YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 289 OF 365

การตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของฉัน

ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1974 ผมกำลังเผชิญกับการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต ผมมั่นใจผ่านการอ่านพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าจริง ๆ แต่ผมไม่ต้องการเป็นคริสเตียนเพราะกลัวว่าจะสูญเสียอิสรภาพ สิ่งสุดท้ายที่ผมเชื่อมโยงกับความเชื่อคือความรักและเสรีภาพ ผมเชื่อมโยงความเชื่อกับ*การสูญเสีย*อิสรภาพของตัวผมเอง ผมคิดว่าพระเจ้าคงอยากให้ผมเลิกทำทุกสิ่งที่สนุกสนานและมีความสุข อันที่จริง ผมได้ค้นพบตลอดสี่สิบปีที่ผ่านมาว่าความเชื่อ*นำไปสู่*อิสรภาพและความรักที่แท้จริง ความรัก ความเชื่อ และเสรีภาพนั้นผูกพันกันอย่างแยกไม่ออก

สดุดี 119:41-48

ไว้วางใจในพระวจนะของพระเจ้า

‘ขอความรักมั่นคงของพระองค์มาถึงข้าพระองค์’ (ข้อ 41ก) ผู้เขียนสดุดีคร่ำครวญออกมาขณะที่เขาเริ่มต้นบทเพลงสดุดี 119 ‘ขอให้ความรักของพระองค์ทรงหล่อหลอมชีวิตข้าพระองค์’ (ข้อ 41ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และจบลงด้วยการตอบสนองด้วยความรัก: ‘ข้าพระองค์จะรักษาพระบัญญัติของพระองค์ - โอ้ ข้าพระองค์รักสิ่งเหล่านั้น! – ข้าพระองค์ยินดีในคำแนะนำของพระองค์’ (ข้อ 47ข–48, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เขาได้กล่าวถึง ความเชื่อของเขาในพระวจนะของพระเจ้าที่ประกาศว่า ‘แล้วข้าพระองค์จะมีคำตอบให้ผู้ที่เยาะเย้ยข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์วางใจในพระวจนะของพระองค์’ (ข้อ 42) ความไว้วางใจและความเชื่อแทบจะเป็นคำที่มีความหมายเดียวกัน

ผู้คนที่มีความเชื่อนั้นถูกเยาะเย้ยเหมือนเช่นเคย แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จงวางใจในพระวจนะของพระเจ้าต่อไป ความไว้วางใจนี้ช่วยให้คุณตอบสนองต่อการเยาะเย้ยด้วยความมั่นใจ

ขอให้พระเจ้าเปิดเผยความรักมั่นคงของพระองค์แก่คุณมากขึ้นเรื่อย ๆ (ข้อ 41) ตอบสนองด้วยความรัก (ข้อ 47–48) ความไว้วางใจ ความหวัง และการเชื่อฟัง (ข้อ 42–44) แสวงหาหนทางของพระเจ้าผ่านพระคัมภีร์ แล้วคุณจะพบเสรีภาพที่แท้จริงและสามารถพูดได้ว่า ‘ข้าพระองค์จะก้าวไปอย่างอิสระ ขณะที่ข้าพระองค์มองหาความจริงและสติปัญญาของพระองค์’ (ข้อ 45, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ข้าแต่พระเจ้า ขอให้ข้าพระองค์ได้มีประสบการณ์ในความรักมั่นคงของพระองค์ และตอบสนองด้วยความรักต่อผู้คนที่ข้าพระองค์ได้พบและพูดคุยด้วย เมื่อข้าพระองค์วางใจในพระองค์และพระวจนะของพระองค์ ขอให้ข้าพระองค์เดินในเสรีภาพ

1 ทิโมธี 1:1-20

ยึดมั่นในความเชื่อ

อัครสาวกเปาโลมีหน้าที่นำทิโมธีให้เชื่อในพระเยซูและเป็นบิดาฝ่ายวิญญาณของทิโมธีด้วย วิธีการนี้ เป็นเช่นเดียวกับพ่อที่ดีคนอื่น ๆ เปาโลเป็นห่วงทิโมธีและต้องการให้เขาได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เปาโลได้บรรยายถึงทิโมธีซึ่งเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงเขาว่าเป็น ‘บุตรที่แท้จริงของข้าพเจ้าในความเชื่อ’ (ข้อ 2)

ทิโมธียังกลายเป็นผู้นำ ศิษยาภิบาล และครูอีกด้วย เปาโลให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเป็นผู้นำและวิธีจัดการกับปัญหาในคริสตจักร สิ่งเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับพวกเราทุกคนในทุกวันนี้

การทำพระราชกิจของพระเจ้าโดยความเชื่อ (ข้อ 4): ‘เป้าหมายของการกำชับนั้นก็คือ ความรักที่มาจากใจที่บริสุทธิ์ จากมโนธรรมที่ดี และจากความเชื่อที่จริงใจ’ (ข้อ 5) ความรักและความเชื่อควรมาคู่กันเสมอ

เปาโลได้แจกแจงรายการความบาปต่าง ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงทุกวิถีทาง (ข้อ 8–11) กลุ่มคนเหล่านี้เปรียบเหมือนการค้าทาส (ข้อ10) การเป็นทาสเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับเสรีภาพและการค้ามนุษย์เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ

เปาโลยังได้กล่าวคำพยานของตนเองว่าความเชื่อ ความรัก และเสรีภาพนั้นถูกเชื่อมโยงกัน เมื่อก่อนเขาเป็น ‘คนหมิ่นพระเกียรติ ข่มเหง และทำการรุนแรง’ (ข้อ 13) เขาอธิบายตัวเองว่าเป็น ‘ตัวเอ้’ (ข้อ 16)

ผมพบว่า น่าสนใจที่ได้เห็นความก้าวหน้าในแบบที่อัครสาวกเปาโลบรรยายถึงตนเอง:

  • ก่อนหน้านี้ เขาพรรณนาว่าตนเองเป็น ‘ผู้เล็กน้อยที่สุดในพวกอัครทูต’ ซึ่งไม่ ‘สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นอัครทูต’ (1 โครินธ์ 15:9)

  • ต่อมา ท่านกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าจะเป็นคนเล็กน้อยยิ่งกว่าคนเล็กน้อยที่สุดในพวกธรรมิกชนทั้งหมด’ (เอเฟซัส 3:8)

  • ตอนนี้ เขาบรรยายตัวเองว่าเป็น ‘ตัวเอ้’ (1 ทิโมธี 1:16)

ดูเหมือนว่ายิ่งเขาเติบโตขึ้นในความสัมพันธ์กับพระเจ้าและยิ่งเข้าใกล้ความสว่างของพระคริสต์มากขึ้น เขาก็ยิ่งเห็นความไม่มีค่าที่คู่ควรของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น ผมคิดว่าบ่อยครั้งเป็นความจริงที่เมื่อเราดำเนินชีวิตคริสเตียนต่อไป จิตสำนึกในบาปของเราเพิ่มขึ้น และความซาบซึ้งต่อการให้อภัย ความรัก และความเมตตาของพระเจ้าก็เติบโตขึ้น

ความรู้สึกผิดอย่างแท้จริงไม่ใช่ความรู้สึกที่ไม่ดี หากตามมาด้วยการกลับใจและการให้อภัย นักศาสนศาตร์ชาวสก็อต พี.ที. ฟอร์ไซธ (1848–1921) เคยกล่าวไว้ว่า ‘คริสตจักรของเราเต็มไปด้วยผู้คนที่ดีและใจดีที่สุดที่ไม่เคยรู้จักความสิ้นหวังของความรู้สึกผิดหรือการยกโทษให้กับคนที่ไม่น่าให้อภัย’

พระเยซูคริสต์ทรงปลดปล่อยเราให้มีเสรีภาพ: ‘พระเยซูคริสต์เสด็จมาในโลก เพื่อทรงช่วยคนบาปให้รอด และในพวกคนบาปนั้นข้าพเจ้าเป็นตัวเอ้’ (ข้อ 15) ความรอดหมายถึงเสรีภาพที่เกิดขึ้นโดยพระคุณ ดังนั้นจงยินดีในเสรีภาพและพระคุณ แทนที่จะจมปลักอยู่กับอดีต: ‘พระคุณพร้อมด้วยความเชื่อและความรักหลั่งไหลมาเหนือข้าพเจ้าและในตัวข้าพเจ้า และทั้งหมดเป็นเพราะพระเยซู’ (ข้อ 14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ความรักแบบคริสเตียนเกิดจากความรักที่พระเจ้ามีต่อคุณ ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์เทลงในหัวใจของคุณ (โรม 5:5) มันเป็นมากกว่าแค่อารมณ์ความรู้สึก ความรักแบบคริสเตียนไม่ได้ตกอยู่ภายใต้อารมณ์ความรู้สึกของคุณ แต่อยู่ภายใต้เจตจำนงของคุณ ความรักคืออารมณ์ 10% ความเข้าใจ 20% เจตจำนง 70%

เปาโลเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่น ๆ ที่จะเชื่อในพระเยซูคริสต์และได้รับชีวิตนิรันดร์ (1 ทิโมธี 1:16) ‘การเชื่อในพระองค์’ เป็นการกระทำของความเชื่อ

การแสดงออกทางความเชื่อนั้นต้องตามมาด้วยชีวิตแห่งความเชื่อ ดังนั้นเปาโลจึงกระตุ้นให้ทิโมธี ‘ต่อสู้อย่างดีที่สุด ยึดมั่นในความเชื่อ’ (ข้อ 18–19) ท่านเตือนคนอื่น ๆ ‘ความเชื่อของพวกเขาอับปางลง’ (ข้อ 19) คำแนะนำนี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญสำหรับเราทุกคนในการ ‘ทำตามเปาโล’ และ ‘ฝึกฝนทิโมธี’

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่แม้ว่าเปาโลจะเคยเป็น ‘ตัวเอ้’ แต่พระองค์ก็ปลดปล่อยเขาให้มีอิสระที่จะใช้ชีวิตแห่งความรัก ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงทำเช่นนั้นต่อข้าพระองค์ และทุกคนที่เชื่อในพระเยซู

เยเรมีย์ 32:26-34:22

จงวางใจในพระเยซู

บิลลี่ เกรแฮม ได้เขียนไว้ว่า ‘อะไรก็ตามที่คุณรักมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกีฬา ความพึงพอใจ ธุรกิจ หรือพระเจ้า นั่นคือพระเจ้าของคุณ!’ การล่อลวงอย่างต่อเนื่องของโลกคือการแบ่งใจของเรา แต่พระเจ้ากำลังมองหาคนที่มีใจเดียว พระเจ้าเองทรงยินดีในการทำดีต่อเราด้วยสุดใจและสุดจิต (32:41) แน่นอนหรือไม่ว่าเราสามารถตอบแทนความรักของพระองค์ได้โดยรับใช้พระองค์ด้วยสุดใจและสุดจิต ด้วยความจริงใจ?

ความรักของพระเจ้าดำรงอยู่เป็นนิตย์ (33:11) พระองค์รักคุณ พระองค์ปรารถนาให้คุณเดินในความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์ พระองค์ทรงผิดหวังอย่างยิ่งเมื่อผู้คนของพระองค์ ‘หันหลังให้กับเรา - จะไม่แม้แต่มองหน้าเราด้วยซ้ำ!’ (32:33, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระองค์ทรงปรารถนาเวลาที่พวกเขาจะเกี่ยวข้องกับพระองค์ ‘เราจะให้ใจเดียวและทางเดียวแก่เขา’ (ข้อ 39)

พระเจ้าต้องการสื่อสารความรักที่พระองค์มีต่อคุณ : ‘จงทูลเรา และเราจะตอบเจ้า และจะบอกสิ่งยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเจ้าไม่รู้นั้นแก่เจ้า’ (33:3) พระองค์ต้องการนำการเยียวยาและการรักษามาให้คุณ (ข้อ 6ก) พระองค์ต้องการให้คุณมีสวัสดิภาพและความมั่นคง (ข้อ 6ข) พระองค์ต้องการชำระคุณให้พ้นจากความผิดบาปทั้งหมดที่คุณได้ทำและยกโทษให้คุณอย่างสมบูรณ์ (ข้อ 8)

พระองค์ต้องการให้คุณมีอิสระจากการเป็นเชลย (ข้อ 7) พระองค์ต้องการนำความปีติยินดีมาสู่คุณ (ข้อ 11) ทั้งหมดนี้จะส่งผลให้เกิดชื่อเสียง ความยินดี การสรรเสริญ และเกียรติแด่พระเจ้า (ข้อ 9) มันจะนำไปสู่การขอบพระคุณ: ‘จงขอบพระคุณพระยาห์เวห์จอมทัพ เพราะพระยาห์เวห์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์’ (ข้อ 11)

พระเจ้าต้องการให้คนของพระองค์เป็นอิสระ เยเรมีย์ถูกจับกุม (ข้อ 1) ซึ่งขัดกับพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับประชากรของเขา พระเจ้าต้องการปลดปล่อยประชากรของพระองค์จากการเป็นเชลยและการถูกเนรเทศไปสู่ที่ที่พวกเขาควรจะไป ในแง่ของพระคัมภีร์ภาคฝพันธสัญญาใหม่ การฟื้นฟูและการไถ่จากการถูกเนรเทศได้สำเร็จในที่สุดโดยความเชื่อในพระเยซู และเสรีภาพที่พระองค์นำมาจากการตกเป็นเชลยของบาป

พระเจ้ายังคงสนใจเกี่ยวกับการถูกจองจำทางร่างกาย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการเป็นทาสจึงเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายอย่างยิ่ง ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมเราเห็นสัญญาณบางอย่างเกี่ยวข้องกับการที่พระเจ้าไม่ยอมรับการเป็นทาส พระองค์ทรงบอกให้เยเรมีย์ ‘ประกาศพระราชกฤษฎีกาเรื่องอิสรภาพแก่เขาทั้งหลาย’ (34:8) ในตอนแรกผู้คนตอบสนองโดยปล่อยทาสของตนให้เป็นอิสระ แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็เปลี่ยนใจและจับพวกเขากลับคืนมา (ข้อ 10–11) พระเจ้าไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกเขาอย่างยิ่ง

พระเจ้าตรัสว่า ‘พวกเจ้าไม่ได้เชื่อฟังเรา ที่ให้ประกาศอิสรภาพแก่พี่น้องและเพื่อนบ้านของตน พระยาห์เวห์ตรัสว่า นี่แน่ะ เราจะประกาศ "อิสรภาพ" แก่พวกเจ้า… "อิสรภาพ" ด้วย ดาบ โรคระบาด และการกันดารอาหาร เราจะทำให้เจ้าเป็นที่หวาดกลัวแก่บรรดาราชอาณาจักรของแผ่นดินโลก’ (ข้อ 17) ‘อิสรภาพ’ นี้เป็นอิสรภาพเท็จที่เรามักพบเห็นในโลกปัจจุบัน อิสรภาพในการทำบาปนำไปสู่ความพินาศ แต่อิสรภาพที่พระเจ้าต้องการนำเข้ามาในชีวิตของคุณจะนำไปสู่ชีวิตแห่งความเชื่อและความรัก นี่คืออิสรภาพที่แท้จริง

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์สำหรับอิสรภาพที่พระองค์นำมาสู่ชีวิตของข้าพระองค์ บัดนี้ข้าพระองค์หันกลับมาหาพระองค์ ข้าพระองค์ต้องการร้องทูลต่อพระองค์และได้ยินเสียงของพระองค์ - เพื่อจะเข้าใจสิ่งที่ยิ่งใหญ่และไม่สามารถค้นหาได้ ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์รับใช้พระองค์ในวันนี้ด้วยความจริงใจ เพื่อขอบพระคุณสำหรับความดีทั้งหมดของพระองค์และสำหรับความรักของพระองค์ซึ่งคงอยู่เป็นนิตย์

Pippa Adds

เยเรมีย์ 32:27

เมื่อเผชิญกับเรื่องใหญ่ในชีวิต หนุนใจให้อ่านพระคำข้อนี้ ‘มีสิ่งใดที่ยากเกินสำหรับเราหรือ?’

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More