YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 164 OF 365

ชนชาติของคุณเปลี่ยนแปลงได้

มีหญิงขายบริการจำนวน 10,000 คน ได้ทำธุรกิจบนถนนในกรุงลอนดอน การดื่มสุราและการพนันก็แพร่กระจายไปทั่ว สหราชอาณาจักรได้ตกสู่ความเสื่อมโทรมและผิดศีลธรรม สิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นในศตวรรษที่สิบแปด สมาชิกคริสตจักรลดจำนวนลงอย่างมาก (เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา) บางส่วนของคริสตจักรแทบจะกลายเป็นลัทธินอกรีต กระนั้นประเทศก็เปลี่ยนไปด้วย ในคำเทศนาของจอห์น เวสลีย์และจอร์จ ไวท์ฟิลด์ ที่เริ่มส่งอิทธิพล หลายพันคนตอบสนองต่อคำเทศนาของพวกเขาและได้พบกับพระเยซู โรเบิร์ต เรคส์ เริ่มต้นโรงเรียนรวีวารศึกษาแห่งแรกของเขาในปี ค.ศ. 1780 การเติบโตนี้ทำให้เด็กที่ไม่ได้ไปคริสตจักร 300,000 คนภายในเวลาห้าปี จนถึงปี ค.ศ. 1910 ได้ไปคริสตจักร จนมีเด็กกว่า 5 ล้านคนในโรงเรียนรวีวารศึกษา พระเจ้าทรงยกวิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ซ ลอร์ดแชฟต์สบิวรี่ และคนอื่น ๆ ขึ้น ไม่เพียงแค่จิตใจของแต่ละคนเปลี่ยนไปเท่านั้น ประเทศชาติก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เมื่อเรามองไปยังโลกของเราในวันนี้ เราเห็นว่าโลกเปลี่ยนไปเร็วขึ้นกว่าแต่ก่อน ในยี่สิบห้าปีที่ผ่านมา มีความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง การเมือง เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงมหาศาลเข้าสู่หลายประเทศ และสภาพ*ฝ่ายวิญญาณ*ในชาติของคุณจะเปลี่ยนไปได้อย่างไร?

สุภาษิต 14:25-35

ประชากรที่สงบสุข

ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิตกล่าวว่า ‘ความชอบธรรมย่อมเชิดชูประชาชาติ แต่บาปเป็นสิ่งที่น่าอายมากแก่ชนชาติ’ (ข้อ 34) (‘การอุทิศตัวต่อพระเจ้าทำให้ชนชาติเข้มแข็ง’ ข้อ 34, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ความบาปทำลายชนชาติ ความชอบธรรมเชิดชูชนชาติ ความชอบธรรมเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่ถูกต้องหลากหลายรูปแบบ:

  1. อยู่อย่างสงบสุขกับพระเจ้า
    ความชอบธรรมเริ่มต้นด้วยการอยู่อย่างสงบสุขเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า (โรม 5:1) ซึ่งเริ่มต้นด้วยการเกรงกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้า (เป็นจิตสำนึกของความยำเกรงพระเจ้า)

‘ผู้ที่ยำเกรงพระยาห์เวห์เกิดความมั่นใจ และทำให้ลูกหลานปลอดภัย ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นน้ำพุแห่งชีวิต’ (สุภาษิต 14:26–27ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

  1. อยู่อย่างสงบสุขกับผู้อื่น
    เท่าที่เรื่องขึ้นอยู่กับคุณ ‘จงอยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน’ (โรม 12:18) ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับคนอื่น ๆ มีลักษณะเฉพาะด้วยคำพูดและการกระทำที่ชอบธรรม:

  2. อันดับแรก คำพูดของเราต้องสัตย์ซื่อมากกว่าล่อลวง ‘พยานที่พูดความจริงเป็นผู้ช่วยชีวิต’ (สุภาษิต 14:25)

  3. อย่างที่สอง การกระทำของเราเป็นการแสดงความปรารถนาต่อการอยู่ดีมีสุขของคนอื่น ๆ ให้อดทนดีกว่าโกรธง่าย (ข้อ 29) ให้ใจดีต่อผู้ที่ขัดสน ‘ผู้กดขี่คนไร้อำนาจก็ดูถูกพระผู้สร้างของเขา แต่ผู้เมตตาคนขัดสนก็ถวายพระเกียรติแด่พระองค์’ (ข้อ 31, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) แสดงความยินดีต่อผู้ที่ประพฤติด้วยปัญญา (ข้อ 33,35)

  4. อยู่อย่างสงบสุขกับตัวเราเอง
    ความชอบธรรมเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับตัวเราเอง คุณสามารถรู้จักความสงบสุขได้: ‘ความคิดและจิต​ใจ​สงบและไม่มีสิ่งรบกวนให้​ชีวิต​และพลานามัยที่ดีแก่ร่างกาย’ (ข้อ 30ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ความโกรธ การไม่ยอมให้อภัย ความอิจฉาและริษยาสามารถทำลายสุขภาพของคุณได้ การขจัดสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากชีวิตของคุณ และมี ‘ความสงบสุขในจิตใจ’ เป็นสิ่งดีต่อสุขภาพของคุณ

ท้ายที่สุด ความสงบสุขนี้ มาจากความพึงพอใจทั้งในปัจจุบันและอนาคต ‘แต่คนชอบธรรมมีที่ลี้ภัยเมื่อเขาตาย’ (ข้อ 32ข) สำหรับผู้ที่ยำเกรงพระเจ้า พระองค์ทรงกลายเป็นที่ลี้ภัยทั้งในปัจจุบัน (ข้อ 26) และในอนาคต (ข้อ 32ข)

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์อธิษฐานว่าประชาชาติของเราจะหันกลับมายังพระองค์ และพระนามของพระองค์จะเป็นที่เคารพสักการะอีกครั้งในรัฐสภา รัฐบาล โรงเรียน และศาลยุติธรรม ขอทรงช่วยเราให้เห็นความสำคัญของคนยากจน และเมตตาต่อผู้ที่ขัดสน

กิจการอัครทูต 8:4-40

คำเทศนาอันทรงพลัง

คริสตจักรในยุคแรกเต็มไปด้วยคนธรรมดาอย่างคุณและผม กระนั้นก็ยังเปลี่ยนแปลงโลกได้ โลกที่เคยรู้จักกันทั้งหมดเปลี่ยนไป หลังจากการสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู และการเทลงมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระธรรมกิจการบอกเราว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

ทุกแห่งที่พวกเขากระจายไป พวกเขาก็เทศนาเรื่องพระเยซู (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ในพระธรรมตอนนี้ เราเห็นว่าพวกเขาเทศนากับกลุ่มคน และเทศนาให้ฟังส่วนตัวเหมือนกับซีโมน พ่อมดหมอผี และขันทีชาวเอธิโอเปีย

ประเทศประกอบด้วยเมืองใหญ่ เมืองเล็ก และหมู่บ้าน พวกเขาประกาศข่าวประเสริฐทั้งสามพื้นที่ ฟีลิปประกาศในเมืองใหญ่ในแคว้นสะมาเรีย (ข้อ 5) เปโตรและยอห์นประกาศข่าวประเสริฐในหมู่บ้านหลายแห่งในแคว้นสะมาเรีย (ข้อ 25) ฟีลิปประกาศข่าวประเสริฐทั่วทุกเมืองจนกระทั่งท่านไปถึงเมืองซีซารียา (ข้อ 40)

คำเทศนาของพวกเขามาพร้อมกับปัจจัยสามอย่าง:

  1. การข่มเหง
    เริ่มต้นด้วยการถูกข่มเหง ‘พวกที่กระจัดกระจายไปก็เที่ยวประกาศพระวจนะนั้น’ (ข้อ 4) การกระจายตัวออกไปทำให้เป็นพระพรอันยิ่งใหญ่ ทุกที่ซึ่งพวกเขาไปนั้น พวกเขา ‘ประกาศเรื่องพระคริสต์’ (ข้อ 5)

ครั้งแล้วครั้งเล่าในประวัติศาสตร์คริสตจักรที่การข่มเหงและการต่อต้าน นำไปสู่การเกิดผลเกินคาด และเป็นเรื่องง่ายที่จะสูญเสียกำลังใจไปเมื่อเราเจอกับประสบการณ์ของความพ่ายแพ้ แต่สิ่งนี้เตือนใจเราว่า พระเจ้าทรงสามารถใช้พวกเขาได้ในแบบที่น่าทึ่ง

  1. การอธิษฐาน
    เราเห็นความสำคัญของการอธิษฐานในพระธรรมตอนนี้ เปโตร และยอห์นอธิษฐานเผื่อชาวสะมาเรียให้พวกเขาได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ข้อ 15–17)

ซีโมนเป็นผู้วิเศษอันโด่งดัง ผู้ทำให้ทุกคนพิศวงหลงใหลกับคาถาอาคมของเขา และทุกคนก็เชื่อถือเขา (ข้อ 9–11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ตัวเขาเองก็ตัดสินใจต้อนรับพระเยซูและรับบัพติศมา แต่ก็ยังคงทำในแบบเดิม ๆ เมื่อเขานำเงินมาวางเพื่อจะซื้อพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ข้อ 19)

เปโตรกลับไม่ประทับใจ ‘ลงนรกไปพร้อมกับเงินของเจ้าเถิด!…จงทูลขอองค์เจ้านายให้ทรงอภัยให้เจ้าในการที่พยายามจะใช้พระเจ้าเพื่อหาเงินทอง ข้าเห็นสันดานเดิมนี้ในตัวเจ้า เจ้าโชยกลิ่นกระหายเงิน’ (ข้อ 20–23, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ซีโมนตระหนักว่า มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ช่วยเขาได้ จึงขอให้พวกเขาอธิษฐานเผื่อตัวเขา (ข้อ 24)

  1. ฤทธิ์เดช
    คริสตจักรในยุคแรกมีประสิทธิภาพมหาศาล: ‘ฝูงชนต่างสนใจฟังถ้อยคำของฟีลิปขณะฟังท่านประกาศ และเห็นหมายสำคัญต่างๆ ที่ท่านทำ 7เพราะว่าพวกผีโสโครกที่สิงอยู่ในหลายๆ คนพากันร้องเสียงดังแล้วออกจากคนเหล่านั้น พวกที่เป็นอัมพาตกับเป็นง่อยก็หายเป็นปกติ’ (ข้อ 6–7)

พวกเขาพึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยสิ้นเชิง การพบกันของฟีลิปและขันทีชาวเอธิโอเปีย ไม่ใช่ผลจากการพบกันผ่านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ แต่เป็น ‘พระวิญญาณตรัสสั่งฟีลิปว่า…’ (ข้อ 29) ผลของการที่ท่านทำตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ คือ บทสนทนาที่น่าจดจำระหว่างชาวเอธิโอเปีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อชนชาติเอธิโอเปียเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน คริสตจักรซึ่งถือกำเนิดในวันนั้นยังคงตั้งอยู่ในประเทศนั้น

พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลง พระองค์สามารถนำการเปลี่ยนแปลงมายังประเทศชาติได้ การเปลี่ยนแปลงนั้นเริ่มด้วยการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของผู้คน เป็นเรื่องน่าสังเกตถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในเอธิโอเปียนี้

  • อันดับแรก พระวิญญาณของพระเจ้าทรงเตรียมใจของเขา
    ขันทีเอธิโอเปียนั้นจริงใจเรื่องความไม่รู้ของเขา (ข้อ 31) ค้นหาคำตอบ (ข้อ 32) และไม่หยิ่งยโสที่จะขอความช่วยเหลือ (ข้อ 34) ไม่ต้องอายที่ไม่เข้าใจสิ่งที่คุณอ่านพบในพระคัมภีร์เสมอ ๆ มันเป็นการฉลาดที่จะขอความช่วยเหลือจากคนที่เชื่อถือได้ หรือจากหนังสืออรรถาธิบายพระคัมภีร์เพื่อช่วยให้คุณประยุกต์ใช้พระวจนะได้ในชีวิตของคุณ

  • อย่างที่สอง พระวิญญาณของพระเจ้าทรงทำกิจผ่านทางพระวจนะพระเจ้า
    เมื่อขันทีชาวเอธิโอเปียอ่านพระธรรมอิสยาห์ เขาก็เริ่มพบคำตอบ (ข้อ 32–33) บ่อยครั้งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงใช้ตัวแทนที่เป็นมนุษย์ที่จะช่วยเปิดเผย อธิบาย และประยุกต์ใช้พระคัมภีร์ นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงจุดนี้ เริ่มต้นด้วย อิสยาห์ 53 ฟีลิปอธิบายว่า ‘ข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซู‘ (ข้อ 35)

พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเปลี่ยนแปลงจิตใจของขันทีชาวเอธิโอเปียในแบบที่สุดขั้ว และสมบูรณ์แบบจนเขาเชื่อวางใจทันที และขอรับบัพติศมาในน้ำ ไม่มีอะไรตัวแทนแห่งการเปลี่ยนแปลงใดจะทรงพลังไปกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์

ข้าแต่พระเจ้า ของทรงช่วยข้าพระองค์ให้เป็นเหมือนคริสตจักรยุคแรกยิ่งขึ้น ขอทรงช่วยเราให้อธิษฐานมากขึ้น และทำตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์แบบวันต่อวัน ข้าพระองค์อธิษฐานเพื่อประเทศชาติของเราที่จะเปลี่ยนแปลงเมื่อประชาชนได้มารู้จักกับพระองค์

2 ซามูเอล 20:1-21:22

คำอธิษฐานที่ร้อนรน

ดูเหมือนสงครามในชีวิตของดาวิดไม่เคยจบสิ้น ในพระธรรมวันนี้ เราได้เห็นสงครามอีกสองครั้ง

ครั้งแรก มี ‘คนก่อกวนคนหนึ่งชื่อเชบา‘ (20:1) นี่เป็นเสียงสะท้อนของการต่อสู้ของดาวิดกับอับซาโลม (16:22) คนอิสราเอลดูเหมือนจะหวั่นไหวง่ายสุด ๆ ‘ดังนั้นพวกคนอิสราเอลทั้งหมดจึงละจากการตามดาวิด และไปตามเชบา‘ (20:2) พระเจ้าประทานชัยชนะเหนือเชบาให้กับดาวิด แต่ทันใดนั้นก็มีสงครามอีกอันหนึ่งรออยู่ข้างหน้า

มีการกันดารอาหารอยู่สามปี (21:1ก) เมื่อประเทศชาติต้องเผชิญกับภัยพิบัติ ‘ดาวิด​ก็​ทูล​ถาม​พระ​ยาห์​เวห์’ (ข้อ 1ข) บางเวลาต้องใช้ภัยพิบัติหนักหนาเพื่อทำให้เราคุกเข่าลง พระเจ้าตรัสกับดาวิดเมื่อเขาอธิษฐาน

พระองค์ทรงจัดการกับอิสราเอลตามพันธสัญญาที่พวกเขาทำกับชาวกิเบโอน (ดู โยชูวา บทที่ 9) แม้จะทำพันธสัญญากัน ซาอูลพยายามที่จะทำลายล้างคนกิเบโอน แต่พันธสัญญาซึ่งทำไว้ต่อพระเจ้านั้นสำคัญยิ่งและไม่สามารถหักล้างได้ง่าย ๆ (คำมั่นสัญญาที่สามัญที่สุดในปัจจุบัน คือ ในพิธีสมรสศักดิ์สิทธิ์ และการสาบานตนในศาล) ต่อเมื่อดาวิดทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเคารพพันธสัญญาที่ทำต่อพระเจ้า หลังจากนั้นพระเจ้าก็ทรงสดับคำอธิษฐานเพื่อแผ่นดินนั้น (2 ซามูเอล 21:14)

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์แสวงหาพระพักตร์ของพระองค์ในฐานะตัวแทนชนชาติของข้าพระองค์ ขอทรงเมตตาเรา ขอทรงช่วยเราให้เป็นประชาชาติที่ถวายเกียรติพระองค์ด้วยความสัตย์ซื่อต่อคำมั่นสัญญาในชีวิตสมรสของเรา และสัตย์สุจริตเมื่อสาบานตนในศาล ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์ทรงตอบคำอธิษฐานอีกครั้งหนึ่งเพื่อแผ่นดินของเรา ขอชนชาติของเราหันกลับไปหาพระองค์ ขอพระนามของพระองค์ได้รับเกียรติ ขอแผ่นดินของพระองค์จะมาตั้งอยู่

Pippa Adds

กิจการอัครทูต 8:39–40

‘พระวิญญาณบริสุทธิ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรับฟีลิปไป...แต่มีคนพบฟีลิปที่เมืองอาโซทัส …’

ฉันไม่รู้ว่านี่ควรน่าตื่นเต้นหรือน่าตกใจ (หรือแค่เป็นประโยชน์) ที่จะอยู่ที่คริสตจักรโฮลี่ ทรินิตี้ บรอมพ์ตัน ในกรุงลอนดอนนาทีหนึ่ง และนาทีถัดมาก็อยู่ที่เมืองไบร์ตัน! มันจะเกิดขึ้นกับฉันก็ต่อเมื่อฉันขับรถออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ และพบว่าตัวเองอยู่ผิดที่ผิดทางสิ้นเชิง!

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More