พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระเจ้าทรงใช้แม้กระทั่งความผิดพลาดของคุณ
แฮนด์ลีย์ มูลล์ เมื่อเขาเป็นบิชอปแห่งเดอร์แฮม มีหน้าที่ต้องไปเยี่ยมเยียนครอบครัวของชาวเหมือง 170 คน ที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุเหมืองถล่ม เมื่อเขากำลังสงสัยว่าควรจะพูดอะไรกับพวกเขาดี เขาหยิบเอาที่คั่นหนังสืออันน้อยที่คุณแม่เคยให้ไว้ เมื่อเขาหยิบขึ้นมา ด้านหลังของที่คั่นหนังสือถักมือเป็นเส้นใยที่พันกันยุ่ง ไม่มีการอะไรเชื่อมโยง ไม่มีเหตุผล ไม่มีรูปแบบ ไม่มีอะไรเลย แต่อีกด้านเขียนว่า ‘พระเจ้าทรงเป็นความรัก’ บ่อยครั้งโลกในสายตาเราดูเหมือนเส้นใยที่พันกันยุ่งเหยิง บ่อยครั้งเราไม่สามารถเข้าใจได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น หรือทำไมเราจึงทุกข์ใจในแบบที่เราเป็น แต่เบื้องหลังคำกล่าวของพระเยซูและพระคัมภีร์ทั้งหมดนั้นคือความรักของพระเจ้า แม้กระทั่งสิ่งที่ดูเหมือนยากยิ่งสำหรับเราที่จะทำความเข้าใจในตอนนี้ พระเจ้าทรงกำลังทำตามพระประสงค์แห่งความรักของพระองค์ในโลกนี้ พระเจ้าทรงสามารถถักทอแบบแผนจากสายใยชีวิตของเรา รวมถึงความทุกข์ใจ เรื่องปวดหัว และแม้แต่ความผิดพลาดของเรา และทำให้บางสิ่งสวยงาม อัครทูตเปาโลบอกเราว่า ‘เรารู้ว่าเหตุการณ์*ทุกอย่าง*ร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์’ (โรม 8:28) ใคร่ครวญวันนี้ในข้อเท็จจริงนั้น แม้ว่าสถานการณ์ของคุณอาจท้าทาย พระเจ้าทรงกำลังถักทอพระประสงค์ของพระองค์สำหรับชีวิตคุณ โยบกล่าวว่า ‘พระองค์ประทานชีวิตและความรักมั่นคงแก่ข้าพระองค์ และทรงเฝ้าระวังชีวิตข้าพระองค์ไว้’ (โยบ 10:12) ทุกสิ่งซึ่งเกิดขึ้นในโลกนี้คือเกิดขึ้นในขอบเขตแห่งการทำกิจของพระเจ้า ‘การทรงจัดเตรียม’ หมายถึง การที่พระเจ้าทรงมองเห็นไว้ล่วงหน้า วิธีที่พระองค์ทรงคาดการณ์และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ‘การทรงจัดเตรียม’ เป็นวิธีที่พระเจ้าทรงนำ และกุมหางเสือประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ พระองค์ทรงสถิตและยังคงทำกิจอยู่ในโลก ค้ำจุนและปกครองโลก นี่ยังคงเป็นวิธีที่พระองค์ทรงนำและกุมหางเสือชีวิตของคุณเป็นการส่วนบุคคลและแต่ละคน พระเจ้าทรงมีแผนการชีวิตที่เฉพาะเจาะจง และไม่เหมือนใครสำหรับคุณ บางครั้งความคิดนี้ทำให้บางคนกังวล พวกเขาอาจทำพลาด และพลาดไปจากพระประสงค์ของพระเจ้า แต่ไม่ใช่แบบนั้น *แม้กระทั่งความผิดพลาดของคุณ* พระองค์ทรงใช้เพื่อการดีได้ ในทุกสถานการณ์ของชีวิตคุณ และสถานการณ์ซึ่งอยู่รอบตัวคุณ คุณสามารถไว้วางใจในการจัดเตรียมของพระเจ้าสดุดี 72:1-20
การทรงจัดเตรียมและคำอธิษฐาน
คำอธิษฐานของคุณสร้างความแตกต่าง ไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อชีวิตคุณเอง แต่คำอธิษฐานของคุณยังสามารถพลิกประวัติศาสตร์ได้อีกด้วย
การทรงจัดเตรียมของพระเจ้า และคำอธิษฐานทำงานร่วมกันอย่างไรนั้นเป็นเรื่องลึกลับ ในบางครั้งคำอธิษฐานของคุณส่งผลต่อผลลัพธ์ของเหตุการณ์ พระเจ้าทรงครอบครอง และทำตามพระประสงค์ของพระองค์ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา และพระองค์ก็ทรงรวมคุณไว้ในแผนการของพระองค์ด้วย
สดุดีบทนี้เป็นคำอธิษฐานของดาวิดเพื่อบุตรชายและผู้สืบทอดของท่าน กษัตริย์ซาโลมอน เป็นการเตือนใจอย่างยิ่งถึงการทรงเรียกอันสูงส่งของเขา ทว่ามันไปไกลเกินกว่าที่มนุษย์จะทำให้สำเร็จได้ตัวอย่างเช่น ‘ขอให้พวกเขายำเกรงพระองค์ตราบที่ดวงอาทิตย์ดำรงอยู่ ตราบเท่าดวงจันทร์อยู่ตลอดชาติพันธุ์’ (ข้อ 5) การปกครองของเขานั้นชั่วกัลปวสานและทั้งจักรวาล (ข้อ 8) สุดท้ายแล้ว สิ่งนี้สำเร็จเป็นจริงในพระเมสสิยาห์ พระบุตรของพระเจ้า พระเยซูคริสต์
สดุดีบทนี้เป็นคำอธิษฐานขอพรของกษัตริย์ โดยทางพระองค์ประชากรทั้งมวลจะได้รับพระพรแห่ง “ความเจริญรุ่งเรือง” (ข้อ 3) ผู้นำที่ดีจะกังวลเรื่องความขัดสนและความยุติธรรม ‘ขอท่านสู้คดีเพื่อคนยากจนในหมู่ประชาชน ขอท่านช่วยลูกหลานของคนขัดสน และบดขยี้ทรราชย์ผู้ทารุณ’ (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) นี่ยังเป็นคำอธิษฐานต่อนโยบายต่างประเทศด้วย ‘ให้ประชาชาติทั้งปวงเรียกท่านว่าผู้ได้รับพระพร’ (ข้อ 17)
ดาวิดกล่าวว่า ‘ขอให้มีผู้อธิษฐานเผื่อท่านเสมอ และให้มีผู้อวยพรท่านวันยังค่ำ’ (ข้อ 15ข) ชัดเจนว่าพระพรของพระเจ้าที่มีต่อผู้นำจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชาชนอธิษฐานเผื่อเขา เราไม่ทราบว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร อย่างไรก็ตามนี่แสดงให้เห็นว่า คำอธิษฐานสร้างความแตกต่างได้จริงๆ ในการทรงจัดเตรียมของพระองค์ พระเจ้าทรงรับคำอธิษฐานของคุณ และใช้มันเพื่อนำพระพรมา
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่คำอธิษฐานสร้างความแตกต่างได้ ข้าพระองค์ขออธิษฐานเผื่อผู้นำของเราผู้ที่พระองค์ทรงตั้งไว้เหนือเรา ขอประทานพระคุณ และปัญญาแก่พวกเขา เสริมสร้างชีวิตของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาเป็นแหล่งแห่งกำลัง และแรงบันดาลใจ และถวายพระเกียรติ และพระสิริแด่พระองค์
กิจการอัครทูต 7:20-43
การทรงจัดเตรียมและคำเผยพระวจนะ
เราเห็นในพระธรรมตอนนี้ถึงวิธีที่ไม่ธรรมดาที่พระเจ้าทรงวางแผน และจัดเตรียมเพื่อการเสด็จมาของพระเยซู พระเจ้าทรงมองเห็นอนาคตในการทรงจัดเตรียมแผนการอันดีของพระองค์แก่คุณ ดังนั้นคุณสามารถวางใจในการทรงจัดเตรียมของพระเจ้าได้ทุกสถานการณ์ในชีวิตของคุณ
คำกล่าวของสเทเฟนเป็นการบอกถึงวิธีซึ่งพระเจ้าทรงนำและอยู่เหนือชนชาติอิสราเอลตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการเตรียมการเสด็จมาของพระเยซู โดยเฉพาะเรื่องราวของโมเสส
โมเสสกล่าวว่า พระเจ้าจะโปรดให้ผู้เผยพระวจนะเช่นเดียวกับท่านเกิดขึ้น (เฉลยธรรมบัญญัติ 18:15) เปโตรได้ใช้เรื่องนี้ในการกล่าวถึงพระเยซูแล้ว (กิจการของ 3:22–23) ตอนนี้สเทเฟนก็ทำแบบเดียวกัน เขากล่าวว่า ‘โมเสสคนนี้แหละที่กล่าวกับชนชาติอิสราเอลว่า “พระเจ้าจะประทานผู้เผยพระวจนะผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อท่านทั้งหลาย จากพี่น้องของพวกท่าน เหมือนอย่างข้าพเจ้า”’ (7:37)
โมเสสเป็น 'ลักษณะ' ของพระคริสต์ เขาเป็นดั่งเงาสะท้อนล่วงหน้าและเตรียมทางไว้ มีความคล้ายคลึงกันอย่างน้อยสิบห้าอย่างระหว่างโมเสสและพระเยซู:
-
เช่นเดียวกับพระเยซู โมเสส ‘เกิดมา มีรูปร่างงดงามเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า’ (ข้อ 20) สถานการณ์รอบตัวในการถือกำเนิดของทั้งโมเสสและพระเยซูนั้นพิเศษแบบเหมาะเจาะ
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (มัทธิว 2:16–17) โมเสสถือกำเนิดมาในช่วงเวลาที่ทารกแรกเกิดถูกสังหาร (กิจการของ 7:19–21)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (ลูกา 2:40) โมเสสได้รับการกล่าวขานถึงสติปัญญาของเขา (กิจการ 7:22)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (ยอห์น 7:46) โมเสส ‘มีสมรรถภาพในการพูดและในกิจการต่างๆ’ (กิจการ 7:22)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู โมเสสมีช่วงแห่งการเตรียมตัว เรารู้น้อยมากเรื่องสามสิบปีแรกในชีวิตของพวกเขา ทั้งสองใช้เวลาเพื่อรับการฝึกอบรมเพื่องานที่รออยู่ภายหน้า (ข้อ 22–23)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (ยอห์น 2:16) โมเสสแสดงความโกรธที่ชอบธรรมต่อความบาป (กิจการ 7:24) อย่างไรก็ตาม ไม่เช่นเดียวกับพระเยซูตรงที่โมเสสก่ออาชญากรรม แต่พระเจ้าในการทรงจัดเตรียมของพระองค์ไม่เคยทำพลาดแบบนี้
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (ยอห์น 1:11) โมเสสถูกพระเจ้าส่งออกไปเพื่อช่วยกู้ประชากรของพระองค์ แต่ไม่มีใครรู้จักในช่วงเวลานั้น ‘เพราะคิดว่าญาติพี่น้องคงเข้าใจดีว่า พระเจ้าจะทรงช่วยพวกเขาให้รอดด้วยมือของตน แต่พวกเขาไม่เข้าใจอย่างนั้น’ (กิจการ 7:25)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (2 โครินธ์ 5:19) โมเสสตั้งเป้าที่การกลับคืนดีกัน โมเสส 'อยากให้เขาทั้งสองกลับคืนดีกัน' (กิจการ7:26)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (ยอห์น 5:22) โมเสสถูกบรรยายว่าเป็นผู้ครอบครอง และผู้พิพากษา มีคนกล่าวกับโมเสสว่า ‘ใครตั้งเจ้าให้เป็นผู้ครอบครองและผู้พิพากษาของเรา?’ (กิจการ 7:27)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (ยอห์น 3:22) โมเสสได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า (กิจการ 7:31)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (ยอห์น 1:14, 2:21) โมเสสตระหนักว่า ที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่สถานที่เฉพาะเพื่อศาสนกิจ แต่เป็นที่ซึ่งพระเจ้าทรงสถิต สำหรับโมเสส นั่นคือพุ่มไม้ที่ติดไฟซึ่งพระเจ้าตรัสว่า ‘ที่ที่เจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์’ (กิจการ 7:33)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (ยอห์น 8:36) โมเสสปลดปล่อยประชาการออกจากการข่มเหง (กิจการ 7:34)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (4:11) โมเสสถูกเข้าใจผิดและถูกปฎิเสธจากชนชาติของเขา ‘บรรพบุรุษของเราไม่ยอมฟังโมเสส แต่ผลักไสท่านออกไป' (7:35-39)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (2 โครินธ์:10) โมเสสประสบความสำเร็จในการปลดปล่อยชนชาติของตน โมเสส ‘เป็นผู้นำพวกเขาออกมา’ (กิจการ 7:36)
-
เช่นเดียวกับพระเยซู (2:36) การปฎิเสธโมเสสนำมาซึ่งการพิพากษาของพระเจ้าซึ่งนำสู่ชัยชนะในท้ายที่สุด (7:42) เช่นเดียวกับอัครทูตเปโตรที่ได้ยกเรื่องนี้มาพูดในวันเพ็นเทคอสต์ ‘พระเจ้าทรงแต่งตั้งพระเยซูที่ท่านทั้งหลายตรึงไว้บนกางเขนนั้น ให้เป็นทั้งองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระคริสต์’ (2:36)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับวิถีอันน่าทึ่งซึ่งพระองค์ทรงทำตามพระประสงค์ของพระองค์มาตลอดประวัติศาสตร์ และผ่านทางผู้เผยพระวจนของพระองค์ดังเช่นโมเสส วันนี้ข้าพระองค์วางใจในการทรงจัดเตรียมของพระองค์เหนือทุกเหตุการณ์และสถานการณ์ในชีวิตของข้าพระองค์
2 ซามูเอล 16:15-18:18
การทรงจัดเตรียม และการปกป้อง
คุณสามารถวางใจพระเจ้าเรื่องอนาคตของคุณ ครอบครัวของคุณ คริสตจักรของคุณ และประเทศชาติของคุณ ทั้งจักรวาลอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และพระองค์ทรงทำตามพระประสงค์ของพระองค์
พระเจ้าทรงทำกิจผ่านทางทุกเหตุการณ์ในชีวิตมนุษย์ซึ่งถูกอธิบายไว้ตรงจุดนี้
คำปรึกษาของอาหิโธเฟลที่ทูลถวาย 'เหมือนกับเขาได้รับพระดำรัสของพระเจ้า' (16: 23) หากเราให้คำแนะนำที่มีค่าใดๆ เราควรเป็นคนที่ทูลถามพระเจ้าล่วงหน้าถึงสิ่งที่พระเจ้ากำลังกระทำและสิ่งที่พระองค์จะทรงกระทำ
หากอับซาโลมได้ทำตามคำแนะนำของอาหิโธเฟล ดาวิดคงพินาศย่อยยับ อับซาโลมกลับเลือกที่จะไม่ใส่ใจคำแนะนำอันชาญฉลาดของอาหิโธเฟล และทำตามคำแนะนำแย่ๆ ของหุชัยแทน
เราเห็นวิธีที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมการใส่ใจและการปกป้องรอบตัวดาวิด ‘เพราะพระยาห์เวห์ทรงกำหนดให้คำปรึกษาอันดีของอาหิโธเฟลพ่ายแพ้’ (17:14) นี่เป็นคำตอบต่อจิตวิญญาณแห่งการอธิษฐานของดาวิด
ตรงนี้เราเห็นว่า พระเจ้าทรงเป็นพระหัตถ์ที่ซ่อนอยู่ และเป็นผู้ปกครองประวัติศาสตร์ ดาวิดและคนอื่นๆ ทุกคนล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเร้าใจและฤทธานุภาพอันใหญ่ยิ่ง และมีอิสระในการกระทำ แต่พวกเขาไม่ได้มีอิสระที่จะทำราวกับว่าพระเจ้าไม่ได้อยู่ที่นั่น
ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงครอบครองจักรวาลนี้ พระองค์ทรงปกป้องดูแลคนของพระองค์อยู่เหนือกาลเวลา ขอบพระคุณพระองค์ที่ในทุกสรรพสิ่งรวมถึงความผิดพลาดของเรา พระองค์ทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์ (โรม 8:28)
Pippa Adds
2 ซามูเอล 16:15–18:18
ปัญหาของอับซาโลมคืออะไร? เขามีทุกสิ่งทุกอย่าง เขาหน้าตาหล่อเหลา มั่งคั่ง และมีอำนาจ เขาไปอยู่ในจุดที่อยากจะฆ่าพ่อของตัวเองได้อย่างไร? เขาโกรธการรับมือเรื่องอัมโนนของดาวิด เขาหยิ่งทะนง อิจฉา และริษยา เพราะการกระทำของอับซาโลม มีคนเสียชีวิตไป 20,000 คน (18:7) ความโกรธของคนๆ หนึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายได้มากเหลือเกิน ท่าทีของเราส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนรอบตัวเรา เราสามารถหว่านความเกลียดชัง หรือหว่านความรักก็ได้
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Seasons of Hardship: Live the Jesus Way

UNPACK This...Being a Good Teammate in Life

Every Thought Captive

The Rapture of the Church

Forever Welcomed: A Five-Day Journey Into God’s Heart for All

The Origin of Our Story

3 - LORD'S PRAYER - the Lord´s Requirements

As He Purposeth in His Heart by Vance K. Jackson

Don’t Know What You’re Doing After Graduation? Good.
