YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 281 OF 365

ถวายพระเกียรติในความพ่ายแพ้

ผมจะไม่ลืมบทสนทนากับคุณพ่อรานีโร แคนตาลาเมซซ่า นักบวชคณะฟรานซิสกัน และนักเทศน์ประจำครัวเรือนองค์สมเด็จพระสันตะปาปา ท่านกำลังจะเข้าร่วมการอภิปรายสาธารณะกับหนึ่งใน ‘ผู้ต่อต้านพระเจ้ายุคใหม่’ ในอิตาลี ผมถามท่านว่า ท่านคิดว่า ท่านจะชนะการอภิปรายไหม ท่านตอบว่าท่านก็ไม่ทราบ ท่านอาจจะแพ้ ‘แต่’ ท่านเสริมว่า ‘*องค์พระผู้เป็นเจ้าสามารถได้รับพระเกียรติในความพ่ายแพ้นั้น*’ พระเยซูทรงคว่ำโลก พระองค์ทรงกลับด้านค่านิยมของโลกนี้ที่สำคัญที่สุดอยู่บนไม้กางเขน พระเยซูทรงคว่ำโลกนี้แล้ว และในการกระทำที่อัปยศอดสูและความพ่ายแพ้ที่*เห็นได้ชัด* พระองค์ได้ทรงนำชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จักมา กล่าวกันว่า สาวกของพระองค์เป็นพวก ‘คว่ำโลก’ (กิจการอัครทูต 17:6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก New Revised Standard Version โดยผู้แปล) ในแต่ละตอนของพระธรรมในวันนี้ เราจะได้เห็นว่าควรทำอย่างไร และองค์พระผู้เป็นเจ้าสามารถได้รับเกียรติอย่างไรในความพ่ายแพ้

สดุดี 118:17-29

พระเจ้าทรงสามารถนำความสำเร็จออกจากความล้มเหลวที่เห็นได้ชัด

เมื่อผมมองย้อนไปในชีวิตตัวเอง พระเจ้าดูเหมือนได้ทรงใช้ความยากลำบาก และความพ่ายแพ้มากกว่าความสำเร็จที่มองเห็นได้ชัด

ชัดเจนว่าผู้เขียนสดุดีได้ผ่านช่วงเวลายากลำบาก เขาเขียนว่า ‘พระเจ้าทรงทดสอบข้าพเจ้า พระองค์ทรงกดดันข้าพเจ้าอย่างหนัก’ (ข้อ 18ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) กระนั้นเขาก็ยังเต็มไปด้วยการขอบพระคุณ สรรเสริญ และเปรมปรีดิ์: ‘ข้าพเจ้า​จะ​… ขอบพระคุณ พระเจ้า’ (ข้อ 19) ‘วันนี้เป็นวันที่พระเจ้า ได้ทรงสร้างให้เราเปรมปรีดิ์และยินดี ในวันนั้น’ (ข้อ 24)

ผู้เขียนเต็มไปด้วยการขอบพระคุณเพราะว่าเขาได้เห็นว่าพระเจ้าทรงสามารถนำความสำเร็จออกมาจากความพ่ายแพ้ได้อย่างชัดเจน เขาเขียนว่า ‘ศิลาซึ่งช่างก่อได้ทิ้งเสีย ได้กลายมาเป็นศิลามุมเอกแล้ว’ (ข้อ 22, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

พระเยซูทรงเป็นตัวอย่างที่เยี่ยมยอดที่สุดของการที่พระเจ้าทรงนำเอาความสำเร็จออกมาจากความพ่ายแพ้อย่างเห็นได้ชัด พระองค์ทรงเป็นศิลาที่ช่างก่อทอดทิ้ง ซึ่งบัดนี้กลายเป็นศิลามุมเอกแห่งคริสตจักร พระเยซูทรงยกข้อพระคำนี้ในสดุดี 118 เพื่ออ้างถึงพระองค์เอง (มาระโก 12:10) เปโตรก็ยกมาประยุกต์ใช้ด้วยเช่นกัน (1 เปโตร 2) ชี้ให้เห็นว่า พระเยซูนั้นทรงเป็น ‘พระ​ศิลา​ที่​มีชีวิต ที่แม้ถูกมนุษย์​ปฏิเสธ​แล้ว แต่กลับ​​เป็น​ศิลา​ที่​ทรง​เลือก​สรร’ (ข้อ 4) บัดนี้พระเยซูทรงเป็นศิลามุมเอกซึ่งทั้งคริสตจักรได้พึ่งพิง

จงตอบสนองเหมือนกับผู้เขียนสดุดี: ‘จงขอบพระคุณพระเจ้าเพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์’ (สดุดี 118:29)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณอย่างยิ่งสำหรับวิธีซึ่งพระองค์ทรงนำเอาความสำเร็จออกจากความพ่ายแพ้ที่เห็นได้ชัดเจน ‘พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ และข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์’ (ข้อ 28)

โคโลสี 4:2-18

พระเจ้าสามารถใช้คุณแม้เป็นสถานการณ์ของคุณเอง

บ่อยครั้ง ที่เราวอกแวกไปด้วยคำว่า ‘ถ้าเพียง’ หลายครั้ง ถ้าเพียงเราได้แต่งงาน ถ้าเพียงเราไม่แต่งงานผิดคน ถ้าเพียงเราได้งานที่เหมาะสม ถ้าเพียงเราไม่จำเป็นต้องไปทำงานนั้น ถ้าเพียงเรามีลูก ถ้าเพียงเราไม่ได้มีลูกมากขนาดนี้ ถ้าเพียงเราได้อยู่ในที่ที่เหมาะสม… แต่พระเจ้าทรงใช้เปาโลแม้อยู่ในสถานการณ์ของท่าน และทรงใช้แม้กระทั่งอยู่ในสถานการณ์เหล่านั้น!

เปาโลเขียนว่า ‘จงใช้ทุกโอกาสให้เกิดประโยชน์สูงสุด’ (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เราทุกคนไม่สามารถ ‘ประสบความสำเร็จ’ ได้ แต่เราทุกคนสามารถทำดีที่สุดในทุกสถานการณ์ที่เราพบว่าตัวเองเผชิญอยู่ได้ เปาโลเขียนว่า พวกเขากำลังจะบอก​อารคิปปัสว่า ‘ทำให้ดีที่สุดในงาน​ซึ่ง​ท่าน​ได้รับ​จากองค์พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​นั้น จง​ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้’ (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เปาโลนั้นได้รับของประทานพิเศษ ท่านมีข้อความสำคัญยิ่งที่จะประกาศแก่ชาวโลก ท่านอาจคาดหวังว่าพระเจ้าจะวางท่านไว้ในตำแหน่งแห่งสิทธิอำนาจและทรงอำนาจ เพื่อท่านจะใช้ของประทานของท่านอย่างดีที่สุดในการประกาศข่าวประเสริฐ

อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงอนุญาตให้ท่านจบลงที่ในเรือนจำ ท่านทิ้งท้ายในจดหมายว่า ‘ขอ​ท่าน​จง​ระลึก​ว่าข้าพเจ้ายังอยู่ใน เรือนจำ และอยู่ใน โซ่​ตรวน​’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) กระนั้น พระเจ้าทรงได้รับเกียรติในความพ่ายแพ้ที่เห็นได้ชัดของท่าน พระเจ้าทรงพลิกสถานการณ์ของเปาโลให้กลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ เกือบ 2,000 ปีให้หลัง คุณยังคงอ่านถ้อยคำที่เปาโลเขียนในขณะที่ท่านอยู่ในเรือนจำ พระเจ้าทรงใช้ถ้อยคำของท่านเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้

ถ้อยคำของคุณนั้นทรงพลัง เปาโลเขียนว่า ‘จง​ให้​วาจา​ของ​ท่าน​ประกอบด้วย​เมตตา​คุณ​เสมอ (รื่นรมย์และมีเสน่ห์) [เสมือนว่า] ปรุง​ด้วย​เกลือ​ให้​มี​รส [เพื่อท่านจะได้ไม่สูญเสีย] เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​รู้จัก​ตอบ​ให้​จุ​ใจ​แก่​ทุก​คน [ผู้ตั้งคำถามกับท่าน]’ (ข้อ 6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นเจ้าภาพในอัลฟ่า ให้อธิษฐานขอสติปัญญาเพื่อจะทราบว่าเมื่อไหร่ควรจะพูด พูดอะไร และพูดออกไปอย่างไร

พระเจ้ายังทรงใช้คำอธิษฐานของเปาโลเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก นี่เป็นความท้าทายอีกอย่างต่อสิทธิอำนาจของเรา ท่านเขียนว่า ‘จงขะมักเขม้นอธิษฐาน’ (ข้อ 2) โลกพิจารณาว่าการอธิษฐานเป็นเรื่องเสียเวลาไปเปล่า ๆ แต่เปาโลมองว่าการอธิษฐานเป็นความสำคัญสูงสุดในชีวิตของเรา ท่านยกย่องเอปาฟรัส เพราะว่าเขา ‘เพียรพยายามอธิษฐานเผื่อท่านอยู่เสมอ เพื่อว่าพวก​ท่านจะมั่นคง เป็น​ผู้ใหญ่ และ​มีความมั่นใจในพระประสงค์ของพระเจ้าทั้งหมด’ (ข้อ 12)

ท่านอยากให้ผู้อ่านของท่านอธิษฐาน ว่า ‘อธิษฐานเผื่อเราเพื่อว่าพระเจ้าจะทรงเปิดประตูให้เราสำหรับพระวจนะนั้น คือให้กล่าวความล้ำลึกของพระคริสต์ (ข้าพเจ้าถูกล่ามโซ่ก็เพราะเหตุนี้) เพื่อว่าข้าพเจ้าจะได้ชี้แจงเรื่องนี้ตามที่ข้าพเจ้าควรจะกล่าวนั้น’ (ข้อ 3–4)

นี่เป็นอีกความท้าทายหนึ่งต่อลำดับความสำคัญของเรา เปาโลไม่ได้อยากให้พวกเขาอธิษฐานเผื่อคนกลุ่มใหญ่ที่จะมาและฟังเขา เขากลับอธิษฐานว่า ขอให้ตนเองประกาศข่าวประเสริฐได้อย่างชัดเจน

เปาโลไม่ได้อยากให้พวกเขาอธิษฐานเพื่อเปิดประตูเรือนจำให้ แต่เปิดประตูแก่ข่าวประเสริฐที่จะถูกประกาศออกไป แทนที่จะมองไปในอนาคตว่า คุณอาจอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่านี้เพื่อรับใช้พระเจ้า จงจดจ่อว่าคุณจะรับใช้พระเจ้าได้อย่างไรในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้จัดลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง เพื่อขะมักเขม้นอธิษฐาน และประกาศข่าวประเสริฐไม่ว่าสถานการณ์ของข้าพระองค์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ขอทรงประทานสติปัญญาแก่ข้าพระองค์ในวันนี้ ให้ทราบว่าเมื่อไหร่ควรจะพูด พูดอะไร และพูดออกไปอย่างไร

เยเรมีย์ 16:1-17:27

พระเจ้าทรงสามารถทำ ‘ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด’ ให้เป็น ‘ช่วงเวลาที่ดีที่สุด’

‘เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด’ นี่เป็นถ้อยคำเปิดตัวของ นิยายแห่งสองนคร - A Tale of Two Cities (1859) ของชาร์ลส ดิคเก้นส์ ซึ่งเกิดขึ้นในกรุงลอนดอน และกรุงปารีส ก่อนและระหว่างการปฎิ-วัติในฝรั่งเศส

อีกครั้งเราได้เห็นว่าพระเจ้าทรงสามารถได้รับเกียรติผ่านทางความพ่ายแพ้ที่เห็นได้ชัด ‘ปีที่แห้งแล้ง’ สามารถกลายเป็น ‘ปีที่เกิดผล’ (17:8) ช่วงเวลาเลวร้ายสามารถเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับคริสตจักร ข่าวดีสามารถฉายแสงได้กระจ่างจ้ายิ่งกว่าเดิมเมื่อสังคมมืดมนลงกว่าเดิม

ดังเช่นที่พระเจ้าทรงใช้เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลก การตรึงพระบุตรของพระเจ้า และทรงใช้เพื่อความรอดของโลก พระเจ้าทรงสามารถใช้โรคระบาดร้ายแรงเหมือนกับ โควิด – 19 และใช้สิ่งนี้เพื่อการดี แม้ว่าประตูของคริสตจักรอาจต้องถูกปิดลง แต่คริสตจักรยังคงเปิดอยู่ และได้เบ่งบานเติบโตในทั้งการเข้าร่วมแบบออนไลน์และการได้อยู่ในชุมชน รวมถึงการเหยียดออกไปหาผู้ที่ขัดสน นี่เป็นเวลาสำหรับเราที่จะขยายอาณาจักรและก้าวออกไป ไม่ใช่การถอยทัพ ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดสามารถกลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดได้

บางสิ่งเช่นนี้อยู่ในพระธรรมตอนนี้ เยเรมีย์ยังคงเตือนต่อไปเรื่องการพิพากษาที่จะมาถึง เพราะว่าประชาชนได้ติดตาม​เจตนา​ชั่ว​ร้าย​ดื้อ​ดึง​ของ​ตนเอง ปฏิเสธไม่ยอมฟังพระเจ้า (16:12) ท่านเตือนเราต่ออันตรายของการล่อลวงตนเอง: ‘จิตใจ​ก็​เป็น​ตัว​ล่อลวง​เหนือกว่า​สิ่ง​ใด​ทั้งหมด’ (17:9)

เราสามารถล่อลวงตนเองได้อย่างง่ายดาย หากเราอยากได้อะไรบางอย่าง ความคิดของเราสามารถนำเสนอเหตุผลร้อยแปดว่าทำไมเราควรต้องมีมัน เราสามารถทำให้ตัวเองชอบธรรมได้อย่างง่ายดายแม้เมื่อเราทำผิดอยู่ก็ตาม

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ท่านจำเป็นต้องติดสนิทอยู่กับพระเจ้า (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) สำรวจตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วยพระวจนะของพระเจ้า และสติปัญญาแห่งชุมชนคริสเตียน หรือคุณอาจวางใจในสิ่งอื่น ๆ และจบลงด้วยการอยู่ผิดที่ พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ‘คน​ที่​วางใจ​ใน​มนุษย์ และ​ให้​เนื้อ​หนัง​เป็น​กำลังของเขา และ​ใจของเขาหัน​ออก​จากพระเจ้า คน​นั้น​ก็​เป็น​ที่​แช่ง​สาป’ (ข้อ 5)

ในทางกลับกัน ท่านกล่าวว่า ‘คน​ที่​ วางใจ​ในพระเจ้าย่อม​ได้รับ​พระ​พร คือ​ผู้​ที่​ความ​วางใจ​ของ​เขา​อยู่​ในพระเจ้า เขา​เป็น​เหมือน​ต้นไม้​ที่​ปลูก​ไว้​ริมน้ำ ซึ่ง​หยั่ง​ราก​ของ​มัน​ออกไป​ข้าง​ลำ​น้ำ เมื่อ แดด​ส่อง​มาถึง​ก็​ไม่​กลัว เพราะ​ใบ​ของ​มัน​คง​เขียว​อยู่​เสมอ และ​ไม่​ กระวน​กระวาย ​ใน​ปี​ที่​แห้ง​แล้ง เพราะ​มัน​ไม่​หยุด​ที่​จะ​เกิด​ผล’ (ข้อ 7–8)

อีกครั้ง ที่พระเจ้าทรงกลับด้านสิ่งต่าง ๆ ‘เมื่อแดดส่องมาถึง’ เราคงคาดว่าใบไม้จะแห้งเหี่ยว และกลายเป็นสีน้ำตาล กระนั้นเนื่องจากต้นไม้ปลูกไว้ข้างลำน้ำ มันจึงส่งรากไปถึงธารน้ำ และทำให้ใบเขียวสดอยู่เสมอ ผู้เขียนสดุดีเชื่อมโยงสิ่งนี้เข้ากับผู้ที่วางใจในพระเจ้า ผู้ซึ่งเชื่อมั่นในพระองค์ คนที่ไม่เคยกลัว หรือกระวนกระวายเมื่อแดดส่องมาถึง

มีหลายช่วงเวลาในชีวิตคุณที่เมื่อ ‘ความร้อน (แดด)’ แรงกล้าขึ้น คุณถูกทดสอบโดยสถานการณ์ยากลำบากและความท้าทาย หากคุณอยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้า วางใจในพระองค์ พระเจ้าทรงสามารถกลับด้านสิ่งต่าง ๆ ได้ ‘คนที่วางใจในพระเจ้าย่อมได้รับพระพร คือผู้ที่ความวางใจของเขาอยู่ในพระเจ้า’ (ข้อ 7)

ข้าแต่พระเยซูคริสต์เจ้า พระองค์ทรงนำเอาความสำเร็จออกมาจากความพ่ายแพ้ที่เห็นได้ชัด ขอบพระคุณที่ข้าพระองค์สามารถวางใจในพระองค์แม้เมื่อสถานการณ์ดูเหมือนจะยากลำบาก ในวันนี้ข้าพระองค์ขอเชื่อมั่นและไว้วางใจในพระองค์

Pippa Adds

เยเรมีย์ 17:7

‘… คนที่วางใจในพระเจ้าย่อมได้รับพระพร คือผู้ที่ความวางใจของเขาอยู่ในพระเจ้า’

ความวางใจ คือ การสามารถที่จะวางมือ และมอบตัวเราเอง หรือสถานการณ์ ไว้กับพระเจ้าโดยไม่ยึดไว้ เป็นเหมือนลูกน้อยในอ้อมแขนของพ่อแม่ ไม่สงสัยแม้แต่น้อยว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More