YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 206 OF 365

เกิดอะไรกับคนที่ไม่เชื่อ?

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1974 ผมได้พบกับองค์พระเยซูคริสต์ นั่นเปลี่ยนแปลงชีวิตของผมอย่างสิ้นเชิง ผมได้เข้าใจว่าพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อผม ผมได้มีประสบการณ์กับความรักของพระองค์ ผมรู้ว่าพระเจ้านั้นมีจริง ผมรู้ถึงพระพรที่ไม่ธรรมดาในการมีความสัมพันธ์กับพระเยซู แต่เกือบจะทันทีหลังจากนั้น ผมมีประสบการณ์กับสิ่งที่อาจารย์เปาโลพูดถึงในข้อนี้ ‘ความโศกเศร้าอย่างหนัก...ความเจ็บปวดมหาศาลในส่วนลึกภายในข้าพเจ้า’ (โรม 9:2 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ผมปรารถนาให้ทุกคนมีประสบการณ์และรู้ถึงสิ่งที่ผมพึ่งเจอมานี้ ผมปรารถนาให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ ที่ยังไม่ได้เป็นคริสเตียนมารู้จักกับพระคริสต์ อัครสาวกเปาโลใส่ใจคนของเขาอย่างร้อนรน จนกระทั่งเขายอมถูกตัดขาดจากพระเจ้าและคนที่เขารัก เพื่อที่พวกเขาจะได้รับความรอด เปาโลเขียนว่า ‘ข้าพเจ้าพร้อมที่จะถูกสาป และถูกตัดขาดจากพระคริสต์เพราะเห็นแก่พี่น้องของข้าพเจ้า คือเชื้อชาติของข้าพเจ้าตามเนื้อหนัง พวกเขาเป็นคนอิสราเอล’ (ข้อ 3-4ก) แต่ในเวลาเดียวกันอาจารย์เปาโลวางใจว่าพระเจ้าทรงสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด พระเจ้าทรงมีอธิปไตย พระองค์ทรงปกครองและครอบครองจักรวาลของพระองค์ เราจะให้ความทุกข์ใจและความร้อนรนนี้มีอย่างสมดุลสำหรับคนที่เรารักได้อย่างไร โดยการวางใจในอธิปไตยสูงสุดของพระเจ้า

สดุดี 89:9-13

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการปกครอง และการครอบครองของพระองค์

เราไม่อาจรู้คำตอบสำหรับคำถามทั้งหมด แต่เรารู้ว่าพระเจ้าทรงควบคุมทุกสรรพสิ่งของพระองค์ นี่คือโลกของพระเจ้า พระองค์ทรงรักคุณ คุณสามารถวางใจพระองค์ไม่ใช่แค่เรื่องอนาคตของคุณ แต่รวมถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่น ๆ ด้วย

‘ฟ้าสวรรค์เป็นของพระองค์ แผ่นดินโลกก็เป็นของพระองค์ด้วย’ (ข้อ 11)

พระเจ้าไม่เพียงสร้างโลกนี้ พระองค์ยังคงทำการในประวัติศาสตร์ ‘พระองค์ทรงปกครองการเดือดดาลของทะเล…พระองค์ทรงมีพระกรอันทรงอานุภาพ พระหัตถ์ของพระองค์ก็แข็งแรง พระหัตถ์ขวาของพระองค์ก็สูงส่ง’ (ข้อ 9ก, 13)

‘เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์’ (โรม 8:28)

ข้าแต่องค์พระเจ้าผู้ครอบครองสูงสุด พระองค์เป็นผู้สร้างโลกนี้และเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์ ขอบคุณที่ข้าพระองค์สามารถวางใจว่า พระองค์ทรงควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างในชีวิตของข้าพระองค์

โรม 9:1-21

วางใจในความเมตตากรุณาของพระองค์

‘ไม่ยุติธรรมเลย’ ไม่ได้เป็นแค่เสียงร้องของเด็ก ๆ เท่านั้น แต่ของผู้ใหญ่มากมายที่เป็นคริสเตียนด้วย

เปาโลไปถึง ‘จุดสูงสุด’ ของจดหมายฝากในตอนท้ายของบทที่ 8 เขาหันมาพูดถึงพงศ์พันธุ์อิสราเอลในบทที่ 8-11 อาจารย์เปาโลไม่ได้มองการเป็นคริสเตียนว่าเป็นการย้ายจากความเชื่อของคนยิว แต่เขามองว่าเป็นส่วนของการเต็มเติมของคนอิสราเอลที่แท้จริงและลูกหลานของอับราฮัมที่แท้จริง สำหรับอาจารย์เปาโลแล้ว มันเป็นมีความเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง เขาเรียกอิสราเอลว่า ‘พี่น้องข้าพเจ้า’ (ข้อ 9:3) ซึ่งเขาหมายถึงคนยิวไม่ใช่คริสเตียน พวกเขาเป็นครอบครัว อาจารย์เปาโลเติบโตมาพร้อมกับพวกเขา เขาบอกว่าตน ‘มีความทุกข์หนักและความเจ็บร้อนในใจเสมอ’ (ข้อ 2)

บางคนเหมือนจะชี้แนะว่าจะไม่มีความทุกข์ในชีวิตอีกหลังจากมาเป็นคริสเตียน แต่สำหรับเปาโล ความยินดีที่ยิ่งใหญ่มาหลังจากความทุกข์หนักและความเจ็บปวด มันเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันอย่างประหลาด คุณอาจจะรู้สึกถึงความทุกข์ใหญ่นี้เกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง ที่อยู่นอกแผ่นดินของพระเจ้า หรือเมื่อผู้คนนั้นปฏิเสธพระเยซู

เปาโลใส่ใจความรอดของพวกเขามากจนกระทั่งตัวเองเตรียมที่จะ ‘ถูกตัดขาดจากพระคริสต์’ (ข้อ 3) ไม่ใช่แค่ตายไป ซึ่งเป็นความสยดสยองที่สุดของเปาโล

โมเสสได้อธิษฐานคล้ายกัน เมื่อเขาอธิษฐานเผื่อประชาชนที่ทำบาปต่อพระเจ้า ‘แต่บัดนี้ขอพระองค์โปรดยกโทษบาปของพวกเขา มิฉะนั้น ขอพระองค์ทรงลบชื่อของข้าพระองค์เสียจากหนังสือที่พระองค์ทรงจดไว้’ (อพยพ 32:32) แต่พระเจ้าไม่ทรงยอบรับโมเสส (ข้อ 33-34ก) หรือเครื่องถวายบูชาของอาจารย์เปาโลเพราะว่าชีวิตของพวกเขาทั้งสองไม่อาจไถ่ความบาปของประชาชนได้

มีเพียงชีวิตของพระเยซู ผู้ไม่เคยมีบาป สามารถจะทำได้ พระเยซูทรงเต็มใจยอม ‘ถูกสาปและถูกตัดขาด’ (โรม 9:3) เพื่อเรา พระองค์ไม่เพียงแค่เต็มใจทำ แต่การถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชา นั้นเป็นที่ยอมรับและก่อให้เกิดผล ไม่มีสิ่งใดที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปได้อีก

แต่ว่าเปาโลโศกเศร้านัก เพราะเขาตระหนักว่าพี่น้องส่วนใหญ่ของเขาได้ปฏิเสธของประทานที่ไม่ธรรมดาแห่งการไถ่ และการอภัยนี้ พระเจ้าได้ประทานทุกสิ่งให้พวกเขาและพวกเรา แต่ว่าพวกเขากลับเลือกที่จะปฏิเสธสิ่งนี้

ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นสำหรับเปาโล คือ พวกเขาเป็นประชากรที่พระเจ้าทรงเลือก พระเจ้าในอธิปไตยของพระองค์ ได้เลือกชนชาติอิสราเอล ‘พวกเขามีทุกอย่าง ทั้งครอบครัว สง่าราศี พันธสัญญา การเปิดเผยสำแดง การนมัสการ คำสัญญาต่าง ๆ ด้วยการเป็นชนชาติที่ให้กำเนิดพระเมสสิยาห์ คือพระคริสต์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเหนือทุกสรรพสิ่งนิจนิรันดร์’ (ข้อ 4ข-5 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ด้วยภูมิหลังนั้น เปาโลเจอกับคำถามร้อนแรงที่คงจะทรมานเขาตลอดการทำพันธกิจ คือ ‘พระสัญญาของพระเจ้าล้มเหลวไหม?’ คำตอบของเปาโลคือ ‘ไม่ ไม่ได้ล้มเหลว’ แล้วคำอธิบายคืออะไร?

คำตอบแรกของเขาคือการพูดว่า ‘พวกท่านเคยสังเกตไหมว่าพระเจ้าไม่เคยสัญญากับลูกหลานทั้งหมดของอับราฮัม’ จากนั้นเขาได้ให้ภาพ 2 ภาพ อันแรกคืออิสอัคเมื่อเทียบกับพี่ชาย (ข้อ 6-9) อันที่สองคือยาโคบต่อเอซาว (ข้อ 10-13) ในทั้ง 2 กรณี พระสัญญาถูกให้กับคนหนึ่ง ไม่ใช่อีกคน

แล้วเป็นธรรมหรือไม่? ‘นั่นเป็นพื้นที่ให้บ่นต่อว่าพระเจ้าว่าทรงไม่ยุติธรรมหรือ?’ (ข้อ 14ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คำตอบของเปาโลคือถ้ามีใครพูดว่าพระเจ้าไม่ยุติธรรม นั่นแปลว่าพวกเขาไม่รู้จักพระองค์

หลักของการเลือกสรรคือขึ้นอยู่กับพระเมตตาของพระเจ้า ‘"เราเป็นผู้รับผิดชอบความเมตตา เราเป็นผู้รับผิดชอบความกรุณา” ความกรุณาไม่ได้เริ่มจากหัวใจของเราที่ไหลเป็นเลือดหรือหยาดเหงื่อ แต่จากพระเมตตาของพระเจ้า’ (ข้อ 15-16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คำว่า ‘เมตตา’ และ ‘กรุณา’ ปรากฏมา 7 ครั้ง (ข้อ 14-18) คุณสามารถวางใจพระเจ้าเรื่องอนาคตของคุณและคนที่คุณรัก พระเจ้าทรงควบคุมอยู่สูงสุด มันคืออำนาจอธิปไตยของพระองค์

พระคัมภีร์ไม่ได้ให้ตอบคำตอบสำหรับคำถามเหล่านั้นต่อ โดยพูดถึงทั้งความกรุณาและความยุติธรรมของพระเจ้า ทั้งสองเกี่ยวกับการเลือกสรรและอิสระในการเลือกของเรา อิสระในการเลือกของเราหมายความว่า เราต้องรับผิดชอบต่อการเลือกของเราเอง

บ่อยครั้งที่ความจริงในพระคริสตธรรมคัมภีร์ไม่ได้อยู่บนเสาหนึ่งหรือเสาอีกอัน หรืออยู่ระหว่างกลาง แต่บนเสาทั้ง 2 พร้อมกัน นี่ไม่เป็นปริศนาที่พระคริสตธรรมคัมภีร์เฉลยให้เรา ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่เราต้องสรุปพร้อมกับผู้เขียนสดุดี ‘ความรู้อย่างนี้อัศจรรย์เกินข้าพระองค์ สูงนักจนข้าพระองค์เอื้อมไม่ถึง’ (สดุดี 139:6) เราต้องยึดความจริงของการเลือกสรรและอิสระในการเลือกของเรานี้ไว้ตลอดเวลา

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์ทรงรักและมีเมตตา ทรงกริ้วช้าและอุดมด้วยความรัก ขอบคุณที่พระองค์สิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อเรา เพื่อทุกคนที่วางใจในพระองค์จะถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์วางใจพระองค์ เมื่อความเข้าใจของข้าพระองค์ล้มเหลว

โฮเชยา 11:12-14:9

หันหนีจากความบาป และหันกลับมาหาพระเจ้า

ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้ามีฤทธิ์ในการอภัยบาปของเรา รักษาบาดแผลของเรา และซ่อมแซมหัวใจที่บอบช้ำของเรา ไม่ใช่เพราะเราคู่ควรได้รับหรือทำอะไรเพื่อให้ได้มา พระองค์ทรงรักคุณด้วยความเต็มใจ (ข้อ 14:4) พระองค์ประสงค์จะเยียวยาความไม่เชื่อของเรา

พระเจ้าทรงเรียกเราให้หันจากบาป กลับมาสู่ความรักของพระองค์ ‘ดังนั้นจงหันกลับมาหาพระเจ้าของเจ้า ยึดมั่นในความรักและความเมตตา ในความชอบธรรมและความยุติธรรม และจงเฝ้ารอคอยพระเจ้าของเจ้าอยู่เสมอ!’ (ข้อ 12:6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ประโยคนี้ได้สรุปถ้อยคำของโฮเชยา

พระเจ้าทรงเรียกประชากรของพระองค์ให้กลับใจ (14:1-2) และทรงสัญญาว่า ‘เราจะรักษาความดื้อรั้นของเขา เราจะรักเขาอย่างมากมายไม่มีขอบเขต... เราจะเริ่มต้นใหม่... ทุกอย่างที่เจ้าต้องการนั้นอยู่ในเรา’ (ข้อ 4-8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ความบาปของอิสราเอลไม่ได้แตกต่างจากความบาปในศตวรรษที่ 21 เลย เช่น มีการฉ้อโกงในเมืองหลวง ‘พวกนักธุรกิจร่วมกันโกงในการขายส่ง พวกเขารักที่จะโกงผู้คน!’ (ข้อ 12:7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ประชาชนนั้นแสวงหาความมั่นคงในการเงินของเขา ‘เอฟราอิมกล่าวว่า “แท้จริงข้าเป็นคนมั่งมี ข้าหาทรัพย์เพื่อตนเองแต่ทั้งหมดที่ข้าหาได้ พวกเขาจะไม่พบความผิดที่เป็นบาป”’ (ข้อ 8)

เมื่อพระเจ้าทรงอวยพรเราก็พึงพอใจ (ข้อ 13:6ก) เมื่อเราพึงพอใจเราก็หยิ่งผยอง (ข้อ 6ข) จากนั้นเราก็ลืมพระเจ้าไป (ข้อ 6ค) เราเห็นวัฏจักรนี้ในชนชาติของเราและในชีวิตของเราแต่ละคนเป็นการส่วนตัว

‘เราดูแลเจ้า เราดูแลทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับเจ้า
|ให้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ
เจ้าถูกตามใจจนเคย เจ้าคิดว่าเจ้าไม่ต้องการเรา
|เจ้าได้หลงลืมเราไปเสียแล้ว’ (ข้อ 6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ถึงแม้พวกเขาจะมีบาป พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะไถ่เขา ‘ควรที่เราจะไถ่เขาให้พ้นอำนาจแดนคนตายหรือ? ควรที่เราจะไถ่เขาให้พ้นความตายหรือ? โอ มัจจุราชเอ๋ย วิบัติของเจ้าอยู่ที่ไหน? โอ แดนคนตายเอ๋ย ความพินาศของเจ้าอยู่ที่ไหน’ (ข้อ 13:14; ดู 1 โครินธ์ 15:55 เพิ่มเติม) ผ่านทางพระเยซู ความตายได้สูญเสียอำนาจเหนือชีวิตของเรา เมื่อเรากลับมาหาพระเจ้า พระองค์ทรงสัญญาว่าเราจะเจริญและออกดอกและผลของเราได้มาจากพระองค์ (โฮเชยา 14:7,8)

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงโปรดยกโทษความบาปของข้าพระองค์ โปรดรับข้าพระองค์ไว้อย่างเมตตา โปรดรักษาความดื้อรั้นของข้าพระองค์และรักข้าพระองค์อย่างเต็มใจ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ออกดอกเหมือนเถาองุ่น และเกิดผลด้วยเถิด

Pippa Adds

โฮเชยา 14:4

‘เราจะรักษาเขาให้หายจากการกลับสัตย์ เราจะรักเขาด้วยความเต็มใจ’ ผลของการถูกรักอย่างเต็มใจนั้นช่างอัศจรรย์ เมื่อเรามีประสบการณ์กับความรักนี้จากพระเจ้ามันจะเปลี่ยนแปลงหัวใจของเรา

ผ่านสิ่งนี้เอง พระเจ้าทรงรักษาความดื้อดึงของฉันไปได้มาก แต่ก็ยังมีอีกนิดที่ต้องจัดการ!

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More