YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 166 OF 365

เมื่อคุณไม่เข้าใจพระเจ้า

จอห์น นิวตัน ผู้ที่เรากล่าวถึงเมื่อวานนี้ พูดถึงชายคนหนึ่ง วิลเลียม คาวเปอร์ (ค.ศ. 1731–1800) คาวเปอร์ เคยเจอกับเรื่องเศร้าใจ คุณแม่ของเขาเสียชีวิตเมื่อเขาอายุได้หกปี และคุณพ่อก็ตายไปเมื่อเขาอายุยังน้อย เขาเป็นทนายความ ภายนอกเขาอาจจะประสบความสำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม เขาทรมานกับอาการซึมเศร้าขั้นรุนแรง เมื่อสมัครตำแหน่งบริหารในสภาขุนนางซึ่งเขาต้องสอบเข้าอย่างเป็นทางการเขารู้สึกกระวนกระวายใจกับความคาดหวังในการสอบจนพยายามฆ่าตัวตายชีวิตที่เหลือของเขา เขาทรมานกับอาการเจ็บป่วยทางจิต เมื่อคาวเปอร์อายุราวสามสิบปี จอห์น นิวตัน หนุนใจให้เขาเริ่มประพันธ์เพลงนมัสการ คาวเปอร์แต่งเพลงอย่างทรงพลังถึงความชื่นชมยินดีและความโศกเศร้าในชีวิตประจำวัน ในปี ค.ศ. 1774 เขาทรมานจากอาการเจ็บป่วยทางจิตที่มาเป็นระลอก จนเขาถูกขัดขวางไม่ให้เข้าสู่การแต่งงานกับแมรี่ อันวิน เขารู้สึกแย่มาก หลังจากนั้นไม่นาน ในเพลงนมัสการที่อาจมีชื่อเสียงที่สุดของเขา เขาเขียนว่า: *พระเจ้าทรงเคลื่อนไหวในทางที่ลึกลับ พระองค์ทรงทำการอย่างอัศจรรย์* พระเจ้าทรงแสนดี พระเจ้าทรงเป็นความรัก พระเจ้าทรงรักคุณ พระเจ้าทรงเปิดเผยสำแดงพระองค์เองอย่างสูงสุดผ่านทางพระเยซู พวกเรารู้เรื่องทั้งหมดนี้ แต่เมื่อคุณอ่านพระธรรมในพระคัมภีร์ ดูเหมือนไม่ตรงกับความเข้าใจของคุณเรื่องพระเจ้า คุณอาจเคยมีประสบการณ์ในชีวิตที่ดูเหมือนไม่ตรงกันด้วยเช่นกัน คุณไม่สามารถเอาพระเจ้าใส่ไว้กรอบความเข้าใจของคุณได้ พระองค์ทรงยิ่งใหญ่เหนือกว่าที่คุณจะสามารถนึกฝันได้ พระธรรมบางตอนในพระคัมภีร์เป็นสิ่งที่ลึกลับ ครั้งหนึ่งพระเยซูเคยตรัสไว้ว่า ‘สิ่งที่เราทำในขณะนี้ท่านยังไม่รู้เรื่อง แต่ภายหลังท่านจะเข้าใจ’ (ยอห์น 13:7) บางทีความเข้าใจอาจเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเรา บางสิ่งอาจเข้าใจได้ต่อเมื่อเราได้ล่วงหลับไปอยู่กับพระเจ้า คุณตอบสนองอย่างไร เมื่อคุณไม่เข้าใจพระเจ้า?

สดุดี 74:1-9

จริงใจกับพระเจ้า

มีช่วงเวลาไหนในชีวิตคุณบ้างไหม ที่คุณแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมบางสิ่งถึงเกิดขึ้นกับคุณ? เกือบรู้สึกเหมือนว่าพระเจ้าทรงปฏิเสธคุณไหม? ถ้าเคย ประสบการณ์ของคุณเป็นเรื่องปรกติในประวัติศาสตร์ของประชากรของพระเจ้า สดุดีบทนี้เริ่มต้นด้วยคำถามนี้ ‘ข้าแต่พระเจ้า ไฉนพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นนิตย์? ' (ข้อ 1)

บางครั้งอาจดูเหมือนว่าพระเจ้าทรงเงียบ และไม่ได้ช่วยเหลือคุณในทางใดทางหนึ่ง ดังที่ผู้เขียนสดุดีกล่าวไว้ ‘ไม่มีหมายสำคัญหรือสัญลักษณ์ของพระเจ้าให้เห็น ไม่มีผู้ใดตรัสในพระนามของพระองค์อีกแล้ว ไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้น’ (ข้อ 9 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เมื่อคุณผ่านช่วงเวลาเช่นนี้ คุณไม่รู้เลยว่า ‘อีกนานเท่าใด’ ที่สิ่งนี้ยังคงเกิดขึ้น (ข้อ 9) คุณอาจมีคำถามต่าง ๆ ว่าทำไมบางด้านในชีวิตถึงได้เกิดขึ้นอย่างที่มันเป็น หรือบางทีคุณแค่รู้สึกว่าพระเจ้าทรงอยู่ห่างไกล เซนต์จอห์นแห่งกางเขน (ค.ศ. 1542–1591) อ้างถึงช่วงเวลาเหล่านี้ว่าเป็น ‘คืนที่มืดมิดของจิตวิญญาณ’

คุณควรทำอะไรในช่วงเวลาแบบนี้?

  1. ถามคำถาม
    ผู้เขียนสดุดีไม่ได้พูดอ้อมค้อมเลย เขาเทใจของเขาออกมาให้กับพระเจ้า เขาทูลถามคำถามยาก ๆ กับพระเจ้า ‘พระองค์ทรงเดินหนีไป และทิ้งเราไว้ และไม่เคยหันกลับมามอง ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงทำเช่นนั้นได้อย่างไร? เราเป็นแกะของพระองค์ พระองค์ทรงเหยียบย่ำด้วยความกริ้วได้อย่างไร?’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

  2. ทูลขอคำตอบ
    ‘ขอทรงระลึกถึงชุมนุมชนของพระองค์...ครั้งหนึ่งพระองค์เคยประทับที่นี่ ขอเสด็จมาและไปยังที่ซึ่งปรักหักพังเป็นนิตย์...’ (ข้อ 2–3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คุณไม่ได้เป็นคนเดียวเมื่อคุณมีประสบการณ์และอารมณ์ทำนองนี้ หนึ่งในพระพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสดุดี คือ คุณสามารถหันไปอ่านได้ในช่วงเวลาที่ในช่วงเวลาที่ทนทุกข์ และเลียนแบบคำอธิษฐานเหล่านี้ในใจของคุณ

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่แม้ว่าเมื่อข้าพระองค์ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้าพระองค์ ข้าพระองค์สามารถจริงใจกับพระองค์เมื่อข้าพระองค์อธิษฐานและเทใจออกมากับพระองค์

กิจการอัครทูต 9:32-10:23ก

เปิดใจกับพระเจ้า

พระเยซูทรงสั่งพวกสาวกให้จงรักษาคนเจ็บป่วยให้หาย จงทำให้คนตายแล้วเป็นขึ้น และจงเทศนาข่าวประเสริฐ คริสตจักรในยุคแรกทำตามที่พระเยซูทรงสั่งให้พวกเขาทำ พวกเขาคงต้องประหลาดใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น กระนั้นพวกเขาก็เปิดใจต่อการทรงนำของพระองค์

  1. ความล้ำลึกของการเยียวยารักษา
    พวกเขาได้เห็นอย่างต่อเนื่องถึงฤทธิ์เดชของพระเจ้าที่ทรงทำกิจ เปโตรกล่าวกับชายที่นอนอยู่บนเตียงมาแปดปีว่า ‘พระเยซูคริสต์ทรงให้ท่านหายโรค' (9:34) ทันใดนั้นเขาก็ ‘กระโดดลุกขึ้นจากเตียง’ (ข้อ 34, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘ทุกคน...ก็ตาสว่างต่อความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงพระชนม์อยู่และทรงทำกิจอยู่ท่ามกลางพวกเขา’ (ข้อ 35, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

กระนั้นก็ไม่ใช่ทุกคนที่หาย ทำไมพระเจ้าจึงไม่ได้รักษาทุกคนล่ะ? ผมก็ไม่ทราบ บางทีอาจเป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่จะทำความเข้าใจว่า เพราะเหตุใดพระเจ้าจึงไม่ทรงรักษาบางคนที่เราอธิษฐานเผื่ออย่างมาก นี่เป็นเรื่องลึกลับ

  1. ความล้ำลึกของการทำให้คนตายกลับเป็นขึ้น
    ต่อมา เปโตรทำให้คนตายกลับเป็นขึ้น เปโตรชุบชีวิตคนตายได้! เรื่องของคนที่ตายแล้วฟื้นหายากในพระคัมภีร์ เกิดขึ้นสองครั้งในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ครั้งหนึ่งกับเอลียาห์ และอีกครั้งกับเอลีชา พระเยซูทรงทำให้คนตายกลับเป็นขึ้นสามครั้ง อาจารย์เปาโลหนึ่งครั้ง และเปโตรทำให้โดรคัสเป็นขึ้นจากความตาย คำบัญชาในการทำให้คนตายกลับเป็นขึ้น ปรากฎเพียงแค่ครั้งเดียว (มัทธิว 10:8)

ในเกือบทุกกรณี เป็นคนหนุ่มสาวที่เป็นขึ้นจากความตาย ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า แต่ชีวิตของพวกเขาไม่ได้จบลงก่อนวัยอันควร บางโอกาสพระเจ้าทรงแทรกแซงเข้ามาด้วยวิธีนี้ เราไม่รู้สาเหตุว่าทำไม นี่เป็นเรื่องลึกลับ

นี่เป็นจุดที่พระเจ้าทรงแทรกแซง โดรคัส ‘หญิงคนนี้เคยทำคุณประโยชน์และสงเคราะห์คนจนมากมาย’ (กิจการ 9:36) เธอได้ล้มป่วยและเสียชีวิต เปโตรคุกเข่าลงและอธิษฐาน เธอลืมตาขึ้น ลุกขึ้นนั่ง และเปโตรยื่นมือออกมาพยุงเธอให้ยืนขึ้น! ผลก็คือ ‘คนจำนวนมากก็พากันมาเชื่อถือองค์พระผู้เป็นเจ้า' (ข้อ 42)

  1. ความล้ำลึกแห่งพระกิตติคุณ ภายหลังอัครสาวกเปาโลอธิบายว่า ‘เรื่องความล้ำลึกของพระคริสต์...นั่นก็คือคนต่างชาติได้เป็นผู้ร่วมรับมรดกเป็นอวัยวะของกายเดียวกัน และเป็นผู้มีส่วนร่วมในพระสัญญาในพระเยซูคริสต์โดยทางข่าวประเสริฐ’ (เอเฟซัส 3:6)

จนกระทั่งถึงจุดนี้ในพระธรรมกิจการ สาวกทุกคนของพระเยซูล้วนเป็นชาวยิว ที่จริง พวกเขาคิดว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมาเป็นคริสเตียนโดยไม่ได้เป็นคนยิว แต่พระเจ้าทรงทำให้พวกเขาประหลาดใจ พระองค์ทรงเตรียมเปโตรไว้ด้วยนิมิต เขามองเห็นท้องฟ้าเปิดออก และเขาก็ถูกสั่งให้ฆ่าและรับประทานสัตว์และนกซึ่ง ‘ไม่บริสุทธิ์’ และ ‘เป็นมลทิน’ การตอบสนองของเขาคือ ‘ไม่ได้ องค์พระผู้เป็นเจ้า' (กิจการอัครทูต 10:14)

นิมิต และพระสุรเสียงของพระเจ้าซึ่งมาพร้อมกันนั้น ท้าทายเปโตรให้ไม่สร้างความแตกต่างระหว่างอาหารที่สะอาดและไม่สะอาด (ข้อ 13–15) อย่างไรก็ตามเปโตรยังได้ตระหนักว่า นิมิตนี้คือ การที่เขาไม่ควรสร้างความแตกต่างระหว่างคนที่ ‘ไม่เป็นมลทิน’ และ ‘เป็นมลทิน’ นั่นคือ คนยิว กับคนที่ไม่ใช่ยิว ในเนื้อหาพรุ่งนี้ เราจะพบว่า เปโตรกล่าวว่า ‘ไม่มีชนชาติใดดีกว่าชนชาติอื่น ๆ’ (ข้อ 28, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ในตอนนั้น นี่เป็นความล้ำลึก ‘เปโตรยังคิดสงสัยเรื่องนิมิตที่เห็นนั้นว่ามีความหมายอย่าง' (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงกำลังทำอยู่ ภายหลังเขาจึงเข้าใจ พระเจ้าทรงมีแผนการซึ่งใหญ่กว่าพวกเขาเอง ข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูไม่ได้จำกัดอยู่แต่พวกยิว แต่มีไว้เพื่อทุกคนในโลก น่าขอบคุณที่เปโตรเปิดใจมากพอที่จะตอบสนองต่อการทรงนำของพระเจ้า ไม่ว่าจะผ่านทางนิมิต หรือแม้แต่เมื่อ ‘พระวิญญาณทรงกระซิบกับท่าน’ (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่แม้ว่าข้าพระองค์ไม่ได้เข้าใจความล้ำลึกบางอย่างในชีวิตนี้ ข้าพระองค์ก็สามารถวางใจพระองค์และรู้ว่าพระองค์ทรงมีเหตุผลเสมอ

2 ซามูเอล 23:8-24:25

อัศจรรย์ใจโดยพระเจ้า

นี่เป็นหนึ่งในพระธรรมตอนที่ล้ำลึกที่สุดในพระคัมภีร์ทั้งเล่ม ทั้งหมดดูเหมือนกำลังไปได้ดี ดาวิดมีคนดี ๆ ล้อมรอบตัวเขา เขาได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนอย่างยิ่งจากชายสามคนที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร เท่า ๆ กับ ‘นักรบสามสิบคน’

กระนั้นบางสิ่งที่เลวร้ายก็เกิดขึ้น ใครเป็นผู้ยุยงให้ดาวิดนับพลรบของเขา? ในพระธรรมตอนนี้ ปรากฎว่าเป็นองค์พระเจ้าเอง แต่ในข้อความที่เทียบเท่ากันในพงศาวดารเราได้รับการบอกเล่าว่า ‘ซาตานยืนขึ้นต่อสู้อิสราเอล และดลใจให้ดาวิดนับจำนวนอิสราเอล’ (1 พงศาวดาร 21:1) นี่เป็นหนึ่งในสามครั้งที่ซาตานถูกระบุไว้ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม

ดาวิดรู้ชัดว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้นไม่ถูกต้อง (‘เนื่องจากท่านนับจำนวนประชากร แทนการวางใจด้วยสถิติ’ 2 ซามูเอล 24:10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) จิตใจของดาวิดก็ ‘สำนึกผิด’ และดาวิดกราบทูลต่อพระยาห์เวห์ว่า ‘ข้าพระองค์ได้ทำบาปใหญ่หลวงในเรื่องซึ่งข้าพระองค์ได้ทำนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่ขอพระองค์ทรงอภัยความบาปชั่วของผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะข้าพระองค์ทำอย่างโง่เขลายิ่งนัก’ (ข้อ 10)

ผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าได้ให้ทางเลือกหลายอย่าง ท่านเลือกที่จะตกลงในพระหัตถ์ของพระเจ้า ‘เพราะพระกรุณาของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก’ (ข้อ 14) ท่านปฏิเสธที่จะถวายเครื่องเผาบูชาโดยที่เราไม่เสียอะไรเลยนั้นไม่ได้ (ข้อ 24) หลังจากที่ท่านถวายเครื่องเผาบูชาแล้ว ‘พระยาห์เวห์ทรงสดับคำอธิษฐานเพื่อแผ่นดินนั้น’ (ข้อ 25)

ยังมีอีกมากที่ยากต่อการทำความเข้าใจ แต่พระธรรมตอนนี้จบลงด้วยความหวัง และการฟื้นความสัมพันธ์ขึ้นใหม่

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้วางใจในพระองค์ท่ามกลางความสับสน และไม่แน่นอน ขอบพระคุณพระองค์ที่วันหนึ่ง สติปัญญาของพระองค์จะได้รับการเปิดเผยสำแดงทั้งหมด ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงแสนดี และความรักของพระองค์มั่นคงนิรันดร์

Pippa Adds

2 ซามูเอล 24

มีใครงงเรื่องการสำรวจสำมะโนประชากรบ้างมั้ยคะ?

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More