พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

รักษาความจงรักภักดี
ในปี คศ. 2007 กลุ่มมิชชันนารีชาวเกาหลีใต้ 23 คน ถูกจับโดยพวกตาลิบันในอัฟกานิสถาน พวกเขาหวาดกลัว พวกตาลิบันแยกกลุ่มพวกเขาออก เอาไปขังเดี่ยว และยึดข้าวของไป ผู้หญิงเกาหลีคนหนึ่งพยายามที่จะยึดมั่นในพระคัมภีร์ของเธอ เธอฉีกพระคัมภีร์ออกเป็น 23 ส่วน และแอบเอาแต่ละส่วนให้พวกเขาแต่ละคน เพื่อให้แต่ละคนสามารถอ่านพระคัมภีร์ตอนนั้นได้เมื่อไม่มีใครเฝ้าดู คนทั้งกลุ่มรู้ว่าพวกตาลิบันตัดสินใจจะฆ่าพวกเขาทีละคน พวกมิชชันนารียอมสละชีวิตของตนอีกครั้งเพื่อพระเยซู กล่าวว่า ‘ข้าแต่พระเจ้า หากพระองค์ทรงต้องการให้ลูกตายเพื่อพระองค์ ลูกจะยอมทำตามนั้น’ จากนั้นศิษยาภิบาลกล่าวว่า ‘ผมคุยกับเขา (พวกตาลิบัน) เพราะว่าพวกนั้นเริ่มจะฆ่าเรา และผมบอกหัวหน้าของพวกนั้นว่า ถ้าต้องมีใครตาย ผมขอตายก่อน เพราะว่าผมเป็นศิษยาภิบาล’ อีกคนบอกว่า ‘ไม่ได้ เพราะผมก็เป็นศิษยาภิบาลเหมือนกัน และผมยังเป็นผู้อาวุโสอีกด้วย ผมต้องตายก่อน’ จากนั้นศิษยาภิบาลก็กลับมา และพูดว่า ‘คุณยังไม่ได้รับการสถาปนา ผมได้รับการสถาปนาแล้ว ผมต้องตายก่อน’ และแน่นอนว่า เขาตายก่อน อีกสองคนถูกฆ่า ก่อนที่คนที่เหลือจะได้รับการช่วยออกมาในที่สุด พวกเขาได้แสดงความจงรักภักดีต่อพระเจ้า และต่อกันและกันแบบไม่ธรรมดาเลย ความจงรักภักดี เป็นส่วนผสมระหว่างความรัก และความสัตย์ซื่อ เป็นคุณสมบัติซึ่งบ่อยครั้งขาดหายไปจากสังคมของเราในปัจจุบัน ความไม่จงรักภักดีทำลายครอบครัว คริสตจักร ธุรกิจ พรรคการเมือง และแม้แต่ประเทศชาติสุภาษิต 14:15-24
แสวงหาความภักดีต่อพระเจ้าในแผนการต่าง ๆ ของคุณ
ความจงรักภักดีอันดับแรกของเราคือต่อพระเจ้า ความโปรดปรานของพระองค์อยู่กับผู้ที่ ‘จงรักภักดีต่อพระเจ้า’ (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระธรรมสุภาษิตนั้นเต็มไปด้วยปัญญาที่นำไปใช้ได้จริง ซึ่งหนุนใจคุณ ตัวอย่างเช่น เพื่อพิจารณาเรื่องที่คุณเชื่อ ‘คนใจเบาเชื่อทุกอย่างที่คนอื่นบอกมา แต่คนรอบคอบกลั่นกรองและชั่งน้ำหนักทุกคำ’(ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ปัญญาสูงสุดคือวิธีการที่คุณสัมพันธ์กับพระเจ้า ‘คนมีปัญญาย่อมระวังตัวและหันจากความยุ่งยาก’ (ข้อ 16)
‘ความยำเกรงพระเจ้า’ เป็นท่าทีแห่งความเคารพและจงรักภักดีที่เหมาะสม นี่หมายถึงการรวมพระองค์เข้ามาอยู่ในแผนการทุกอย่างของคุณ จงระวังอย่างยิ่งเรื่องแผนที่คุณวาง ว่ามันเป็นแผนการที่ดีและไม่ใช่แผนที่ชั่วร้าย ในที่สุด แม้แต่ ‘คนชั่วร้ายจะเคารพคนที่ภักดีต่อพระเจ้า’ (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
‘ส่วนคนที่คิดการดีก็พบความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์’ (ข้อ 22ข) คำว่า ‘พบ’ บางครั้งถูกแปลว่า ‘แสดง’ ทั้งสองคำเป็นความจริง คนที่คิดการดีไม่เพียงแค่พบความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ พวกเขาแสดงความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ด้วยเช่นกัน นี่เป็นหัวใจของความจงรักภักดี เพื่อแสดงความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ นี่ขัดแย้งกับผู้ที่วางแผนชั่วร้ายด้วยความเห็นแก่ตัวและหลงผิดไป
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ที่จะมีปัญญาและจงรักภักดีต่อพระเจ้าในแผนการของข้าพระองค์ ขอให้เราในฐานะชุมชนที่จงรักภักดีต่อพระเจ้า วางแผนการดีและพบ แสดงความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์
กิจการอัครทูต 5:12-42
แสวงหาความจงรักภักดีต่อพระเยซูในคำพูดของคุณ
ในฐานะของอัครทูตที่ออกไปและเทศนาข่าวประเสริฐ พวกเขาแสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์มากมายท่ามกลางฝูงชน ‘และชายหญิงจำนวนมากก็เชื่อถือและเข้ามาเป็นสาวกของพระเจ้ามากกว่าก่อน’ (ข้อ 14) ผลก็คือ 'ประชาชนจากเมืองที่อยู่รอบกรุงเยรูซาเล็มมารวมกัน...พาบรรดาคนป่วยมา...ทุกคนก็หาย’ (ข้อ 15–16)
น่าเศร้าที่ความสำเร็จของพวกเขานำไปสู่ ‘ความอิจฉา’ จากพวกผู้นำศาสนา (ข้อ 17) นี่เป็นการเตือนใจ ความริษยาช่างเป็นการทดลองต่อพวกเราผู้ที่ถูกมองว่าเป็นพวก ‘เคร่งครัดในความเชื่อ’ ด้วยความอิจฉา พวกเขาจับกุมพวกอัครทูตและนำไปคุมขัง (ข้อ 18) แต่อีกครั้งที่พระเจ้าทรงสำแดงการอัศจรรย์ พระองค์ทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาเปิดประตูคุกและนำพวกเขาออกมา
ด้วยความกล้าหาญอย่างยิ่ง พวกเขาเชื่อฟังคำสั่งที่ว่า ‘จงไปยืนในบริเวณพระวิหารประกาศบรรดาข้อความแห่งชีวิตใหม่นี้ให้ประชาชนฟัง’ (ข้อ 20)
เมื่อพวกเขาถูกจับกุมในการทำแบบเดียวกันกับครั้งแรกที่พวกเขาโดนคุมตัว พวกเขาถูกจับซ้ำอีกครั้งและนำไปต่อหน้าสภาแซนเฮดรินเพื่อไต่สวนโดยมหาปุโรหิต ผู้พูดกับพวกเขาว่า ‘เรากำชับพวกเจ้าอย่างแข็งขันแล้วว่าอย่าสอนโดยออกชื่อนี้ นี่แน่ะ พวกเจ้าทำให้คำสอนของพวกเจ้าแพร่ไปทั่วกรุงเยรูซาเล็ม และต้องการให้ความผิดเรื่องการตายของคนนั้นตกอยู่กับเรา’ (ข้อ 28)
เปโตรและอัครทูตคนอื่น ๆ จงรักภักดีต่อพระเจ้า และต่อการทรงเรียกของพวกเขา พวกเขาตอบว่า ‘เราจำเป็นต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่าเชื่อฟังมนุษย์!’ (ข้อ 29)
พระเยซูตรัสว่า ‘เพราะฉะนั้น ของของซีซาร์จงถวายแด่ซีซาร์ และของของพระเจ้าจงถวายแด่พระเจ้า’ (มัทธิว 22:21) ในการตรัสเช่นนั้น พระองค์ทรงระบุขอบเขตของสิทธิอำนาจของมนุษย์ และความจงรักภักดีของเราต่อสิทธิอำนาจนั้น เมื่อสิ่งนี้ขัดแย้งกับความจงรักภักดีต่อพระเจ้า พระเจ้าทรงสำคัญกว่า ด้วยความจงรักภักดีต่อพระเจ้า พวกเขาเทศนาข่าวประเสริฐต่อไป แม้กระทั่งในขณะที่ถูกไต่สวน
ข้อโต้แย้งสั้น ๆ ของพวกเขา (มีแค่เพียงสามข้อ – กิจการ 5:30–32) เป็นรูปแบบของคำเทศนา ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องของพระเยซู เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่พวกเขายังคงสามารถพูดถึงเรื่องมากมายได้ในการนำเสนอแค่สั้น ๆ พวกเขาเทศนาเรื่องกางเขน การเป็นขึ้นจากความตาย และการถูกรับขึ้นของพระเยซู พวกเขาประกาศว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้นำและองค์พระผู้ช่วยให้รอด คำกล่าวนี้รวมเอาคำอธิบายวิถีแห่งความรอดด้วย การกลับใจใหม่และการทรงอภัยบาป
นอกจากนี้พวกเขายังสามารถรวมตรีเอกานุภาพทั้งหมด: พระเจ้าพระบิดา (พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเรา ข้อ 30) พระเจ้าพระบุตร (พระเยซู ข้อ 30) และพระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์ (ข้อ 32) ในคำเทศนานี้บันดาลให้เกิดโทสะ เช่นเดียวกับที่มิชชันนารีชาวเกาหลี พวกเขาเผชิญกับคำขู่เอาชีวิต
อย่างไรก็ตาม ในการทรงจัดเตรียมของพระเจ้า มีชายที่เฉลียวฉลาดในสภาแซนเฮดริน เป็นฟาริสีชื่อ กามาลิเอล ผู้ซึ่งชี้ให้เพื่อนสมาชิกสภาที่เหลือให้เห็น (โดยให้ตัวอย่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้) ว่า ‘เพราะว่าถ้าความคิดหรือกิจการนี้มาจากมนุษย์ [ของพวกอัครทูต] มันจะล่มสลายไปเอง 39
แต่ถ้ามาจากพระเจ้า พวกท่านจะไม่สามารถทำลายพวกเขาได้ เกรงว่าพวกท่านกลับจะเป็นฝ่ายสู้รบกับพระเจ้า’ (ข้อ 38–39)
แม้ว่าคำแถลงของเขาจะชักจูงสมาชิกสภาได้ แต่กระนั้นพวกอัครทูตยังคงถูกเฆี่ยนและ ‘กำชับไม่ให้สอนในนามของพระเยซู‘ (ข้อ 40)
อีกครั้ง ด้วยความกล้าหาญเหนือธรรมดา และความจงรักภักดีต่อพระเจ้า และต่อการทรงเรียกของพวกเขา ‘พวกอัครทูตจึงออกจากสภาไปด้วยความยินดี ที่พระเจ้าทรงนับว่าพวกเขามีค่าสมควรได้รับการหลู่เกียรติเพราะพระนามนั้น พวกเขาสั่งสอนและประกาศว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ทุกๆ วันไม่ได้ขาด ทั้งในบริเวณพระวิหารและตามบ้านเรือน’ (ข้อ 41–42)
ข้าแต่พระเจ้า ขอให้เราได้รับแรงบันดาลใจจากตัวอย่างของเหล่าอัครสาวก และผู้ที่เหมือนมิชชันนารีชาวเกาหลี ซึ่งดำเนินตามรอยเท้าของพวกเขาไป ขอให้เราไม่เคยหยุดสั่งสอนและประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์
2 ซามูเอล 14:1-15:12
แสวงหาความจงรักภักดีต่อกันและกันในหัวใจของคุณ
ความจงรักภักดีช่างเป็นคุณสมบัติที่น่าดึงดูดใจของคน ๆ หนึ่ง การขาดความจงรักภักดีนั้นล้มล้างและทรยศต่อความไว้วางใจ การขาดความจงรักภักดีสามารถบ่อนทำลายความเป็นผู้นำในคริสตจักรธุรกิจหรือแม้แต่ประเทศชาติ
ในกรณีของดาวิด การขาดความจงรักภักดีมาจากลูกชายของตนเอง นี่น่าจะเป็นเรื่องเจ็บปวดต่อเขาอย่างมาก ดาวิดรักอับซาโลม ‘พระราชาทรงคิดถึงอับซาโลม’ (14:1) พระเจ้าตรัสกับดาวิดผ่านทางสตรีผู้เฉลียวฉลาดจากเมืองเทโคอา ผลก็คือ ดาวิดกล่าวว่า ‘จงไปพาอับซาโลมชายหนุ่มคนนั้นกลับมา’ (ข้อ 21) เมื่อเขากลับมาถึง ‘พระราชาก็ทรงจูบอับซาโลม' (ข้อ 33) ดาวิดให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่งที่จะเป็นโอรสที่จงรักภักดี
น่าเศร้าที่ความรักและความจงรักภักดีของดาวิดต่ออับซาโลมไม่ได้รับกลับคืนมา เราเห็นตรงจุดนี้ถึงการอธิบายอันทรงพลังว่าการขาดความจงรักภักดีส่งผลอย่างไร
การขาดความจงรักภักดีมีโอกาสเกิดขั้นได้เสมอไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นตัวอย่างในรัฐบาล ที่ทำงาน หรือคริสตจักร จะต้องมีขอบเขตสำหรับผู้ที่บ่นว่า (15:2) ถ้าคุณเป็นคนที่จงรักภักดี คุณจะช่วยรับมือกับคำบ่นว่าเหล่านั้น และพยายามจะเผยแพร่คำอธิบายออกไป
มีคำกล่าวว่า ‘ความจงรักภักดีหมายถึง ฉันอยู่กับคุณไม่ว่าคุณจะผิดหรือจะถูก แต่ฉันจะบอกคุณเมื่อคุณผิด และช่วยคุณทำให้ถูกต้อง’
อับซาโลมล้มเหลวเรื่องการทดสอบความจงรักภักดี เขาพูดกับคนที่มาร้องเรียนว่า “‘เอาละ คำร้องของเจ้าก็ดีมาก แต่กษัตริย์จะไม่รับฟังเจ้า’ จากนั้นเขาก็จะพูดว่า ‘ทำไมไม่มีใครตั้งข้าเป็นผู้พิพากษาสำหรับแผ่นดินนี้หนอ? คนที่มีคดีความจะได้นำเรื่องมาหาข้า และข้าจะจัดการทุกสิ่งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม’” (ข้อ 3–4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
แน่นอน นี่เป็นเรื่องไร้สาระที่สุด แต่เป็นเรื่องง่ายที่จะให้สัญญาแบบนี้ คนที่ขาดความจงรักภักดีกล่าวว่า ‘หากแค่ข้าได้เป็นคนที่จัดการ ทุกสิ่งจะดีกว่านี้มาก’ ด้วยวิธีนี้ อับซาโลม ‘ชนะใจบรรดาคนอิสราเอล’ (ข้อ 6) การขาดความจงรักภักดีเริ่มต้นที่หัวใจของเรา และในความคิดของเรา ดังนั้นจงมีความจงรักภักดี ปกป้องหัวใจและความคิดของคุณ และอย่ายอมให้ใจของคุณถูกใครมาเอาไป
อย่างไรก็ตาม ตรงนี้พวกเขาพบจุดชุมนุมรอบอับซาโลม และ ‘การคบคิดกันนั้นก็เพิ่มกำลังขึ้น คนที่มาฝักใฝ่อยู่กับอับซาโลมก็มากขึ้น’ (ข้อ 12) ผู้ที่รู้สึกไม่พอใจในสถานการณ์ใด ๆ มักจะมองหาจุดรวมตัว พวกเขาหาบางคนในทีมผู้นำที่พวกเขาสามารถใช้เป็นจุดรวมตัวได้ หากทั้งทีมผู้นำยังคงสัตย์ซื่อ ความไม่พอใจนั้นก็จะไม่ประสบความสำเร็จ
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยเราให้จงรักภักดีกับบรรดาผู้นำของเรา ต่อผู้นำประเทศและรัฐบาล พ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้นำคริสตจักร และเจ้านาย ข้าแต่พระเจ้าขอปกป้องหัวใจของเรา และขอให้เราจงรักภักดี รัก และสัตย์ซื่อต่อพระองค์ และต่อกันและกัน
Pippa Adds
2 ซามูเอล 14:1–15:12
การที่มีความงดงามภายนอก ไม่ได้ทำให้คุณงดงามภายใน อับซาโลมมีรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ แต่สิ่งที่อยู่ภายในค่อนข้างจะต่างกันเลยทีเดียว คนเราใช้เวลาหลายชั่วโมงไปเข้ายิม ทำผม แต่งหน้า ซื้อหาเสื้อผ้า และจัดการกับรูปลักษณ์ภายนอก สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ภายใน เราล้วนจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นในเรื่องความงามภายใน ฉันรู้ว่า ฉันจำเป็นต้องทำค่ะ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Seasons of Hardship: Live the Jesus Way

UNPACK This...Being a Good Teammate in Life

Every Thought Captive

The Rapture of the Church

Forever Welcomed: A Five-Day Journey Into God’s Heart for All

The Origin of Our Story

3 - LORD'S PRAYER - the Lord´s Requirements

As He Purposeth in His Heart by Vance K. Jackson

Don’t Know What You’re Doing After Graduation? Good.
