พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

อธิษฐานอย่างไร
การอธิษฐานเป็นกิจกรรมที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ เป็นแนวทางหลักในการพัฒนาความสัมพันธ์กับพระบิดาในสวรรค์ ถ้าคุณรักใครซักคน คุณมักจะต้องการใช้เวลาอยู่ต่อหน้าเขาเพื่อสื่อสารกับเขาเป็นเช่นเดียวกันในทุก ๆ ความสัมพันธ์ ซึ่งการสื่อสารก็มีได้หลายรูปแบบ แลนสล็อต แอนดรูว์ส (1555–1626) เป็นหนึ่งในนักศาสนศาสตร์และนักเทศน์ผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากที่เขาเสียชีวิต สมุดบันทึกส่วนตัวของเขาเกี่ยวกับคำอธิษฐานก็ถูกค้นพบและตีพิมพ์ ในนั้นเขาได้เขียนสองรายการ: ประการแรก เขาบันทึก*ช่วงเวลา*อธิษฐานที่ปรากฏในพระคัมภีร์: ‘เสมอ... อย่างไม่หยุดหย่อน... ตลอดเวลา... วันละสามครั้ง... เช้า สาย บ่าย เย็น... เจ็ดครั้งต่อวัน... ช่วงเช้า ก่อนเริ่มต้นวัน... ตอนรุ่งสาง... ชั่วโมงที่สามของวัน... ประมาณชั่วโมงที่หก... ชั่วโมงอธิษฐาน ที่เก้า... ตอนเย็น... กลางคืน... ในเวลาเที่ยงคืน...’ จากนั้น เขาได้บันทึกรายการ*สถานที่*อธิษฐานในพระคัมภีร์: ‘ในที่ประชุม...และการชุมนุม... ตู้เสื้อผ้าของคุณ... ห้องชั้นบน... หลังคาบ้าน... พระวิหาร... บนฝั่ง... สวน... บนเตียงของพวกเขา... ถิ่นทุรกันดาร... ในทุกที่...’ ไม่มีการจำกัดเวลา สถานที่ และวิธีต่าง ๆ ที่คุณสามารถอธิษฐานได้สดุดี 119:49-56
พระวจนะของพระเจ้า เพลง และคำอธิษฐานในยามค่ำคืน
การอธิษฐานเป็นการสื่อสารสองทาง การอธิษฐานเกี่ยวข้องกับการฟังพระเจ้าและพูดกับพระองค์ วิธีหลักที่เราได้ยินพระเจ้าในวันนี้คือผ่านทางพระวจนะของพระองค์ พระเยซูเป็นพระคำของพระเจ้า (ยอห์น 1:1) และพระคัมภีร์เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระองค์ ในขณะที่คุณศึกษาพระคัมภีร์ อธิษฐานขอพระเจ้าตรัสกับคุณผ่านทางนั้น
สิ่งนี้จะให้ ‘ความหวัง’ แก่คุณ (สดุดี 119:49) ท่ามกลางความยากลำบากทั้งหมดของชีวิต: ‘ถ้อยคำเหล่านี้ฉุดรั้งข้าพเจ้าไว้ในยามเลวร้าย ใช่แล้ว คำสัญญาของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้ากระปรี้กระเปร่า’ (ข้อ 50, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คุณจะพบการปลอบโยนผ่านพระวจนะของพระเจ้าที่มีต่อคุณ (ข้อ 52)
ถ้อยคำเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้เรานมัสการพระเจ้า: ‘กฎเกณฑ์ของพระองค์ได้เป็นบทเพลงของข้าพระองค์’ (ข้อ 54) เพลงนมัสการที่มีชื่อเสียงหลายเพลงมีพื้นฐานมาจากถ้อยคำในพระคัมภีร์
คุณไม่จำเป็นต้องจำกัดการอธิษฐานของคุณในเวลากลางวัน ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ ในยามค่ำคืนข้าพระองค์ระลึกถึงพระนามของพระองค์’ (ข้อ 55 ก): นี่เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งในการใช้เวลาขณะที่ยังคงตื่นตัวในช่วงกลางคืน อาจเป็นวิธีรักษาอาการนอนไม่หลับได้ด้วย!
ข้าแต่พระเจ้า โปรดตรัสกับข้าพระองค์ในวันนี้ด้วยพระวจนะของพระองค์ โปรดประทานความหวังและการปลอบโยนแก่ข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์อธิษฐาน
1 ทิโมธี 2:1-15
ร้องทูล อธิษฐาน วิงวอน ขอบพระคุณ และสรรเสริญ
ความสำคัญอันดับแรกของคุณคืออะไร? เปาโลเขียนว่า ‘สิ่งแรกที่ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านทำคือการอธิษฐาน อธิษฐานทุกวิถีทางที่ท่านรู้ เพื่อทุกคนที่ท่านรู้จัก’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
คุณเคยบ่นเกี่ยวกับรัฐบาลหรือนักการเมืองของคุณหรือไม่? หากคุณต้องการรัฐบาลที่ดี คุณต้องอธิษฐานเผื่อสิ่งนั้น เปาโลจัดลำดับความสำคัญของการอธิษฐาน ‘เพื่อกษัตริย์ทั้งหลายและทุกคนที่มีตำแหน่งสูง เพื่อเราจะได้ดำเนินชีวิตอย่างสงบและมีสันติในทางพระเจ้า และเป็นที่นับถือ’ (ข้อ 2)
หากคุณอาศัยอยู่ในประเทศที่มีรัฐบาลที่ค่อนข้างมั่นคง จงขอบคุณพระเจ้า และอธิษฐานเผื่อความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ในโลกส่วนใหญ่ผู้คนต้องทนทุกข์ทรมานจากรัฐบาลที่ไม่มั่นคงและการปกครองแบบเผด็จการ หลักนิติธรรมมีความสำคัญสูงในคำอธิษฐานของอัครสาวกเปาโล
เมื่อมีการปกครองที่ดีและสงบสุข จะทำให้การเผยแพร่พระกิตติคุณง่ายขึ้นและทำให้คนจำนวนมากได้ยินข่าวดีนั้น ‘การกระทำเช่นนี้เป็นการดี และเป็นที่ชอบพระทัยของพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระองค์ทรงประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดและรู้ความจริง’ (ข้อ 3–4) พระเจ้ารักมนุษย์ทุกคน ไม่มีใครเลยที่พระเจ้ากำหนดให้หลงทาง พระเจ้าต้องการให้ทุกคนได้รับความรอด
พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อเราทุกคน พระองค์ทรง 'ประทานพระองค์เองเป็นค่าไถ่สำหรับทุกคน' (ข้อ 6) นี่เป็นบทสรุปที่สวยงามในพระราชกิจของพระเยซู โดยผ่านการทรงไถ่ของพระองค์ จึงทำให้ทุกคนสามารถมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระบิดาได้
อธิษฐาน ‘เผื่อทุกคนที่คุณรู้จัก’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ซึ่งรวมถึงครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน และใครก็ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเร้าใจให้คุณอธิษฐาน
เป็นที่น่าสังเกตว่ามีความคาดหวังว่าผู้คนจะยกมือขึ้นในการอธิษฐาน ‘ไม่ยกหมัดที่โกรธแค้นใส่ศัตรู แต่ยกมืออันบริสุทธิ์ต่อพระเจ้า’ (ข้อ 8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ถือเป็นเรื่องปกติที่คริสเตียนเช่นเดียวกับชาวยิวจะยกมือขึ้นในการอธิษฐาน (ข้อ 8)
นี่เป็นรูปแบบการอธิษฐานแบบดั้งเดิม ผมมักจะหยอกว่า ‘ถ้าคุณเข้าไปในคริสตจักรและเห็นทุกคนยกมือต่างพูดว่า "นี่คือคริสตจักรแบบดั้งเดิมที่นมัสการตามแบบโบราณ" ถ้าพวกเขาทุกคนเอามือลงข้างตัวก็ไม่เป็นไรเช่นกัน แค่พูดว่า "นี่คือคริสตจักรที่ทันสมัย และกำลังทดลองนมัสการในรูปแบบใหม่!"’
มีส่วนที่ยากจะอธิบายในตอนท้ายของข้อพระคัมภีร์ในวันนี้ (ข้อ 9–15) การตีความข้อนี้หลายครั้งไม่สอดคล้องกับพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ซึ่งชัดเจนว่าสตรีมีบทบาทเป็นผู้นำในคริสตจักร เปาโลพูดถึงสตรีในฐานะอัครสาวกและมัคนายก (โรม 16) เปาโลคาดหวังให้พวกเขาอธิษฐานและเผยพระวจนะในที่ประชุม (1 โครินธ์ 11)
เปาโลยังเขียนอีกว่าพระคริสต์ทรงยุติความแตกแยกและอคติเกี่ยวกับเพศ ในพระคริสต์ ‘ไม่มี... ชายหรือหญิง’ (กาลาเทีย 3:28) ในพันธกิจของพระเยซูเราได้อ่านเรื่องของมารีย์แห่งเบธานีนั่งแทบพระบาทของพระเยซู กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเธอเข้าร่วมกับพวกผู้ชายในการเป็นสาวกและเป็นผู้เรียน (ลูกา 10:38–42)
ประเด็นพื้นฐานของเปาโล คือการยืนกรานว่าผู้หญิงต้องได้รับอนุญาตให้เรียนรู้ (1 ทิโมธี 2:11) และได้รับการศึกษาในฐานะคริสเตียน การที่จะทำเช่นนั้นได้พวกเขาจำเป็นต้องถ่อมใจและไม่อยู่เหนือกว่ากระบวนการ เปาโลใช้คำว่า ‘สิทธิอำนาจ’ (authentein) ซึ่งถูกนำมาใช้ในที่อื่น ๆ สำหรับรูปแบบการเป็นผู้นำที่โหดเหี้ยมหรือใช้อำนาจเหนือ ดังนั้นอาจหมายถึงประเด็นเฉพาะในที่ประชุมนี้มากกว่าที่จะเป็นความคิดเห็นทั่วไปเกี่ยวกับความเป็นผู้นำของผู้หญิง
ตามที่พระคัมภีร์ฉบับ The Message ระบุไว้ว่า ‘ข้าพเจ้าต้องการให้ผู้หญิงเข้าไปที่นั่นพร้อมกับผู้ชายด้วยความนอบน้อมต่อพระพักตร์พระเจ้า... ทำสิ่งที่สวยงามเพื่อพระเจ้าและสวยงามเมื่อทำมัน’ (ข้อ 9–10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์เป็นพิเศษในวันนี้เพื่อผู้มีอำนาจ ขอให้กฎแห่งธรรมบัญญัติได้รับการสถาปนาขึ้นและให้ผู้คนสามารถดำเนินชีวิตอยู่อย่างสงบสุขในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์
เยเรมีย์ 35:1-37:21
ฟังพระเจ้าและอธิษฐานเผื่อผู้อื่น
คุณเคยรู้สึกท้อแท้กับความจริงที่ว่าหลายคนไม่สนใจที่จะฟังพระวจนะของพระเจ้าและเชื่อฟังหรือไม่?
พระเจ้าตรัสกับเยเรมีย์ เยเรมีย์จึงกล่าวว่าพระเจ้า ‘เริ่มตรัสกับ [เขา] ตั้งแต่รัชสมัยของโยสิยาห์’ (36:2) เยเรมีย์บอกบารุคว่า ‘พระวจนะทั้งหมดที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเขา’ (ข้อ 4)
ครั้งแล้วครั้งเล่า ‘พระวจนะของพระเจ้ามาถึงเยเรมีย์’ (ตัวอย่างเช่น ในข้อ 35:1,12; 36:1,27; 37:6) สันนิษฐานว่าเยเรมีย์ได้ยินพระวจนะของพระเจ้าขณะที่เขากำลังอธิษฐาน
เยเรมีย์กระตุ้นให้ผู้คนฟังพระเจ้า พระเจ้าตรัส ‘ครั้งแล้วครั้งเล่า’ (35:14) พระเจ้าตรัสว่า ‘นี่แน่ะ! ... เราพูดกับพวกเขาแต่เขาไม่ฟัง’ (ข้อ 17)
แม้ว่าพระเจ้าตรัสผ่านเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะของพระองค์ กษัตริย์เยโฮยาคิมก็ยังปฏิเสธที่จะฟังคำเตือนของที่ปรึกษาของพระองค์ (36:25) เยเรมีย์เขียนพระวจนะของพระเจ้าไว้บนม้วนหนังสือด้วยปากกาขนนกและหมึกอย่างระมัดระวัง แต่เยโฮยาคิมซึ่งนั่งอยู่หน้าเตาผิงที่ถ่านกำลังอุ่นอยู่ ได้ตัดม้วนหนังสือทั้งหมดแล้วเผาทีละชิ้น (ข้อ 23)
เยเรมีย์คงเสียใจมากที่ได้ยินสิ่งที่กษัตริย์ทรงกระทำกับงานทั้งหมดที่เขาทุ่มเททำอย่างหนัก พระเจ้าบอกให้เยเรมีย์ ‘ทำใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง’ (ข้อ 28, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาไม่ได้เกลียดชังจากการถูกปฏิเสธ เราเองก็เช่นเดียวกันต้องเต็มใจที่จะดำเนินต่อไปแม้ว่าสิ่งที่เราสื่อสารไปจะถูกปฏิเสธ: ‘ทำใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง’
ภัยพิบัติมาถึง 'เพราะพวกเขาไม่ฟัง' (ข้อ 31) เมื่อเศเดคียาห์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ ‘แต่ท่านเอง และข้าราชการของท่าน และประชาชนแห่งแผ่นดิน ไม่ได้ฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์ ซึ่งพระองค์ตรัสผ่านทางเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะ’ (37:2) พวกเขาดูหมิ่นเยเรมีย์และถ้อยคำของเขา แต่ทั้ง ๆ ที่ไม่ยอมฟัง ผู้มีอำนาจก็ตระหนักถึงพลังของคำอธิษฐานของเยเรมีย์ กษัตริย์เศเดคียาห์ส่งข้อความถึงเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะ: ‘ขออธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราเพื่อเรา’ (ข้อ 3)
ต่อมาเขาถูกจับ โบยตี และคุมขัง (ข้อ 14–15) เขา ‘ถูกขังอยู่ในคุกมืด และอยู่ที่นั่นหลายวัน’ (ข้อ 16) แต่เมื่อเขาถูกนำตัวออกจากคุกเพื่อไปเฝ้ากษัตริย์และถูกถามว่า ‘มีพระวจนะมาจากพระยาห์เวห์บ้างหรือไม่?’ (ข้อ 17) เขามีความกล้าหาญที่จะพูดออกมาอีกครั้ง ขีวิตเขาอยู่ขึ้นกับความเมตตาของกษัตริย์ แต่เขาก็ไม่กลัว
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงโปรดช่วยให้ข้าพระองค์ตั้งใจฟังถ้อยคำของพระองค์ และมีความกล้าที่จะพูดโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา
Pippa Adds
เยเรมีย์ 37:15
‘และบรรดาเจ้านายก็เดือดดาลต่อเยเรมีย์ และพวกเขาก็ตีท่านและขังท่านไว้ในบ้านของโยนาธานเลขานุการ ซึ่งได้ทำให้เป็นคุก’
เยเรมีย์ไม่เคยได้เจองานง่ายๆ เลย เขาถูกเรียกให้เตือนชาวยิวถึงความพินาศที่จะมาถึง และก็แทบจะไม่มีใครฟัง
มันไม่ง่ายเลยที่จะต่อต้านกระแสน้ำ เยเรมีย์เป็นแบบอย่างและหนุนใจให้เราก้าวต่อไปแม้ในยามยากลำบาก
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

The Creator's Battle: Winning the Inner War for Your Art

The Holy Spirit: God Through Us

What Is "The Way of Christ?"

When God Makes Things Right: A 5-Day Devotional on Nahum

Read the Bible Effectively

HomeFirst: Finding Balance, Embracing Ease, and Living a Christ-Centered Life

BE a PILLAR

When Tithing Feels Impossible: 3 Truths That Free You From Financial Guilt

Journey Through Esther
