YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 292 OF 365

คำพูด พระวจนะของพระเจ้า และ'ถ้อยคำ'

นักแสดงชาย เดวิด ซูเชต์ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากบทนำใน *นักสืบปัวโรต์* เล่าว่าเมื่อสองสามปีก่อนขณะเขากำลังนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำในโรงแรมแห่งหนึ่งในอเมริกา เขารู้สึกอยากอ่านพระคัมภีร์ขึ้นมาอย่างกระทันหัน ในที่สุดเขาก็พบคัมภีร์ของกิเดี้ยน และเริ่มอ่านพันธสัญญาใหม่ ขณะที่อ่านเขาได้พบกับพระเยซูคริสต์ และพูดว่า: 'จากที่ใดที่หนึ่งที่ผมมีความปรารถนาที่จะอ่านพระคัมภีร์อีกครั้ง นั่นเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงของผม ผมเริ่มต้นด้วยกิจการของอัครทูตแล้วย้ายไปที่จดหมายฝากของอาจารย์เปาโล – โรมและโครินธ์ หลังจากนั้นผมก็มาที่ข่าวประเสริฐ ในพันธสัญญาใหม่ และทันใดนั้นผมก็ค้นพบทางที่ควรดำเนินชีวิต' คำที่ทรงพลังที่สุดที่เคยมีนั้นได้ถูกเขียนอยู่ในพระคัมภีร์ ถ้อยคำเป็นหัวข้อสำคัญในนั้น และคำว่า ‘ถ้อยคำ’ ถูกใช้ในความหมายที่ต่างกัน * ประการแรก ใช้ในแง่ของ ถ้อยคำของเรา สิ่งที่เราพูดนั้นดีหรือไม่ดี (สุภาษิต 25:11–20) * ประการที่สอง ยังใช้ในความหมาย พระวาทะของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระวาทะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (ยอห์น 1:1; ฮีบรู 1:2) และยังอ้างถึงพระคำของพระเจ้าในพระคัมภีร์และในการเทศนาและการสอน (1 ทิโมธี 4:1–16) * ประการที่สาม พระคัมภีร์ยังใช้วลี ‘*พระวจนะของพระยาห์เวห์*’ ในความหมายของคำพยากรณ์ (เยเรมีย์ 42:7) พระเจ้ายังคงตรัสกับคริสตจักรผ่านการเผยพระวจนะ (1 ทิโมธี 4:14) แน่นอนว่าเราต้องแยกแยะผู้เผยพระวจนะอย่างในพันธสัญญาเดิมว่า ‘ถ้อยคำ’ นั้นเป็น ‘พระวจนะของพระยาห์เวห์’ หรือไม่ และเป็นส่วนหนึ่งของพระคัมภีร์ ส่วนคำพยากรณ์ในปัจจุบันก็จำเป็นต้องตรวจสอบกับพระคัมภีร์

สุภาษิต 25:11-20

ใช้ถ้อยคำของคุณให้เกิดผลดี

1. ถ้อยคำที่ดี
ถ้อยคำที่เราพูดนั้นมีความสำคัญมาก บางครั้งก็มีผลดีมาก ใครก็ตามที่ใช้ถ้อยคำที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสมย่อมเป็นอะไรที่ที่สวยงาม: ‘คำที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสมก็เหมือนดั่งเครื่องประดับที่สั่งทำพิเศษ’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

บางสิ่งก็ไม่ง่ายที่จะได้ยินแต่ก็มีค่ามาก ‘คำตักเตือนของคนมีปัญญาแก่หูที่คอยฟัง’ (ข้อ 12ข) การรับคำวิพากษ์วิจารณ์นั้นเป็นเรื่องยากเสมอ แต่อย่างที่ผู้เขียนสุภาษิตได้กล่าวไว้ว่า ‘การตำหนิในเวลาที่เหมาะสมของสหายที่มีปัญญาก็เหมือนแหวนทองคำที่สวมนิ้วของคุณ’ (ข้อ 12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เพื่อนที่รักเรามากพอจนสามารถท้าทายเราได้นั้นมีค่ามาก

ในทำนองเดียวกัน เพื่อนหรือผู้ส่งสารที่ไว้ใจได้ซึ่งรักษาคำพูดของตน ‘ก็เหมือนเครื่องดื่มเย็น ๆ ในความร้อนระอุ ช่างสดชื่น!’ (ข้อ 13 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ลิ้นนั้นมีพลังมาก: ‘ความอดกลั้นอาจชักนำผู้ครอบครองได้และลิ้นอ่อนหวานอาจโน้มน้าวใจให้อ่อนลงได้’ (ข้อ 15) หรือตามที่ฉบับ The Message กล่าวไว้ ‘คำพูดที่อ่อนโยนทำลายการป้องกันที่เข้มงวด’

2. ถ้อยคำที่ไม่ดี
มีการใช้ถ้อยคำบางคำที่ผู้เขียนสุภาษิตเตือนเราไว้ คำสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ นำไปสู่ความผิดหวัง: ‘คนที่อวดว่าจะให้ของกำนัลแต่ไม่ได้ให้ก็เหมือนเมฆและลมที่ไม่มีฝน’ (ข้อ 14)

โดยรวมแล้วเราไม่ควรใช้เวลาในการพูดคุยกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป: ‘เมื่อคุณพบเพื่อนและปรากฏตัวตลอดเวลา ในไม่ช้าเขาก็จะเบื่อหน่าย’ (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เราต้องการความสมดุลในความสัมพันธ์ของเรา จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำอย่างอย่างชาญฉลาดด้วยเช่นกัน

การใช้ถ้อยคำในทางที่ผิดอีกประการหนึ่งคือการ ‘เป็นพยานเท็จ’ (ข้อ 18) คือพูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง อาจจะเป็นในชั้นศาลหรือในการสนทนาของเราหรือทางออนไลน์: ‘ใครก็ตามที่กล่าวคำโกหกต่อเพื่อนบ้านในศาลหรือบนท้องถนนก็เป็นเหมือนปืนใหญ่ที่หลวม’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) การอ่านหรือได้ยินสิ่งที่ไม่เป็นความจริงนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับถ้อยคำอันทรงพลังที่นำมาซึ่งพระพร วันนี้ขอให้ข้าพระองค์ระวังริมฝีปากและระวังลิ้น เพื่อข้าพระองค์จะพูดแต่ถ้อยคำที่ดี

1 ทิโมธี 4:1-16

อุทิศตนเพื่อพระวจนะของพระเจ้า

เป็นเรื่องน่าเศร้าและน่าผิดหวังเมื่อผู้ที่ประกาศตัวว่าเป็นคริสเตียนนั้นหลงทางไปจากความเชื่อของพวกเขา เปาโลเขียนว่า บางคนเลิกเชื่อและไล่ตาม ‘ภาพลวงตาที่นำเสนอโดยนักโกหกมืออาชีพ’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

จงป้องกันตัวเองจากการหลอกลวงด้วยการศึกษาความจริง ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์เปิดเผยในพระวจนะของพระเจ้า

เปาโลเตือนให้ต่อต้านคำสอนเทียมเท็จที่กล่าวว่า ‘ห้ามแต่งงาน’ หรือ ‘ห้ามรับประทานอาหารบางชนิด’ (ข้อ 3) เขาเขียนว่า ‘พระวิญญาณ ตรัส อย่างชัดเจนว่า...’ (ข้อ 1) และ ‘ทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้นนั้นดี และจงน้อมรับด้วยการขอบพระคุณ ไม่มีอะไรต้องห้ามและโยนออกไป พระวจนะของพระเจ้าและคำอธิษฐานของเราทำให้ทุกสิ่งในการทรงสร้างนั้นบริสุทธิ์’ (ข้อ 4–5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เปาโลขอให้ทิโมธีส่งต่อ ‘คำสอนที่ดี’ ที่เขาได้รับ (ข้อ 6) ตัวอย่างของคำสอนที่ดีคือ ‘คำพูดที่น่าเชื่อถือ’ (ข้อ 9) พระเจ้า ‘ผู้เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของทุกคน โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่เชื่อในพระองค์’ (ข้อ 10)

ทิโมธีถูกเรียกให้ ‘นำถ้อยคำออกไปและสอนสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาจะต้องเป็นแบบอย่างแก่บรรดาผู้เชื่อใน การพูด (เช่นเดียวกับชีวิต ความรัก ความเชื่อ และความบริสุทธิ์) เปาโลกระตุ้นให้เขาอุทิศตนให้กับการอ่านพระคัมภีร์ การเทศนา และการสอนแก่สาธารณชน (ข้อ 13) สิ่งนี้จะต้องมีความสำคัญสูงสำหรับผู้นำคริสเตียนเสมอ (ดู 5:17)

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฝึก ‘ตนในทางพระเจ้า’ (4:7) เป็นการดีที่จะออกกำลังกายและรักษาร่างกายให้แข็งแรง: ‘การฝึกทางกายมีประโยชน์อยู่บ้าง’ (ข้อ 8ก) แต่การฝึกใน ‘ทางพระเจ้า’ มีความสำคัญมากกว่าการฝึกทางกายภาพอย่างมาก ‘การฝึกฝนในทางพระเจ้าทุก ๆ วัน จะไม่มีความอ่อนแอทางฝ่ายวิญญาณ... ทำให้คุณแข็งแรงทั้งวันนี้และตลอดไป’ (ข้อ 8ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ในชีวิตคริสเตียนอายุของคุณไม่ได้กำหนดวุฒิภาวะของคุณ เปาโลเขียนว่า ‘อย่าให้ใครทำให้คุณผิดหวังเพราะคุณยังเด็ก’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ไม่ว่าคุณอายุเท่าไหร่ คุณสามารถใช้ชีวิตให้เป็นแบบอย่างได้ นอกจากนี้อายุก็ไม่ใช่ข้อจำกัดต่อการสอนพระวจนะของพระเจ้า

เปาโลกระตุ้นให้ทิโมธีดูแล ชีวิต และหลักคำสอน ของเขาเองอย่างใกล้ชิด (ข้อ 16) จงเฝ้าระวังชีวิต และริมฝีปากของคุณ ‘เอาใจใส่ทั้งลักษณะชีวิตและการสอนของคุณ’ (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เขายังกล่าวถึงของประทานที่มอบให้ทิโมธีผ่านคำเผยพระวจนะเมื่อกลุ่มผู้อาวุโสวางมือบนเขา นี่คือตัวอย่างในพันธสัญญาใหม่ของ ‘พระวจนะ’ จากพระเจ้าที่มอบผ่านของประทานแห่งการเผยพระวจนะ

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ฝึกตนในทางพระเจ้า (ข้อ 7ข) อุทิศตนให้กับพระคัมภีร์และเป็นแบบอย่างในทุกด้านของชีวิตของข้าพระองค์ (ข้อ 12–13)

เยเรมีย์ 40:7-42:22

ตั้งใจฟัง ‘ถ้อยคำ’ ของผู้เผยพระวจนะอย่างระมัดระวัง

คุณเคยอยู่ในสถานการณ์ที่คุณตัดสินใจว่าจะทำบางอย่าง และมองหาพระวจนะของพระเจ้าที่จะมาสนับสนุนการตัดสินใจของคุณหรือไม่?

ผมเองก็เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นและมันไม่ดีเลย แต่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในพระวจนะตอนนี้ คนของพระเจ้าตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการลงไปอียิปต์และพวกเขาต้องการให้เยเรมีย์มอบถ้อยคำจากพระเจ้าให้พวกเขาเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการทำนั้นถูกต้อง แต่ความจริงแล้วมันกำลังนำไปสู่ภัยพิบัติ

เยเรมีย์เป็นผู้เผยพระวจนะในพันธสัญญาเดิมซึ่งมีชื่อเสียงว่าสามารถได้ยิน ‘พระวจนะของพระเจ้า’ (42:1–7)

อิสราเอลได้มาถึงจุดหนึ่งที่ตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ เกดาลิยาห์ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการเหนือประชาชนที่เหลืออยู่ซึ่งไม่ได้ถูกกวาดต้อนเป็นเชลย (40:7) เขาถูกสังหาร (40:7 - 41:15) เนื่องจากแหล่งน้ำมีค่ามากในปาเลสไตน์ การทำให้ที่เก็บน้ำสกปรกจึงเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนไร้ความรับผิดชอบอย่างยิ่ง (41:9)

โยฮานันมีความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับทักษะทางการทหาร แต่ความคิดเดียวของเขาคือการหนีไปยังอียิปต์ เพราะนึกถึงสิ่งที่บาบิโลนจะต้องตอบโต้กลับมาอย่างแน่นอน ซึ่งนโยบายนี้ทำให้เขาจึงต้องปะทะกับเยเรมีย์

โยฮานันและนายทหารทั้งหมดมาหาเยเรมีย์และพูดกับเยเรมีย์ว่า ‘ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสำแดงหนทางแก่เรา ว่าเราควรจะไปทางไหน และขอสำแดงสิ่งที่เราควรจะทำ’ (42:3)

คำตอบของเยเรมีย์คือ ‘ข้าพเจ้าได้ยินแล้ว นี่แน่ะ ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน ตามคำขอร้องของพวกท่าน และพระยาห์เวห์ทรงตอบท่านประการใด ข้าพเจ้าจะบอกแก่ท่าน ข้าพเจ้าจะไม่ปิดบังสิ่งใดไว้จากท่านเลย’ (ข้อ 4)

พวกเขาสัญญาว่า ‘ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราจะเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา’ (ข้อ 6)

เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้แต่เยเรมีย์เองการชี้นำไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีทันใด แต่ ‘ต่อมาเมื่อครบ 10 วันแล้วพระวจนะของพระยาห์เวห์มายังเยเรมีย์’ (ข้อ 7)

เขาส่งต่อสิ่งนั้นอย่างซื่อสัตย์: ‘พระยาห์เวห์…ได้ตรัสดังนี้ว่า…’ (ข้อ 9) พระองค์ทรงสัญญาว่าพระพรจะมีท่ามกลางพวกเขา หากพวกเขายังอยู่ในแผ่นดินนี้ (ข้อ 10–12) และจะมีการพิพากษาหากพวกเขาไปยังอียิปต์ (ข้อ 13 เป็นต้นไป)

ปรากฎว่าพวกเขาได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะทำอะไรและเพียงแค่ต้องการให้พระเจ้ายืนยันเท่านั้น พวกเขาทำผิดที่ไม่เชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า (ข้อ 21) การทูลขอพระเจ้าก่อนที่เราจะตัดสินใจนั้นจึงสำคัญมาก! ไม่ใช่ถามหลังจากที่ตัดสินใจไปแล้ว

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ตรัสกับข้าพระองค์ผ่านทางพระคัมภีร์และผู้เผยพระวจนะ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ตั้งใจฟังถ้อยคำของพระองค์และเชื่อฟังพระองค์

Pippa Adds

สุภาษิต 25:17

‘อย่าไปเยี่ยมเพื่อนบ้านของเจ้าบ่อย ๆ เกรงว่าเขาจะเอือมระอาเจ้า และเกลียดชังเจ้า’

โควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงอะไรหลาย ๆ อย่าง ฉันเคยคิดว่าบ้านเรามีคนมากเกินไป แต่ตอนนี้ฉันคิดถึงพวกเขา ฉันจะไม่ถือเอาเสรีภาพเพื่อการเข้าสังคมอีกต่อไป

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More