พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

ทำความดี
มีบางคนในชุมชนของคริสตจักรของเราดูเหมือนว่าจะไม่เคยหยุดทำความดีเลย เมื่อใดก็ตามที่ผมมองดู ผมจะเห็นพวกเขาเสิร์ฟอาหารหรือล้างถ้วยชาม อธิษฐานเผื่อบางคน หนุนใจคนอื่น เสนอตัวนำอาหารไปให้คนเจ็บป่วย หรือทำความดีในแบบอื่น ๆ พวกเขาให้ด้วยใจที่กว้างขวางกับงานของคริสตจักร พวกเขาทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความสง่างาม และความกระตือรือร้น ผมมักจะได้การหนุนใจ และถูกท้าทายจากแบบอย่างของพวกเขา พวกเขาเหมือนจะไม่เคยเหนื่อยกับการทำความดีเลย ในสังคมของเรา คำว่า ‘คนดี’ กลายเป็นถูกใช้ในเชิงหยาบคายหรือเพื่อดูหมิ่น แต่การทำดีไม่ควรถูกมองในแบบนั้น พระเยซู ‘เสด็จไป*ทำคุณประโยชน์*’ (กิจการ 10:38) อาจารย์เปาโลเขียนถึงทิตัสว่า ‘จงเตือนพวกเขา…ให้พร้อมจะทำการดีทุกอย่าง’ (ทิตัส 3:1) ความปรารถนาของอาจารย์เปาโลคือคนที่วางใจในพระเจ้า ‘จะได้มุ่ง*ทำการดี*’ (ข้อ 8, 14) ผมขออ้างอิงสิ่งที่จอห์น เวสลีย์ กล่าวว่า ‘จงทำความดีทั้งหมดที่คุณทำได้ ด้วยทุกวิธีที่คุณทำได้ ในทุกทางที่คุณทำได้ ในทุกที่ที่คุณทำได้ ในทุกเวลาที่คุณทำได้ กับทุกคนที่คุณทำให้ได้ ตราบเท่าที่คุณจะสามารถทำได้’สดุดี 119:113-120
ทำดี ไม่ใช่ทำชั่ว
สิ่งที่ตรงข้ามกับการทำดีคือการทำชั่ว ผู้เขียนสดุดีมุ่งมั่นที่จะทำดี นั่นคือเหตุผลที่เขาพูดว่า ‘เจ้าคนทำชั่ว จงไปเสียจากข้า’ (ข้อ 115ก) คนทำชั่วนั้น ‘สองใจ’ (ข้อ 113) พวกเขาหลงไปจากข้อบังคับของพระเจ้าและหลอกลวง (ข้อ 118)
จงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงความชั่วร้าย และทำความดี จงรักพระวจนะของพระเจ้า (ข้อ 113, 119) พระเจ้าทรงเป็นที่กำบังและโล่ของคุณ (ข้อ 114ก) จงวางความหวังของคุณในถ้อยคำของพระองค์ (ข้อ 114ข) ‘ข้าพระองค์ถวายความจงรักภักดีทั้งหมดต่อคำจำกัดความของชีวิตที่พระองค์ตรัสไว้’ (ข้อ 117, พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล)
ผู้เขียนสดุดีกล่าวว่า ‘ขอทรงค้ำจุนข้าพระองค์ไว้ตามพระสัญญาของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะมีชีวิตอยู่ และอย่าให้ข้าพระองค์อับอายในความหวังของข้าพระองค์’ (ข้อ 116) ความหวังของเราที่หันเหไปก็แย่พอแล้ว พระธรรมสุภาษิตเขียนว่า ‘ความหวังที่ถูกหน่วงไว้ทำให้อ่อนใจ แต่การสมปรารถนาเป็นต้นไม้แห่งชีวิต’ (สุภาษิต 13:12) ขอให้นำความหวังของคุณวางไว้ต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าในวันนี้และอธิษฐาน ขอให้ความหวังของคุณไม่พังทลายไป
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์รักพระวจนะของพระองค์ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ดำเนินตามนั้นและออกห่างจากการทำชั่ว แต่ให้ทำความดี วันนี้ข้าพระองค์นำความหวังมาที่พระองค์อีกครั้ง... และอย่าให้ข้าพระองค์อับอายในความหวังของข้าพระองค์
ทิตัส 3:1-15
พร้อมที่จะทำความดีอยู่เสมอ
มีความแตกต่างอย่างน่าทึ่งระหว่างชีวิตของเปาโลก่อนที่เริ่มมีความสัมพันธ์กับพระเยซูคริสต์และชีวิตหลังจากนั้น (และผมเข้าถึงได้ด้วยประสบการณ์ของตัวเอง) เปาโลเขียนว่า ‘เพราะว่าเมื่อก่อนนั้นเราเองก็โง่เขลา ไม่เชื่อฟัง หลงผิด เป็นทาสของกิเลสตัณหาและความสำราญต่าง ๆ ใช้ชีวิตอย่างชั่วร้ายและอิจฉาริษยา ถูกชิงชังและเกลียดกัน’ (ข้อ 3)
ถึงกระนั้น พระเยซูทรงเปลี่ยนแปลงเราอย่างหมดจด: ‘แต่เมื่อความดีเลิศและความรักของพระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดของเรามาปรากฏ พระองค์ก็ทรงช่วยเราให้รอด ไม่ใช่เพราะความชอบธรรมที่เราทำเอง แต่ด้วยพระเมตตาของพระองค์โดยผ่านการชำระให้บังเกิดใหม่ และสร้างใหม่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์’ (ข้อ 4-5) การทำดีเป็นการตอบสนองต่อพระเมตตาและความรักของพระเจ้าที่มีต่อคุณ เรามักจะคิดถึงความมีเมตตาของครอบครัวหรือเพื่อนของเรา แต่พระเจ้าทรงมีพระเมตตายิ่งกว่านั้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
พระเจ้าไม่เพียงอภัยให้คุณผ่านความเมตตา และความรักของพระองค์ พระองค์ยังประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้แก่คุณ: ‘พระองค์ให้เราได้ชำระล้างตัวอย่างดี เราออกมาเป็นคนใหม่ สะอาดทั้งภายในและภายนอกโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเยซู องค์พระผู้ช่วยให้รอดของเราทรงเทชีวิตของพระองค์ออกมาด้วยพระทัยที่กว้างขวาง ของประทานจากพระเจ้าคือการได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์ของเรากับพระองค์และคืนชีวิตของเราให้กับเรา’ (ข้อ 5-7, พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล) พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้ที่ช่วยให้คุณสามารถทำความดี และมอบพลังให้กับคุณ
ดังนั้น เปาโลสามารถเขียนถึงชีวิตในแบบที่เราควรจะเป็น ‘จงเตือนประชาชนให้เคารพการปกครองและทำตามกฎหมาย' (ข้อ 1, พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล) นี่เป็นหน้าที่พลเรือนของเรา – คือการเชื่อฟังกฎหมายของบ้านเมือง -นอกจากว่ามันขัดแย้งกับบัญญัติของพระเจ้า
แต่ว่าการเชื่อฟังและการจำนนต่อผู้ปกครองและผู้มีอำนาจนั้นไม่เพียงพอ เราจะต้อง ‘พร้อมจะทำการดีทุกอย่าง อย่าว่าร้ายใคร อย่าทะเลาะวิวาท แต่ให้ผ่อนหนักผ่อนเบาและแสดงความสุภาพอ่อนโยนอย่างยิ่งต่อทุกคน’ (ข้อ 1-2) เปาโลปลุกเร้าพวกเขาอีก 2 ครั้งให้อุทิศตนในการทำการดี (ข้อ 8, 14)
น่าทึ่งที่ความสนใจของเปาโลตรงนี้ มุ่งไปที่ความสัมพันธ์ของพวกเขากับผู้อื่น เปาโลหนุนใจให้มีกรอบความคิดที่ ‘จดจ่อไปที่คนอื่น’ ซึ่งหยั่งรากในความถ่อมใจ ความจริงใจ และการเห็นแก่คนอื่น ขณะที่คุณถูกกระตุ้นโดยความรัก บางครั้งผ่านการรับใช้ผู้อื่น คุณเองก็ได้เรียนรู้ที่จะรักพวกเขาด้วยเช่นกัน
แม้หลังจากที่คุณบังเกิดใหม่และถูกฟื้นฟูโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะมีการทดลองที่ทำให้คุณออกนอกทางและไม่เกิดผลบ้าง แต่อย่ามีส่วนร่วมในการโต้เถียงที่ไม่หยุดหย่อน เปาโลเขียนว่า ‘แต่จงหลีกเลี่ยงจากการทุ่มเถียงที่โง่เขลา การลำดับวงศ์ตระกูล การวิวาทและการทะเลาะกันเรื่องธรรมบัญญัติ เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นไร้ประโยชน์และไร้คุณค่า’ (ข้อ 9)
เปาโลต้องการให้คริสเตียนในเกาะครีตโดดเด่น และแตกต่างจากค่านิยมที่เขาเป็นอยู่ เปาโลเขียนว่า ‘ให้คนของเราเรียนรู้ที่จะทำการดีด้วย เพื่อช่วยจัดหาสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ เพื่อว่าพวกเขาจะได้ไม่เป็นคนที่ไร้ผล’ (3:14)
คุณมีชีวิตตามสิ่งที่คุณเชื่อต่อหน้าโลกที่จับตามองอยู่ ถ้าคุณขี้เกียจและไม่เกิดผล ก็จะมีคนสังเกตเห็น คุณจะต้องสะท้อนถึง ‘ความดีเลิศและความรักของพระเจ้า’ (ข้อ 4) ขณะที่คุณ ‘ทำความดี’
การทำดีและการมีชีวิตที่เกิดผลไม่ได้หมายความว่าคุณจำเป็นจะต้องเปลี่ยนอาชีพของคุณ เมื่อผมทำงานเป็นทนายความ ผมจำได้ว่าตัวเองครุ่นคิดว่าพระเจ้าเรียกผมให้อุทิศตัวเข้าไปอยู่ในคริสตจักรแห่งอังกฤษไหม ผมทึ่งมากกับการกล่าวถึง ‘เศนาสผู้เป็นนักกฎหมาย’ (ข้อ 13) ซึ่งเตือนผมว่าถ้าผมจะหยุดทำอาชีพทนาย เหตุผลต้องไม่ใช่เพราะว่าการเป็นทนายคริสเตียนนั้นผิดประการใด ไม่ว่าคุณจะอยู่จุดไหนในชีวิต และไม่ว่างานหรือพันธกิจของคุณคืออะไร คุณยังสามารถออกไปทำความดี
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์อย่างมากสำหรับวิธีที่พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตของข้าพระองค์ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ดำเนินชีวิตที่เกิดผลและออกไปทำความดีเหมือนอย่างพระเยซู
เพลงคร่ำครวญ 1:1-2:6
อยู่ใกล้ชิดคนที่ออกไปทำความดี
ยูจีน ปีเตอร์สันเขียนในบทนำของเขาก่อนไปต่อที่พระธรรมเพลงคร่ำครวญว่า ‘การเป็นมนุษย์คือการทนทุกข์ ไม่มีใครถูกละเว้น พระธรรมเพลงคร่ำครวญเห็นพ้องกับพยานมากมายในพระคัมภีร์ ซึ่งให้เกียรติกับความทุกข์ยาก โดยยืนยันว่าพระเจ้าเสด็จมาในการทนทุกข์ของเรา และเป็นเพื่อนร่วมทุกข์กับเรา’
พระธรรมนี้ ตรงกับชื่อ คือ เน้นไปที่ความทุกข์ระทม ความโศกเศร้า ความทุกข์ใจ ความเจ็บปวด การสูญเสีย และโศกนาฏกรรมซึ่งประชากรของพระเจ้าประสบในการถูกขับไล่ สถานการณ์ของพวกเราอาจจะแตกต่างออกไป แต่การทนทุกข์ของเราก็เกิดขึ้นจริงเช่นเดียวกัน
ผู้เขียนคร่ำครวญถึงการที่อิสราเอล ชนชาติที่เคยยิ่งใหญ่ ต้องถูกเนรเทศไปเพราะความบาปมากมายของเธอ: ‘เธอติดอยู่ระหว่างก้อนหินและสถานที่ที่ลำบาก’ (ข้อ 1:3, พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล) ‘…สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล) ‘…การสังหารหมู่บนท้องถนน ความหิวโหยในบ้านเรือน’ (ข้อ 20, พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล)
เมื่อเราอ่านข้อพระคำของวันนี้ ดูเหมือนว่าความหวังจะมีอยู่น้อยนิด ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการพิพากษาและการทนทุกข์ ผู้เขียนบอกว่า ‘จงดูซิว่ามีความทุกข์ใดบ้างเหมือนความทุกข์ที่มาสู่ข้าพเจ้า…?’ (ข้อ 12) นี่คงเป็นสิ่งที่เรารู้สึกบ่อยครั้งเมื่อเราผ่านความยากลำบากและการทดสอบ
เขาเขียนว่า ‘บรรดาการละเมิดของข้าพเจ้าถูกรวบเข้าเป็นแอก; โดยพระหัตถ์พระองค์ทรงรวบมัดไว้ การละเมิดเหล่านั้นรัดรึงรอบคอข้าพเจ้า พระองค์ทรงทำให้กำลังข้าพเจ้าอ่อนลง องค์เจ้านายได้ทรงมอบข้าพเจ้าไว้ในมือของเขาทั้งหลายผู้ที่ข้าพเจ้าไม่สามารถต่อต้านได้’ (ข้อ 14)
ภาพคือความบาปของเขาที่เป็นเหมือนแอกหนักอึ้งอยู่รอบคอของเขา ซึ่งดึงให้เขาต่ำลง เขาเหนื่อยล้าและต้องแบกภาระของมัน
นี่เป็นประสบการณ์ของการถูกขับไล่ การพิพากษา และการทนทุกข์อย่างสาหัส การขับไล่ในฝ่ายกายภาพคงอยู่ประมาณ 70 ปี แต่ว่าประสบการณ์ในฝ่ายวิญญาณของการถูกขับไล่นั้นยังคงอยู่ต่อไป
ขอบคุณพระเจ้าที่พระเยซูเสด็จมาเพื่อประกาศว่าการขับไล่จบลงอย่างถาวรแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเดินไปอย่างเหน็ดเหนื่อยกับภาระของบาปอีก พระเยซูตรัสว่า ‘บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพอ่อนโยนและใจอ่อนน้อม และจิตใจของพวกท่านจะได้หยุดพัก ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา’ (มัทธิว 11:28-30)
นี่เป็นเคล็ดลับในการทำดี: ให้อยู่ใกล้คนที่ออกไปทำความดี มอบภาระของคุณไว้กับพระเยซูและรับการพักสงบจากพระองค์ แบกแอกของพระองค์ไว้บนตัวขณะที่คุณเรียนรู้จากพระองค์ - จากพระทัยที่อ่อนโยนและถ่อมลง -เพราะพระองค์เป็นแหล่งของการทำดี
ขอบคุณพระเจ้า องค์เจ้านายและพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์ ที่พระองค์ทรงรับแอกของความบาปไปจากข้าพระองค์ และถอดภาระหนักของมันไป ขอบคุณที่เมื่อข้าพระองค์วางแอกไว้กับพระองค์ แอกของข้าพระองค์ก็พอเหมาะและภาระของข้าพระองค์ก็เบา โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ใกล้ชิดพระองค์ รับใช้ด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และออกไปทำความดีเหมือนอย่างพระองค์ในวันนี้
Pippa Adds
ทิตัส 3:14
‘คนของเรา…จะได้ไม่เป็นคนที่ไร้ผล'
ฉันสงสัยว่าพระเจ้าคิดว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์ในชีวิตของเรา ชีวิตนั้นวุ่นวาย การเลือกสิ่งที่ตัวเองจะทำนั้นยาก แต่ในแผ่นดินของพระเจ้านั้นเป็นอะไรที่กลับกัน สิ่งที่เราคิดว่าไม่สำคัญอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพระเจ้า
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

The Creator's Battle: Winning the Inner War for Your Art

The Holy Spirit: God Through Us

What Is "The Way of Christ?"

When God Makes Things Right: A 5-Day Devotional on Nahum

Read the Bible Effectively

HomeFirst: Finding Balance, Embracing Ease, and Living a Christ-Centered Life

BE a PILLAR

When Tithing Feels Impossible: 3 Truths That Free You From Financial Guilt

Journey Through Esther
