พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

ความทุกข์ยากไม่ใช่สิ่งสุดท้าย
จอร์จ แมทธีสัน (George Matheson) เกิดในเมืองกลาสโกว์ เป็นลูกคนโตจากจำนวนแปดคน เขามองเห็นแค่บางส่วนตั้งแต่เด็ก เมื่ออายุได้ยี่สิบปี เขาก็ตาบอดสนิท เมื่อคู่หมั้นของเขารู้ว่าเขากำลังจะตาบอด และไม่มีอะไรที่แพทย์จะรักษาได้ เธอบอกเขาว่า เธอไม่สามารถร่วมชีวิตกับชายตาบอดได้ เขาจึงไม่เคยแต่งงาน เขาได้รับความช่วยเหลือจากน้องสาวผู้อุทิศตัวตลอดพันธกิจของเขา เธอเรียนภาษากรีก ลาติน และฮีบรู เพื่อช่วยในการศึกษาของเขา แม้ว่าจะตาบอด แมทธีสันก็มีอาชีพที่รุ่งโรจน์ที่สถาบันกลาสโกว์ มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ และสถาบันพระคริสตธรรมเชิร์ชออฟสก็อตแลนด์ เมื่อเขาอายุสี่สิบปี บางสิ่งที่หวานปนขมก็เกิดขึ้น น้องสาวของเขาแต่งงาน นี่ไม่ได้หมายความแค่เขาสูญเสียความเป็นเพื่อนของเธอไป ยังเป็นการเตือนความจำของเขาเองเรื่องการอกหักของเขา ท่ามกลางความเสียใจอันหนักหน่วงนี้ ในคืนก่อนพิธีสมรสของน้องสาว เขาได้เขียนหนึ่งในเพลงฮิมน์ที่โด่งดังและเป็นที่รักที่สุดในคริสตจักรคริสเตียน ‘โอ ความรัก ซึ่งไม่ปล่อยข้าไป’ เขาเขียนจบทั้งเพลงภายในห้านาที และไม่เคยต้องกลับไปปรับเนื้อ แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงเนื้อเลย ‘สิ่งนี้มา’ เขาเขียน ‘เหมือนรุ่งอรุณจากเบื้องสูง’ *โอ ความชื่นชมยินดีที่แสวงหาข้าแม้ว่าจะเจ็บปวด ข้าไม่สามารถปิดใจกับพระองค์ ข้าเสาะหารุ้งงามผ่านทางสายฝน และรู้ได้ว่าสัญญานั้นไม่ไร้ผล เช้าวันนั้นจะไม่มีน้ำตา* ความทุกข์ยากต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต พระเยซูทรงเผชิญปัญหา และอัครทูตของพระองค์ก็เช่นกัน ดาวิด และประชาการทุกคนของพระเจ้า อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับเพลงฮิมน์ของแมทธีสันที่ร้อยเรียงไว้อย่างสวยงามว่า *ความทุกข์ยากไม่ใช่สิ่งสุดท้าย*สดุดี 71:19-24
การฟื้นฟูหลังจากความทุกข์ยากมากมาย
พระเจ้าไม่ได้สัญญาเรื่องหนทางที่ง่ายดายกับคุณ ชีวิตอาจเป็นเรื่องยากเย็นสุด ๆ ผู้เขียนสดุดีเคยเห็น ‘ความทุกข์ยากลำบากเป็นอันมาก’ (ข้อ 20) ความทุกข์ยาก ความกดดัน และความกังวลต่าง ๆ ของท่านไม่ใช่แค่บางครั้งบางคราว หรือเป็นเรื่องเล็กน้อย พวกมันมีมากมายและร้ายแรง เขาให้ตัวอย่างกับคุณถึงวิธีการตอบสนองในสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้
1. วางใจต่อไป
เป็นการง่ายที่จะวางใจพระเจ้าเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไปได้ดี ความท้าทายคือการวางใจต่อไปท่ามกลางความทุกข์ยากต่าง ๆ อย่าหยุดที่จะเชื่อวางใจในความดีงามของพระเจ้า ‘ข้าแต่พระเจ้า ความชอบธรรมของพระองค์ ไปถึงฟ้าสวรรค์ที่สูงนั้น ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ผู้ได้ทรงกระทำการใหญ่ ผู้ใดจะเหมือนพระองค์?’ (ข้อ 19)
2. หวังใจต่อไป
ความทุกข์ยากของคุณจะไม่คงอยู่ตลอดไป ท่ามกลางความทุกข์ยาก ยังมีความหวัง ‘พระองค์จะทรงชุบชีวิตข้าพระองค์ขึ้นมาอีก
จากที่ลึกของโลก พระองค์จะทรงนำข้าพระองค์ขึ้นมาอีก พระองค์จะทรงเพิ่มเกียรติแก่ข้าพระองค์ และจะทรงหันมาปลอบโยนข้าพระองค์’ (ข้อ 20ข–21) พระเจ้าจะทรงใช้ความทุกข์ยากของคุณเพื่อการดี พระองค์จะทรงปั้นแต่งคุณลักษณะของคุณผ่านสิ่งเหล่านั้น ผลก็คือ พระองค์จะทรงเพิ่มเกียรติยศของคุณ พระองค์จะทรงปลอบโยนคุณผ่านสิ่งเหล่านั้น เพื่อคุณสามารถไปปลอบโยนคนอื่นได้ (2 โครินธ์ 1:4)
3. นมัสการต่อไป
สรรเสริญพระเจ้าต่อไปแม้ว่าจะมีความทุกข์ยากต่าง ๆ ‘ข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์ด้วยพิณใหญ่ เนื่องด้วยความซื่อสัตย์ของพระองค์
ข้าแต่องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ข้าพระองค์จะร้องเพลงสดุดีพระองค์ด้วยพิณเขาคู่ ริมฝีปากของข้าพระองค์จะร้องเพลงด้วยความยินดี เมื่อข้าพระองค์ร้องเพลงสดุดีพระองค์ และจิตใจของข้าพระองค์ซึ่งพระองค์ได้ทรงไถ่ไว้ก็เช่นกัน’ (สดุดี 71:22–23) การทรงสถิตของพระเจ้าในการนมัสการนำสันติสุขและการปลอบประโลมมาสู่เรา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่แม้ว่าข้าพระองค์อาจเจอความทุกข์ยากมากมาย และขมขื่นใจ พระองค์ทรงสัญญาจะชุบชีวิตข้าพระองค์ขึ้นใหม่อีกครั้ง ข้าพระองค์ขอสรรเสริญความสัตย์ซื่อของพระองค์
กิจการอัครทูต 6:1-7:19
การช่วยกู้จากความทุกข์ยากทุกอย่างของเขา
มีบางครั้งที่การทดลองใจว่าชีวิตคริสตจักรยุคแรกช่างเป็นไปตามอุดมคติ ว่าพวกเขามีคริสตจักรที่สมบูรณ์แบบ และไม่มีปัญหาทุกข์ยากใด ๆ ทั้งสิ้น เราจำเป็นต้องอ่านภาพแห่งอุดมคติของคริสตจักรในกิจการ บทที่ 2 ควบคู่ไปกับเหตุการณ์ในกิจการ บทที่ 6 และแน่นอน อย่าลืมปัญหาต่าง ๆ ที่อาจารย์เปาโลเขียนไว้ในจดหมายของท่าน คริสตจักรในยุคแรกเต็มไปด้วยปัญหา อย่าแปลกใจที่เจอบางอย่างด้านล่างนี้ในคริสตจักรปัจจุบัน:
- การบ่นว่า ผู้นำที่ดีจะเลือกการรบของเขาอย่างระมัดระวัง พวกเขาไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในทุกเรื่อง แต่พวกเขารับผิดชอบต่อทุกสิ่ง อัครทูตเผชิญกับการบ่นว่าเรื่องความเป็นธรรมว่า ‘บรรดาแม่ม่ายของพวกเขาถูกทอดทิ้งไม่ได้รับแจกอาหารประจำวัน’ (กิจการ 6:1) กระนั้นพวกเขาก็จำเป็นจะต้องจดจ่อที่ภาระกิจหลัก ‘อุทิศตัวในการอธิษฐานและในพันธกิจด้านพระวจนะ’ (ข้อ 4) ทางออกคือการกำหนด (ดังที่ทำกันบ่อย ๆ ) การมอบหมายงานที่มีประสิทธิภาพ
เหล่าอัครสาวกรับมือกับปัญหาโดยการตั้งคนอีกกลุ่มแยกขึ้นมาเพื่อ ‘แจกอาหาร’ (ข้อ 2) พวกเขาเลือกคนที่ ‘เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และสติปัญญา (ข้อ 3) ผลก็คือ พวกเขาสามารถรักษาการจดจ่อของตัวเองไว้ได้ และ ‘การประกาศพระวจนะของพระเจ้าก็เจริญขึ้น’ และจำนวนสาวกก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก (ข้อ 7) ผู้นำที่ดีจะแจกจ่ายงานและปล่อยคนอื่นให้ได้ใช้ของประทานจากพระเจ้าและทำพันธกิจของพระองค์
-
การยุยง กลุ่มผู้ต่อต้าน ‘ยุยงประชาชน’ (ข้อ 12) และ ‘ให้พวกสักขีพยานเท็จ’ (ข้อ 13) พวกเขาบิดเบือนถ้อยคำของสเทเฟน และกล่าวว่า ‘คนนี้พูดหมิ่นประมาทสถานบริสุทธิ์และธรรมบัญญัติไม่หยุดเลย’ (ข้อ 13)
-
การกลัวความเปลี่ยนแปลง
ฝ่ายตรงข้ามบางคนเกิดจากความกลัวการเปลี่ยนแปลง พวกเขาพูดว่า ‘เพราะเราได้ยินเขาว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธจะทำลายสถานที่นี้และจะเปลี่ยนธรรมเนียมที่โมเสสให้ไว้แก่เรา’ (ข้อ 14)
พวกเขาพบว่า พวกเขาไม่สามารถหยุดจ้องสเทเฟนได้ ผู้ซึ่ง ‘เห็นหน้าของท่านเหมือนหน้าทูตสวรรค์’ (ข้อ 15) ท่านกล่าวข้อโต้แย้งของท่าน ท่านทบทวนประวัติศาสตร์เรื่องประชากรของพระเจ้าและเมืองต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ซึ่งเกี่ยวข้องอย่างเฉพาะเจาะจงกับสถานการณ์ของท่าน ท่านกล่าวถึงโยเซฟว่า ‘พระเจ้า สถิตกับโยเซฟและทรงช่วยให้พ้นจากความทุกข์ลำบากทั้งสิ้น ทรงให้มีความชอบและมีสติปัญญา …’ (7:9–10) เหมือนกับที่พระเจ้าทรงประทานสติปัญญาให้แก่สเทเฟน (6:10)
การช่วยกู้ของสเทเฟนเอง ก็มาถึงต่อเมื่อพลีชีพ ท่าน ‘เขม้นดูสวรรค์เห็นพระรัศมีของพระเจ้าและเห็นพระเยซูทรงยืนอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์' (7:55) และสเทเฟนก็ถูกช่วยกู้ไปชั่วนิจนิรันดร์
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ไม่ให้ล้มเลิกไปเนื่องด้วยความทุกข์ยาก แต่ให้เป็นเหมือนสเทเฟนที่เต็มไปด้วยความเชื่อและพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอให้เราเห็นพระวจนะของพระเจ้าแพร่ขยายออกไป และจำนวนสาวกของพระองค์ทวีมากขึ้นทุก ๆ วัน
2 ซามูเอล 15:13-16:14
สดชื่นท่ามกลางความทุกข์ยาก
อับซาโลม โอรสของดาวิดเองได้ต่อต้านเขา และดาวิดได้รับการทูลว่า ‘ใจของคนอิสราเอลคล้อยตามอับซาโลมไปแล้ว’ (15:13) นี่ควรเป็นข่าวที่ทำลายล้าง ดาวิด บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า กษัตริย์ของประชากรของพระเจ้า และเป็น ‘ลักษณะ’ หนึ่งของพระคริสต์ (โดยแท้จริงแล้วเป็นบรรพบุรุษของพระคริสต์) เผชิญกับความทุกข์ยากมากมายในชีวิตของท่าน หากคุณเผชิญกับความทุกข์ยากแบบเดียวกันในชีวิต ไม่ต้องแปลกใจ หรือคิดว่าคุณทำอะไรผิดพลาดไป บางทีความทุกข์ยากก็เกิดขึ้นเพราะว่าคุณทำบางสิ่งบางอย่างถูกต้อง
1. น้ำตา
เราเห็นว่าดาวิดเสียใจเพียงใด เขา ‘เสด็จขึ้นไปตามทางขึ้นภูเขามะกอกเทศเสด็จพลางทรงกันแสงพลางมีผ้าคลุมพระเศียรเสด็จโดยพระบาทเปล่า’ (ข้อ 30) ทุกคนล้วน ‘เดินไปพลางร้องไห้พลาง’ (ข้อ 30) อันที่จริง ‘ชาวเมืองทั้งหมดก็ร้องไห้เสียงดัง’ (ข้อ 23)
2. ความผิดหวัง
ไม่เพียงแค่โอรสของดาวิดเองต่อต้านตัวเขา แต่เมฟีโบเชทก็ยังไม่จงรักภักดีต่อเขา แม้ว่าดาวิดจะออกไปจากทางของตนเพื่อช่วยเขา เขายังคงอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มเพราะเขาคิดว่า ‘วันนี้พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะคืนราชอาณาจักร ของบิดาของเราให้แก่เรา’ (16:3) ความไม่จงรักภักดีจากคนที่เรารักยิ่งทำให้ผิดหวังมากขึ้น
3. การวิพากษ์วิจารณ์
ชิเมอีตะโกนลบหลู่ ขว้างก้อนหิน และสาปแช่งดาวิด ดาวิดไม่ได้พยายามจะแก้แค้น กลับกันเขาเลือกที่จะฝากมอบทุกอย่างไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า (ข้อ 11–12)
4. ความเหนื่อยอ่อน
ดาวิด ‘พระราชากับทหารทั้งปวงที่อยู่กับพระองค์ก็มาถึงที่หมายด้วยความเหนื่อยอ่อน’ (ข้อ 14) เมื่อเราอ่านถึงสิ่งที่ดาวิดต้องเจอ ไม่น่าแปลกใจว่า เขานั้น ‘เหนื่อยอ่อน’ อย่างแท้จริง
ชีวิตคริสเตียนไม่เคยปราศจากความทุกข์ยาก น้ำตา ความเศร้าเสียใจ และความผิดหวัง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แยกประชากรของพระเจ้าออกมา คือ ความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระเจ้า
ท่ามกลางความทุกข์ยาก ดาวิดอธิษฐานว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ขอทรง ให้คำปรึกษาของอาหิโธเฟลโง่เขลาไป’ (15:31) คำอธิษฐานของท่านได้รับคำตอบ แต่ไม่ใช่ในแบบที่ท่านคาดหวัง อาหิโธเฟลให้คำปรึกษาที่ดี แต่ก็ถูกปฏิเสธ ดังนั้นพระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานที่มาจากจิตวิญญาณ (17:14)
ท่ามกลางความเหนื่อยอ่อน ดาวิด ‘พักผ่อนเอาแรง’ (16:14) ‘พวกเขาพักผ่อน และฟื้นกำลังขึ้น’ (ข้อ 14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) บางครั้งคุณแค่ต้องการหยุดพัก และพักผ่อนเพื่อฟื้นกำลัง และสดชื่นขึ้นทางฝ่ายกาย จิตวิญญาณ และอารมณ์ เราไม่ได้รับการบอกว่า ดาวิดทำสิ่งนี้อย่างไรกันแน่ อย่างไรก็ตาม หากดูจากตัวอย่างในสดุดี เราก็รู้ว่าความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้าของเขา ทำให้ดาวิดสดชื่นขึ้น
นอกจากนี้ ไม่ต้องสงสัยว่าดาวิดนั้นได้รับการฟื้นฟูด้านอารมณ์ด้วยความจงรักภักดีของศาโดก เพื่อนของท่าน (15:24) หุชัย (ข้อ 37) ศิบา (16:1–4) และอิททัย ผู้กล่าวกับท่านว่า ‘พระราชาเจ้านายของข้าพระบาทเสด็จ ประทับที่ไหนจะสิ้นพระชนม์หรือทรงพระชนม์ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทขอไปอยู่ที่นั้นด้วย’ (15:21)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ไม่มีความทุกข์ยากใดที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้ที่พระองค์ไม่อาจช่วยกู้ข้าพระองค์ได้ ท้ายที่สุด ด้วยชีวิตนิรันดร์ในการทรงสถิตของพระองค์ ขอบพระคุณที่ท่ามกลางความทุกข์ยากของข้าพระองค์ ข้าพระองค์สามารถอธิษฐานกับพระองค์ และได้รับการฟื้นฟูด้วยการทรงสถิตของพระเจ้า (กิจการ 3:19)
Pippa Adds
สดุดี 71:24
‘และลิ้นของข้าพระองค์จะกล่าวถึงความช่วยเหลืออันชอบธรรมของพระองค์วันยังค่ำ’
สี่ปีก่อน ฉันเขียนไว้ว่า ‘ฉันแค่ลองพยายามคุยกับพระเจ้าในขณะที่เดินไปที่ไปรษณีย์ เกี่ยวกับสิ่งอัศจรรย์ทั้งหลายที่พระองค์ทรงกระทำ ฉันเริ่มต้นได้ดี และจากนั้นก็วอกแวกไป ฉันกำลังหัดที่จะทำแบบ “วันยังค่ำ”’
และฉันก็ยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่ในปีนี้!
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Seasons of Hardship: Live the Jesus Way

UNPACK This...Being a Good Teammate in Life

Every Thought Captive

The Rapture of the Church

Forever Welcomed: A Five-Day Journey Into God’s Heart for All

The Origin of Our Story

3 - LORD'S PRAYER - the Lord´s Requirements

As He Purposeth in His Heart by Vance K. Jackson

Don’t Know What You’re Doing After Graduation? Good.
