พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

การตัดสินใจกำหนดเส้นทางแห่งชีวิต
ทุก ๆ วันเราจะมีเรื่องให้ตัดสินใจว่าจะใส่เสื้อผ้าอะไร รับประทานอะไร หรือจะทำอะไร มีทั้งเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ บางทีการตัดสินใจครั้งใหญ่ของบางคนอาจเป็นเรื่องความสัมพันธ์ การแต่งงาน (แต่งหรือไม่แต่ง จะแต่งกับใคร) และการตัดสินใจเรื่องงาน แต่การตัดสินใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้อาจจะไม่สำคัญไปเลยเมื่อเทียบกับการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ นั่นคือการตัดสินใจต่อตอบสนองพระเจ้า เบอร์นาร์ด เลวิน เป็นคนที่อาจจะเป็นนักเขียนผู้ทรงอิทธิพลของ*นิตยสารไทม์ส (Time)* ช่วงศตวรรษที่ยี่สิบ เขาบรรยายประสบการณ์ในการตัดสินใจเกี่ยวกับความเชื่อคริสเตียนว่า ‘คนแบบผมคือคนเดินวนขอบสระว่ายน้ำ ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกกลัวที่จะกระโดด…’ ตลอดทั้งพระคัมภีร์ ความสำคัญของการตัดสินใจที่กำหนดเส้นทางแห่งชีวิตนั้นเป็นเรื่องเครียด เราสามารถเห็นได้จากข้อพระคัมภีร์ในวันนี้ มีการแยกให้เห็นระหว่างคนที่อยู่ไกลและคนที่อยู่ใกล้ (สดุดี 119) มีการแยกระหว่างเส้นทางของคนที่อยู่ใกล้ข่าวประเสริฐและตอบสนองด้วยความเชื่อกับคนที่ไม่รับเอาด้วยความเชื่อ (ฮีบรู 4:2) ในพระธรรมโยเอลมีการแบ่งเส้นทางระหว่างคนที่ร้องออกพระนามพระเจ้ากับคนที่ไม่ร้องออกนามพระเจ้า (โยเอล 2:32) ‘มวลชน มวลชน ในหุบเขาแห่งการตัดสินคดี! เพราะวันแห่งพระยาเวห์ใกล้เข้ามาแล้วใน*หุบเขาแห่งการตัดสินคดี*’ (3:14)สดุดี 119:145-152
ตัดสินใจที่จะพบกับพระเจ้าก่อน
ผมชอบข้อพระคัมภีร์ตอนนี้ ‘ข้าพระองค์ตื่นขึ้นก่อนอรุณรุ่ง ทูลขอความช่วยเหลือ’ (ข้อ 147) เมื่อสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมเขียนเอาไว้ข้าง ๆ พระคัมภีร์ข้อนี้ในพระคัมภีร์ของผมว่า ‘การได้ใช้เวลาพระองค์ก่อนเริ่มต้นวันสำคัญเพียงใด’ นั่นคือ “ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมตั้งใจเสมอที่จะอ่านพระคัมภีร์และอธิษฐานทันทีเมื่อตื่นนอนเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสงครามในแต่ละวัน ผมทำตามที่ตั้งใจได้ไม่ทุกครั้ง แต่การตัดสินใจเช่นนั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตผมอย่างมาก
มีความแตกต่างระหว่างคนที่อยู่ห่างจากพระเจ้าและคนที่อยู่ใกล้พระเจ้าตามที่ผู้เขียนสดุดีกล่าวไว้ ซึ่งมีเขียนไว้ว่า ‘ผู้ข่มเหงที่มุ่งร้ายมาใกล้แล้ว พวกเขาอยู่ห่างจากธรรมบัญญัติของพระองค์ ข้าแต่พระยาเวห์ แต่พระองค์ทรงอยู่ใกล้ข้าพระองค์’ (ข้อ 150–151)
ผู้เขียนพระธรรมสดุดีตัดสินใจ ‘ร้องทูลด้วยสุดใจ... ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอด’ (ข้อ 145–146)
ขณะนั้นคนที่เข้ามาข่มเหงนั้นเข้ามาใกล้แล้ว ผู้เขียนพระธรรมสดุดียังสามารถกล่าวได้ว่า ‘แต่พระองค์อยู่ใกล้มากกว่าใครทั้งปวง’ (ข้อ 151, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่ทรงอยู่ใกล้ เมื่อข้าพระองค์ร้องทูล ในวันนี้ข้าพระองค์ร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
ฮีบรู 4:1-13
ตัดสินใจเชื่อพระสัญญาของพระเจ้า
คุณเคยมีประสบการณ์ ‘การหยุดพักของพระเจ้า’ ในชีวิตหรือไม่? หรือคุณเหน็ดเหนื่อยจากการควบคุมทุกสิ่งและควบคุมคนรอบตัวหรือไม่? นี่อาจจะถึงเวลาลาออกจากการเป็นผู้จัดการของจักรวาลนี้และเริ่มต้นเชื่อในพระสัญญาของพระเจ้าและวางใจในสิ่งที่พระเจ้าผู้เดียวที่ทำได้
วิธีการค้นพบ ‘การหยุดพัก’ สำหรับจิตวิญญาณ คือการฟังพระสัญญาของพระเจ้าและเชื่อสิ่งนั้น และแสดงออกว่าคุณเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์
คนหลายคนได้ยินพระกิตติคุณ เมื่อคุณได้ยินพระกิตติคุณจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการตัดสินใจในชีวิตคุณ ว่าคุณจะตอบสนองด้วยความเชื่อและเชื่อฟังหรือไม่? หรือตอบสนองด้วยใจที่แข็งกระด้างและไม่เชื่อฟัง?
ผู้เขียนพระธรรมฮีบรู กล่าวว่า ‘เราได้รับพระสัญญาเดียวกันกับคนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร แต่พระสัญญานั้นไม่ได้เกิดผลกับพวกเขา เพราะเขาไม่รับพระสัญญานั้นด้วยความเชื่อ’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เป็นเร้าใจให้พวกเขาเหล่านั้นไม่ให้ดื้อรั้น (ข้อ 7) หรือพลาดไปตามอย่างคนที่ไม่เชื่อฟัง (ข้อ 11)
พระสัญญาของพระเจ้ามีให้แก่ทุกคนที่เชื่อในข่าวประเสริฐ ว่าจะเข้าสู่การหยุดพักของพระองค์ (ข้อ 1) ‘ถ้าเราเชื่อ… เราจะมีประสบการณ์การสภาวะแห่งการหยุดพัก’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ชีวิตนี้จะมีการทดลองและการทดสอบอยู่เสมอ จะไม่มีช่วงเวลาใดที่ปราศจากความสับสน แต่เมื่อคุณเชื่อในข่าวประเสริฐ คุณจะได้พบพระสัญญาของพระเจ้าเรื่องการหยุดพักในที่สุดและตลอดไป ‘เมื่อการเดินทางสิ้นสุด เราจะได้หยุดพักกับพระเจ้าอย่างแน่นอน’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
วันหนึ่งมนุษย์ทุกคนต้องกล่าวรายงานต่อหน้าพระพักต์พระเจ้า ‘ไม่มีสิ่งทรงสร้างใดใดถูกปิดซ่อนไว้จากพระองค์ แต่ตรงกันข้าม ทุกสิ่งก็ปรากฏแจ้งต่อพระเนตรของพระองค์ผู้ซึ่งเราจะต้องถวายรายงานด้วย’ (ข้อ 13)
ในขณะเดียวกัน เราก็ยังมีโอกาสยอดเยี่ยมในการมีประสบการณ์ถึงเหตุการณ์ที่จะมาถึงของ ‘การหยุดพัก’ เมื่อเราได้เปิดใจให้กับพระวจนะของพระเจ้า ‘เพราะว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นมีชีวิตและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ และคมยิ่งกว่าดาบสองคมใด ๆ… และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย’ (ข้อ 12)
ในแต่ละวันที่เราเปิดใจของเราออก พระวจนะของพระเจ้าจะวินิจฉัยส่วนลึกภายในจิตใจ เปิดเผยชีวิตของคุณในด้านต่าง ๆ ออกมา (ความคิดและความมุ่งหมายในใจ) ที่เราต้องจัดลำดับหลายต่อหลายครั้ง นี่อาจเป็นเรื่องเจ็บปวดและท้าทาย แต่วัตถุประสงค์คือเพื่อเตรียมคุณสู่การหยุดพักของพระเจ้า
วันนี้คุณสามารถชื่นชมยินดีการพักและสันติสุขในพระเจ้า จากการวางใจในพระเจ้าและในพระวจนะที่เชื่อว่าพระองค์จะดูแลคุณและจัดเตรียมสิ่งจำเป็นให้กับคุณ
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์เชื่อในพระสัญญาของพระองค์ ขอบพระคุณที่ข้าพระองค์สามารถคาดหวังการเข้าสู่การหยุดพักกับพระองค์นิรันดร์ ขอบพระคุณที่ตอนนี้ข้าพระองค์ได้รับประสบการณ์ก่อนเข้าพักสงบในพระองค์
โยเอล 2:18-3:21
ตัดสินใจชื่นชมยินดีกับชีวิตในพระวิญญาณ
โยเอลผู้เผยพระวจนะ สอนว่า ‘จงเปรมปรีดิ์ในพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า’ (2:23) จอยซ์ ไมเยอร์ กล่าวว่า ‘ความยินดีเป็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามมันถูกปล่อยออกมาโดยการตัดสินใจที่จะไม่ให้สถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์มาครอบงำทัศนคติทางอารมณ์และจิตใจของคุณเท่านั้น โดยความชื่นชมยินดี สิ่งนี้ทำให้เรามีกำลังทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้’
พระเจ้าทรงมีพระสัญญาที่ดีเลิศซึ่งกล่าวในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ว่า ‘ทุกคนที่ร้องขอในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับความรอด’ (2:32; ดู กิจการ 2:21; โรม 10:13)
อันมาสู่จุดสิ้นสุดของคำพยากรณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่เปโตรอ้างถึงในวันเพ็นเทคอส ‘ต่อมาภายหลังจะเป็นอย่างนี้ คือเราจะเทวิญญาณของเรามาเหนือมนุษย์ทุกคน บุตรชายบุตรหญิงของเจ้าจะเผยพระวจนะ คนชราของเจ้าทั้งหลายจะฝันและคนหนุ่มของพวกเจ้าจะเห็นนิมิต ในเวลานั้น เราจะเทวิญญาณของเรามาเหนือแม้กระทั่งคนใช้ชายหญิง…ทุกคนที่ร้องทูลออกพระนามของพระยาเวห์จะรอด’ (โยเอล 2:28–32; ดู กิจการ 2:16–21)
คนอื่นอาจแบ่งแยกคุณ แต่พระเจ้าไม่แบ่งแยกคุณไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ เพศหญิงหรือชาย หรือเผชิญเรื่องใดในชีวิตมา พระสัญญาเรื่องความรอดและการเทลงมาของพระวิญญาณบริสุทธ์ให้กับทั้งหญิงและชาย หนุ่มหรือแก่ เป็นสิ่งที่เราจะเห็นทุกสัปดาห์ในหลักสูตรอัลฟ่า ที่ชีวิตของหลาย ๆ คนเปลี่ยนแปลงโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
ยังมีหลายคนยังอยู่ใน ‘หุบเขาแห่งการตัดสินคดี’ (โยเอล 3:14) การตัดสินใจว่าจะร้องเรียกพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้าหรือไม่นั้นส่งผลอย่างมาก พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ พูดอย่างชัดเจนว่าพระนามของพระองค์คือองค์พระเยซู ‘ถ้าท่านจะยอมรับด้วยปากของท่าน “ว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า” และเชื่อในใจว่า พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด... “เพราะว่า ผู้ที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะรอด”’ (โรม 10:9, 13)
โยเอลสัญญากับคนที่ร้องเรียกพระนามพระองค์ว่า ‘พระยาห์เวห์ทรงเป็นที่ลี้ภัยแก่ประชากรของพระองค์’ (โยเอล 3:16) เป็นสัญญาการอวยพรที่ดีเยี่ยม โยเอลได้เตือนอีกว่ามีบ่อย่ำองุ่นแห่งการพิพากษาของพระเจ้าอีกด้วย (ข้อ 13, ดู มาระโก 4:29, มัทธิว 13:39) หนังสือพระธรรมวิวรณ์ อ้างถึงบ่อย่ำองุ่นเป็นการอธิบายถึงการพิพากษาครั้งสุดท้ายของพระเยซู
ความหวังของพระเจ้าในข้อพระคำตอนนี้คือคนทั้งหลายจะได้รับการทรงเรียกให้ตัดสินใจและหันกลับมาหาพระเจ้า ‘ยังไม่สายเกินไป’ (โยเอล 2:12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระยาห์เวห์ ‘ทรงสงสารประชากรของพระองค์’ (ข้อ18) ‘เราจะส่งข้าว เหล้าองุ่นและน้ำมันให้แก่เจ้า เจ้าทั้งหลายจะอิ่มหนำสำราญ’ (ข้อ 19) ‘เราจะชดเชยปีเดือน ที่ตั๊กแตนวัยบินได้กินเสียให้พวกเจ้า’ (ข้อ 25) นี่เป็นพระสัญญาที่ดีเลิศ โดยเฉพาะกับผู้ที่รู้สึกเหมือนชีวิตถูกตั๊กแตนกัดกิน
ดังที่ จอยซ์ ไมเยอร์ กล่าวไว้ พระเจ้าสัญญากับเราว่า ‘จะให้เราเป็นสองเท่าสำหรับปัญหาที่เจอ’ พระองค์ทรงฟื้นฟู ไถ่ สร้างชีวิตเราขึ้นใหม่ และชุบชีวิตเราด้วยพระวิญญาณของพระองค์ พระองค์สัญญาว่า ‘จะมีน้ำองุ่นหยดออกจากภูเขาทั้งหลายและมีน้ำนมไหล มาจากบรรดาเนินเขา และจะมีน้ำไหลจากห้วยทั้งหมดของยูดาห์ และจะมีน้ำพุ ออกจากพระนิเวศน์ของพระยาเวห์’ (3:18, ดู ยอห์น 7:37–39)
นี่คือข่าวดีที่น่าอัศจรรย์ที่เราสามารถนำไปเล่าให้คนที่ยังอยู่ในหุบเขาแห่งการตัดสินใจได้
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่พระองค์จะรื้อฟื้นเดือนปีที่ตั๊กแตนกัดกินไป และทรงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงบนข้าพระองค์ โปรดเติมเต็มข้าพระองค์อีกครั้งในวันนี้
Pippa Adds
โยเอล 2:28
‘คือเราจะเทวิญญาณของเรามาเหนือมนุษย์ทุกคน’
นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการในวันนี้ ทั้งตัวฉันเอง ครอบครัวของฉัน คริสตจักร และในโลกนี้…
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

The Holy Spirit: God Through Us

BE a PILLAR

Journey Through Esther

Fatherless No More: Discovering God’s Father-Heart

The Creator's Battle: Winning the Inner War for Your Art

When Tithing Feels Impossible: 3 Truths That Free You From Financial Guilt

What Is "The Way of Christ?"

Read the Bible Effectively

When You Are the Problem: The Courage to Look in the Mirror When Your Church Is in Crisis
