การนับถือตนเองในมุมมองพระคัมภีร์ (Self Esteem)ตัวอย่าง

การมองตนเองในแง่ลบเกิดจากอะไร

วิธีที่เราคิดหรือมองตัวเองนั้นบางครั้งสืบย้อนไปได้ถึงพ่อแม่ของเรา นานมาแล้วโมเสสซึ่งเป็นมนุษย์ปุถุชนผู้เขียนพระธรรมห้าเล่มแรกในพระคัมภีร์ ได้อธิบายว่า “โทษ [ของ]บิดา” ส่งผลเสียที่ตามมาต่อชีวิตบุตรหลานของตนได้อย่างไร (อพย.20:5) ปัจจุบันเรื่องราวของผู้ใหญ่ที่ชีวิตในวัยเด็กเผยให้เห็นว่าพวกเขาถูกพ่อแม่ปฏิเสธ ทอดทิ้ง พ่อแม่ติดเหล้า เสพยา และทำทารุณกรรมด้านร่างกายและทางอารมณ์เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงพระคำข้อนี้ ในขณะที่เด็กๆสามารถปรับตัวและให้อภัยได้ แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะหลีกหนีจากผลกระทบที่เกิดจากพ่อแม่ที่ไม่สนใจจะแสดงความรักและการเอาใจใส่อย่างที่พวกเขาต้องการจะได้รับ ชายและหญิงที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วซึ่งได้เผชิญกับการถูกปฏิเสธในช่วงขวบปีแรกๆ มักต้องต่อสู้ไปตลอดชีวิตเพื่อพยายามที่จะรู้สึกดีกับ ตัวเอง ในตลอดชีวิตที่เหลือนั้นเด็กที่ไม่ได้รับความรัก บางครั้งจะพยายามทำทุกอย่างทั้งโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำร้ายจิตใจอีกครั้ง เป็นเรื่องปกติที่คนซึ่งกลัวการถูกปฏิเสธจะถอนตัวจากสังคมเข้าไปอยู่ในความมืดมนของโรคซึมเศร้า พึ่งพาการใช้ยา และสารเสพติด สำส่อนทางเพศ หรือรู้สึกกลัวโดย ไม่มีสาเหตุ บางคนก็หลีกหนีจากความใกล้ชิดทางอารมณ์และความสัมพันธ์ที่มีความหมายเพียงเพราะกลัวว่าจะถูกปฏิเสธอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดจากการหลีกหนีความสัมพันธ์ในแต่ละครั้งทำให้พวกเขารู้สึกแย่กับตัวเองมากยิ่งกว่าเดิม การเห็นคุณค่าในตัวเองลดต่ำลงเรื่อยๆ พวกเขารู้สึกแย่และทำตัวแย่ลง แล้วพวกเขาก็รู้สึกแย่ลงไปอีกกับสิ่งที่ พวกเขาทำ