YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 205 OF 365

หมอนที่ใช้หนุนศีรษะที่อ่อนล้าของเรา

บางครั้งผมต่อสู้กับการเชื่อว่าพระเจ้ารักผมอย่างแท้จริงหรือไม่ ผมถูกทดลองให้รู้สึกถึงความล้มเหลวและการกล่าวโทษตนเอง มันง่ายกว่าที่จะเชื่อว่าพระเจ้าทรงรักคนอื่น ๆ แต่การจะเชื่อว่าพระเจ้าทรงรัก*ผม*นั้นยากกว่ามาก อาจารย์เปาโลได้อธิบายความรักของพระเจ้าในโรม 8 เริ่มด้วย ‘ไม่มีการลงโทษ’ (ข้อ 1) และจบด้วย ‘*จะไม่สามารถทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้*’ (ข้อ 39) จอห์น สตอตต์ ได้อธิบายความจริงในข้อนี้ว่าเป็นดั่ง ‘หมอนที่เราใช้หนุนศีรษะที่อ่อนล้า’ นักบุญ ออกัสติน เขียนว่า ‘พระเจ้าทรงรักเราแต่ละคนเหมือนกับว่ามีเราเพียงคนเดียวให้รัก’ ถ้าคุณเป็นมนุษย์คนเดียวที่เคยมีชีวิตอยู่ พระเยซูคงจะตายแทนคุณ และถ้าสิ่งนั้นเป็นจริงสำหรับคุณ มันก็เป็นจริงสำหรับผมด้วย พระเจ้าทรงรักคุณและผม

สดุดี 89:1-8

บอกถึงความรักยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เจ้า

จุดสำคัญของการนมัสการของเราและคำพยานของเราคือความรักของพระเจ้า

1. การนมัสการ
บทสดุดีนี้เริ่มด้วยการนมัสการ เป็นเพลงแห่งการสรรเสริญ (ข้อ 1-18) ซึ่งเน้นไปที่ความรักของพระเจ้า ‘ข้าพระองค์จะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงของพระองค์เป็นนิตย์' (ข้อ 1)

ให้คิดถึงความยิ่งใหญ่และพระสิริของพระเจ้า มันอัศจรรย์แค่ไหนที่เราถูกรักโดย ‘พระยาห์เวห์ พระเจ้าจอมทัพ’ (ข้อ 8) สิ่งนี้จะไม่มีวันถูกพรากไปจากคุณ ผู้เขียนสดุดีกล่าวว่า ‘ความรักมั่นคงของพระองค์จะตั้งอยู่เป็นนิตย์’ (ข้อ 2)

2. การเป็นพยาน
ข้อความที่คุณส่งต่อให้ผู้อื่นควรมุ่งความสนใจไปที่ความรักของพระเจ้า ‘ข้าพระองค์จะไม่หยุดเล่าถึงเรื่องราวแห่งรักของพระองค์’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่ข้าพระองค์มีประสบการณ์กับความรักและความสัตย์ซื่อของพระองค์ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ทำให้ความรักของพระองค์เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้อื่นต่อไป

โรม 8:18-39

ใคร่ครวญถึงความรักอัศจรรย์ของพระเจ้า

สถานการณ์ของคุณเคยทำให้คุณสงสัยในความรักของพระเจ้าที่มีต่อคุณไหม?

อาจารย์เปาโลได้ทนทุกข์อย่างสาหัส ทั้งถูกโบยตี ถูกจองจำ และเจอความยากลำบากมากมาย แต่เขาบอกว่าการทนทุกข์เหล่านั้นไม่สามารถเปรียบกับพระสิริที่เราจะได้เห็นในวันข้างหน้า ไม่สามารถเปรียบเทียบ ‘ช่วงเวลาที่ยากลำบากในปัจจุบันกับช่วงเวลาดี ๆ ที่กำลังจะมาได้’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ขณะที่คุณรอคอยอยู่ คุณคือ ‘ผู้ได้รับพระวิญญาณเป็นผลแรก’ (ข้อ 23) พระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังมัดจำสิ่งที่กำลังจะมา คือพระสิริในภายหน้า วันหนึ่งสรรพสิ่งทั้งหมดจะเป็นอิสระ (ข้อ 21) ในตอนนี้และเวลานี้ ร่างกายของคุณอาจจะกำลัง ‘คร่ำครวญ’ (ข้อ 22) ขณะที่มันค่อย ๆ เสื่อมสลาย แต่วันหนึ่งร่างกายนั้นจะถูกเยียวยารักษาและฟื้นฟูโดยสมบูรณ์ การฟื้นจากตายของคุณจะไม่ใช่ใน ‘ฝ่ายวิญญาณ’ เท่านั้นแต่ในกายภาพด้วย ‘ตัวเราเองก็ยังคร่ำครวญคอยการที่พระเจ้าจะทรงให้มีฐานะเป็นบุตร คือที่จะทรงไถ่กายของเรา’ (ข้อ 23)

อาจารย์เปาโลใช้การเปรียบเทียบกับการตั้งครรภ์ คุณกำลังรู้สึกถึง ‘ความเจ็บปวดของการปวดครรภ์คลอด’ (ข้อ 22, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

ในขณะเดียวกัน ในเวลาที่คุณเหนื่อยกับการรอคอย พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าทรงอยู่เคียงข้างคุณ คอยช่วยอยู่ หากคุณไม่รู้ว่าจะอธิษฐานอย่างไรหรือจะอธิษฐานเผื่อในเรื่องอะไร ‘พระวิญญาณทรงอธิษฐานภายในเราและเพื่อเรา ทำให้เสียงถอนหายใจที่ไร้คำพูดและเสียงคร่ำครวญของเราออกมาเป็นคำอธิษฐาน’ (ข้อ 26, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระองค์ทรงทำให้คุณสามารถอธิษฐานตามพระประสงค์ของพระเจ้า (ข้อ 27) ถ้าคำอธิษฐานของคุณถูกนำโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ คุณก็จะได้รับคำตอบแน่นอน เพราะคำอธิษฐานนั้นตามพระประสงค์ของพระเจ้า

ชีวิตไม่ใช่พบกับความยุ่งเหยิงโดยบังเอิญ ‘เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์’ (ข้อ 28)

พระเจ้าทรงทำงานทุกรายละเอียดในชีวิตของคุณ ‘ทุกอย่าง’ รวมถึงข้อผิดพลาดของคุณด้วย พระเจ้าจะนำข้อผิดพลาดของคุณและทำให้เกิดผลดีสำหรับคุณ พระองค์ทรงครอบครองอยู่ พระองค์ทรงอธิปไตย ในทุกสิ่งพระองค์ทรงทำให้เกิดผลดีสำหรับผู้ที่รักพระองค์ ไม้กางเขนได้แสดงให้เห็นในระดับสูงสุดว่า เหมือนที่พระเจ้าทรงทำให้เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เปลี่ยนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด พระองค์สามารถใช้สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเราเพื่อให้เกิดผลดีได้

พระสัญญานี้มีผลกับคริสเตียนทุกคน เปาโลได้ขยายความในข้อ 29-30 ว่าคุณถูกเลือกไว้ คุณถูกกำหนดไว้ก่อนแล้ว คุณถูกเรียก คุณถูกทำให้ชอบธรรม และคุณถูกทำให้มีสง่าราศี สี่อย่างแรกได้เกิดขึ้นแล้ว แต่การทำให้มีสง่าราศีนั้นเป็นเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม เปาโลได้ใช้กริยาช่องอดีตสำหรับทุกข้อ ‘(คุณถูก)...ให้มีศักดิ์ศรี’ การใช้ไวยากรณ์กาลกริยาแสดงให้เห็นว่า เปาโลมั่นใจในอนาคต ซึ่งมั่นคงอยู่แล้ว

สิ่งนี้ช่างอัศจรรย์ มันอาจจะเป็นคำประกาศแห่งความเชื่อที่หาญกล้าที่สุดในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ทั้งเล่ม ซึ่งกล่าวถึงความมั่นคงอย่างครบถ้วน ความมั่นคงของคริสเตียนวางอยู่บนความรักของพระเจ้าที่ไม่สั่นคลอน รากฐานที่มั่นคงนี้อยู่ลึกกว่าสถานการณ์และความรู้สึกทั้งหมดของคุณ

คุณจะมั่นใจในความรักของพระเจ้าได้อย่างไรเปาโลได้ให้คำถาม 5 ข้อที่ยังไม่มีคำตอบ:

1. *ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ข้างเราอย่างนี้ เราจะแพ้ได้อย่างไร?*
‘ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ใครจะขัดขวางเราได้?’ (ข้อ 31ข) ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา สิ่งที่คนอื่นคิดก็แทบไม่สำคัญเลย เราถูกปลดปล่อยจากการกลัวผู้คนและการใส่ใจสิ่งที่พวกเขาคิดมากจนเกินไป

2. *ถ้าพระเจ้าประทานพระบุตรองค์เดียวให้คุณ พระองค์จะหวงสิ่งอื่นหรือ?*
‘พระองค์ผู้ไม่ทรงหวงพระบุตรของพระองค์เอง แต่ประทานพระบุตรนั้นเพื่อเราทุกคน ถ้าเช่นนั้นพระองค์จะไม่ประทานสิ่งสารพัดให้เราด้วยกันกับพระบุตรนั้นหรือ?’ (ข้อ 32)

3. *ใครจะกล้าฟ้องร้องเราได้?* ‘ใครจะฟ้องคนที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้?’ (ข้อ 33ก)

4. *ถ้าพระเจ้าเป็นผู้พิพากษา และพระเยซูเป็นทนายของคุณ การฟ้องร้องจะสำเร็จได้อย่างไร?*
‘พระเจ้าทรงทำให้พวกเขาเป็นคนชอบธรรมแล้ว ใครจะเป็นผู้ลงโทษอีก?’ (ข้อ 33ข-34) พระเยซูทรงเป็นทนายที่คุ้มครองเรา พระองค์ทรงมีคุณสมบัติสูงสุด ‘พระเยซูคริสต์… ผู้สิ้นพระชนม์แล้ว’ (ข้อ 34) ได้ถูกตัดสินแทนเรา ‘พระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย พระองค์สถิต ณ เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า และทรงอธิษฐานขอเพื่อเราด้วย’ (ข้อ 34) พระองค์ทรงอุปถัมถ์เรา พระเยซูไม่เคยหยุดอธิษฐานเผื่อคุณ

5. *ใครจะขัดขวางคุณจากความรักของพระคริสต์ได้?* คุณสามารถถูกแยกจากเพื่อนและครอบครัวโดยสถานการณ์บางอย่างหรือแม้แต่ความตาย แต่ ‘แล้วใครจะให้เราขาดจากความรักของพระคริสต์ได้?’ (ข้อ 35ก) นั่นไม่ได้หมายความว่าชีวิตจะง่ายดาย อาจจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก มีความเกลียดชัง ความหิวโหย การไร้ที่อยู่อาศัย การข่มขู่ทำร้าย และการหักหลัง แต่นั่น ‘ไม่แย่ไปกว่าความบาปที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งบันทึกไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์... สิ่งเหล่านี้ไม่ทำให้เรากลัวเพราะว่าพระเยซูทรงรักเรา’ (ข้อ 35ข-37, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ท่ามกลางความยากลำบากทุกอย่าง คุณสามารถยึดความรักของพระเจ้าเอาไว้

เปาโลระบุความเป็นไปได้ 17 อย่างซึ่งเกี่ยวข้องกับภัยพิบัติในชีวิต เทพเจ้า กาลเวลา และฟ้าสวรรค์ (ข้อ 35-39) รายการต่าง ๆ เหล่านี้ของเขาพูดถึงความลำบากและสิ่งท้าทายทั้งหมดที่คุณอาจต้องประสบพบเจอ เปาโลสรุปว่าสิ่งใดก็ตาม 'จะไม่สามารถทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้’ (ข้อ 39) ไอแซก วัตส์ ได้เขียนว่า ‘ความรักช่างอัศจรรย์ มาจากพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ความรักเรียกร้องจิตวิญญาณของผม ชีวิตของผม และทั้งหมดของผม’

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์จะขอบคุณพระองค์ให้เพียงพอสำหรับความรักอัศจรรย์ของพระองค์ได้อย่างไร ขอบคุณที่ทุกสิ่งทำงานร่วมกันเพื่อก่อให้เกิดผลดีในชีวิตของข้าพระองค์ และไม่มีสิ่งใดสามารถแยกข้าพระองค์ไปจากความรักของพระองค์ได้

โฮเชยา 10:1-11:11

ชื่นชมในความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้า

คุณรู้หรือไม่ว่าพระเจ้าทรงรักคุณมากกว่าพ่อแม่ที่รักลูกของตน?

โฮเชยาพูดต่อไปถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อประชากรของพระองค์ แม้ในตอนที่พวกเขาไม่ซื่อสัตย์ พวกเขายอมให้ต่อความบาป ความขัดแย้ง และการนับถือรูปเคารพเป็น ‘เหมือนหญ้าพิษที่งอกขึ้น’ (ข้อ 10:4) และ ‘ต้นหนามและพืชมีหนามงอกขึ้น’ (ข้อ 8) ขอให้ระวังไม่ให้สิ่งเหล่านี้เติบโตในชีวิตของคุณ คอยถอนสิ่งไม่ดีออกไป แม้แต่วัชพืชเล็ก ๆ ก่อนที่มันจะกลายเป็นวัชพืชใหญ่

นอกจากถอนสิ่งไม่ดีแล้ว ให้ปลูกดอกไม้ที่สวยงามด้วย พระเจ้าทรงเรียกพวกเขาและพวกเราให้ ‘หว่านความชอบธรรมไว้สำหรับตัวเจ้า’และ ‘เกี่ยวผลของความรักมั่นคง…เพราะเป็นเวลาที่จะแสวงหาพระยาห์เวห์’ (ข้อ 12)

พระองค์ทรงอธิบายตรงนี้ในบริบทความรักของพ่อแม่ ‘เมื่ออิสราเอลยังเด็ก เราก็รักเขา เราได้เรียกบุตรของเราออกจากอียิปต์…เรานี่แหละสอนเอฟราอิมให้เดินเราอุ้มเขาทั้งหลายไว้...เราเป็นผู้รักษาเขาให้หาย เราจูงเขาด้วยสายแห่งความเมตตาด้วยเชือกแห่งความรัก...และเราก้มลงเลี้ยงเขา’ (ข้อ 11:1-4)

เป็นภาพที่สวยงามของความรักและความอ่อนโยนของพระเจ้า เหมือนพ่อแม่ที่กำลังดูแลลูกเล็ก ‘เราอุ้มเขาขึ้นมาแนบแก้มของเรา เหมือนอย่างทารก’ (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เลี้ยงดูเขา สอนเขาให้เดิน อุ้มเข้าไว้ในอ้อมแขน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ยอมกลับใจและตั้งใจหนีไปจากพระองค์ พระเจ้าไม่สามารถปล่อยพวกเขาไปได้ (ข้อ 5-8) ‘จิตใจของเราปั่นป่วนอยู่ภายใน ความเอ็นดูของเราก็คุกรุ่นขึ้น’ (ข้อ 8ข) นี่คือความรักที่จะไม่ปล่อยให้คุณไป

ข้าแต่พระบิดาเจ้า ขอบคุณสำหรับความรัก ความเมตตาสงสาร และความอ่อนโยนของพระองค์ ขอบคุณที่ไม่มีสิ่งใดสามารถแยกข้าพระองค์ไปจากความรักของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ขอบคุณที่ความรักของพระองค์เป็นเหมือนหมอนที่เราสามารถหนุนศีรษะที่อ่อนล้า

Pippa Adds

โรม 8:28

‘เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์’

ฉันได้ยึดถือพระคำข้อนี้อยู่บ่อยครั้งเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปอย่างเรียบร้อยหรือเกิดบางอย่างที่ทำให้ผิดหวังอย่างมาก เมื่อมองย้อนกลับไป มีหลายอย่างที่ไม่ได้เป็นตามแบบที่ฉันคาดหวังไว้ ตอนนี้ฉันบอกได้เลยว่าการที่ไม่เป็นเช่นนั้นคือพระพรยิ่งใหญ่ ฉันคงไม่สามารถพูดแบบนี้ในเวลานั้นได้ แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ฉันไม่เข้าใจ ซึ่งฉันคงต้องรอจนกว่าจะได้ไปสวรรค์ และหวังว่าฉันจะสามารถเข้าใจในตอนนั้น

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More