผู้คนเคยใช้พระธรรมเล่มนี้ในการอุปมา เพื่อแสดงออกถึงความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างพระเจ้ากับคริสตจักร

เป็นเรื่องน่าสนใจที่พระคริสตธรรมคัมภีร์เฉลิมฉลองความรักในชีวิตสมรส แสดงให้เห็นถึงมุมมองที่สูงที่พระคริสตธรรมคัมภีร์มีในเรื่องความใกล้ชิดทางเพศในชีวิตสมรส กล่าวถึงความปีติยินดีและอิ่มใจ คือความรักที่ทุ่มเทหมดทั้งใจและร้อนรุ่มโดยที่ไม่ปรารถนาสิ่งใดตอบแทน

เป็นที่ชัดเจนว่า ความใกล้ชิดทางเพศแบบนี้มีในชีวิตสมรสเท่านั้น นี่เป็นความรักระหว่างเจ้าบ่าวและเจ้าสาว คู่รักอ้างถึงคนรักของเขาว่าเป็น ‘เจ้าสาวของฉัน’ (4:8–12) สิ่งนี้ประกาศว่าเพศสัมพันธ์ไม่อาจแยกจากความรักและความอิ่มเอมใจตลอดชีวิตได้ ท่ามกลางโลกทุกวันนี้ที่เพศสัมพันธ์เกิดขึ้นโดยปราศจากความรัก

มีคำเตือนต่อการชิงสุกก่อนห่ามไว้ว่า 'พวก​เธอ​จะ​ไม่​เร้า​หรือ​จะ​ไม่​ปลุก​ความ​รัก​ให้​ตื่น​ขึ้น จน​กว่า​ความ​รัก​จะ​จุ​ใจ​แล้ว’ (2:7,3:5) หรือในฉบับ The Message เขียนไว้ว่า ‘อย่าปลุกเร้าความรัก อย่ากระตุ้นเตือนมัน จนกว่าจะถึงเวลาสุกงอม และเมื่อเธอพร้อม’ (2:7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คุณเสี่ยงที่จะทำของขวัญที่สวยงามชิ้นนี้เสียไป หากคุณเปิดมันก่อนเวลา

ยังมีคำเตือนเรื่อง ‘สุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก’ ที่ทำลายเถาองุ่น (ข้อ 15) บ่อยครั้งที่ความสัมพันธ์ของเราถูกทำลายไปอย่างมากไม่ใช่ด้วยเรื่องใหญ่ ๆ แต่เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดูเหมือนไม่สลักสำคัญอะไรและดูเหมือนว่าประนีประนอมได้

ตามที่จอยซ์ ไมเยอร์เขียนไว้ ‘จับตาดู “สุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก” ในชีวิตของคุณ จงให้อภัยแม้เพียงความขุ่นข้องหมองใจที่เล็กน้อยที่สุด เพื่อให้หัวใจของคุณยังคงสะอาด เมื่อคุณคิดว่าไม่มีใครสังเกตเห็น อย่าข้องแวะกับสิ่งจูงใจที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า คิดเอาว่า คงไม่เป็นไรหรอกน่าถ้าฉันทำมันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว สิ่งเล็ก ๆ สามารถทวีคูณขึ้นเป็นสิ่งใหญ่ และก่อนที่คุณจะรู้ตัว สุนัขจิ้งจอกตัวเล็กสามารถทำลายเถาองุ่นที่แข็งแรงสมบูรณ์ได้’

สัมพันธภาพแห่งความรักที่ใกล้ชิดสนิทสนมนี้ อธิบายว่าเป็นทั้งแบบส่วนตัวและแบบรวมเอาคนอื่น ๆ ไว้ด้วย ที่จับตามองแต่กันและกันเท่านั้น ‘ที่​รัก​ของ​ดิฉัน​เป็น​กรรม​สิทธิ์​ของ​ดิฉัน และ​ตัว​ดิฉัน​ก็​เป็น​ของ​เขา’ (ข้อ 16) กระนั้นความสัมพันธ์นี้ก็ยังเป็นพระพรไปยังคนอื่น ๆ ดังเช่นในชีวิตสมรสที่ยอดเยี่ยมทุกคู่ เพื่อนเจ้าสาวกล่าวว่า ‘เรา​จะ​เต้น​โลด​และ​เปรม​ปรีดิ์​ใน​ตัว​เธอ เรา​จะ​พรรณ​นา​ถึง​ความ​รัก​ของ​เธอ​ให้​ยิ่ง​กว่า​เหล้า​องุ่น’ (1:4)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ความใกล้ชิดสนิทสนมอันงดงามในชีวิตสมรส เป็นภาพซึ่งท้ายที่สุดแล้วเป็นความรักอันใกล้ชิดระหว่างพระคริสต์และคริสตจักร ขอทรงช่วยเราให้เติบโตในความรักและสนิทสนมนี้กับพระองค์ และกับคนอื่น ๆ

Pippa Adds

1 โครินธ์ 12:26

‘ถ้า​อวัยวะ​หนึ่ง​เจ็บ อวัยวะ​อื่นก็​เจ็บด้วย…’

เมื่อฉันทำกระดูกฝ่าเท้า (กระดูกชิ้นเล็ก ๆ ในเท้าขวาของฉัน) หัก มันส่งผลต่อทั้งร่างกายของฉันอย่างแน่นอน ฉันแทบเดินไม่ได้ไปหกสัปดาห์ ตอนนี้ฉันเข้าใจได้เลยว่า บางสิ่งที่เล็กน้อยเหลือเกินสามารถส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายได้อย่างไร และในแบบเดียวกัน หากใครก็ตามในคริสตจักรกำลังทุกข์ยากอยู่ เราล้วนร่วมในความทุกข์ยากไปกับพวกเขาด้วย

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More