พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

ทัศนคติของความกตัญญู
จีน สมิธ เล่าเรื่องของเธอให้ผมฟัง เธอมีอายุหกสิบกว่า มาจากย่านคุมบรานในเวลส์ เธอตาบอดมา 16 ปีแล้ว เธอถือไม้เท้าสีขาว และมีสุนัขนำทางชื่อทีน่า เชื้อโรคได้ทำลายเรตินาและกระจกหลังดวงตาของเธอ ซึ่งไม่อาจเปลี่ยนกระจกตาได้ เธอเจ็บปวดตลอดเวลา จีนได้เข้าหลักสูตรอัลฟ่าในท้องถิ่น พวกเขามีเวลาหนึ่งวันเพื่อจดจ่อกับงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในช่วงเวลานี้ความเจ็บปวดได้หายไป เธอไปคริสตจักรในวันอาทิตย์ถัดมาเพื่อขอบคุณพระเจ้า ผู้ประกอบพิธีได้เจิมเธอด้วยน้ำมัน และเมื่อเธอเช็ดน้ำมันออก เธอก็มองเห็นโต๊ะประกอบพิธี พระเจ้ารักษาจีนให้หายอย่างอัศจรรย์ เธอไม่ได้เห็นสามีของเธอเป็นเวลาสิบหกปี เธอแปลกใจที่เคราของเขาเป็นสีขาว! จีนไม่เคยเห็นลูกสะใภ้ของเธอมาก่อน รวมถึงหลานชายวัย 6 ขวบครึ่งของเธอที่เคยนำทางเธอไปรอบ ๆ แอ่งน้ำเพื่อไม่ให้เท้าเปียก หลานชายพูดกับเธอว่า 'ใครรักษาคุณย่าครับ?' เธอตอบว่า 'พระเยซูรักษาย่าจ้ะ' 'คุณย่าน่าจะขอบคุณพระองค์นะครับ' คุณย่าตอบว่า 'ย่าจะพูดขอบคุณพระองค์ไม่หยุดเลย' เมื่อวานเราได้อ่านคำหนุนใจของเปาโลที่ว่า 'จงทูลขอต่อพระเจ้าด้วยการอธิษฐานและการวิงวอนกับ*การขอบพระคุณ*' (ฟิลิปปี 4:6) วันนี้เราเห็นสิ่งที่เปาโลสอนในชีวิตจริงเช่นเดียวกับจีน เปาโลยังขอบพระคุณพระเจ้าอยู่เสมอ ท่านมีท่าทีของความกตัญญู การสรรเสริญคือการถวายเกียรติแด่พระเจ้าในสิ่งที่พระองค์เป็น การขอบพระคุณเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระองค์ทำเพื่อเรา เป็นเลนส์ที่มองเห็นทั้งชีวิตของเรา ดังที่เราเห็นในข้อพระคริสตธรรมคัมภีร์ทุกวันนี้ โลกสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภท คือผู้ที่ยอมรับพระเจ้าและขอบพระคุณพระองค์ กับผู้ที่ไม่ยอมรับ คุณปลูกฝังท่าทีแห่งความกตัญญูในชีวิตอย่างไร?สดุดี 116:12-19
ถวายเครื่องบูชาแห่งการขอบพระคุณ
การขอบคุณพระเจ้าเป็นการส่วนตัวในบ้านของคุณยังไม่เพียงพอ มีสิ่งสำคัญในการมารวมตัวกันและขอบคุณพระเจ้าอย่างเปิดเผย 'ต่อหน้าประชากรทั้งปวงของพระองค์' (ข้อ 14) ผู้เขียนสดุดีถามคำถามเชิงวาทศิลป์ว่า 'ข้าพระองค์จะให้อะไรตอบแทนพระเจ้าสำหรับพระพรที่พระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์ได้บ้าง?' (ข้อ 12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระเจ้าดีต่อเขามาก เขารู้สึกขอบพระคุณสำหรับอนาคตที่มั่นคงของเขา นั่นคือ 'เมื่อพวกเขามาถึงประตูแห่งความตาย พระเจ้าจะต้อนรับคนที่รักพระองค์' (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งที่ผ่านมาโดยประกาศว่า 'พระองค์ทรงถอดโซ่ตรวนของข้าพระองค์!' (ข้อ 16)
บางครั้งการขอบพระคุณเป็นเรื่องง่าย ในอีกด้านหนึ่งการขอบพระคุณเป็นมากกว่าการเสียสละ (ข้อ 17) นักบุญยอห์นแห่งอาวิลา (1500-1569) เขียนว่า 'การขอบพระคุณในสิ่งที่ไม่ตรงกับใจเราเพียงครั้งเดียว เทียบได้กับการขอบพระคุณในสิ่งที่ตรงกับใจเรานับพันครั้ง'
ผู้เขียนสดุดีกล่าวว่า 'ฉันพร้อมที่จะถวายเครื่องบูชาขอบพระคุณและอธิษฐานในพระนามของพระเจ้า ฉันจะทำตามที่ฉันสัญญาไว้กับพระเจ้าให้สำเร็จ ร่วมกับประชาชนทั้งปวงของพระองค์ในบริเวณพระนิเวศของพระเจ้า ในเยรูซาเล็มเมืองของพระเจ้า ฮาเลลูยา!' (ข้อ 17–19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) 'ฮาเลลูยา' เป็นหนึ่งในคำภาษาฮีบรูไม่กี่คำที่เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ เป็นการเรียกให้สรรเสริญพระเจ้า
ผู้เขียนสดุดีจดจำความปวดร้าวของเขาได้ (ข้อ 1–4) เขาระลึกถึงพระเมตตาของพระเจ้า (ข้อ 5–11) และตอนนี้เขาจบลงด้วยการแสดงความกตัญญู (ข้อ 12–19)
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์จะขอบคุณพระองค์ให้ครบถ้วนได้อย่างไร? ขอบคุณที่พระองค์ทรงช่วยชีวิตข้าพระองค์ไว้ ข้าพระองค์จะขอบคุณพระองค์ในความดีทั้งหมดที่พระองค์ทรงมีต่อข้าพระองค์ใน 'พระนิเวศของพระยาห์เวห์' (ข้อ 19)
โคโลสี 1:1-23
ขอบพระคุณพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง
แม้วันนี้คนทั่วไปในสังคมฆราวาสจะยอมรับว่าพระเยซูทรงเป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ พวกเขาอาจจัดอันดับเทียบเท่ากับโมเสส พระพุทธเจ้า โสเครติส และผู้นำทางศาสนาที่ยิ่งใหญ่อื่น ๆ
แต่พระเยซูทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดเพียงผู้เดียวและเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคนทั้งปวงหรือไม่? นี่เป็นปัญหาในศตวรรษแรกเช่นเดียวกับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน สำหรับในเมืองโคโลสีมีหลายกลุ่มความเชื่อได้รับการยกย่องเทียบเท่ากับพระเยซู
ในจดหมายโคโลสี เปาโลเขียนด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและความอ่อนโยน ท่านประกาศว่า พระเยซูทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดที่ไม่เหมือนใครและเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของโลก นี่คือพระเจ้าและ 'พระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา' (ข้อ 3) ผู้ทรงสมควรแก่การนมัสการ สรรเสริญ และขอบพระคุณทั้งสิ้นของเรา
เมื่อเปาโลอธิษฐานเผื่อพี่น้องชาวโคโลสี เปาโลขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับความเชื่อและความรักของพวกเขา เกิดจากความหวังที่สะสมไว้สำหรับพวกเขาในสวรรค์ (ข้อ 5)
เปาโลอธิษฐานขอให้พวกเขาขอบคุณพระเจ้า ท่านได้สรุปแนวทางการอธิษฐานเพื่อให้ความเชื่อของพวกเขาเติบโต – การขอ 'สติปัญญาและความเข้าใจฝ่ายวิญญาณ' การเกิดผลและ 'ความรู้เกี่ยวกับพระเจ้า' 'ความทรหดและความอดทน' รายการอธิษฐานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ควบคู่กับคำอธิษฐานที่ลงลึกในลำดับถัดไป จบท้ายด้วยข้อความ 'การขอบพระคุณพระบิดาด้วยความยินดี' (ข้อ 9–12)
เปาโลกำลังอธิษฐานเพื่อพวกเขาจะขอบคุณพระบิดา ผู้ทรงย้ายพวกเขา 'จากอำนาจแห่งความมืด' ไปสู่อาณาจักรแห่งความสว่าง เพื่อการไถ่และการอภัยบาปของพระองค์ (ข้อ 13–14) 'พระเจ้าช่วยเราให้พ้นจากทางแห่งความตายและคุกอันมืดมิด พระองค์ทรงตั้งเราไว้ในอาณาจักรแห่งพระบุตรที่พระองค์ทรงรักมาก ในพระบุตรผู้ทรงนำเราออกจากหลุมลึกที่เราอยู่ ทรงกำจัดบาปทั้งหลายที่บีบเราอยู่เรื่อยไป' (ข้อ 13–14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
สิ่งที่เราต้องขอบพระคุณคือ 'พระฉายของพระเจ้าผู้ไม่ทรงปรากฏแก่ตา' (ข้อ 15) 'เรามองดูพระบุตรองค์นี้และเห็นพระเจ้าที่ไม่สามารถมองเห็นได้' (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) โดยพระเยซูทุกสิ่งถูกสร้างขึ้น ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นโดยพระเยซู และเพื่อพระเยซู ซึ่งทั้งหมดนี้ 'เริ่มต้นในตัวพระองค์และพบวัตถุประสงค์ในพระองค์' (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเยซูทรงเป็นศีรษะของคริสตจักร (ข้อ 18) ความบริบูรณ์ของพระเจ้าทั้งหมดดำรงอยู่ในพระองค์ (ข้อ 19)
พระเยซูทรงนำสันติสุขจากพระเจ้า 'โดยพระโลหิตแห่งกางเขนของพระองค์' (ข้อ 20) พระเจ้าโปรดให้คืนดีกับพระองค์เอง (ข้อ 22ก) ตอนนี้คุณบริสุทธิ์ในสายพระเนตรของพระองค์ ปราศจากตำหนิและปราศจากการกล่าวหา (ข้อ 22ข)
นี่คือพระกิตติคุณที่เราสมควรขอบพระคุณ: พระเยซูทรงเป็น 'องค์สูงสุดตั้งแต่แรกเริ่ม ทรงนำการฟื้นคืนพระชนม์ พระองค์สูงสุดในท้ายที่สุด ตั้งแต่ต้นจนจบพระองค์ทรงอยู่ที่นั่น สูงตระหง่านเหนือทุกสิ่ง ทุกคน...ทุกสิ่งมีชีวิตภายใต้สวรรค์ได้รับข้อความเดียวกันนี้' (ข้อ 17–23, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่องค์พระเยซูคริสต์ ขอบคุณพระองค์สำหรับสันติสุขและการคืนดีกับพระเจ้าโดยพระโลหิตของพระองค์ที่หลั่งบนไม้กางเขนเพื่อข้าพระองค์ ขอบพระคุณที่ให้สิทธิพิเศษอันยิ่งใหญ่แก่ข้าพระองค์ในการประกาศพระกิตติคุณและได้เห็นผู้อื่นได้รับความรอด
เยเรมีย์ 7:30-9:16
ไม่หลงลืมการขอบคุณพระเจ้า
ถ้อยคำของเปาโลในโรม บทที่ 1 สรุปเป็นข้อความว่า: 'เพราะถึงแม้ว่าเขาได้รู้จักพระเจ้าแล้ว เขาก็ไม่ได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ให้สมกับที่ทรงเป็นพระเจ้า หรือขอบพระคุณพระองค์' (โรม 1:21)
ในพระธรรมเยเรมีย์ เราเห็นคำเตือนของพระเจ้าเกี่ยวกับการพิพากษาของพระองค์ต่อประชากรของพระองค์ พวกเขาได้ทำชั่วในสายพระเนตรของพระเจ้า (เยเรมีย์ 7:30) พวกเขา 'เดินหน้า - ถอยหลัง!... พวกเขาไม่เคยกล่าวคำว่า "ขอโทษ" ต่อพระเจ้าเลยสักครั้ง' (8:5–6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) 'พวกเขาไม่มีความละอายเลย... พวกเขาไม่รู้จักว่าละอาย' (ข้อ 12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) 'พวกเขาออกจากความชั่วอย่างหนึ่งไปสู่ความชั่วอีกอย่างหนึ่งและเขาไม่รู้จักเรา' (9:3) 'การล่อลวงซ้อนการล่อลวง เขาปฏิเสธที่จะรู้จักเรา' (ข้อ 6)
'ลิ้นของเขาเป็นลูกศรมรณะ; มันพูดมารยา ปากของเขาพูดอย่างสันติกับเพื่อนบ้าน แต่ในใจของเขา เขาคอยดักซุ่มโจมตีอยู่' (ข้อ 8) รากเหง้าของความบาปทั้งหมดของพวกเขาคือการไม่ยอมรับพระเจ้าและไม่รู้จักขอบพระคุณ; พวกเขา 'ปฏิเสธที่จะรู้จักเรา' (ข้อ 6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระเจ้าได้ประทานสิ่งต่าง ๆ แก่พวกเขามากมาย แต่พวกเขากลับไม่รู้จักพระองค์หรือขอบคุณพระองค์สำหรับสิ่งนั้น ดังนั้นพระเจ้าจึงตรัสว่า 'อะไรที่เราให้เขาก็อันตรธานไปจากเขา' (8:13ง) ‘เราจะรวบรวมเขา… ก็เห็นว่าเถาองุ่นไม่มีผล… ต้นมะเดื่อไม่มีผล’ (ข้อ 13)
สำหรับเยเรมีย์นี่เป็นการตัดสินที่เจ็บปวด: 'ที่กิเลอาดไม่มีขี้ผึ้งรักษาหรือ? ที่บ้านไม่มีหมอเหรอ? เหตุใดจึงไม่สามารถทำอะไรเพื่อรักษาและช่วยชีวิตประชากรที่รักของพระเจ้าได้?' (ข้อ 21–22, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้อความทั้งหมดที่เราได้เห็นในวันนี้เรียกร้องให้เราขอบพระคุณ และสรรเสริญพระเจ้า วิธีหนึ่งที่เราสามารถตอบสนองได้คือนำความคิด และคำอธิษฐานทั้งหมดของเรามารวมกัน ในคำกล่าวของพิธีศีลมหาสนิทของนิกายแองกลิกันว่า:
ให้เราขอบพระคุณพระเจ้าของเรา
เป็นการถูกต้องที่จะขอบพระคุณและสรรเสริญ
เป็นสิ่งที่ดี,
เป็นหน้าที่และความชื่นบานของเรา
ในทุกเวลาและทุกสถานที่
เพื่อเป็นการขอบพระคุณและสรรเสริญ
พระบิดาผู้ทรงบริสุทธิ์ ราชาแห่งฟ้าสวรรค์
พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพและเป็นนิรันดร์
โดยทางพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของเรา...
ดังนั้นด้วยเหล่าทูตสวรรค์และอัครเทวทูตาธิบดี
และร่วมกับชาวสวรรค์ทั้งสิ้น
เราประกาศพระนามอันยิ่งใหญ่และพระสง่าราศีของพระองค์
สรรเสริญพระองค์ตลอดไปและพูดว่า:
บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์ พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกเต็มไปด้วยพระสิริของพระองค์ โฮซันนาในที่สูงสุด
Pippa Adds
สดุดี 116:15
'มรณกรรมแห่งธรรมิกชนของพระองค์สำคัญในสายพระเนตรพระเจ้า'
มีการสังหารที่โหดร้ายมากมายเกิดขึ้นทั่วโลก การได้รู้ว่าพระเจ้าทรงทราบและทรงห่วงใยทุกชีวิตเป็นที่ปลอบโยนจิตใจ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

The Creator's Battle: Winning the Inner War for Your Art

The Holy Spirit: God Through Us

What Is "The Way of Christ?"

When God Makes Things Right: A 5-Day Devotional on Nahum

Read the Bible Effectively

HomeFirst: Finding Balance, Embracing Ease, and Living a Christ-Centered Life

BE a PILLAR

When Tithing Feels Impossible: 3 Truths That Free You From Financial Guilt

Journey Through Esther
