พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

กุญแจสู่ชีวิต
* มาดอนน่ากล่าวไว้ว่า ‘ขณะที่ฉันโตขึ้น... พระเยซูคริสต์เป็นเหมือนดาราหนัง เป็นไอดอลคนโปรดของฉัน’ * นโปเลียน โบนาปาร์ต กล่าวไว้ว่า 'ข้าพเจ้ารู้จักชายหนุ่มมากมาย และข้าพเจ้าบอกได้เลยว่าพระเยซูคริสต์ไม่ใช่ชายธรรมดาทั่วไป’ * นักเขียนนิยาย เฮช.จี. เวลส์ กล่าวไว้ว่า ‘ผมเป็นนักประวัติศาสตร์ ผมไม่ใช่ผู้เชื่อ แต่*นักเทศน์ผู้ไร้เงินทอง*จากกาลิลีผู้นี้เป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์อย่างมิอาจต้านทานได้’ แม้แต่คนที่ไม่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้ติดตามของ ‘นักเทศน์ผู้ไร้เงินทอง’ ยังตระหนักว่ามีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับพระเยซู ไม่มีใคร แม้แต่ทูตสวรรค์ จะเปรียบเหมือนพระเยซู (ฮีบรู 1:1-14) ถ้าคุณอยากรู้ว่าพระเจ้าเป็นอย่างไร ให้มองไปที่พระเยซู พระองค์ตรัสว่า ‘คนที่ได้เห็นเราก็ได้เห็นพระบิดา’ (ยอห์น 14:9) ทุกอย่างที่คุณได้อ่านและเข้าใจเกี่ยวกับพระเจ้าผ่านทางพระคัมภีร์ คุณจะต้องอ่านผ่านสายตาของพระเยซู พระองค์ทรงเป็นการเปิดเผยสำแดงสูงสุดของพระเจ้า กุญแจของคุณในการจัดการกับชีวิตของตัวเองคือพระเยซู กุญแจของคุณในการเข้าใจพระวจนะคือพระเยซู กุญแจของคุณในการเข้าใจพระลักษณะของพระเจ้าคือพระเยซู กุญแจของคุณสู่ชีวิตคือพระเยซูสดุดี 119:129-136
พระเยซูทรงชำระล้างบาปของเรา
ในบางมุม การอ่านพระคัมภีร์ก็เป็นเหมือนกับการมองกระจกด้วยแสงที่สว่างจ้า: ‘การอธิบายพระวจนะของพระองค์ให้ความสว่าง’ (ข้อ 130ก) แสงสว่างเปิดเผยสิ่งที่ผิดในชีวิตของเราและสิ่งที่เราต้องทำชำระให้สะอาด สิ่งนี้เปิดเผยว่าอะไรขวางกั้นระหว่างเรากับพระเจ้า
สิ่งกีดขวางนี้ถูกกำจัดไปเมื่อพระเยซูประทานการชำระล้างบาปให้แก่เรา ผ่านทางพระเยซูคุณมั่นใจได้ว่าพระพักตร์ของพระเจ้าจะฉายมาเหนือคุณ (ข้อ 135)
ให้เราอธิษฐานเช่นเดียวผู้เขียนสดุดีว่า:
‘ขอทรงหันมาหาข้าพระองค์และมีพระกรุณาต่อข้าพระองค์
|เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงเคยทำต่อผู้ที่รักพระนามของพระองค์
ขอทรงให้ย่างเท้าของข้าพระองค์มั่นคงอยู่ตามพระสัญญาของพระองค์
|ขออย่าทรงให้ความชั่วใด ๆ มีอำนาจเหนือข้าพระองค์
ขอทรงไถ่ข้าพระองค์ให้พ้นการบีบบังคับของมนุษย์
|เพื่อข้าพระองค์จะปฏิบัติตามข้อบังคับของพระองค์
ขอทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ทอแสงมายังผู้รับใช้ของพระองค์’ (ข้อ 132-135ก)
คำอธิษฐานของผู้เขียนสดุดีเป็นเงาสะท้อนล่วงหน้าไปถึงการกระทำยิ่งใหญ่ของพระเยซูในการจัดเตรียมการชำระล้างบาป ของเรา พระเยซูจะหันไปหาพระเจ้าเสมอ โดยมั่นใจว่าพระองค์จะทรงเมตตา ‘เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงเคยทำต่อผู้ที่รักพระนามของพระองค์’ (ข้อ 132)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์สำหรับพระเยซู ขอบคุณสำหรับพระเมตตา ขอให้ไม่มีบาปใดปกครองข้าพระองค์ โปรดปกป้องข้าพระองค์จากความเย่อหยิ่ง ความโกรธ ตัณหา ความโลภ ความริษยา การไม่อธิษฐาน การเป็นศัตรูกัน และการทดลองอื่น ๆ ของชีวิต ข้าพระองค์ทูลขอที่พระองค์จะให้พระพักตร์ทอแสงมาบนข้าพระองค์ในวันนี้
ฮีบรู 1:1-14
พระเยซูทรงอยู่เหนือทูตสวรรค์
พระเยซูทรงมีเอกลักษณ์เฉพาะ พระองค์เป็นทุกสิ่งที่เราต้องการ ยูจีน ปีเตอร์สัน ได้ชี้ให้เห็นว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีพระเยซู-และ-ทูตสวรรค์ คุณไม่จำเป็นต้องมีพระเยซู-และ-โมเสส คุณไม่จำเป็นต้องมีพระเยซู-และ-การเป็นปุโรหิต จดหมายนี้ลบยติภังค์ (-) ออก ทั้งหมดที่คุณต้องการ คือ พระเยซู
พระธรรมฮีบรูนั้น ทั้งหมดเป็นเรื่องพระเยซู ว่าพระองค์เป็นผู้ใด และพระองค์ทรงดีกว่า ยิ่งใหญ่กว่าบุคคลอื่น คำสอนอื่น หรือระบอบศาสนาอื่นอย่างไร พระธรรมตอนนี้เปิดด้วยการเปรียบเทียบระหว่างพระเยซูและผู้เผยพระวจนะในพันธสัญญาเดิม มันอธิบายถึงความจริงอันมหัศจรรย์ว่าพระเจ้าตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะอย่างไร แต่หลังจากนั้นก็บรรยายว่าพระเยซูดียิ่งกว่าอย่างไร (ข้อ 1-3) พระองค์เป็น ‘ทายาทของทุกสิ่ง’ พระองค์ทรงมีส่วนในการทรงสร้าง พระองค์ทรงเป็นการเปิดเผยสำแดงสูงสุดของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้ค้ำจุนของคุณและพระผู้ไถ่ของคุณ เหตุผลของสิ่งทั้งปวงนี้อยู่ในความเป็นพระเยซู
พระเยซูทรงเป็น ‘แสงสว่างแห่งพระสิริของพระเจ้า ทรงมีแก่นแท้เดียวกับพระเจ้า’ (ข้อ 3) พระคัมภีร์ฉบับ The Message เขียนว่า พระองค์ ‘สะท้อนพระเจ้าอย่างสมบูรณ์แบบ และถูกประทับตราด้วยธรรมชาติของพระเจ้า’
พระเยซูเสด็จมาเพื่อแก้ไขชีวิตของเรา 'เมื่อพระองค์ทรงชำระบาปทั้งหลายแล้ว ก็ประทับเบื้องขวาของพระเจ้าสูงสุด’ (ข้อ 3ข) การนั่งลงเป็นสัญลักษณ์ของความจริงว่างานของพระองค์สำเร็จแล้ว (ดู ยอห์น 19:30)
จะมีคนที่ไม่อาจยอมรับความจริงนี้ได้เสมอ วันนี้บางคนโต้เถียงว่าพระเยซู ‘เป็นแค่อาจารย์สอนศาสนาที่ยิ่งใหญ่’ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น อย่างเดียวกันในช่วงของจดหมายนี้ บางคนได้โต้เถียงว่าพระเยซู ‘เป็นแค่ทูตสวรรค์’ ผู้เขียนพระธรรมฮีบรูบอกว่า: ‘พระองค์ทรงยิ่งใหญ่กว่าพวกทูตสวรรค์มากนัก เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงได้รับพระนามที่ประเสริฐกว่านามของพวกทูตสวรรค์’ (ฮีบรู 1:14) จากนั้นเขาโต้ต่อเกี่ยวกับอำนาจของพระองค์ที่อยู่เหนือทูตสวรรค์
ในพระคัมภีร์มีการอ้างอิงถึงทูตสวรรค์เกือบ 300 ครั้ง เรารู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาบ้าง?
ในข้อนี้เราเห็นว่าทูตสวรรค์นมัสการและรับใช้พระเจ้า (ข้อ 6-7) พวกเขาเป็นผู้ส่งสารของพระเจ้า (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตในฝ่ายวิญญาณที่รับใช้คริสเตียน (ข้อ 14) พวกเขาถูก ‘ส่งไปปรนนิบัติบรรดาคนที่จะได้รับความรอด’ (ข้อ 14)
ทูตสวรรค์อยู่ใกล้กว่าที่คุณคิด พวกเขาคอยคุ้มกันและปกป้องคุณ พระเจ้าประทาน ‘เหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ในเรื่องท่าน’ (สดุดี 91:11) ยกตัวอย่างเช่น ทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาเสริมกำลังพระเยซูในสวนเกทเสมนี (ลูกา 22:43) ทุกคริสตจักรก็มีทูตสวรรค์หนึ่งองค์ (วิวรณ์ 1-3)
แต่พระเยซูทรงยิ่งใหญ่กว่ามากนัก ผู้เขียนพระธรรมฮีบรูกล่าวถึงข้อพระคัมภีร์ 7 ตอนจากพันธสัญญาเดิมเพื่อแสดงถึงอำนาจที่พระเยซูมีเหนือกว่าทูตสวรรค์ (สดุดี 2:7; 2 ซามูเอล 7:14; เฉลยธรรมบัญญัติ 32:43; สดุดี 45:6–7; 102:25–27; 104:4; 110:1)
ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้เป็นคำตอบสำหรับทุกคนที่บอกว่าพระเยซูเป็นเพียงทูตสวรรค์ หรือ ‘อาจารย์สอนศาสนาที่ยิ่งใหญ่’ (ซึ่งในปัจจุบันน่าจะเป็นแบบหลังมากกว่า) จุดสูงสุดของข้อโต้แย้งนี้อยู่ในพระธรรมฮีบรู 1:8 ‘แต่ส่วนพระบุตรนั้น พระองค์ตรัสว่า“ข้าแต่พระเจ้า พระที่นั่งของพระองค์…”’ นี่เป็นการอ้างโดยสมบูรณ์ถึงความเป็นพระเจ้าของพระเยซู พระเยซูทรงเป็นผู้ที่มีตัวตนเป็นพระเจ้า
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่พระองค์ส่งทูตสวรรค์มาคุ้มครองและปกป้องเรา ขอบคุณพระองค์ที่พวกเขารับใช้เรา แต่ขอบคุณพระองค์มากยิ่งกว่าสำหรับพระเยซู ผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าทูตสวรรค์ทั้งปวง
เพลงคร่ำครวญ 3:40-5:22
พระเยซูถูกเจิมตั้งเป็นพระเมสสิยาห์
ผู้เขียนพระธรรมเพลงคร่ำครวญบอกว่า ‘ให้เรายกใจและมือขึ้นต่อพระเจ้า’ (ข้อ 3:41) การยกใจและมือของเราดูจะไปพร้อมกับการอธิษฐาน การชูมือขึ้นอธิษฐานนั้นไม่ได้แปลกหรือประหลาด เป็นวิธีการอธิษฐานดั้งเดิมทั้งในพันธสัญญาเดิม และพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่
ผู้เขียนเรียกประชาชนให้อธิษฐานและกล่าวว่า ‘ขอให้พวกเราตั้งใจดูวิธีที่เราใช้ชีวิตของตนและจัดเรียงชีวิตใหม่ให้อยู่ภายใต้พระเจ้า’ (ข้อ 40, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) นี่เป็นวินัยที่สำคัญในชีวิตแห่งความเชื่อ ทูลขอพระเจ้าให้เปิดเผยถ้ามีด้านใดในชีวิตของคุณที่ต้องเปลี่ยนแปลง
หากว่ามี ให้คุณหันกลับไปหาพระเจ้าเพื่อสารภาพและกลับใจใหม่ (ข้อ 42 เป็นต้นไป) ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าคุณได้รับการยกโทษและความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้าถูกรื้อฟื้นเพราะสิ่งที่พระเยซูทรงทำเพื่อคุณ ข้อพระคำตอนนี้ชี้ไปที่พระเยซู เหมือนกับข้ออื่น ๆ ในพันธสัญญาเดิม
ผู้เขียนพระธรรมเพลงคร่ำครวญกล่าวว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่พระองค์ทรงครอบครองอยู่เป็นนิตย์ พระที่นั่งของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วชาติพันธุ์’ (5:19)
ผู้เขียนพระธรรมเพลงคร่ำครวญกล่าวถึงพระเยซูว่า: ‘“ข้าแต่พระเจ้า พระที่นั่งของพระองค์ดำรงค์อยู่เป็นนิตย์… เพราะเหตุนี้พระเจ้า ซึ่งเป็นพระเจ้าของพระองค์ ทรงเจิมพระองค์ไว้ ด้วยน้ำมันแห่งความยินดี”’ (ฮีบรู 1:8-9) พระองค์คือผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้ง คือ พระคริสต์ พระเมสสิยาห์
พระองค์คือผู้ที่พระคัมภีร์ทั้งเล่มชี้ไปหา ประชากรของพระเจ้าตั้งตารอผู้ที่พระเจ้าเจิมตั้งไว้ ผู้เขียนพระธรรมเพลงคร่ำครวญพูดถึง ‘กษัตริย์ที่พระยาห์เวห์ทรงเจิมไว้นั้น’ (เพลงคร่ำครวญ 4:20) คำว่าเจิมตั้งในภาษาฮีบรูคือ “Meshiach” ซึ่งเราผวนมาเป็นคำว่า ‘พระเมสสิยาห์’ เขาพูดต่ออีกว่า ‘ถ้วยนั้นจะผ่านมาถึงเธอด้วย’ (ข้อ 21) พระเยซูได้ตรัสถึงถ้วยที่พระองค์จะดื่ม (มาระโก 10:38; ยอห์น 18:11) พระเยซูตรัสเป็นนัยถึงถ้วยแห่งพระพิโรธของพระเจ้าต่อความบาป
ความโกรธของพระเจ้าแตกต่างจากของเรา ไร้ซึ่งองค์ประกอบของเจตนาร้าย ความใจแคบ หรือการเสแสร้ง แต่คือการตอบสนองของพระเจ้าที่เต็มด้วยรักและความบริสุทธิ์ต่อความบาป ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจว่า ความบาปของเราเลวร้ายเพียงใดในสายพระเนตรของพระเจ้า และอัศจรรย์เพียงใดที่พระเยซูแบกรับพระพิโรธของพระเจ้าบนกางเขนเพื่อคุณกับผม
ผู้เผยพระวจนะมองเห็นว่าพวกเขาถูกตัดขาดจากพระเจ้าเพราะบาปของตัวเอง: ‘พระองค์คลุมพระองค์ด้วยเมฆเพื่อว่าการอธิษฐานของพวกข้าพระองค์จะไม่ทะลุไปถึงพระองค์ได้’ (เพลงคร่ำครวญ 3:44) นี่เป็นสิ่งกีดขวางที่พระเยซูกำจัดไปเมื่อพระองค์ดื่มแก้วแห่งพระพิโรธของพระเจ้าและประทานการชำระล้างบาปของเรา นี่เป็นคำตอบสำหรับคำอธิษฐานของผู้เขียนพระธรรมเพลงคร่ำครวญเมื่อเขาอธิษฐานว่า ‘ขอทรงช่วยพวกข้าพระองค์ให้กลับสู่พระองค์เถิด แล้วพวกข้าพระองค์จะกลับสู่พระองค์ ขอทรงฟื้นวันเวลาของข้าพระองค์ให้เหมือนดังก่อน’ (5:21)
โดยพระเยซู ผู้ที่ถูกเจิมตั้งและผู้ที่ดื่มจากแก้วนั้น การทรงสถิตของพระเจ้าไม่ถูกคลุมด้วยเมฆอีกต่อไปและคำอธิษฐานของคุณสามารถผ่านไปถึงพระองค์ คุณสามารถยกหัวใจและมือของคุณไปที่พระองค์ พระองค์จะรื้อฟื้นคุณและสร้างคุณใหม่
ถึงแม้ว่าพระคัมภีร์จะมีถ้อยคำมากมายเกี่ยวกับการพิพากษา เราสามารถอ่านมันผ่านสายตาของพระเยซู ผู้ทรงเปิดเผยพระลักษณะที่แท้จริงของพระเจ้า และประทานการชำระล้างบาปให้แก่คุณ
ข้าแต่พระบิดาเจ้า ขอบคุณพระองค์สำหรับพระเยซู ขอบคุณที่ข้าพระองค์สามารถรู้และเข้าใจว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ใดผ่านทางพระเยซู ขอบคุณที่กุญแจสู่ชีวิตอยู่ในพระเยซูคริสต์
Pippa Adds
ฮีบรู 1:7,14
‘ส่วนพวกทูตสวรรค์นั้น พระองค์ตรัสว่า “พระองค์ทรงสร้างพวกทูตสวรรค์ของพระองค์ให้เป็นดุจลม และทรงสร้างบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ให้เป็นดุจเปลวเพลิง”’ (ข้อ 7)
‘ทูตสวรรค์ทั้งปวงเป็นเพียงวิญญาณที่รับใช้พระเจ้า ที่ทรงส่งไปปรนนิบัติบรรดาคนที่จะได้รับความรอดไม่ใช่หรือ?’ (ข้อ 14)
ฉันได้ยินเรื่องราวที่อธิบายไม่ได้เกี่ยวกับการช่วยกู้หรือการแทรกแซงอย่างน่าทึ่ง ที่อาจเป็นทูตสวรรค์(ทำ) มันหนุนใจมาก ๆ ที่ได้รู้ว่ามีทูตสวรรค์ลงมาจากสวรรค์ คอยบินไปช่วยเหลือคนที่ต้องการพระเจ้าอย่างมากมาย
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

The Holy Spirit: God Through Us

BE a PILLAR

Journey Through Esther

Fatherless No More: Discovering God’s Father-Heart

The Creator's Battle: Winning the Inner War for Your Art

When Tithing Feels Impossible: 3 Truths That Free You From Financial Guilt

What Is "The Way of Christ?"

Read the Bible Effectively

When You Are the Problem: The Courage to Look in the Mirror When Your Church Is in Crisis
