YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 204 OF 365

รู้ว่าคุณเป็นที่รัก

ถ้าสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นกับผม ผมคงจะไม่เชื่อว่ามันเป็นไปได้เลย ในตอนที่ผมเห็นเขาครั้งแรก ผมพบกับความรักที่ไหลท่วมท้น เด็กน้อยตัวจิ๋ว ซึ่งคนอื่นอาจมองว่าดูเหมือนทารกทั่ว ๆ ไป เป็นลูกชายของผม วินาทีที่พ่อแม่เจอหน้าลูกครั้งแรกไม่อาจลืมเลือนได้เลย ความรักที่พ่อแม่มีให้ลูกนั้นไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูด แต่มันเป็นการเปรียบเทียบที่พระเจ้าใช้เพื่อพูดถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อคุณ คุณคือลูกของพระเจ้า ความรักที่พระองค์ทรงมีให้คุณนั้นยิ่งใหญ่กว่าความรู้สึกที่พ่อแม่มีต่อลูกของตนเสียอีก การรู้ว่าตัวคุณเองเป็นใครจะมีผลกระทบยิ่งใหญ่ต่อชีวิตของคุณ ขอให้รู้ว่าคุณเป็นลูกที่รักยิ่งของพระเจ้า นี่ควรจะเป็นรากฐานของความมั่นใจ ความปลอดภัย และความหวังของคุณ

สุภาษิต 17:25-18:6

บุตรที่มีสติปัญญา

พระคัมภีร์ได้พูดถึงการเลี้ยงดูของพ่อแม่และความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกของตนอย่างถี่ถ้วน ความรักที่พ่อแม่มีให้ลูกนั้นเป็นสัญชาตญาณและมีพลัง พ่อแม่ที่ดีจะต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก ๆ ของตน เด็ก ๆ มีความสามารถสูงที่จะนำความยินดีอย่างยิ่งมาสู่พ่อแม่ แต่แน่นอนว่าพวกเขาสามารถนำความโศกเศร้ามาเช่นกัน

‘บุตรชายโง่เป็นความโศกสลดแก่บิดาและเป็นความขมขื่นแก่มารดา' (ข้อ 17:25) ผู้เขียนได้ขยายถึงความแตกต่างระหว่างคนโง่เขลาและคนมีปัญญาในแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิต

ยกตัวอย่างเช่น ‘คนโง่...เพลิดเพลินในการแสดงความคิดเห็นของตนเท่านั้น’ (ข้อ 18:2) แต่คนฉลาดใช้คำพูดด้วยการยับยั้งชั่งใจ ‘แม้คนโง่หากนิ่งเสียก็นับว่ามีปัญญา เมื่อเขาปิดปากของตนก็นับว่ามีความคิด’ (ข้อ 17:28) เหมือนที่นักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน วิล ดูรัน (ค.ศ. 1885-1981) เคยบอกไว้ ‘หนึ่งในบทเรียนของประวัติศาสตร์คือไม่มีสิ่งใดเป็นเรื่องดีที่ควรทำเสมอและเหมาะสมที่จะพูดออกไปเสมอ’

จากนั้นผู้เขียนได้พูดถึงลักษณะนิสัยอื่น ๆ ของคนมีปัญญา การเป็นมิตร (ข้อ 18:1) การรับฟัง (ข้อ 2) และความยุติธรรม (ข้อ 5)

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยให้พวกเราเป็นลูกที่มีปัญญา คนที่ทำให้พระองค์พอพระทัยในการดำเนินชีวิตของเรา (โรม 8:8)

โรม 8:1-17

ลูกของพระเจ้า

คุณมองตัวเองในความสัมพันธ์กับพระเจ้าอย่างไร? ‘ท่านเอาแต่รู้สึกผิด เป็นอย่างน้อยหรือไม่ ท่านมีชีวิตอยู่ภายใต้เมฆดำที่ลอยอยู่ต่ำอย่างต่อเนื่องไหม’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

นี่ไม่ใช่การใช้ชีวิตคริสเตียนแบบที่ควรจะเป็น คุณเป็นลูกของพระเจ้า เป็นที่รัก เป็นที่ยอมรับ และถูกเสริมสร้างด้วยความรักอันไม่มีเงื่อนไขของพระองค์ที่มีต่อคุณ พระองค์ประสงค์ให้คุณชื่นชมยินดีในเสรีภาพจากความรู้สึกผิดและการกล่าวโทษ แต่มีประสบการณ์กับความสัมพันธ์อันสนิทสนมกับพระองค์ ซึ่งชิดใกล้ยิ่งกว่าความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดของพ่อแม่กับลูก

ณ จุดที่คุณต้อนรับพระเยซู อดีตได้ถูกจัดการ คุณได้รับการอภัยโดยสมบูรณ์ สิ่งที่ขวางกั้นคุณกับพระเจ้าถูกกำจัดไป อาจารย์เปาโลเขียนว่า ‘เพราะฉะนั้นไม่มีการลงโทษคนที่อยู่ในพระเยซูคริสต์’ (ข้อ 1) คุณพ้นจากกฎแห่งบาปและความตาย (ข้อ 2) แม้ว่าธรรมบัญญัตินั้นดี แต่ก็ไม่มีอำนาจที่จะช่วยเราให้รอดเนื่องจากธรรมชาติบาปของเรา (ข้อ 3ก) ดังนั้นพระเจ้าจึงส่งพระเยซูมาตายแทนเรา เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป (ข้อ 3ข) พระเยซูทรงรับเอาความบาปทั้งหมดของเราไป ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

ตอนนี้ ในปัจจุบันคุณสามารถชื่นชมยินดีกับชีวิตในพระวิญญาณ ‘ตัวเราผู้ไม่ดำเนินตามเนื้อหนัง แต่ตามพระวิญญาณ’ (ข้อ 4) พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำคุณให้หยุด ‘สนใจในสิ่งซึ่งเป็นของเนื้อหนัง... แต่สนใจในสิ่งซึ่งเป็นของพระวิญญาณ’ (ข้อ 5) สิ่งนี้นำไปสู่ ‘ชีวิตและสันติสุข’ (ข้อ 6) อาจารย์เปาโลไม่ได้บอกให้คุณสมบูรณ์แบบ แต่ ‘ถึงแม้ท่านจะยังประสบกับข้อจำกัดทั้งหมดของความบาป ท่านเองจะได้มีประสบการณ์กับชีวิตตามเงื่อนไขของพระเจ้า’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) สิ่งนี้เป็นไปได้เพราะในตอนนี้พระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในคุณ (ข้อ 9)

ยิ่งกว่านั้นคุณสามารถมองไปข้างหน้าถึงอนาคต เมื่อร่างกายของคุณเป็นขึ้นจากตาย พระวิญญาณองค์เดียวกันที่อยู่ในพระเยซูและทำให้พระองค์ฟื้นขึ้นจากความตายนั้นสถิตอยู่ภายในคุณ ดังนั้นร่างกายของคุณจะเป็นขึ้นมาใหม่เหมือนอย่างพระเยซู ‘พระองค์ผู้ทรงให้พระเยซูคริสต์เป็นขึ้นมาจากตายแล้วนั้น จะทรงทำให้กายซึ่งต้องตายของพวกท่านเป็นขึ้นมาใหม่ โดยพระวิญญาณของพระองค์ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน’ (ข้อ 11)

คนที่ต้อนรับพระเยซู ผู้เชื่อในพระนามของพระองค์ ทรงประทาน ‘สิทธิให้เป็นลูกของพระเจ้า’ (ยอห์น 1:12) คุณกลายเป็นลูกของพระเจ้าไม่ใช่โดยกำเนิด แต่โดยการบังเกิดใหม่ในพระวิญญาณ

ถ้าพระธรรมโรมคือ ‘ภูเขาหิมาลัย’ ของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม โรมบทที่ 8 คือภูเขาเอเวอร์เรส ส่วนยอดเขานั้นคือข้อพระคำเหล่านี้ ซึ่งอาจารย์เปาโลบรรยายถึงคนที่ถูกนำโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ว่าเป็นลูกของพระเจ้า (โรม 8:14-17)

1. สถานะสูงสุด
ไม่มีสถานะอื่นใดสูงส่งกว่าการเป็นลูกของพระเจ้า (ข้อ 14) ภายใต้กฎหมายของโรม ถ้าผู้ใหญ่คนหนึ่งต้องการผู้สืบสกุล เขาสามารถเลือกหนึ่งในลูกชายของเขาเองหรืออุปการะลูกชายสักคนให้ใช้ชื่อของเขาต่อ พระเจ้าทรงมีพระบุตรเพียงองค์เดียว คือพระเยซู แต่พระองค์ทรงมีบุตรชายบุตรหญิงบุญธรรมมากมาย คุณได้ถูกรับเข้ามาในครอบครัวของพระเจ้า ไม่มีสถานะใดในโลกนี้สามารถเทียบกับสิทธิพิเศษของการเป็นลูกของพระผู้สร้างสรรพสิ่งนี้

2. ความสนิทสนมที่สุด
คุณมีความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมที่สุดกับพระเจ้า อาจารย์เปาโลบอกว่าโดยพระวิญญาณ เราร้องเรียก ‘อับบา พระบิดา’ (ข้อ 15) คำในภาษาอาราเมคนี้อาจเป็นคำแรกที่อาจารย์เปาโลเคยพูด ซึ่งเป็นวิธีที่เขาเรียกพ่อในโลกของเขา พระเยซูทรงใช้คำว่า ‘อับบา’ ในการพูดถึงพระเจ้าด้วยวิธีที่พิเศษเฉพาะ มันแสดงออกถึงการให้เกียรติอย่างล้ำลึกและความสนิทสนมใกล้ชิด และเป็นคำที่น่าจะใกล้เคียงกับ ‘พ่อ’ หรือ ‘ปะป๊า’ ที่สุด ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของตะวันออกกลาง คำๆ นี้ยังคงเป็นคำแรกที่เด็กๆ ถูกสอนให้พูด

ในฐานะลูกของพระเจ้า คุณไม่ได้ตกเป็นทาสของความกลัวอีก แต่คนถูกนับเป็นลูกของพระเจ้า (ข้อ 15) คุณสามารถชื่นชมยินดีในความสัมพันธ์ที่สนิทสนมที่สุดกับพระบิดาในสวรรค์

3. ประสบการณ์ที่ลึกที่สุด
พระวิญญาณทรงให้ประสบการณ์ที่ลงลึกที่สุดกับพระเจ้าเท่าที่เป็นได้กับเรา ‘พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับจิตวิญญาณของเราว่า เราเป็นลูกของพระเจ้า’ (ข้อ 16) ในแบบเดียวกับที่ผมต้องการให้ลูก ๆ ของผมรับรู้และมีประสบการณ์กับความรักที่ผมมีให้พวกเขาและความสัมพันธ์ของเรา พระเจ้าประสงค์ให้ลูก ๆ ของพระองค์มั่นใจในความรักและในความสัมพันธ์นั้น ‘พระวิญญาณของพระเจ้าสัมผัสวิญญาณจิตของเราและยืนยันว่าแท้จริงแล้วเราเป็นใคร’ (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

4. ความปลอดภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
การเป็นลูกชายหรือลูกสาวของพระเจ้าคือความปลอดภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ‘ถ้าเราเป็นลูกแล้ว เราก็เป็นทายาท คือเป็นทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์’ (ข้อ 17) ภายใต้กฎหมายโรมลูกบุญธรรมจะสามารถรับมรดกของผู้เป็นพ่อได้

ในฐานะลูกของพระเจ้าเราก็เป็นทายาทด้วย ความแตกต่างเดียวคือเราได้รับ ไม่ใช่จากการตายของพ่อ แต่โดยการตายของตัวเราเอง คุณจะได้ชื่นชมยินดีกับนิรันดร์กาลแห่งรักร่วมกับพระเยซู ‘และเรารู้ว่าเราจะได้รับสิ่งที่กำลังมาถึงเรา คือมรดกอันแสนเหลือเชื่อ!’ (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เปาโลเพิ่มเติมอีกว่า ‘เมื่อเราทนทุกข์ทรมานด้วยกันกับพระองค์ก็เพื่อจะได้ศักดิ์ศรีด้วยกันกับพระองค์ด้วย’ (ข้อ 17ข) ในชีวิตคริสเตียน เกียรติสิริมาจากการทนทุกข์ ‘เราเผชิญสิ่งเดียวกับที่พระคริสต์ทรงเผชิญ ถ้าเราก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากกับพระองค์ เราก็จะได้ผ่านช่วงเวลาที่ดีกับพระองค์อย่างแน่นอน’ (ข้อ 17 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คริสเตียนถูกพิจารณาร่วมกับพระเยซู นั่นหมายถึงการข่มเหงอย่างรุนแรงสำหรับคริสเตียนหลายคนในปัจจุบัน คุณจะต้องเจอกับการข่มเหงบางอย่าง แต่มรดกของคุณในฐานะลูกของพระเจ้านั้นเหนือกว่าความยากลำบากเหล่านี้

ข้าแต่อับบา พระบิดา ขอบคุณสำหรับสิทธิพิเศษอันมหัศจรรย์ของการเป็นลูกของพระองค์ ขอบคุณที่พระวิญญาณสถิตอยู่ภายในข้าพระองค์ ซึ่งเป็นพยานร่วมกับวิญญาณของข้าพระองค์ว่าข้าพระองค์เป็นลูกของพระเจ้า ขอบคุณที่อนาคตของข้าพระองค์มั่นคงปลอดภัย ข้าพระองค์เป็นทายาทและทายาทร่วมกับพระคริสต์

โฮเชยา 8:1-9:17

ลูก ๆ ที่สัตย์ซื่อ

พระเจ้าทรงรักคุณ พระองค์ประสงค์ให้คุณใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด พระองค์ไม่ต้องการให้คุณใช้มันอย่างสูญเปล่า พระองค์ตรัสกับคุณอย่างที่ตรัสกับประชาชนในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมว่า ‘อย่าใช้ชีวิตของเจ้าให้เสียเปล่า’ (ข้อ 9:1ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘ชีวิตของเจ้าสูญเปล่าเมื่อเจ้าเดินไปจากองค์พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า’ (ข้อ 9:1ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

อย่างที่เราได้เห็น โฮเชยาใช้การเปรียบเทียบของสามีภรรยาสำหรับความสัมพันธ์ของพระเจ้ากับอิสราเอล ถึงกระนั้นเขาก็ยังใช้การเปรียบเทียบของพ่อแม่กับลูกด้วย ‘เมื่ออิสราเอลยังเด็ก เราก็รักเขา เราได้เรียกบุตรของเราออกจากอียิปต์’ (ข้อ 11:1)

เราเห็นถึงพระทัยของพระเจ้าที่แตกสลายเพราะความไม่ซื่อสัตย์ของลูกของพระองค์ ‘เพราะเขาได้หักพันธสัญญาของเรา และละเมิดธรรมบัญญัติของเรา…เขาจะบริสุทธิ์ได้นานสักเท่าใด?...เพราะเขาหว่านลม เขาจึงต้องเกี่ยวพายุหมุน… อิสราเอลได้ลืมผู้สร้างของตนแล้ว…เจ้าเล่นชู้นอกใจพระเจ้าของเจ้า’ (ข้อ 8:1,5,7,14 9:1) พระเจ้าปรารถนาให้คนของพระองค์ซื่อสัตย์ต่อพระองค์

เรามีสิทธิพิเศษใหญ่ยิ่งของการมีชีวิตอยู่ในยุคสมัยของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าได้ส่งพระวิญญาณของพระองค์มาประทับในใจของคุณ เพื่อช่วยให้คุณมีชีวิตที่สัตย์ซื่อ ซึ่งสอดคล้องกับพระวิญญาณ (โรม 8:5)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่ข้าพระองค์เป็นลูกที่พระองค์ทรงรักอย่างมากมาย โปรดช่วยให้ข้าพระองค์เป็นลูกที่มีปัญญา และสัตย์ซื่อด้วย

Pippa Adds

สุภาษิต 17:28ก

‘แม้คนโง่หากนิ่งเสียก็นับว่ามีปัญญา’

ฉันได้ลองทำแบบนี้ต่อหน้ากลุ่มคนที่น่าเกรงขาม!

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More