YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 163 OF 365

คุณเปลี่ยนแปลงได้

มีผู้หญิงคนหนึ่งอาศัยอยู่บนถนนใกล้กับคริสตจักรของเรา เธอมักจะขอเงินและตอบโต้อย่างก้าวร้าวต่อคนที่ปฎิเสธ เมื่อเธอเสียชีวิต ผมได้จัดงานศพให้ และผมพบหลังจากนั้นว่า ผู้หญิงคนนี้ได้รับมรดกก้อนใหญ่ เธอได้รับห้องพักหรูหราและภาพเขียนมูลค่าสูงหลายภาพ แต่เธอเลือกที่จะใช้ชีวิตบนถนนกับถุงพลาสติกที่เต็มไปด้วยเศษขยะ เธอไม่สามารถละชีวิตที่เธอคุ้นเคยไว้เบื้องหลัง และเธอก็ไม่เคยใช้ประโยชน์จากมรดกของเธอ บางคนกลัวการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้เชื่อบางคน กระนั้นข่าวที่น่าอัศจรรย์คือ โดยความช่วยเหลือของพระเจ้า คุณเปลี่ยนแปลงได้ การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิต การเติบโต และการปรับเปลี่ยนฝ่ายวิญญาณ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงการกระทำ หรือรูปลักษณ์ของเรา; เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงภายใน เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงที่หัวใจ และสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?

สดุดี 73:1-14

มีมุมมองแบบพระเจ้า

คุณเคยสงสัยไหมว่า ความเชื่อของคุณคุ้มค่าจริงหรือ? คุณเคยหันมองรอบตัวไปยังคนที่ประสบความสำเร็จแต่ไม่ได้เป็นผู้เชื่อ และสงสัยว่าพวกเขาอาจเหนือกว่าคุณ และแม้แต่ถูกทดลองให้รู้สึกอิจฉาพวกเขา?

ผู้เขียนสดุดีได้รักษาจิตใจที่บริสุทธิ์ของตน (ข้อ 1) แต่เขาพบว่าชีวิตนั้นยากเย็นเหลือเกิน เขามีการปล้ำสู้ของตัวเองและเคย ‘รับภัย’ (ข้อ 5) ด้วยการทดลอง การสงสัย ความกลัว และความวิตกกังวลในความคิด

เขามองไปรอบ ๆ ในสังคมที่ร่ำรวยซึ่งดูเหมือนเป็นไปได้ดีโดยปราศจากพระเจ้า เขา ‘เกือบสะดุด’ (ข้อ 2) ‘เพราะข้าพเจ้าริษยาคนจองหอง เมื่อข้าพเจ้าเห็นความสมบูรณ์พูนสุขของคนอธรรม’ (ข้อ 3)

คุณอาจเห็นคนรอบตัวที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จ แม้ว่า ‘ใจของพวกเขาเต็มด้วยความคิดชั่ว’ (ข้อ 7) พวกเขาดูเหมือนไม่เคยเดือดร้อน (ข้อ 4) พวกเขาดูเหมือนสมบูรณ์พร้อมและไม่ต้องแบกรับอะไร (ข้อ 4–5) พวกเขาหยิ่งและยโสโอหัง และปรากฎว่าไม่จำเป็นต้องมีพระเจ้า (ข้อ 6–11)

หากคุณพบว่าตัวเองไถลไปบนหนทางแห่งความสงสัยและสิ้นหวัง (ข้อ 2) สงสัยว่าคุณได้รักษาใจให้สะอาด โดยเปล่าประโยชน์ (ข้อ 13) จากนั้นสดุดีบทนี้บอกคุณว่าต้องทำอะไร

อย่างที่เราได้เห็น ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเราเข้าสู่ 'สถานนมัสการของพระเจ้า’ (ข้อ 17) และมองเห็นจากมุมมองของพระเจ้า ผู้เขียนสดุดีเปลี่ยนแปลงหัวใจไปหมด เขา ‘พิเคราะห์​เห็น​ปลาย​ทาง​ของ​เขา​ทั้ง​หลาย’ เขาตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างปลายทางของคนเหล่านั้นกับตัวเขาเอง (ข้อ 17)

สดุดีบทนี้เริ่มต้นด้วย ‘แน่ทีเดียว พระเจ้าทรงดีต่ออิสราเอล ต่อบุคคลผู้มีใจบริสุทธิ์’ (ข้อ 1) และจบลงด้วย ‘แต่ส่วนข้าพระองค์ ที่จะเข้าใกล้พระเจ้านั้นดี ข้าพระองค์ได้ให้พระยาห์เวห์องค์เจ้านายเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะได้เล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์’ (ข้อ 28)

ข้าแต่พระเจ้า ขอให้ข้าพระองค์เข้าสู่สถานนมัสการของพระองค์ และมองสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองของพระองค์ ขอบพระคุณที่ ‘พระเจ้าทรงดีต่อบุคคลผู้มีใจบริสุทธิ์... ที่จะเข้าใกล้พระเจ้านั้นดี ข้าพระองค์ได้ให้พระยาห์เวห์องค์เจ้านายเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะได้เล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์’

กิจการอัครทูต 7:44-8:3

เข้าสุหนัตจิตใจของคุณเอง

คุณเคยมองไปที่บางคนที่ข่มเหงความเชื่อคริสเตียนแบบสุด ๆ และสงสัยว่าพวกเขาจะเปลี่ยนไปบ้างไหม? ในพระธรรมของวันนี้ เราได้เห็นว่า ผู้ข่มเหงคนหนึ่งที่ใจแข็งกระด้างที่สุดยังสามารถได้รับการเปลี่ยนแปลงจิตใจใหม่ได้

เพื่อที่จะเป็นคนยิวอย่างแท้จริง นั่นหมายถึงการเข้าสุหนัตทางร่างกาย ผู้ชายทุกคนต้องเข้าสุหนัตในวันที่แปดของชีวิต แต่การเข้าสุหนัตทางร่างกายนั้นตั้งใจว่าจะให้เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสุหนัตทางจิตใจ

เมื่อคำแถลงของสเทเฟนมาถึงในตอนท้าย ด้วยความกล้าหาญและความชัดเจนอย่างยิ่ง เขาพูดกับผู้ที่กล่าวหาว่า ‘เจ้าพวกคนหัวแข็ง ใจดื้อดึง และหูตึง พวกท่านขัดขวางพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เสมอ บรรพบุรุษของท่านทั้งหลายทำอย่างไร พวกท่านก็ทำอย่างนั้น’ (7:51) เขากล่าวโทษบรรดาคนเหล่านั้นที่สังหารพระเยซู (‘องค์ผู้ชอบธรรม’ ข้อ 52)

แก่นเรื่องหลักตลอดคำแถลงของสเทเฟนนั่นคือ พระเจ้าไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในสถานที่หนึ่งที่ใด ‘องค์ผู้สูงสุดก็ไม่ได้ประทับในพระนิเวศที่มือมนุษย์ทำไว้’ (ข้อ 48)

ไม่ใช่ทั้งเต็นท์นัดพบ (ข้อ 44–45) ไม่ใช่ทั้งพระวิหาร (ข้อ 46–47) อาจถูกมองว่าเป็นนิเวศของพระเจ้าในความหมายตามตัวอักษร (ข้อ 48) ดังที่พระเจ้าตรัสผ่านอิสยาห์ ‘สวรรค์เป็นที่ประทับของเรา และแผ่นดินโลกเป็นที่รองเท้าของเรา’ (ข้อ 49) พระเยซูเสด็จมาเพื่อแทนที่เต็นท์นัดพบกับพระวิหาร จำเพาะพระพักตร์พระเยซู ผู้คนจะมาที่พระวิหารเพื่อพบพระเจ้า ด้วยการเสด็จมาของพระเยซู สถานที่นัดพบกับพระเจ้าคือองค์พระเยซูเอง

บัดนี้ ผ่านทางองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าทรงสำแดงกับประชากรของพระองค์ (มัทธิว 18:20) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนที่รวมตัวกัน คริสตจักรซึ่งพระเจ้าทรงสถิต​โดย​พระ​วิญ​ญาณ (เอเฟซัส 2:22) โดยพระวิญญาณของพระองค์ พระองค์ทรงสถิตกับเราแต่ละคน ร่างกายของเราเป็นพระวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (1 โครินธ์ 6:19) การทรงสถิตของพระเจ้าบัดนี้อยู่กับสเทเฟน ผู้ซึ่ง ‘เต็มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์’ (กิจการ 7:55)

สเทเฟนกำลังพูดกับปุโรหิตของพระวิหาร ซึ่งบัดนี้ถูกแทนที่โดยพระเยซูผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ ‘เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกเดือดดาล และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเข้าใส่สเทเฟน’ (ข้อ 54) แล้วขับไล่ท่านออกจากกรุงและเอาหินขว้าง (ข้อ 58)

หนึ่งในประชากรคนที่ ‘จิตใจยังไม่ได้เข้าสุหนัต’ คือชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อเซาโล ‘และพวกผู้นำก็ฝากเสื้อผ้าของตนวางไว้ที่เท้าของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อเซาโล’ (ข้อ 58, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขา ‘ก็อยู่ที่นั่น แสดงความยินดีกับคนที่ฆ่าสเทเฟน’ (8:1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เซาโล ชายหนุ่มคนนี้ ‘พยายามทำลายคริสตจักรโดยเข้าไปฉุดลากเอาพวกผู้ชายและพวกผู้หญิงตามบ้านเรือนไปจำไว้ในคุก’ (ข้อ 3)

เป็นเรื่องยากที่จะพบใครสักคนในประวัติศาสตร์มนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงจิตใจได้มากกว่าชายหนุ่มคนนี้ จากคนที่เป็นคนเข่นฆ่าคริสเตียน เขากลายเป็นอัครสาวกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดผู้เทศนาไปทั่วโลกว่า พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า (9:20) ลองจินตนาการว่าอดีตสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ลงเอยด้วยการเป็นพระสันตะปาปา แล้วคุณจะเข้าใจมากขึ้นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับอัครสาวกเปาโล

ความเปลี่ยนแปลงจิตใจได้เกิดขึ้นเมื่อไหร่? บางทีเมล็ดพันธุ์ถูกปลูกเมื่อเขาเห็นการเสียชีวิตของสเทเฟน ‘ส่วนสเทเฟนเต็มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านเขม้นดูสวรรค์เห็นพระรัศมีของพระเจ้า และเห็นพระเยซูทรงยืนอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ แล้วท่านกล่าวว่า “นี่แน่ะ ข้าพเจ้าเห็นท้องฟ้าแหวกเป็นช่อง และเห็นบุตรมนุษย์ทรงยืนอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า”’ (7:55–56)

จากนั้น ‘ขณะที่พวกเขาเอาหินขว้างสเทเฟนอยู่นั้น ท่านร้องทูลว่า “ข้าแต่พระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงรับจิตวิญญาณของข้าพระองค์ด้วย” แล้วสเทเฟนก็คุกเข่าลงร้องเสียงดังว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอโปรดอย่าถือโทษพวกเขาเพราะบาปนี้” เมื่อกล่าวอย่างนี้แล้วก็สิ้นใจ’ (ข้อ 59–60)

ภายหลังเซาโลคนเดียวกันนี้ หรือรู้จักกันในชื่อเปาโล เขียนว่า ‘… คนเป็นยิวแท้ คือคนที่เป็นยิวภายใน และการเข้าสุหนัตแท้นั้นเป็นเรื่องของจิตใจ’ (โรม 2:29)

การเข้าสุหนัตคือการขลิบออก คริสเตียนแท้ทุกคนได้เข้าสุหนัตโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อหัวใจของคุณเข้าสุหนัตคุณมองหาที่จะขลิบท่าทีที่ไม่ถูกต้องทุกอย่างที่เข้ามาในหัวใจและความคิดของคุณให้ออกไป การพูดว่า ‘ไม่’ ต่อบางอย่างที่จะหยุดหัวใจของคุณและหันกลับมาทำสิ่งที่ถูกต้องจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า เหมือนกับสเทเฟนที่เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำให้ความรัก ความกล้าหาญ และการให้อภัยนั้นไหลล้นออกมาจากภายใน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ความรักของพระองค์ได้เปลี่ยนแปลงหัวใจของข้าพระองค์ และโดยผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ ขอบคุณพระองค์ เราทุกคนล้วนเปลี่ยนแปลงได้

2 ซามูเอล 18:19-19:43

เติบโตผ่านความทุกข์ยาก

คุณอยู่ในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากหรือโศกเศร้าอยู่ไหม? บ่อยครั้งที่พระเจ้าทรงใช้ช่วงเวลาเหล่านี้เปลี่ยนแปลงหัวใจของคุณ และเพิ่มพูนความเมตตาของคุณต่อคนอื่น ๆ

หัวใจของดาวิดถูกชำระผ่านความทุกข์ยาก และความโศกเศร้า ราวกับว่าเขายังทรมานไม่พอ จนถึงตอนนี้เขาได้รับข่าวว่าอับซาโลมลูกชายของตนตายแล้ว เขา ‘ใจสลาย’ (18:33, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาร้องครวญว่า ‘โอ อับซาโลมบุตรของเรา บุตรของเรา อับซาโลมบุตรของเราเอ๋ย เราเองอยากจะตายแทนเจ้า โอ อับซาโลมบุตรของเรา บุตรของเรา’ (ข้อ 33)

จากนั้นโยอาบบอกกับดาวิดด้วยเงื่อนไขว่า เขาจำเป็นต้องรวบรวมสติ และออกไป และให้กำลังใจกองทัพที่เพิ่งจะชนะศึกครั้งใหญ่ต่อศัตรูเพื่อเขา (19:1–7) โยอาบบอกดาวิดว่า ‘ใส่พระทัยกับกองทหารของพระองค์ด้วย!’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ดาวิดเปลี่ยนแปลงท่าทีของเขา เขาลุกขึ้น และทำตามสิ่งที่ถูกขอให้ทำ (ข้อ 8) ‘กษัตริย์ดาวิดชักจูงจิตใจของคนยูดาห์ทั้งปวงดังกับจิตใจของชายคนเดียว’ (ข้อ 14)

ดาวิดไม่เพียงแค่เปลี่ยนแปลงจิตใจ ชิเมอีก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน เขาโน้มตัวลงเฉพาะพระพักตร์พระราชาขณะที่พระองค์จะเสด็จข้ามแม่น้ำจอร์แดน 'ขอเจ้านายของข้าพระบาทอย่าทรงถือโทษการล่วงละเมิดของข้าพระบาท และขออย่าทรงจดจำความผิดที่ข้าพระบาททำในวันที่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาทเสด็จออกจากเยรูซาเล็ม ขอพระราชาอย่าทรงจดจำไว้ในพระทัย ด้วยผู้รับใช้ของฝ่าพระบาททราบแล้วว่าข้าพระบาทเองได้ทำบาป เพราะฉะนั้น ดูเถิด ในวันนี้ข้าพระบาทได้มาเป็นคนแรกในพงศ์พันธุ์โยเซฟทั้งหมด ที่ลงมารับเสด็จพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท’ (ข้อ 19–20)

ดาวิดถูกชำระด้วยความทุกข์ยากของท่าน ส่องประกายออกไปเหมือนกับแสงที่เจิดจ้าต่อคนที่อยู่รอบตัวเขา พระองค์ทรงเมตตาต่อชิเมอี พระองค์ทรงรับมือกับเมฟีโบเชท ศิบา และบารซิลลัย อย่างชาญฉลาด (ข้อ 24–39)

แต่ดาวิดกำลังจะเผชิญกับการศึกอีกหลายครั้งในภายหน้า ในแบบสงครามคำพูดระหว่างอิสราเอลและยูดาห์ (ข้อ 41–43)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับวิธีที่พระองค์ทรงใช้ช่วงเวลาแห่งการทุกข์ยากและเศร้าโศกให้นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของข้าพระองค์ ขอทรงชำระจิตใจของข้าพระองค์ และเพิ่มพูนความเมตตาของข้าพระองค์ต่อคนอื่น ๆ

Pippa Adds

กิจการ 7:56

“นี่แน่ะ ข้าพเจ้าเห็นท้องฟ้าแหวกเป็นช่อง และเห็นบุตรมนุษย์ทรงยืนอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า”’

การถูกหินขว้างตายฟังดูเป็นวิธีที่น่ากลัวในการเสียชีวิต และกระนั้นมีบางสิ่งซึ่งน่าทึ่งในเหตุการณ์นี้ ฉันไม่รู้ว่ามีกี่คนที่เคยเห็นพระบิดาและพระบุตรพร้อมกัน ฝูงชนที่กำลังฆ่าสตีเฟนมีจำนวนไม่มากนัก แต่พระเจ้าพระบิดา และพระเจ้า พระบุตร พระเยซู ทรงต้อนรับเขากลับบ้าน

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More