พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

ชีวิตของผู้นำ
ความเป็นผู้นำที่ดีมีความสำคัญเสมอในทุกที่และในทุกด้านของชีวิต แต่ความเป็นผู้นำที่ดีนั้น คือ อะไร? ‘ภาวะผู้นำ คือการผสมผสานระหว่างกลยุทธ์และลักษณะชีวิต แต่ถ้าจะขาดสิ่งหนึ่งไป สิ่งนั้นควรเป็นกลยุทธ์’ นี่คือคำพูดของนายพล นอร์มัน ชวาร์สคอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังในสงครามอ่าวปี 1991 ลักษณะชีวิตคือสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง จะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถนับได้ในตอนจบ เราสร้างความแตกต่างในคริสตจักรของเราระหว่างผู้ที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำกับผู้ที่ ‘กำลังเข้ามา’ เรายินดีต้อนรับทุกคนโดยไม่คำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของพวกเขา เรามีประตูหน้าบ้านขนาดใหญ่ ทุกคนต่างยินดีต้อนรับ คริสตจักรไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงชีวิตคนที่สมบูรณ์แบบ แต่ในความหมายเดิมหมายถึงที่นี่เป็นดั่งโรงพยาบาล อันเป็นสถานที่แห่งการต้อนรับและการฟื้นฟู เป็นที่ที่ผู้มีบาดแผล เจ็บปวด แตกสลาย และบาดเจ็บได้รับการรักษา เป็นชุมชนของคนบาป ในทางกลับกัน เราจะไม่วางคนให้อยู่ในตำแหน่งผู้นำหากวิถีชีวิตของพวกเขาตรงกันข้ามกับพันธสัญญาใหม่ ภาวะผู้นำไม่ได้เป็นเพียงหน้าที่เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบในการใช้ชีวิต เป็นแบบอย่าง ให้ผู้อื่น ผู้นำเป็นแบบอย่างของชุมชน แน่นอนว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ คุณไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบเพื่อจะเป็นแบบอย่าง แต่อย่างไรก็ตามเราควรพยายามให้แน่ใจว่าวิถีชีวิตและลักษณะความเป็นผู้นำของเรานั้นสอดคล้องกับพันธสัญญาใหม่สดุดี 119:57-64
ผู้นำนมัสการ
‘การทดสอบที่แท้จริงในยุคนี้’ ตามที่ จอห์น วิมเบอร์ กล่าวไว้ ‘จะไม่ใช่งานเขียนและการผลิตเพลงนมัสการใหม่และยิ่งใหญ่อีกต่อไป การทดสอบที่แท้จริงจะเป็นความชอบธรรมและคุณลักษณะ ของผู้ที่ส่งมอบมัน’
ผู้ประพันธ์เพลงสดุดีเป็นผู้นำการนมัสการที่ดำเนินในความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า: ‘เพราะว่าพระองค์ทรงพอใจข้าพเจ้า ข้าพเจ้าสัญญาว่าจะทำทุกอย่างที่พระองค์ตรัส’ (ข้อ 57, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ผู้นำนมัสการที่แสวงหาพระพักตร์พระเจ้าด้วยสุดใจ (ข้อ 58) อยู่ในฐานะที่จะเป็นผู้นำชุมนุมเพื่อสรรเสริญพระเจ้า ผู้ประพันธ์เพลงสดุดีนั้นระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะรักษาชีวิตในวิถีทางของพระเจ้า ‘เมื่อข้าพระองค์คิดถึงทางของข้าพระองค์ ข้าพระองค์หันเท้าไปยังพระโอวาทของพระองค์’ (ข้อ 59)
แม้ในภาวะที่ต้องเผชิญความยากลำบากก็จงอย่าลืมกฎของพระเจ้า: ‘แม้บ่วงของคนอธรรมดักข้าพระองค์ ข้าพระองค์ก็ไม่ลืมธรรมบัญญัติของพระองค์’ (ข้อ 61)
บางครั้งแรงบันดาลใจก็มาตอนกลางดึก: ‘ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อขอบพระคุณ การตัดสินใจของพระองค์นั้นถูกต้อง เป็นความจริง – ข้าพเจ้ารอจนถึงเช้าไม่ไหวแล้ว!’ (ข้อ 62, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนการนมัสการ: ‘ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนและเป็นมิตรกับทุกคนที่เกรงกลัวพระเจ้า คนเหล่านั้นที่มุ่งมั่นในการดำเนินชีวิตตามกฎของพระองค์’ (ข้อ 63, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
นี่คือผู้นำการนมัสการที่ซาบซึ้งในความรักของพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง: ‘ข้าแต่พระเจ้า แผ่นดินโลกเต็มด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ ขอทรงสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพระองค์’ (ข้อ 64) ความรักที่พระเจ้ามีต่อคุณควรเป็นหัวใจของการนมัสการของคุณ
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์แสวงหาพระพักตร์ของพระองค์ในวันนี้ด้วยสุดใจ โปรดเมตตาข้าพระองค์ตามพระสัญญาของพระองค์ (ข้อ 58)
1 ทิโมธี 3:1-16
ผู้นำคริสตจักร
ในความหมายหนึ่งคริสเตียนทุกคนต่างก็เป็นผู้นำ หากความเป็นผู้นำเป็นเรื่องของการส่งอิทธิพล เราทุกคนต่างมีอิทธิพลในที่ทำงาน ที่บ้าน และในชุมชน แต่พระธรรมตอนนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นผู้นำในคริสตจักรโดยเฉพาะ
คริสตจักรควรเป็นเหมือนบ้าน มันคือ ‘ครอบครัวของพระเจ้า’ (ข้อ 15) การนำคริสตจักรก็เหมือนการนำครอบครัวใหญ่ เปาโลถามว่าผู้ที่ไม่สามารถนำครอบครัวของตนเองได้ พวกเขาจะสามารถเป็นผู้นำคริสตจักรได้อย่างไร (ข้อ 5)
ผู้นำที่ดีควรบริหาร บ้านเรือน ของตนเองได้ (ข้อ 4,12) (คำในภาษากรีกใช้คำเดียวกันกับ ครอบครัวของพระเจ้า - คริสตจักร) พวกเขาควรจะสามารถชี้แนะและเลี้ยงดูครอบครัวของตนเองด้วยปัญญา ความรัก และความซื่อสัตย์
เป็นที่น่าสนใจว่าคุณสมบัติเกือบทั้งหมดที่จำเป็นในการเป็นผู้ดูแลนั้นเหมือนกับคุณสมบัติที่ได้รับการส่งเสริมในแง่ของความเป็นพระเจ้าสำหรับคริสเตียนทุกคน โรเบิร์ต เมอร์เรย์ เอ็มไชน์ รัฐมนตรีชาวสก็อตเคยกล่าวไว้ว่า ‘ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประชาชนของผมคือความบริสุทธิ์ส่วนตัวของผมเอง’
รายการคุณลักษณะมีมากมาย (ข้อ 2) ผู้นำควร ‘เป็นคนที่ไม่มีที่ติ’ พวกเขาควรดำเนินชีวิตในลักษณะที่ไม่มีใครสามารถหาเหตุมากล่าวหาพวกเขาว่ากระทำความผิดได้
ถ้าพวกเขาแต่งงานแล้ว พวกเขาต้องซื่อสัตย์ต่อคู่แต่งงานของพวกเขา ความสัตย์ซื่อ ความจงรักภักดี ความน่าไว้วางใจเป็นกุญแจสำคัญในการเป็นผู้นำ และมันเริ่มต้นด้วยความซื่อสัตย์ในการแต่งงาน
พวกเขาต้อง ‘มีเหตุผล’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) การเป็นคริสเตียนไม่ได้หมายถึงการละทิ้งสามัญสำนึก แต่ค่อนข้างตรงกันข้าม การตัดสินใจในแต่ละวันส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับผู้นำที่เชื่อในพระเจ้าและเปี่ยมด้วยพระวิญญาณร่วมกันกับการอธิษฐานที่เกิดขึ้นโดยสามัญสำนึก
คำว่า ‘ผู้ดูแล’ บางครั้งแปลว่า ‘ผู้ปกครอง’ ไม่ผิดที่จะปรารถนาที่จะเป็นผู้ปกครอง ‘คำกล่าวนี้สัตย์จริง คือว่าถ้าใครปรารถนาหน้าที่ผู้ปกครองดูแลคริสตจักร คนนั้นก็ปรารถนากิจการงานที่ประเสริฐ’ (ข้อ 1)
ผมพบว่ามีความน่าสนใจที่ความแตกต่างอย่างหนึ่งระหว่างผู้ปกครองกับมัคนายกคือ ผู้ปกครอง ‘เขาจะต้องไม่ใช่คนที่เพิ่งกลับใจใหม่’ (ข้อ 6) สิ่งนี้ไม่ได้ถูกนำมาใช้กับการเป็นมัคนายก บางครั้งผู้คนก็วิพากษ์วิจารณ์หากมีการวางผู้เชื่อใหม่ไว้ในตำแหน่งผู้นำ - เช่นการนำกลุ่มเล็ก ๆ ในอัลฟ่า คำตอบที่ผมตอบเสมอคือ เราไม่ได้ขอให้พวกเขาเป็นผู้ปกครอง แต่เพื่อรับใช้ในกลุ่มย่อยของอัลฟ่าเท่านั้น!
เหตุผลที่เปาโลให้คำแนะนำว่าผู้ปกครองต้องไม่เป็นผู้ที่เพิ่งกลับใจใหม่ เพราะ ‘เกรงว่าเขาจะยโส และถูกลงโทษเช่นเดียวกับมาร’ (ข้อ 4–6) มารล้มลงด้วยความภาคภูมิใจ มีอันตรายสำหรับผู้นำคริสเตียนทุกคนที่จะตกอยู่ในความจองหองฝ่ายวิญญาณ
การทดสอบหามัคนายกคล้ายกับผู้ดูแลมาก มัคนายกหมายถึง ‘ผู้รับใช้’ อย่างแท้จริง เดิมทีพวกเขาเป็นคนจัดโต๊ะอาหาร (กิจการ 6:1–7) พระเยซูทรงจัดเตรียมแบบอย่างสำหรับการเป็นผู้นำที่เป็นผู้รับใช้ (มาระโก 10:35–45) อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวไว้ว่า ‘มีเพียงชีวิตที่อยู่เพื่อรับใช้ผู้อื่นเท่านั้นที่คุ้มค่าที่จะมีชีวิตอยู่’ หากการบริการอยู่ภายใต้คุณ ความเป็นผู้นำก็อยู่เหนือคุณ
ผู้นำที่เป็นผู้รับใช้เหล่านี้ และคู่แต่งงานของพวกเขา (1 ทิโมธี 3:11) ต้องเป็นคนที่เข้มแข็งและได้รับการพิสูจน์แล้ว นี่คือเหตุผลว่าทำไมกระบวนการคัดเลือกผู้นำคริสตจักรที่แต่งงานแล้วจึงควรเกี่ยวข้องกับทั้งสองฝ่าย พวกเขาควรคู่ควรแก่การเคารพ จริงใจ ไม่เมาสุรา ซื่อสัตย์ เปี่ยมด้วยศรัทธา ไว้วางใจได้ และซื่อสัตย์ในการแต่งงาน (ข้อ 8–12)
เหนือสิ่งอื่นใด ผู้นำต้องเป็นคนที่มีอุปนิสัยในพระเจ้า อันที่จริงคุณลักษณะเพียงอย่างเดียวที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับลักษณะชีวิตของเราโดยตรงคือ ‘เหมาะที่จะเป็นอาจารย์’ (ข้อ 2) ผู้นำคริสตจักรต้องเป็นคริสเตียนที่มีบุคลิกลักษณะดีและสามารถสอนได้
มาร์ก ทเวน พูดเหน็บแนมว่า ‘การทำสิ่งที่ถูกต้องนั้นวิเศษมาก การสอนสิ่งที่ถูกต้องนั้นวิเศษยิ่งกว่า – และง่ายกว่ามาก’ งานของการเป็นผู้นำของคริสเตียนคือการปรับชีวิตและอุปนิสัยของเราให้สอดคล้องกับการสอนของเรา นั่นคือความท้าทายสำหรับเราทุกคนและเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตเพื่อเป็นเหมือนพระเยซูผู้ทรงเป็นแบบอย่างของ ‘ความเป็นพระเจ้า’ (ข้อ 16)
แน่นอนว่าก่อนที่ใครก็ตาม (ผู้ปกครองหรือมัคนายก) จะได้รับตำแหน่งผู้นำที่สำคัญ พวกเขาต้องถูก ‘ทดลอง สอบสวน และพิสูจน์’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ความเชื่อที่ไม่ได้รับการทดสอบก็ไม่สามารถเชื่อถือได้ เราถูกทดสอบด้วยความยากลำบาก ความผิดหวัง และช่วงเวลาแห่งความแห้งแล้ง หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราเติบโต พัฒนาบุคลิกของเรา และทำให้เราพร้อมสำหรับการเป็นผู้นำ
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ด้วยพระวิญญาณของพระองค์ให้ดำเนินชีวิตตามมาตรฐานที่สูงส่งของพระองค์ และอยู่เหนือการตำหนิ
เยเรมีย์ 38:1-40:6
ผู้นำการเผยพระวจนะ
ความสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าและอุปนิสัยที่ดีไม่ได้รับประกันความเจริญรุ่งเรืองและชีวิตที่ปราศจากความเจ็บปวด อันที่จริงแล้วสำหรับเยเรมีย์นั้นกลับตรงกันข้ามกัน
เยเรมีย์เป็นผู้เผยพระวจนะที่มีชีวิตและอุปนิสัยเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเรา เขายังคงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า เขายังคงได้ยินพระวจนะของพระเจ้าและพูดออกมาแม้ว่าเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากมายก็ตาม
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาถูกข่มขู่ ถูกทำร้าย ขังคุก จองจำในคุกใต้ดิน แล้วโยนลงไปในบ่อโคลนเพื่อปล่อยให้อดตาย แต่เขายังคงฟังพระวจนะของพระเจ้าและพูดออกมาอย่างกล้าหาญ
โดยรวมแล้วผู้คนไม่ตอบสนอง เขาถูกเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง (38:4) เขาถูกประณามเนื่องจากทำลายขวัญกำลังใจและก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้คนที่เขาพยายามจะช่วย คุณเองก็ไม่ต้องแปลกใจหากได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกันนี้
เมื่อได้รับการช่วยเหลือจากบ่อแล้ว เยเรมีย์ก็ถูกนำตัวเข้าเฝ้ากษัตริย์เศเดคียาห์เป็นครั้งที่สี่ เศเดคียาห์เป็นชายที่ขาดกลัว เพราะความขี้ขลาดเศเดคียาห์เขาจึงไม่เชื่อฟังธรรมบัญญัติ (ข้อ 19) เขากลัวประชาชน เหมือนกับปีลาตที่ประณามพระเยซู
สี่ครั้งที่พระเจ้าตรัสกับเศเดคียาห์เพื่อพยายามช่วยเขาให้รอดจากผลที่ตามมาจากการกระทำของเขา ทุกครั้งที่เขาปฏิเสธที่จะเชื่อฟังด้วยความอ่อนแอ ในบทที่ 39 เราจะได้อ่านผลที่ตามมาซึ่งในที่สุดเยเรมีย์ก็ได้รับการพิสูจน์ (40:1–6)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงโปรดอวยพรและเสริมกำลังผู้นำคริสตจักรของเราในวันนี้ ขอให้วิถีชีวิต และลักษณะนิสัยของพวกเขา เป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกคนมีชีวิตที่ดีและเกิดผล
Pippa Adds
1ทิโมธี 3:11
‘ส่วนพวกผู้หญิงก็เหมือนกัน ต้องเป็นคนน่านับถือ ไม่ใส่ร้ายคนอื่น รู้จักประมาณตน ซื่อสัตย์ในทุก ๆ เรื่อง’
นี่คือความท้าทาย!
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

The Creator's Battle: Winning the Inner War for Your Art

The Holy Spirit: God Through Us

What Is "The Way of Christ?"

When God Makes Things Right: A 5-Day Devotional on Nahum

Read the Bible Effectively

HomeFirst: Finding Balance, Embracing Ease, and Living a Christ-Centered Life

BE a PILLAR

When Tithing Feels Impossible: 3 Truths That Free You From Financial Guilt

Journey Through Esther
