พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

ไม่ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อย
ผมชอบเล่นกีฬา แม้ผมไม่เคยเล่นอะไรเก่งเป็นพิเศษ แต่ผมสนุกกับมันเป็นอย่างมาก มีผู้ชายไม่กี่คนที่ผมเล่นสควอชด้วย ซึ่งเล่นในมาตรฐานที่สูงมาก เป็นแบบฉันท์มิตร และผ่อนคลาย และเราก็แข่งขันกันอย่างมากด้วย! แม้ว่าระดับที่เราเล่นจะเรียกร้องให้ต้อง ‘ฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด’ ผมก็ซ้อมและเล่นเป็นประจำ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมพยายามระวังสิ่งที่ผมกินเข้าไป และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อัครสาวกเปาโลเขียนว่า ‘ท่านทั้งหลายเคยไปที่อัฒจันทร์และเห็นลู่วิ่งของนักกีฬา ทุกคนก็วิ่ง แต่คนที่ได้รางวัลนั้นมีเพียงคนเดียว? จงวิ่งเพื่อชิงชัย นักกีฬาที่ดีทุกคนก็ฝึกซ้อมอย่างหนัก พวกเขาทำเพื่อจะได้เหรียญทองซึ่งจะหม่นหมองและซีดจางไป ท่านกำลังวิ่งตามสิ่งมีค่าดั่งทองไปชั่วนิรันดร์’ (1 โครินธ์ 9:24–25, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) หากคนที่ลงแข่งขันเกมกีฬา ผ่านการฝึกซ้อมที่เข้มงวดเพื่อบรรลุบางสิ่งซึ่ง ‘ไม่คงทนถาวร’ เราควรเข้าสู่ ‘การฝึกซ้อมที่เข้มงวด’ มากเพียงใดในเรื่องชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ และศีลธรรมของเรา เพื่อให้ ‘มงกุฎของเราจะไม่ร่วงโรย’ (ข้อ 25) เปาโลเขียนว่า ‘ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าท่านเป็นอย่างไร แต่ข้าพเจ้าวิ่งอย่างเต็มกำลังเพื่อไปถึงเส้นชัย ข้าพเจ้าทุ่มเททุกสิ่งที่ข้าพเจ้ามี สำหรับข้าพเจ้าไม่มีการใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย! ข้าพเจ้าตื่นตัว และอยู่ในสภาพดีเยี่ยม’ (ข้อ 26, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) การนมัสการและการรับใช้พระเจ้าคือสิ่งที่เป็นเป้าหมายและความทะเยอทะยานในชีวิตของเปาโล ท่านต้องการจะทำให้ดีที่สุดตามกำลังความสามารถ ท่านต้องการจะทุ่มเททุกสิ่งที่ท่านมี ท่านกำลังมุ่งไปสู่เหรียญทอง การนมัสการและการรับใช้นั้นเกี่ยวพันใกล้ชิดกันมาก (คำกรีกคำเดียวกันว่า ลาทรูโอ (latreuo) ถูกใช้สำหรับทั้งสองความหมาย) มนุษย์ทุกคนล้วนเป็นผู้นมัสการ คุณนมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้พระองค์เดียว หรือไม่ก็บางคนหรือบางสิ่ง มนุษย์ทุกคนล้วนรับใช้พระเจ้า รับใช้ตัวเอง หรือรับใช้บางคน หรือรับใช้บางสิ่ง ในพระธรรมสำหรับวันนี้ เราได้เห็นความสำคัญของการนมัสการและการรับใช้พระเจ้าเที่ยงแท้พระองค์เดียว ด้วยหมดใจและชีวิตของเรา ทุ่มเททุกสิ่งที่เรามี ไม่ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อยสดุดี 97:1-12
ทำไมคุณจึงต้องนมัสการและรับใช้พระเจ้า?
พระเจ้าทรงควบคุมทุกสรรพสิ่งของพระองค์ ‘พระยาห์เวห์ทรงครอบครอง’ (ข้อ 1) หากองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ครอบครอง ก็จะไม่มีจุดหมายใดต่อชีวิต แต่พระองค์ทรงครอบครอง และนั่นเป็นเหตุผลให้เปรมปรีดิ์ (ข้อ 1)
ผู้เขียนสดุดีเรียกให้ทุกสรรพสิ่งแห่งการทรงสร้างนมัสการ ‘จงกราบลง...นมัสการพระองค์!’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เขาเริ่มต้นลำดับแรกด้วยการสรรเสริญพระเจ้าสำหรับผู้ที่พระองค์ทรงเป็น และลำดับสอง สำหรับสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ เพราะสิ่งที่พระเจ้าทรงเป็นคือ พระองค์ทรงกระทำสิ่งซึ่งนำเอาการปกป้องคุ้มครอง การช่วยกู้ การทรงนำ และความชื่นบานมายังประชากรของพระองค์ (ข้อ 10–12)
-
พระเจ้าทรงเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองคุณ
พระองค์ทรงอารักขาชีวิตคุณ ‘พระองค์ทรงทำให้ผู้ที่รักพระองค์ปลอดภัย’ (ข้อ 10ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) -
พระเจ้าทรงเป็นผู้ช่วยกู้ของคุณ
พระองค์ทรงช่วยกู้พวกเขาให้พ้นจากมือคนอธรรม (ข้อ 10ค) พระองค์ทรงฉวยคุณไว้จากเงื้อมมือของพวกเขา (ข้อ 10ค, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) -
พระเจ้าทรงเป็นผู้ชี้ทางคุณ
พระองค์ทรงฉายแสงมาที่คุณ พระองค์ทรงนำและพิพากษา เปิดตาของคุณ (ข้อ 11ก) -
พระเจ้าทรงเป็นความชื่นบานของคุณ
พระองค์ทรงประทานความชื่นบาน เพื่อคุณสามารถชื่นบานในพระองค์ และสรรเสริญพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ได้ (ข้อ 11ข,12) ‘ความชื่นบานที่ไม่อาจระงับได้ มาจากการสำนึกในความโปรดปรานและความคุ้มครองของพระองค์' (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)
‘ดังนั้น’ เขาสรุป ‘ประชากรของพระเจ้าเอ๋ย จงโห่ร้องสรรเสริญพระเจ้า จงขอบพระคุณแก่องค์พระเจ้าผู้บริสุทธิ์ของเรา!’ (ข้อ 12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงเป็นผู้ปกป้องคุ้มครอง ผู้ช่วยกู้ ผู้นำทาง และความชื่นบานของข้าพระองค์
1 โครินธ์ 9:19-10:13
คุณนมัสการและรับใช้ใคร?
จนกว่าความรักของพระเจ้าจะเปลี่ยนมุมมองของเรา พวกเราส่วนมากเป็นทาสตัวเราเอง (และความหิวกระหายทางกายของเรา)เปาโลนั้นตรงกันข้าม เพราะว่าพระเยซูคริสต์ เปาโลทำให้ร่างกายของตนเองเป็นทาส และ ‘ยอมเป็นทาสของทุกคน’ (9:19ก)
เปาโลกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้ายอมเป็นคนทุกแบบต่อทุกคน เพื่อช่วยบางคนให้รอดโดยทุกวิถีทาง’ (ข้อ 22ข) นี่ไม่ได้หมายความว่า ท่านหน้าซื่อใจคดหรือไม่สบายใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง หรือไม่สามารถเป็นตัวเองได้ หรือไม่ได้หมายความว่า ท่านเปลี่ยนสาระของพระกิตติคุณเพื่อให้เหมาะกับผู้ฟัง ร้อนรนที่จะเทศนาข่าวประเสริฐ และวัตถุประสงค์ของท่านก็คือ ‘เพื่อจะได้คนมามากยิ่งขึ้น’ (ข้อ 19ข)
ตามที่ศาสตราจารย์กอร์ดอน ฟี เขียนไว้ว่า ‘ในขณะที่ (เปาโล) ไม่ประนีประนอมกับเรื่องที่กระทบต่อพระกิตติคุณ ไม่ว่าจะเป็นด้านศาสนศาสตร์หรือพฤติกรรม ความกังวลเดียวกันในเรื่องฤทธิ์เดชของพระกิตติคุณในเรื่องการช่วยกู้ คือสิ่งที่ทำให้ท่านกลายเป็นทุกสิ่งในเรื่องที่ไม่สลักสำคัญสำหรับทุกคน”
เปาโลเขียนว่า ‘ข้าพเจ้าเข้าไปสู่โลกของพวกเขา และพยายามมีประสบการณ์ในสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองของพวกเขา’ (ข้อ 22. พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) นี่เป็นการประยุกต์ใช้ที่กว้าง บางทีอาจเกินขอบเขตที่เปาโลตั้งใจไว้ เพื่อเป็นตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่อาจจะส่งผลกระทบต่อเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ เพื่อไม่ให้คนที่คุณกำลังพูดถึงอยู่ด้วยรู้สึกถูกผลักออก และควรจะสามารถระบุตัวตนของคุณได้
ในขณะที่เปาโลเต็มใจจะเป็นทาสต่อทุกคน ท่านไม่ได้เต็มใจที่จะเป็นตกเป็นทาสต่อความหิวกระหายทางกายของตนเอง โดยอ้างถึงชีวิตว่าเหมือนกับลู่วิ่งแข่ง (ข้อ 24, เห็นตัวเองในฐานะนักวิ่งผู้ซึ่งจำเป็นต้องผ่านการ ‘ควบคุมตัวเองในทุกด้าน’ (ข้อ 25) เหมือนกับนักกีฬา เขาจำเป็นต้องไม่ปรานีกับร่างกายของตนเอง เพื่อให้มันเป็นทาส เพื่อที่การเทศนากับคนอื่น ๆ เขาเองจะไม่ได้กลายเป็นผู้ที่ ‘ใช้การไม่ได้’ (ข้อ 27) การฝึกวินัยตนเองเป็นสิ่งสำคัญ ให้เรานำเอาร่างกาย ความคิด ริมฝีปาก และอารมณ์ของคุณให้อยู่ในการควบคุม
เปาโลรู้ว่ามีการทดลองมากมายรอบตัว เขาเห็นสิ่งนี้จากประวัติศาสตร์แห่งชนชาติของตนเอง ‘มีคนส่วนมากในพวกนั้นที่พ่ายแพ้ต่อการทดลองใจในช่วงยากลำบากในทะเลทราย และพระเจ้าไม่พอพระทัย’ (10:5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พวกเขาปรารถนา ‘สิ่งชั่ว’ (ข้อ 6) พวกเขา ‘ล่วงประเวณี‘ (ข้อ 8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พวกเขาทดลององค์พระผู้เป็นเจ้า (ข้อ 9) พวกเขาบ่นว่า (ข้อ 10) ‘เราควรระวังที่จะไม่ปลุกปั่นความไม่พอใจ ความไม่พอใจทำลายพวกเขา’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
‘นี่ล้วนเป็นคำเตือน อันตราย! ในหนังสือประวัติศาสตร์ของเรา จดไว้เพื่อเราจะไม่ทำพลาดซ้ำเหมือนพวกเขา ตำแหน่งของเราในเรื่องนี้คู่ขนานกัน พวกเขาอยู่ในจุดเริ่มต้น พวกเราอยู่ที่ปลายทาง และเราก็มีโอกาสจะทำพลาดได้เหมือนที่พวกเขาทำ อย่าใสซื่อหรือมั่นใจในตัวเองจนเกินไป คุณไม่ใช่ข้อยกเว้น คุณอาจล้มคว่ำลงได้ง่ายพอ ๆ กับคนอื่น จงลืมเรื่องความมั่นใจในตัวเองไปเสีย มันใช้การไม่ได้ จงบ่มเพาะความมั่นใจในพระเจ้า’ (ข้อ 11–12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
คุณจะถูกล่อลวงได้เหมือนกับพวกเขา กระนั้นเปาโลกล่าวว่า ‘ไม่มีการทดลอง หรือการล่อลวงใจใด ๆ ที่เข้ามาถึงท่านนอกเหนือไปจากที่คนอื่น ๆ เคยพบเจอ ทั้งหมดที่ท่านต้องจำไว้ก็คือ พระเจ้าไม่ได้หักหลังท่าน พระองค์ไม่เคยให้ท่านต้องทนเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ พระองค์จะทรงอยู่ที่นั่นเสมอเพื่อช่วยท่านให้พ้นผ่านมาได้’ (ข้อ 13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ลองถามตัวเองด้วยคำถามสองข้อนี้:
- ฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่า ฉันไม่ได้ตกเป็นทาสแห่งความปรารถนาของตัวเอง?
- ฉันสามารถรับใช้ทุกคนที่ฉันพบเจอในวันนี้ได้อย่างไร?
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้เข้าสู่การฝึกซ้อมอย่างเข้มงวดเพื่อได้รับ ‘มงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรย’ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้หลีกเลี่ยงการล้มลงในการทดลอง ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้นมัสการและรับใช้พระองค์ พระองค์แต่เพียงผู้เดียว
2 พงศาวดาร 2:1-5:1
คุณจะนมัสการและรับใช้พระเจ้าอย่างไร?
หนึ่งในสิ่งที่ผมรักและหลงใหลเกี่ยวกับคริสตจักรฮิลล์ซองก็คือ รูปแบบที่พวกเขาตั้งขึ้นในแง่ของความเป็นเลิศในการนมัสการของพวกเขา เราพยายามเลียนแบบความใส่ใจในทุกรายละเอียดของดนตรีของพวกเขา การต้อนรับ การจัดเตรียม และการฝึกอบรมอาสาสมัครเพื่อให้มั่นใจว่าการนมัสการของเราเป็นเลิศ
ผมรักความหลากหลายแห่งการนมัสการซึ่งพบในหลายด้านในคริสตจักร ที่สุดแล้ว สไตล์ไม่ใช่สิ่งสำคัญ การนมัสการของเราควรเป็นเลิศ ควรเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงในแง่ของการใช้แหล่งทรัพยากรของเรา เพราะว่าเรานมัสการเพื่อถวายเกียรติพระเจ้า
ดังที่ซาโลมอนเริ่มต้นสร้าง ‘พระนิเวศเพื่อถวายเกียรติพระเจ้า’ (2:1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาตรัสว่า ‘พระนิเวศซึ่งข้าพเจ้าจะสร้างนั้นดีที่สุด เพราะว่าพระเจ้าของเราดีที่สุด พระนิเวศที่ข้าพเจ้าจะสร้างนี้จะใหญ่โต เป็นวิหารที่วิจิตรตระการตา’ (ข้อ 5,9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
การบรรลุความเป็นเลิศต้องใช้ทั้งอุปกรณ์ เวลา และความพยายามมหาศาล นี่ต้องมีความใส่ใจรายละเอียดเป็นพิเศษ (บทที่ 2–4) รายละเอียดเล็กน้อยที่สุดก็ยังต้องมีคุณภาพดีที่สุดในการรับใช้พระเจ้า
นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมพวกเขาจึงใช้ทองคำมากมายนัก (4:21–22) ผู้ชนะในการแข่งขันกีฬาจะได้รับเหรียญทอง เพราะว่าทองเป็นตัวแทนของสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด ดังนั้นเมื่อคุณนมัสการและรับใช้พระเจ้า ให้ถวายสิ่งที่ดีที่สุดของคุณ
ตามที่เปาโลเขียนถึงชาวโคโลสีว่า ‘ไม่ว่าพวกท่านจะทำสิ่งใด ก็จงทำด้วยความเต็มใจเหมือนทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เหมือนทำต่อมนุษย์...เพราะท่านกำลังรับใช้พระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่’ (โคโลสี 3:23–24)
ชาร์ลส์ สเปอร์เจียน นักเทศนา เคยพูดไว้ครั้งหนึ่งกับคนทำความสะอาดที่เพิ่งมาเป็นคริสเตียน สเปอร์เจียนถามเธอว่าพระเยซูทรงสร้างความแตกต่างอะไรบ้าง เธอตอบอย่างถ่อมตัวว่า 'ท่านคะ ตอนนี้ดิฉันกวาดใต้พรมเช็ดเท้าแล้วค่ะ’ เธอรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังรับใช้และนมัสการพระเยซูผ่านการงานของเธอ ไม่ได้ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อย
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ในการนมัสการและรับใช้พระองค์ ที่จะใส่ใจในทุกรายละเอียดและแน่ใจว่าทุกสิ่งที่ข้าพระองค์ทำนั้นมีคุณภาพยอดเยี่ยมที่สุด
Pippa Adds
1 โครินธ์ 10:12
‘เพราะเหตุนี้คนที่คิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว ก็จงระวังไม่ให้ล้มลง!’
เป็นปรกติที่เมื่อสิ่งต่างๆ กำลังไปได้สวย จะมีบางอย่างผิดพลาดไป หรือฉันตระหนักถึงความล้มเหลวบางอย่าง เราจำเป็นต้องดำเนินชีวิต ‘อย่างระมัดระวัง’ ไม่ใช่ด้วยการถูกจำกัดไว้ด้วยความกลัว แต่โดยการทำให้ดีที่สุดในทุกโอกาส และหยั่งรากลงในความเชื่อ และเต็มไปด้วยความหวังและความกล้าหาญ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Spiritual Portals

Victory Is Yours: Overcome Life’s Challenges God's Way

Helping Your Kids Know God's Good Design

Living LifeWise: The Good Samaritan

Be Fruitful

God With Us: Lessons From the Incarnation

Letting Go of Your Past

THE PRAYER of JABEZ

The Power of Generosity: Sharing God’s Abundance
