พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

เท้าที่งดงาม
เพื่อนของเราเฝ้ารอการมีลูกมาเป็นเวลา 10 ปี หลายคนบอกว่ามันดูเป็นไปไม่ได้ และแล้ววันหนึ่งเสียงกระดิ่งหน้าประตูบ้านเราก็ดังขึ้น เธอยืนอยู่ตรงนั้น ทุกอย่างเห็นชัดจากสีหน้าของเธอ ทันทีที่เธอเข้ามาในบ้าน เธอเริ่มกระโดดขึ้นลง กระทืบ*เท้า*ด้วยความชื่นชมยินดี และเปรมปรีดิ์ และได้บอกข่าวดีว่าเธอตั้งครรภ์แล้ว การรอคอยได้สิ้นสุดลง เธอ*แบกข่าวดีไว้ในร่างกายของเธอ* ไม่มีสิ่งใดน่าตื่นเต้นไปกว่าการเป็นผู้แจ้งข่าวดี คุณเองก็เป็นผู้แจ้งข่าวดีได้ นั่นคือ *ข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูอยู่ภายในคุณ* อัครสาวกเปาโลจึงกล่าวว่าคุณมี*เท้าที่งดงาม* (โรม 10:15) ในฐานะผู้ติดตามพระองค์ เราทุกคนถูกเรียกให้แบ่งปันข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซู บางคนอาจได้รับสิทธิพิเศษใหญ่หลวงในการถูกเรียกให้ทำเต็มเวลา ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม ค.ศ. 1978 เมื่อผมทำงานเกี่ยวกับกฎหมาย ผมได้เขียนในบันทึกคำอธิษฐานว่า ‘ผมอยากจะใช้ตลอดช่วงเวลาของผมประกาศข่าวประเสริฐ บอกผู้คนเกี่ยวกับความรักของพระเยซู แต่โรม 10:15 เตือนว่า “และถ้าไม่มีใครใช้พวกเขาไป เขาจะไปประกาศได้อย่างไร?” ผมไม่สามารถประกาศข่าวประเสริฐนอกจากว่าพระเจ้าจะส่งผมให้ไปทำเช่นนั้น มันเป็นการทรงเรียกที่อัศจรรย์ “*เท้า*ของคนเหล่านั้นที่นำข่าวดีมา *ช่างงามจริง ๆ หนอ!*”’ หัวใจของข่าวประเสริฐคือความชอบธรรมที่เกิดโดยความเชื่อ (ข้อ 6) ‘เพราะว่า ผู้ที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะรอด’ (ข้อ 13)สุภาษิต 18:7-16
มุ่งไปหาพระเจ้า
ข้อพระคำนี้ในสุภาษิตเต็มไปด้วยสติปัญญาที่ปฏิบัติได้ เราจะต้องระวังปากของเรา ‘คนโง่ถูกทำลายเพราะปาก อันใหญ่ของตน จิตใจของเขาถูกบดขยี้ด้วยถ้อยคำของตัวเอง’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘การนินทา’ ก็ล่อใจนักแต่ควรหลีกเลี่ยงไว้ ‘การฟังคำนินทาก็เหมือนกับการกินลูกอมราคาถูก ท่านต้องการให้ขยะนั้นอยู่ในท้องหรือ?’ (ข้อ 8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เราจะต้องทำงานหนักและไม่ขี้เกียจ นิสัยขี้เกียจและการงานที่สะเพร่าก็แย่เหมือนการทำลายทรัพย์สิน (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จากThe Message โดยผู้แปล) เป็นการโง่เขลาที่จะพึ่งพาในทรัพย์สิน ‘คนมั่งมีคิดว่าทรัพย์สินจะปกป้องเขา พวกเขาจินตนาการว่าตัวเองปลอดภัยอยู่หลังมัน’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ความเย่อหยิ่งนำไปสู่ความหายนะ ‘ความเย่อหยิ่งก่อน จากนั้นคือการปะทะอย่างแรง’ (ข้อ 12ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ความถ่อมใจนำไปสู่เกียรติ (ข้อ 12ข)
ท่ามกลางคำแนะนำที่ควรปฏิบัติทั้งหมด มีข้อหนึ่งที่ผูกกับข้อพระคำของวันนี้ ‘พระนามของพระยาห์เวห์เป็นหอรบแข็งแกร่ง คนชอบธรรมวิ่งเข้าไปในนั้นและปลอดภัย’ (ข้อ 10) ไม่ใช่ทุกคนจะปลอดภัย มีเพียงคนที่วิ่งไปยังป้อมปราการเข้มแข็งเท่านั้น นั่นคือวิ่งไปที่ ‘พระนามของพระเจ้า’ ผู้นั้นก็จะรอด
แม้แต่ที่นี่เรายังพบรากของคำสอนในพันธสัญญาใหม่ว่า ผู้ที่ร้องออกพระนามของพระเจ้าจะรอด
ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ระวังปากของตน ให้ระวังสิ่งที่จะพูด ให้ทำงานหนักและพึ่งพาพระองค์ด้วยความถ่อมใจ ขอบคุณที่พระนามของพระองค์เป็นป้อมปราการเข้มแข็งและเป็นสถานที่ ๆ ปลอดภัยสำหรับทุกคนที่วิ่งตรงเข้ามา
โรม 10:5-11:10
ร้องเรียกหาองค์พระผู้เป็นเจ้า
เมื่อผมอายุ 18 ปี ผมมาเป็นคริสเตียนได้ 2 เดือน เป็นเวลาที่ผมมีโอกาสบอกคนหนึ่งเกี่ยวกับข่าวดีเรื่องพระเยซู จนเขาได้ต้อนรับพระเยซูเข้ามาในชีวิต ชีวิตของเขาถูกเปลี่ยนแปลงในวันนั้นเหมือนกับผม
จำครั้งแรกที่คุณเข้าใจถึงข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูและเชื่อในพระองค์ได้ไหม? คุณเคยได้รับสิทธิพิเศษในการบอกผู้อื่นเกี่ยวกับพระเยซูด้วยวิธีการที่เขาเชื่อหรือไม่?
คำกล่าวอ้างในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่นั้นน่าทึ่ง ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมพระนามของพระเจ้าบริสุทธิ์มาก จนกระทั่งไม่มีใครกล้าเอ่ยด้วยปาก ตอนนี้เราได้รู้แล้วว่าพระนามของพระเจ้าคือพระเยซู ไม่เพียงแต่เราสามารถร้องเรียกพระนามด้วยปากของเรา แต่เมื่อเราเชื่อในพระองค์และร้องเรียกพระองค์ เราจะรอด (ข้อ 10:9-10)
ข่าวประเสริฐของคริสเตียนมีทั้งแบบเอกสิทธิ์ เพราะพระเยซูเป็นนามเดียวที่ประทานให้เพื่อความรอดของเรา และแบบครอบคลุมทุกคน เพราะทุกคนในโลกนี้สามารถเรียกหาพระนามของพระองค์ได้
เราทุกคนสามารถเข้าถึงพระเยซูได้ ‘ไม่มีการปีนไปยังสวรรค์อย่างปลอดภัยเพื่อเรียกพระเมสสิยาห์ ไม่มีการลงไปยังนรกอย่างน่ากลัวเพื่อช่วยกู้พระเมสสิยาห์’ เปาโลพูดต่อว่า
‘ถ้อยคำที่จะช่วยนั้นอยู่ตรงนี้แล้ว
|ใกล้ดั่งลิ้นในปากของท่าน
และใกล้อย่างหัวใจในอกของท่าน’ (ข้อ 6-8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
มันสำคัญที่เราจะไม่เชื่อเฉพาะแค่ภายในใจ แต่จะสำแดงออกมาทางวาจาด้วย ‘คือว่าถ้าท่านจะยอมรับด้วยปากของท่านว่า "พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า" และเชื่อในใจว่า พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด เพราะว่าการเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรับด้วยปากก็นำไปสู่ความรอด' (ข้อ 9-10)
ยกตัวอย่าง่น ผมสังเกตเห็นในหลักสูตรอัลฟ่าว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับคน ๆ หนึ่ง เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น เมื่อเขา ‘ยอมรับ’ ด้วย ‘ปาก’ เป็นครั้งแรกว่า ‘ตอนนี้ฉันเป็นคริสเตียน'
เปาโลตั้งใจเน้นถึงความรอดว่า 'พวกยิวและพวกกรีกนั้นไม่ต่างกัน' (ข้อ 12ก) นั่นคือ 'เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของทุกคน และประทานอย่างบริบูรณ์แก่ทุกคนที่ทูลขอต่อพระองค์ เพราะว่า "ผู้ที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะรอด”' (ข้อ 12ข-13)
ดังนั้น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะบอกผู้คนเกี่ยวกับข่าวดีเรื่องพระเยซู ผู้คนไม่สามารถร้องเรียกพระนามของพระเจ้าได้นอกจากพวกเขาจะเชื่อ พวกเขาไม่สามารถเชื่อนอกจากว่าจะได้ยิน พวกเขาไม่สามารถได้ยินนอกจากจะมีคนบอกพวกเขา ไม่มีคนไปบอกพวกเขานอกจากว่าจะถูกส่งไป (ข้อ 14-15) การถูกส่งออกไปเพื่อบอกกับผู้คนนั้นเป็นสิทธิพิเศษที่ยอดเยี่ยม 'เท้าของคนเหล่านั้นที่นำข่าวดีมา ช่างงามจริง ๆ หนอ!’ (ข้อ 15)
การเป็นสมาชิกของพงศ์พันธุ์อิสราเอลนั้นไม่เพียงพอ (เช่นเดียวกับการเกิดมาในประเทศคริสเตียนก็ไม่เพียงพอ) อาจารย์เปาโลแสดงให้เห็นโดยการอ้างอิงถึงโมเสสและอิสยาห์ ไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อ บางคนก็ไม่เชื่อฟังและดื้อดึง (ข้อ 21)
คำตอบของคำถามที่ว่า ‘พระเจ้าทรงทอดทิ้งชนชาติของพระองค์แล้วหรือ?’ คือ ‘ไม่ ไม่ ไม่’ (11:1-4) คนอิสราเอลที่ปฏิเสธพระเจ้านั้นมีเพียงบางส่วน จะมีคนที่รอดอยู่ทั้งที่ผ่านมาและในอนาคต อาจารย์เปาโลเป็นตัวอย่างของความจริงข้อนี้ (ข้อ 1)
เปาโลอ้างอิงถึงเอลียาห์ (ที่หดหู่หลังจากกลับจากภูเขาคารเมล) เขาพูดว่า ‘เหลืออยู่แต่ข้าพระองค์คนเดียว’ (ข้อ 6) แต่พระเจ้าตรัสว่า ‘เราได้เหลือคนไว้ สำหรับเราเจ็ดพันคน ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้กราบไหว้พระบาอัล เช่นนั้นแหละ ปัจจุบันนี้ก็ยังมีพวกที่เหลืออยู่ตามที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้โดยพระคุณ แต่ถ้าเป็นทางพระคุณ ก็ไม่ได้เป็นทางการประพฤติ’ (ข้อ 5-6)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทุกคนที่ร้องเรียกพระนามของพระองค์จะรอด ขอบคุณที่ไม่มีสิทธิพิเศษอื่นใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการถูกส่งออกไปบอกข่าวดีนี้กับคนอื่น ๆ โปรดทรงยกพวกเราขึ้น และส่งคนที่จะนำข่าวดีไปยังชาวยิวและชาวต่างชาติเช่นเดียวกัน
1 พงศาวดาร 2:18-4:8
วางความเชื่อไว้กับพระเจ้า
พระเจ้าทรงสร้างเราให้มีชีวิตในความสัมพันธ์กับพระองค์ จะมีบางอย่างหายไปในชีวิตของเราจนกว่าเราจะมีความสัมพันธ์นั้น
พระเจ้าทรงรักคุณและประสงค์ให้คุณพบกับการเติมเต็มและเป้าประสงค์ในความสัมพันธ์นั้น นี่เป็นเหตุผลที่การนมัสการพระเจ้าเป็นศูนย์กลางในชีวิตของเราและเป็นกระดูกสันหลังของพระธรรมพงศาวดารทั้ง 2 เล่ม การนมัสการที่สัตย์ซื่อเป็นสิ่งที่มีความหมายที่สุด
พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อต่อคุณ และพระองค์ทรงเรียกให้คุณสัตย์ซื่อกับพระองค์เช่นกัน ความไม่สัตย์ซื่อนำไปสู่ความทุกข์ยากและเกิดปัญหา
ผู้เขียนพระธรรมพงศาวดารเริ่มต้นด้วยการแนะนำคนอิสราเอล บรรดารายชื่อของกษัตริย์ยูดาห์ (3:10-16) เป็นเหมือนสารบัญของหนังสือ เนื้อหาส่วนใหญ่ในพระธรรม 1 พงศาวดาร เป็นการอุทิศให้กษัตริย์ดาวิด ผู้เป็นแบบอย่างของการนมัสการที่แท้จริงและความสัตย์ซื่อที่มีต่อพระเจ้า
หนึ่งในสาระสำคัญของพระธรรมพงศาวดารทั้ง 2 เล่ม คือความสำคัญของความเชื่อนี้ในพระเจ้า ผู้เขียนอยากสื่อว่าไม่ใช่คนอิสราเอลทั้งหมดจะสัตย์ซื่อ
คุณอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวลำพังในบางครั้ง อาจดูเหมือนว่าแทบไม่มีผู้เชื่ออยู่รอบตัวเราเลย แต่ว่าจะมีคนที่เหลืออยู่เสมอ คือคนที่เชื่อในพระเจ้า
นี่เป็นหนึ่งในใจความหลักตลอดพระธรรมพงศาวดาร 'จงวางใจในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย แล้วท่านจะได้รับความมั่นคง จงเชื่อบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แล้วท่านจะได้รับความสำเร็จ' (2 พงศาวดาร 20:20)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่พระองค์ทรงสงวนคนที่รอดเอาไว้ โปรดช่วยให้พวกเราไม่ท้อแท้ใจ แต่จะออกไปประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซู
Pippa Adds
โรม 10:13
‘เพราะว่า ผู้ที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะรอด’
ง่ายขนาดนั้นเลยล่ะค่ะ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

The Table: What a Boy Discovered at Camp

I Feel Abandoned

God's Love Letter to You - Chronological Bible in a Year

The Letter to the Colossians and the Letter to Philemon

Parables of Grace: Embrace God’s Love for You

Horizon Church October Bible Reading Plan - the Book of Romans: Freely Justified

Weary of Waiting: Finding Peace in God's Plan

So That

Workplace Evangelism - 40 Rockets Tips (26-30)
