7 สิ่งที่พระคัมภีร์กล่าวเรื่องการเลี้ยงดูบุตรตัวอย่าง

หลายปีก่อน เราก้าวเข้าสู่การทรงเรียกในการขยายครอบครัวของเราผ่านทางการอุปถัมภ์และการรับเด็กกำพร้า เราทราบว่านี่จะเป็นเรื่องยาก แต่เราก็พร้อมจะเป็นมือและเท้าของพระเยซูต่อหลายครอบครัวในช่วงเวลาที่พวกเขาขัดสน เราพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงโลก สิ่งที่เราไม่ได้ตระหนักคือพระเจ้าจะเปลี่ยนแปลงโลก ของเรา มากแค่ไหน

ผู้คนบอกเราบ่อย ๆ ว่าสิ่งที่เราทำนั้นพิเศษมากแค่ไหน แต่ขอฉันบอกความลับคุณหน่อย: พ่อแม่อุปถัมภ์นั้นไม่ได้พิเศษอะไร เราถังแตก; เรายุ่งเหยิง; เราเอ็ดตะโร และแน่นอนว่าเราไม่ได้ทำทุกอย่างที่ว่ามาในคราวเดียวกัน เราเป็นแค่คนที่เดินไปโดยความเชื่อและจมลงในความยุ่งเหยิง อย่างไรก็ตามสิ่งที่พิเศษคือสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำเมื่อเราเชื่อฟัง

เราได้เห็นพระเจ้าทรงปรากฎครั้งแล้วครั้งเล่าในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมื่อเราเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ ทรงเคลื่อนภูเขาได้มากกว่าที่เราจำได้ว่าพระองค์ทรงทำก่อนหน้า เมื่อเราคิดว่าไม่มีหวังแล้วสำหรับสายสัมพันธ์กับครอบครัวทางสายเลือดของเด็ก พระเจ้าทรงปรากฎ เมื่อเราจำต้องเอ่ยคำลากับเด็กบางคนที่เรารับอุปถัมภ์ไว้ พระเจ้าทรงปรากฎ เมื่อเราคิดว่าเราทำมันต่อไปไม่ไหวแล้ว พระเจ้าทรงปรากฎ

ประสบการณ์นี้ยังช่วยให้เราเข้าใจว่าพระเจ้าทอดพระเนตรเราอย่างไรมากขึ้น เมื่อเราต้อนรับเด็ก ๆ ที่บาดเจ็บเข้าสู่บ้านของเรา พระเจ้าก็ต้อนรับเราเข้าสู่ครอบครัวของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระบิดาในสวรรค์ของเราและผู้ปกป้องเรา พระองค์ไม่สนใจว่าปัญหาของเราคืออะไร เราทำบาปอะไรมา หรือเราล้มเหลวตรงจุดไหน ถ้าเราเข้าหาพระองค์ พระองค์ทรงโอบกอดเราเหมือนกับบิดา รักเราอย่างไม่มีเงื่อนไข และทรงเรียกเราว่าเป็นบุตรสาวและบุตรชายของพระองค์

ถ้าคุณรู้สึกไม่คู่ควร ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณเผชิญกับสถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ หรือแม้แต่คุณไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไรต่อไป ฉันขอหนุนใจให้คุณแสวงหาพระเจ้าและโจนเข้ามา คนอื่นอาจคิดว่าคุณเพี้ยน ที่จริงฉันสามารถรับรองได้เลยว่าพวกเขาจะคิดแบบนั้น แต่ฉันยังรับรองได้อีกว่า: พระเจ้าทรงตามหาคุณแล้ว และพระองค์ทรงมีแผนการสำหรับชีวิตคุณเหนือกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ในวันนี้

เทย์เลอร์ เคตรอน
ฝ่ายธุรการ YouVersion