พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

วิธีทำให้ความคิด จิตใจ และจิตวิญญาณของคุณชื่นบาน
จิม บัคเคอร์ อดีตผู้ประกาศข่าวประเสริฐทางโทรทัศน์ ในหนังสือชีวประวัติส่วนตัวที่ชื่อว่า* I Was Wrong (ผมเคยพลั้งพลาด)* เล่าถึงการร่วงลงมาสู่ความอัปยศ ความยากจน และการถูกจำคุกเพราะการทุจริตด้านบัญชี เขาสูญเสียอิสรภาพ สุขภาพจิต เกียรติ ความมั่นใจในความเชื่อของเขา และท้ายที่สุดคือภรรยาของเขา นักโทษหมายเลข 07407-058 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนและผู้ให้คำปรึกษาของประธานาธิบดีหลายคน ได้ตกลงสู่ก้นเหว ในจุดตกต่ำที่สุดของเขา เจ้าหน้าที่เรือนจำพูดกับเขาว่า 'บิลลี่ เกรเเฮม มาเยี่ยมนาย!’ เขาคิดในใจว่า *‘บิลลี่ เกรแฮมมาที่นี่... ในสถานที่แบบนี้... เพื่อมาหาฉัน*’ เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้อง บิลลี่ เกรแฮมหันมาหาเขาและอ้าแขนกว้าง ในเวลานั้น จิม บัคเคอร์ รู้สึกถึงการยอมรับและความรักอย่างเต็มเปี่ยม: ‘ผมจะไม่มีวันลืมชายคนที่พึ่งถูกโหวตให้เป็นหนึ่งในคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกและได้ปรนนิบัติคนนับล้าน ที่ได้สละเวลาจากตารางงานที่ยุ่งมาปรนนิบัตินักโทษเพียงคนเดียว’ เขาบรรยายว่าท่ามกลางอาการซึมเศร้าของเขา ไข้หวัด ความโสโครก และความสิ้นหวัง การมาเยือนของบิลลี่ เกรแฮม *ทำให้หัวใจของเขาชุ่มชื่น* และวิญญาณจิตของเขามีกำลัง ‘ผมรู้สึกเหมือนกับว่าพระเยซูเสด็จมาเยี่ยมผมเอง’ ความชื่นบานหมายถึงการรื้อฟื้นกำลัง พลังงาน และความแข็งแรง บางครั้งของกินเล่นถูกเรียกว่า ‘อาหารที่ทำให้สดชื่น’ ความสดชื่นด้านร่างกายมาจากการนอนหลับ การพักผ่อน หรือการออกกำลังกาย เปาโลบอกฟีเลโมนว่า ‘*จิตใจ*ของพวกธรรมิกชน*แช่มชื่น*ขึ้นเนื่องจากท่าน’ (ฟีเลโมน 7) ภายหลังในจดหมาย เปาโลขอให้เขาทำ ‘ให้*ใจของข้าพเจ้าแช่มชื่น*ในพระคริสต์’ (ข้อ 20) คุณจะทำให้ความคิด จิตใจ และจิตวิญญาณของตัวเองสดชื่นได้อย่างไร?สดุดี 119:121-128
ถ้อยคำของพระเจ้า
ทองคำเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดที่โลกนี้จะซื้อได้ มันไม่อาจถูกทำให้มัวหมอง มันเจิดจ้าด้วยแสงที่ต่างจากเหล็กอื่น ๆ
ถึงกระนั้นพระวจนะของพระเจ้ามีค่ามากยิ่งกว่าทองคำ พระธรรมสดุดี เขียนว่า: ‘เพราะฉะนั้นข้าพระองค์รักพระบัญญัติของพระองค์ ยิ่งกว่าทองคำ ยิ่งกว่าทองบริสุทธิ์’ (ข้อ 127)
แหล่งความชื่นบานของจิตวิญญาณของผู้เขียนสดุดี คือพระวจนะของพระเจ้า เขาเขียนในข้อก่อนหน้านั้นว่า’จิตใจของข้าพระองค์กระตือรือร้นด้วยความปรารถนาในกฎหมายของพระองค์ตลอดเวลา… ข้าพระองค์ร้องไห้ด้วยความโศก ขอทรงเสริมกำลังข้าพระองค์ตามพระวจนะของพระองค์’ (ข้อ 20, 28) จงยอมให้พระวจนะของพระเจ้าทำให้ความคิด จิตใจ และจิตวิญญาณของคุณสดชื่น
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์อย่างมากที่ข้าพระองค์ได้รับความสดชื่นทั้งในด้านอารมณ์และฝ่ายวิญญาณ จากการอ่านพระวจนะของพระองค์ ใคร่ครวญภาวนา และซึมซับเข้ามาในความคิด จิตใจ และจิตวิญญาณของข้าพระองค์ ซึ่งมหัศจรรย์นัก
ฟีเลโมน 1-25
ประชากรของพระเจ้า
เปาโลเขียนถึงฟีเลโมน เพื่อนของเขา เพื่อขอร้องให้ทำอะไรบางอย่าง (ข้อ 1) ฟีเลโมนมีทาสชื่อโอเนสิมัสที่หนีไป ระหว่างที่โอเนสิมัสหนี เปาโลได้นำเขามารู้จักพระคริสต์ (ข้อ 10)
ชะตากรรมโดยทั่วไปของทาสที่หลบหนี คือ ความตาย ถูกเฆี่ยนตี หรือการประทับตราบนหน้าผาก แต่ในจดหมายนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยพระคุณ ความถ่อมใจ ความรักแท้ และความดึงดูดใจ เปาโลเขียนเพื่อหนุนใจฟีเลโมนให้รับโอเนสิมัสกลับไป โดยไม่ใช่ในฐานะทาส แต่เป็นเหมือนเพื่อนและพี่น้อง (ข้อ 16) หลายศตวรรษต่อมา ผลกระทบของถ้อยคำเหล่านี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมครั้งใหญ่ ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นได้กลายเป็นประวัติศาสตร์สากล
มันคือคำขอที่เปาโลคาดหวังว่าจะได้รับคำตอบในเชิงบวก เขามั่นใจโดยสิ้นเชิงว่าฟีเลโมนจะทำสิ่งที่เขาขอร้องให้ทำ (ข้อ 21) นี่เป็นแบบอย่างและการท้าทายให้นำความรัก การให้อภัย และการคืนดีไปในทุก ๆ ที่ที่คุณไป
ฟีเลโมนเป็นเพื่อนสนิทของเปาโล เขานำคริสตจักรเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาเอง (ข้อ 2) และเขาเป็นชายแห่งความเชื่อและความรัก (ข้อ 5)
เปาโลอธิษฐานที่ฟีเลโมนจะ ‘มีส่วนร่วมในความเชื่อ’ (ข้อ 6) น่าสนใจที่เราสังเกตเห็นว่า เปาโลคิดว่านี่จะป็นวิธีที่เขาจะได้รับ ‘ความรู้ซึ้งถึงสิ่งดีทุกอย่างที่เรามีในพระคริสต์’ (ข้อ 6) ยกตัวอย่างเช่น ผมสังเกตเห็นว่าในหลักสูตรอัลฟ่า ผู้คนเติบโตในความเข้าใจอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาได้เป็นผู้ช่วยกลุ่มย่อย และนำสอนบทเรียน วิธีที่จะเติบโตคือลงมือปฏิบัติในการแบ่งปันความเชื่อของคุณ
ท่านพูดต่อไปว่า ‘ความรักของท่านทำให้ข้าพเจ้ามีความยินดีและได้รับการชูใจอย่างมาก เพราะจิตใจของพวกธรรมิกชนแช่มชื่นขึ้น เนื่องจากท่าน’ (ข้อ 7) และท่านขอฟีเลโมนให้ชูใจเขาในพระคริสต์โดยการกระทำด้วยรัก (ข้อ 20) การวิงวอนทั้งหมดของเขาเพื่อโอเนสิมัสนั้น ‘อยู่บนพื้นฐานของความรัก’ (ข้อ 9)
ฟีเลโมนคือชายที่เป็นที่รู้จักอันเนื่องมาจากความรักของเขาอย่างชัดเจน: ‘ข้าพเจ้าได้ยินเสมอเกี่ยวกับความรักและความเชื่อที่ท่านมีต่อพระเยซู องค์จอมเจ้านาย ซึ่งเอ่อล้นไปยังผู้เชื่อคนอื่น ๆ’ (ข้อ 5 พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล)
เปาโลได้ ‘ขอในเรื่องที่ส่วนตัวมาก ๆ’ (ข้อ 8,9, พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล) คือขอร้องให้ฟีเลโมนรับโอเนสิมัสกลับมา ‘ไม่ใช่เป็นเพียงทาส แต่เป็นพี่น้องคริสเตียนอย่างแท้จริง... รับเขากลับมาอย่างที่ท่านรับข้าพเจ้า ถ้าเขาทำสิ่งใดเสียหายหรือติดค้างอะไรท่าน ให้เขียนลงในบัญชีของข้าพเจ้า’ (ข้อ 16-18, พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล) เขาเขียนว่า ‘ท่านกำลังทำเพื่อพระคริสต์’ (ข้อ 20, พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล) แต่มันยังทำ ‘ให้ใจของข้าพเจ้าแช่มชื่น’ (ข้อ 20)
การให้อภัยต้องมีการส่งต่อความรักและความเมตตาไปถึงคนที่ทำผิดต่อคุณหรือทำให้คุณเจ็บปวด มันเปิดทางให้กับการคืนดีและการรื้อฟื้นความสัมพันธ์
เปาโลโหยหาที่จะพบฟีเลโมน เขาเขียนว่า ‘ขอท่านจัดเตรียมที่พักไว้ให้ข้าพเจ้าด้วย เพราะข้าพเจ้าหวังว่าจะกลับไปหาท่านทั้งหลายอีกตามคำอธิษฐานของพวกท่าน’ (ข้อ 22) การใช้เวลากับคนที่คุณรักและคนที่รักคุณ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อน ทำให้จิตใจและจิตวิญญาณของคุณมีชีวิตชีวา
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์อย่างมากสำหรับคริสตจักรและความรักของพี่น้องในพระคริสต์ ขอบคุณที่พวกเขาทำให้หัวใจและจิตวิญญาณของข้าพระองค์สดชื่น
เพลงคร่ำครวญ 2:7-3:39
การทรงสถิตของพระเจ้า
หัวใจของผู้เผยพระวจนะต้องการความชื่นบานอย่างมาก เมื่อเยเรมีย์มองไปที่หายนะของเยรูซาเล็ม เขาถูกล้อมไปด้วยการทนทุกข์ที่สยดสยองที่สุด การทำลายล้างเกิดขึ้นรอบตัว ผู้คนนั้นหิวโหย ถึงจุดต่ำสุด จนมีความเป็นไปได้อย่างน่ากลัวที่ผู้หญิงจะกินลูกของตัวเอง (ข้อ 2:20)
ไม่ใช่แค่การทนทุกข์อยู่รอบตัวเยเรมีย์ แต่มันอยู่ในจิตใจของเขาด้วย เขาเขียนว่า ‘ดวงตาข้าพเจ้าก็ร่วงโรยเพราะร้องไห้ จิตข้าพเจ้าก็วุ่นวาย ใจของข้าพเจ้าถูกเทลงดิน’ (ข้อ 11) หัวใจของเขาถูกทะลวง (ข้อ 3:13) เขารู้สึกถูกล้อมด้วย ‘ความขมขื่นและความทุกข์ยาก’ (ข้อ 5) เขาอยู่ในความมืดมิด (ข้อ 6)
เขารู้สึกถูกทอด‘ทิ้ง… โดยไม่มีใครช่วย’ (ข้อ 11) เขาถูกหัวเราะเยาะและเย้ยหยัน (ข้อ 14) เหนือสิ่งอื่นใดเขา ‘ขาดสันติสุข’ (ข้อ 17)
บางครั้งคำอธิษฐานของเราดูเหมือนจะไม่ได้รับคำตอบเหมือนอย่างเยเรมีย์: ‘แม้เมื่อข้าพเจ้าร้องทูลขอความช่วยเหลือ พระองค์มิทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้า พระองค์ทรงทำกำแพงกั้นทางข้าพเจ้าด้วยก้อนหินที่สกัดแล้ว พระองค์ทรงทำให้หนทางข้าพเจ้าคดเคี้ยว’ (ข้อ 8-9)
คำตอบของเขาอยู่ ‘เฉพาะพระพักตร์องค์เจ้านาย’ เขาเขียนว่า ‘จงลุกขึ้นร้องทูลตอนกลางคืนทุกยาม จงระบายความในใจของเจ้าออกมาอย่างน้ำ เฉพาะพระพักตร์องค์เจ้านาย’ (ข้อ 2:19)
เขาพูดต่อว่า ‘ข้าพเจ้ายังคิดถึงเนือง ๆ และจิตใจข้าพเจ้าก็หดหู่
ข้าพเจ้าหวนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงมีความหวัง
ความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์ไม่เคยหยุดยั้ง และพระกรุณาของพระองค์ไม่มีสิ้นสุด
เป็นของใหม่ทุกเวลาเช้า ความเที่ยงตรงของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก
จิตใจข้าพเจ้าว่า “พระยาห์เวห์ทรงเป็นมรดกส่วนของข้าพเจ้า”
เพราะฉะนั้นข้าพเจ้ามีความหวังในพระองค์ พระยาห์เวห์ทรงดีต่อผู้ที่คอยพระองค์ และต่อผู้ที่แสวงหาพระองค์…
แม้ทรงทำให้เกิดความเศร้าโศก พระองค์จะทรงพระกรุณาตามความรักมั่นคงอันอุดมของพระองค์’ (ข้อ 3:20-25, 32)
เวลาของการฟื้นฟู มาจาก ‘การทรงสถิตของพระเจ้า' (กิจการ 3:19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) คุณสามารถรับความสดชื่นนี้ได้ทุก ๆ วัน
พระเมตตาของพระเจ้าสดใหม่ทุกเช้า คุณสามารถเริ่มต้นวันใหม่อย่างชื่นบานได้ ทุกวันคุณสามารถแสวงหาพระองค์ รอคอยพระองค์ในความสงบ มีความหวังในพระองค์ และรับความชื่นบานในการทรงสถิต
เมื่อคุณตระหนักว่าพระเจ้าอภัยให้คุณมากเพียงใด และพระเมตตาของพระองค์ยิ่งใหญ่เพียงใด คุณจะอภัยให้คณที่ทำคุณเจ็บปวดได้ง่ายขึ้นและยื่นความเมตตาไปถึงพวกเขา ซึ่งเป็นกุญแจของความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม
นี่ไม่ใช่ถ้อยคำหนุนใจที่ไร้เดียงสาหรือเป็นเพียงแค่ผิวเผิน แต่มีความเป็นจริงเกี่ยวกับความล้ำลึกและขอบเขตของการทนทุกข์และการต่อสู้ทั้งภายในและภายนอก แต่ท่ามกลางทั้งหมดนี้คุณสามารถยึดมั่นในความดีงามและความรักของพระเจ้า ‘ความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์ไม่เคยหยุดยั้ง’ (บทเพลงคร่ำครวญ 3:22)
เราเห็นคำใบ้ว่าความรักนี้เป็นไปได้อย่างไร ผู้เผยพระวจนะเขียนว่า ‘ให้เขาเอียงแก้มแก่ผู้ที่ตบเขา ให้เขารับความอับอายอย่างเต็มขนาด’ (ข้อ 30) พระเยซูหันพระพักตร์ให้คนที่ตบตีพระองค์ (ยอห์น 19:3, มัทธิว 5:29) และแบกความอัปยศของเราบนกางเขน พระโลหิตของพระคริสต์ชำระเราจากความบาปทั้งสิ้น (1 ยอห์น 1:19) โดยการสิ้นพระชนม์คุณได้รับการอภัย ถูกชำระล้าง รื้อฟื้น และได้รับความชื่นบานในจิตใจ และจิตวิญญาณทุก ๆ วัน
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์เทหัวใจออกมาให้พระองค์ในวันนี้ โปรดทำให้ข้าพระองค์สดชื่นด้วยการทรงสถิตของพระองค์ ขอบคุณพระองค์สำหรับความสัตย์ซื่ออันใหญ่ยิ่งและพระเมตตาที่ไม่หยุดยั้ง ซึ่งให้แก่ข้าพระองค์ใหม่ทุกเช้า ผ่านทางพระเยซูคริสต์ องค์เจ้านายของข้าพระองค์
Pippa Adds
บทเพลงคร่ำครวญ 3:22-23
ไม่ว่าเรากำลังก้าวผ่านอะไรในวันนี้ เราสามารถรับการปลอบโยนจากข้อพระคำเหล่านี้: ‘ความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์ไม่เคยหยุดยั้ง และพระกรุณาของพระองค์ไม่มีสิ้นสุด เป็นของใหม่ทุกเวลาเช้าความเที่ยงตรงของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก’
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

The Holy Spirit: God Through Us

BE a PILLAR

Journey Through Esther

Fatherless No More: Discovering God’s Father-Heart

The Creator's Battle: Winning the Inner War for Your Art

When Tithing Feels Impossible: 3 Truths That Free You From Financial Guilt

What Is "The Way of Christ?"

Read the Bible Effectively

When You Are the Problem: The Courage to Look in the Mirror When Your Church Is in Crisis
