YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 203 OF 365

พระเจ้า ช่วยด้วย!

หนึ่งในคำอธิษฐานที่ผมพูดบ่อยคือ ‘ช่วยลูกด้วย!’ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในคำอธิษฐานที่พบเป็นประจำในพระคัมภีร์ เป็นคำอธิษฐานที่คุณสามารถพูดทุก ๆ วัน ในสถานการณ์ทุกรูปแบบ คุณสามารถร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า ความปรารถนาของพระองค์คือการที่คุณจะมีความสัมพันธ์กับพระองค์ที่แท้จริงและมาจากหัวใจ

สดุดี 88:9ข-18

ความช่วยเหลือในความสัมพันธ์ที่แตกสลาย

การถูกปฏิเสธมักจะเจ็บปวด โดยเฉพาะเมื่อมาจากคนที่คุณรักหรือคนที่ใกล้ชิดกับคุณ ความสัมพันธ์ที่แตกสลายนั้นเจ็บปวด ยิ่งถ้าคุณรู้สึกเหมือนถูก ‘ทิ้ง’ โดย ‘คนรัก’ ‘เพื่อนบ้าน’ หรือเพื่อนสนิท ผู้เขียนสดุดีรู้สึกเช่นนั้น ‘คนรักและเพื่อนบ้านของข้าพระองค์ทิ้งข้าพระองค์เสีย เพื่อนคนเดียวที่เหลืออยู่คือความมืดมิด’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เขาพูดว่า ‘ตราบเท่าที่จำความได้ข้าพระองค์ก็เจ็บปวด’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) สถานการณ์นั้นดูหมดหวังอย่างสิ้นเชิง: มืดมิด (ข้อ 12) ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง (ข้อ 14) เจ็บปวดรวดร้าว (ข้อ 15ก) สยดสยองและสิ้นหวัง (ข้อ 15ข) ‘ข้าพระองค์เลือดออก ฟกช้ำดำเขียว...ข้าพระองค์เจียนตาย’ (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

แต่ว่ายังมีความหวังอยู่ ความหวังนั้นมาจากความจริงที่ว่าท่ามกลางทั้งหมดนี้ เขาเลือกที่จะเริ่มแต่ละวัน ด้วยการร้องทูลต่อพระเจ้า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ทุกวัน ข้าพระองค์ชูมือต่อพระองค์’ (ข้อ 9ข)

วันนี้คุณอาจจะกำลังต่อสู้กับเรื่องความสัมพันธ์ ชีวิตสมรส ที่ทำงาน คริสตจักร หรือเพื่อนสนิท ไม่ว่าสถานการณ์ของคุณจะดูย่ำแย่เพียงใด มีความหวังอยู่เสมอเมื่อคุณร้องทูลขอการช่วยกู้จากพระเจ้า

‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่ข้าพระองค์ทูลขอความช่วยเหลือต่อพระองค์ ในเวลาเช้าคำอธิษฐานของข้าพระองค์ขึ้นไปเฝ้าพระองค์’ (ข้อ 13) ข้าแต่องค์พระเจ้า ข้าพระองค์ยื่นมือต่อพระองค์ ข้าพระองค์ทูลขอการช่วยกู้จากพระองค์

โรม 7:7-25

ความช่วยเหลือในการต่อสู้กับความบาป

คุณเคยพบว่าตัวเองติดกับของนิสัยแย่ ๆ หรือความบาปที่อยากจะหลุดพ้นแต่ไม่สามารถทำได้ไหม? คุณพบว่าตัวเองตัดสินใจที่จะไม่ทำบางอย่าง แต่หลังจากนั้นก็ตัดสินใจทำมันไหม?

เปาโลเขียนว่า ‘ข้าพเจ้าใช้เวลาอยู่นานในคุกของความบาป สิ่งที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับตัวเองคือเมื่อตัดสินใจทางหนึ่งแล้ว ข้าพเจ้ากลับทำอีกอย่าง โดยทำสิ่งที่ข้าพเจ้ารังเกียจนัก’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เขาเขียนต่อว่า ‘มันเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนคาดเดาได้ ในจุดที่ข้าพเจ้าตัดสินใจว่าจะทำดี ความบาปก็อยู่ตรงนั้นเพื่อทำให้ข้าพเจ้าสะดุดล้ม ข้าพเจ้าเปรมปรีดิ์ในธรรมบัญญัติของพระเจ้า แต่ชัดว่าไม่ใช่ทั้งหมดของตัวข้าพเจ้าร่วมในความยินดีนี้ ส่วนหนึ่งของข้าพเจ้าแอบกบฏ และเมื่อข้าพเจ้าไม่ทันตั้งตัว ความบาปก็ยึดอำนาจเสีย’ (ข้อ 21-23, พระคัมภีร์ตอนนี้จากThe Message โดยผู้แปล)

เปาโลบอกว่า ‘ชัดเจนว่าข้าพเจ้าต้องการความช่วยเหลือ!’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘โอย ข้าพเจ้าเป็นคนน่าสมเพชอะไรเช่นนี้? ใครจะช่วยให้พ้นจากร่างกายแห่งความตายนี้’ (ข้อ 24)

ข้อพระคำเมื่อวานนี้ได้บอกว่าคุณเป็นอิสระจากธรรมบัญญัติ (ข้อ 6) เปาโลได้คาดการณ์คำถามประเภทนี้ ซึ่งจะถามเกี่ยวกับสิ่งที่เขาพูดอยู่ คือ เขากำลังเปรียบเทียบความบาปกับธรรมบัญญัติหรือไม่? (ข้อ 7)

เปาโลแสดงให้เห็นว่าธรรมบัญญัติไม่ได้เป็นบาป แต่ในทางกลับกัน ‘ธรรมบัญญัติคือสำนึกอันดีของพระเจ้า แต่ละข้อนั้นสมเหตุสมผลและเป็นคำตักเตือนที่บริสุทธิ์’ (ข้อ 12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เราต่างหากที่เป็นคนบาป ธรรมบัญญัติแสดงให้เห็นถึงสิ่งนี้โดยการเปิดเผยว่าความบาปคืออะไร และบอกว่าเราไม่สามารถรักษา(กฎ)ไว้ได้ ยิ่งกว่านั้นยังยั่วยุความบาปที่อยู่ในเราอีกด้วย

คำถามต่อไปนั้นต่อเนื่องจากคำถามก่อนหน้า ถ้าธรรมบัญญัติดีนักหนา ทำไมจึงนำไปสู่ความตาย? เปาโลบอกว่า ‘เปล่าเลย บาปต่างหาก คือบาปซึ่งอาศัยสิ่งที่ดีนั้นทำให้ข้าพเจ้าต้องตาย’ (ข้อ 13) ถ้าบางคนถูกตัดสินว่ามีความผิด กฎหมายไม่ได้ทำให้เกิดบทลงโทษ แต่เป็นการกระทำผิดนั้นต่างหาก สิ่งเดียวที่กฎหมายทำคือตั้งมาตรฐานไว้

ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้ถูกเขียนอย่างละเอียด ข้อโต้แย้งหลัก คือ เปาโลหมายถึง ชีวิตคริสเตียนหรือชีวิตก่อนเป็นคริสเตียนของเขากันแน่ แม้ว่าจะเขียนในเชิงชีวประวัติ แต่เปาโลกำลังพูดถึงสภาพโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อยู่ภายใต้ธรรมบัญญัติ

เราควรจะมองพระคำตอนนี้ว่าบรรยายถึงคริสเตียนที่ไม่ได้มีชีวิตในฤทธิ์เดชของพระวิญญาณอย่างสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าเขาหรือเธอปรารถนาจะทำเช่นนั้น เราสามารถมองว่าเป็นเสียงร้องของมนุษย์ที่อยากจะมีชีวิตในพระวิญญาณ ซึ่งเป็นที่ได้ยินอีกครั้งในชีวิตของคริสเตียนตลอดทุกยุคทุกสมัย

เรารู้ว่าธรรมบัญญัติของพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ยุติธรรมและดีงาม (ข้อ 12) ‘เรารู้ว่าธรรมบัญญัตินั้นเป็นเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณ’ (ข้อ 14) แต่เราพบว่าตัวเองล้มเหลว: ‘ข้าพเจ้าเป็นเนื้อหนังถูกขายเป็นทาสให้อยู่ใต้บาป ข้าพเจ้าไม่เข้าใจการกระทำของข้าพเจ้าเอง เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ทำสิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะทำ แต่กลับทำสิ่งที่ข้าพเจ้าเกลียดชังนั้น’ (ข้อ 14-15)

ความแตกต่างระหว่าง ‘ก่อน’ และ ‘หลัง’ การมาเป็นคริสเตียนไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนฉันเคยทำบาป หลังจากนั้นฉันปราศจากบาป ข้อแตกต่างคือก่อนมาเป็นคริสเตียน บาปนั้นอยู่ในอุปนิสัย ไม่ได้ทำให้ผมหรือคุณเป็นกังวลเลย แต่เมื่อเรามาเป็นคริสเตียน สิ่งนั้นไม่ใช่อุปนิสัยอีก ผมไม่อยากทำมันแล้ว มันทำให้ผมเจ็บปวดและเสียใจเมื่อทำลงไป ไม่ใช่เพราะผมทำให้ตัวเองผิดหวัง แต่เพราะผมอยากเป็นที่พอพระทัยของพระคริสต์ ซึ่งผมได้ทำให้พระองค์ผิดหวัง

ถ้าคุณเป็นเหมือนกับผม คุณเข้าใจถึงการต่อสู้กับความบาปนี้ดี ขอให้รู้ว่านี่คือจุดหลักของการเป็นผู้เชื่อที่แท้จริง

ขณะที่เปาโลร้องทูลขอการช่วยกู้ เขารู้ถึงคำตอบของคำถามว่า ‘“ใครจะช่วยให้พ้นจากร่างกายแห่งความตายนี้?” ขอบพระคุณพระเจ้า โดยทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา!’ (ข้อ 24-25)

กุญแจในการเข้าใจพระคำตอนนี้อาจอยู่ในคำคำเดียว คือ ‘ข้าพเจ้า’ (ข้อ 25ข) โดยลำพังเราเป็นทาสของกฎแห่งบาป แต่นั่นไม่ใช่จุดจบของเรื่องราว อาจารย์เปาโลได้พูดต่อไปถึงการปลดปล่อยอันยิ่งใหญ่ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์นำมาสู่ชีวิตของเรา

เมื่อผมมองดูตัวเองในฐานะที่เป็นคริสเตียนในบริบทการเป็นของพระคริสต์นั้น ผมพบว่าตัวเองไม่ได้เป็นอิสระจากบาป เมื่อผมมองดูตัวเองเป็นคริสเตียนในโลกนี้ ผมก็พบว่าผมไม่ได้เป็นอิสระจากบาปเช่นกัน แต่เมื่อผมมองตัวเองเป็นคริสเตียนที่รับการเสริมกำลังโดยพระวิญญาณ ผมพบว่าตัวเองเป็นอิสระในการมีชัยชนะเหนือบาป ถอดความจากสิ่งที่จอห์น นิวตันเขียนว่า:

‘ผมไม่ได้เป็นในสิ่งที่ตัวเองควรจะเป็น

ผมไม่ได้เป็นในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็น

ผมไม่ได้เป็นในสิ่งที่วันหนึ่งจะได้เป็น

แต่โดยพระคุณของพระเจ้า

ผมไม่ได้เป็นอย่างที่ผมเคยเป็นมา’

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทูลขอการช่วยกู้จากพระองค์ โปรดเติมเต็มข้าพระองค์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ในวันนี้ ข้าพระองค์ต้องการความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อจะมีชีวิตในแบบที่พระองค์ประสงค์ให้เป็น

โฮเชยา 6:1-7:16

ความช่วยเหลือในการรักษา

พระเจ้าประสงค์ที่จะนำการเยียวยารักษามาสู่ชีวิตของเรา ประชาชนรู้ว่าถ้าพวกเขาหันกลับมาหาพระเจ้าอย่างแท้จริง พระองค์จะทรงรักษาพวกเขา (6:1)

ถ้าคุณต้องการการรักษาจากพระเจ้า คุณต้องร้องทูลขอพระองค์จากหัวใจ พระเจ้าทรงตำหนิประชากรของพระองค์ในข้อนี้ว่า ‘เขามิได้ร้องทุกข์ต่อเราจากใจจริง’ (7:14ข) ‘แทนที่เขาจะร้องทูลเราด้วยการอธิษฐานจากหัวใจ เขากลับรื่นเริงบนที่นอนกับหญิงโสเภณี’ (ข้อ 7:14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

สามข้อแรกของบทที่ 6 ดูเหมือนจะบรรยายถึงกระบวนการที่เจ็บปวดซึ่งพระเจ้าทรงกู้เรากลับมาหาพระองค์ เมื่อเราถอยห่างไป ถึงกระนั้นก็ไม่มีการยอมรับในความบาปหรือการกลับใจใหม่ในระดับลึก โฮเชยากำลังพูดถึงการสารภาพอย่างตื้น ๆ ของประชาชนว่า ‘คำประกาศว่ารักของเจ้าอยู่ไม่นานไปกว่าน้ำค้างในเวลาเช้าและหมอกยามเช้าตรู่’ (ข้อ 6:4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

สิ่งที่ชัดเจนคือพระเจ้าสนพระทัยที่หัวใจ ไม่ใช่การกระทำภายนอก ‘เราต้องการรักที่คงอยู่ ไม่ใช่เพียงศาสนา เราต้องการให้เจ้ารู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า’ (ข้อ 6:6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเจ้าสนพระทัยความสัมพันธ์ของเรากับพระองค์ที่มาจากหัวใจ

คำตำหนิของพระเจ้าคือ ‘ไม่มีใครในพวกเขาร้องเรียกเรา’ (ข้อ 7:7) มีความหยิ่งยโสและวิญญาณของการพึ่งพาตัวเองในมนุษย์ที่ปฏิเสธการ ‘กลับไปหาพระยาห์เวห์…แสวงหาพระองค์’ (ข้อ 10) พระองค์ตรัสว่า ‘เขาได้กบฏต่อเรา เราจะไถ่เขา’ (ข้อ 13-14) คุณสามารถรับการเยียวยารักษาและการยกโทษจากพระเจ้า สำหรับความผิดบาปที่เราทำลงไป แต่คุณจะต้องร้องทูลต่อพระองค์ด้วยหัวใจ (ข้อ 14)

จอยซ์ ไมเยอร์เขียนว่า ‘การเยียวยารักษา (ด้านอารมณ์) ไม่ได้มาอย่างง่ายดายและอาจเจ็บปวด บางครั้งเรามีบาดแผลที่ยังอักเสบอยู่ ก่อนที่เราจะหายดี บาดแผลเหล่านั้นต้องถูกเปิดออกและจัดการกับการอักเสบ มีเพียงพระเจ้าที่รู้ว่าจะจัดการอย่างถูกต้องอย่างไร เมื่อคุณแสวงหาพระเจ้าสำหรับการรักษาจากความเจ็บปวด ขอให้ใช้เวลากับพระองค์และกับพระวจนะ และรอคอยในการทรงสถิต ฉันรับประกันว่าคุณจะพบการเยียวยารักษาที่นั่น!’

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ไม่เพียงอยากรู้จักพระองค์ แต่พยายามที่จะรู้จักพระองค์มากยิ่งขึ้น (ข้อ 6:3) ข้าพระองค์ทูลต่อพระองค์จากหัวใจ ขอการรักษา การรื้อฟื้น และการฟื้นฟู โปรดช่วยด้วยเถิดพระเจ้า!

Pippa Adds

โฮเชยา 6:6

‘เพราะเราประสงค์ความเมตตา ไม่ประสงค์เครื่องสัตวบูชา’

พจนานุกรมกล่าวว่าความเมตตาคือ 'การแสดงความเมตตาต่อศัตรูหรือผู้กระทำความผิดในอำนาจของตน' เช็คสเปียร์กล่าวถึงความเมตตา: 'เป็นพรสองครั้ง: เป็นพรแก่ผู้ที่ให้และผู้ที่รับ' โลกของเราต้องการความเมตตาอย่างยิ่ง

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More