พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

วิธีฟื้นฟูความสัมพันธ์ของคุณ
ฮานส์เริ่มทำงานจากการเป็นคนขุดแร่ไปสู่การเป็นเจ้าของเหมืองจำนวนหนึ่ง มาร์ติน ลูกชายคนโตของเขาฉลาดมากและเข้ามหาวิทยาลัยเมื่ออายุสิบเจ็ดปี อาชีพที่น่านับถือในฐานะทนายความรอเขาอยู่ข้างหน้า อยู่ดีๆ เขาก็ยกเลิกการลงทะเบียนหลักสูตรนิติศาสตร์ ไปเป็นนักบวชและจากนั้นไปเป็นบาทหลวง ผู้เป็นพ่อถึงกับสลดใจ มาร์ตินต้องการมีชีวิตที่ชอบธรรม เขาอดอาหารเป็นเวลาหลายวัน และอธิษฐานโดยไม่ได้นอนเป็นเวลาหลายคืน แต่เขาก็ยังถูกรบกวนจากความไม่ชอบธรรมของเขาเองต่อพระพักตร์พระเจ้าผู้ทรงชอบธรรม เมื่ออายุประมาณ 30 ปี ขณะที่เขากำลังศึกษาพระธรรมโรม 1:17 เขาได้เข้าใจ ซึ่งต่อมาเขาบันทึกไว้ว่า ‘ข้าพเจ้าเริ่มเข้าใจว่าในข้อพระคัมภีร์นี้ ความชอบธรรมของพระเจ้าคือ คนชอบธรรมดำเนินชีวิตโดย*ของประทานจากพระเจ้า* หรืออีกนัยหนึ่ง คือโดยความเชื่อ และประโยคที่ว่า “ความชอบธรรมซึ่งเกิดมาจากพระเจ้าก็ได้สำแดงออก” หมายถึงความชอบธรรมที่ได้มาเฉย ๆ กล่าวคือ โดยที่พระเจ้าผู้ทรงเมตตา*ทำให้เราชอบธรรมโดยความเชื่อ* ตามที่เขียนไว้ว่า “คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ” สิ่งนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกราวกับว่า ข้าพเจ้า*ได้บังเกิดใหม่แล้วและได้เข้ามาทางประตูสวรรค์ที่เปิดอยู่*’ ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 500 ปีที่แล้ว มันไม่เพียงเปลี่ยนชีวิตของเขาเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษย์อีกด้วย เขากลายเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งของอารยธรรมตะวันตก ผู้ริเริ่มการปฏิรูป เมล็ดพันธุ์แห่งความคิดทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ชื่อของเขาคือมาร์ติน ลูเธอร์ โดยพื้นฐานแล้ว ความชอบธรรม หมายถึง *ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า* ซึ่งนำไปสู่*ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับผู้อื่น* นั่นเป็นของประทานที่มีได้ผ่านทางชีวิต การสิ้นพระชนม์ และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู นี่คือเคล็ดลับของความสัมพันธ์ที่ได้รับการฟื้นฟู ประการแรกคือ ความสัมพันธ์ที่ได้รับการฟื้นฟูกับพระเจ้า และจากนั้นจะเป็นความสัมพันธ์อื่น ๆ ทั้งหมดสดุดี 84:1-7
ชื่นชมยินดีกับพระพร
การได้อยู่ในที่ประทัยของพระเจ้าเป็นที่ซึ่งเราจะได้พบพระพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นี่เป็นหนึ่งในพระธรรมสดุดีที่ผมและพิพพาชื่นชอบที่สุด เราได้อ่านในงานแต่งงานของเราด้วย เรารักข้อพระคัมภีร์ตอนนี้เพราะได้กล่าวถึงพระพรของการใช้ชีวิตในความสัมพันธ์ที่ได้รับการฟื้นฟูกับพระเจ้า
1. ปรารถนาการทรงสถิตของพระเจ้า
ในใจมนุษย์ทุกคนมีความหิวกระหายฝ่ายวิญญาณ ซึ่งจะทำให้อิ่มได้เพียงการดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าเท่านั้น ในการประทับอยู่ของพระเจ้า ความปรารถนาของจิตวิญญาณ (ข้อ 1 ,พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ได้รับการตอบสนอง และเสียงร้องของหัวใจได้รับคำตอบ ผู้เขียนพระธรรมสดุดีกล่าวว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์จอมทัพที่ประทับของพระองค์งดงามจริง ๆ จิตใจของข้าพระองค์ปรารถนา เออ อาลัยหาบริเวณพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ทั้งใจและกายของข้าพระองค์ร้องเพลงด้วยความยินดี ถวายแด่พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์’ (ข้อ 1–2)
2. พระพรของการทรงสถิตของพระเจ้า
ในขณะที่คุณใช้เวลาอธิษฐาน ฟังพระเจ้าผ่านทางพระคัมภีร์และนมัสการพระองค์ คุณจะพบว่าไม่มีที่ใดที่คุณอยากจะอยู่มากไปกว่าการได้อยู่เบื้องพระพักร์พระองค์ ‘ผู้ที่อาศัยอยู่ในพระนิเวศของพระองค์ก็เป็นสุขพวกเขาสรรเสริญพระองค์เสมอ’ (ข้อ 4)
ที่ประทับของพระเจ้าเป็นสถานที่แห่งพระพร การสรรเสริญ และความสดชื่น เป็นเหมือนฝนที่โปรยปรายลงบนดินที่แห้งผาก (ข้อ 6)
3. กำลังจากการทรงสถิตของพระเจ้า
เมื่อกำลังของเราอยู่ในพระเจ้า (ข้อ 5) สถานที่ยากลำบาก สถานการณ์ที่ยากลำบาก และหุบเขาแห่งชีวิตสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำพุได้ (ข้อ 6) เมื่อคุณพึ่งพากำลังจากพระเจ้าในช่วงเวลาเหล่านี้ คุณจะพบว่าตัวเองมี ‘กำลังที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ’ (ข้อ 7)
ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม พลับพลาและพระวิหารเป็นที่ประทับในการสถิตของพระเจ้า ปัจจุบันนี้ โดยทางพระเยซูคริสต์ พระเจ้าทรงอยู่และสถิตโดยพระวิญญาณของพระองค์ในคริสตจักร (เอเฟซัส 2:22) และในชีวิตของเรา (1 โครินธ์ 6:19)
ขอบคุณพระเจ้า สำหรับพระพรทั้งสิ้นแห่งการสถิตอยู่กับลูก ขอบคุณสำหรับการเสริมกำลังข้าพระองค์ในทุก ๆ วันด้วยการสถิตของพระองค์
โรม 1:1-17
ได้รับของประทาน
คุณไม่สามารถทำอะไรเพื่อให้ได้รับหรือคู่ควรกับความรักจากพระเจ้า คุณได้รับสิ่งนี้เป็นของประทาน พระเยซูทำให้คุณเป็นคนชอบธรรม โดยผ่านชีวิต การสิ้นพระชมน์ และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ คุณจึงสามารถดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าได้
ชีวิต การสิ้นพระชนม์ และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู นำให้ประวัติศาสตร์โลกเดินไปในทิศทางใหม่อย่างไรบ้าง? ชีวิตของชายหญิงและเด็ก ๆ ทุกคนบนโลกนี้ได้รับผลกระทบไปชั่วนิจนิรันดร์อย่างไรบ้าง?
ในเอกสารที่มีอิทธิพลและแปลกใหม่ของศาสนศาสตร์ (เขียนประมาณปี ค.ศ. 59) เปาโลผู้ซึ่งได้เผชิญหน้ากับพระเยซูที่ฟื้นคืนพระชนม์ด้วยตัวเอง ได้นำเอาข้อเท็จจริงที่เป็นพยานถึงชีวิต การสิ้นพระชนม์ และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู ชาวนาซาเร็ธมาพิจารณาความหมาย
ดูเหมือนว่าการก่อตั้งชุมชนคริสเตียนในกรุงโรมไม่ได้เกิดขึ้นโดยองค์กรการประกาศที่ยิ่งใหญ่ใด ๆ แต่เกิดจากการที่คริสเตียนซึ่งอยู่ในสถานที่ทำงานต่าง ๆ โดยทำอาชีพของตนเองตามปกติ ถ้าคุณทำงานสายอาชีพ คุณสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้เท่ากับผู้ประกาศข่าวประเสริฐเต็มเวลา
เปาโลปรารถนาที่จะได้พบเพื่อน ๆ ของเขาในกรุงโรม (ข้อ 11) พวกเขาเป็นผู้เชื่อใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ แต่เปาโลมีความถ่อมใจและหวังจะได้เรียนรู้บางสิ่งจากพวกเขานอกเหนือจากที่พวกเขาจะได้เรียนรู้จากตนเอ (ข้อ 11–12) ‘ท่านมีอยู่มากเท่าที่จะให้แก่ข้าพเจ้า เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะให้แก่ท่าน’ (ข้อ 12 , พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ผมพบว่าในอัลฟ่ากลุ่มย่อยทุกกลุ่ม ผมได้เรียนรู้จากแขกรับเชิญมากพอ ๆ กับที่พวกเขาเรียนรู้จากเรา
ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่อยู่นอกคริสตจักรเท่านั้นที่ต้องการฟังพระกิตติคุณ เปาโลกระตือรือร้นที่จะประกาศข่าวประเสริฐแก่ชุมชนคริสเตียนในกรุงโรม (ข้อ 15)
ทั้งยังรู้ดีถึงการทดลองให้รู้สึกอับอาย เป็นเรื่องง่ายมากที่จะปล่อยให้ความกลัวและความกังวลถึงสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับตัวเรานั้นมาหยุดยั้งไม่ให้เราพูดถึงพระเยซู แต่เปาโลเขียนว่า ‘ข้าพเจ้าไม่มีความละอายในเรื่องข่าวประเสริฐ เพราะว่าข่าวประเสริฐนั้นเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อได้รับความรอด’ (ข้อ 16 ก) เขารู้ถึงฤทธิ์อำนาจอันอัศจรรย์ของข่าวประเสริฐในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของทั้งชาวยิวและชาวต่างชาติ (ข้อ 16ข)
ไม่มีสิทธิพิเศษใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการประกาศข่าวประเสริฐ ‘เพราะว่าในข่าวประเสริฐนั้น ความชอบธรรมซึ่งเกิดมาจากพระเจ้าก็ได้สำแดงออกโดยความเชื่อ’ (ข้อ 17 ก) เปาโลไม่ได้กล่าวขัดแย้งกับพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม แต่ใช้พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมเพื่อสนับสนุนข้อโต้แย้งนี้ ‘และเพื่อความเชื่อ ตามที่พระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า “คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ”’ (ข้อ 17ข ดูร่วมกับ ฮาบากุก 2:4) ด้วย
เปาโลกำลังจะกล่าวมากขึ้นในเรื่อง ‘ความชอบธรรมจากพระเจ้า’ ข่าวดี (ข่าวประเสริฐ) คือ พระเจ้าได้ทรงเปิดทางให้เราสามารถที่จะดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระองค์ได้ ความชอบธรรมนี้มาจากพระเจ้า นี่เป็นของประทานของพระองค์เพื่อคุณ คุณไม่สามารถทำอะไรเพื่อจะได้รับ คุณได้รับ ‘โดยความเชื่อ' คุณไม่ได้ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้ความรู้สึกผิดและการกล่าวโทษอีกต่อไป ไม่มีสิ่งใดสามารถแยกคุณออกจากความรักที่พระเจ้ามีต่อคุณได้ (โรม 8:1–39)
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอบพระคุณที่โดยชีวิต การสิ้นพระชนม์ และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์สามารถที่จะมีความสัมพันธ์ที่ได้รับการฟื้นฟูกับพระองค์และกับผู้อื่น ขอบคุณพระองค์ที่ข้าพระองค์ไม่ต้องทำอะไรเพื่อจะได้รับ แต่เป็นของประทานโดยความเชื่อ
2 พงศ์กษัตริย์ 23:1-24:7
เชื่อฟังต่อไป
พระเจ้ามีพระประสงค์มาโดยตลอดว่า ประชากรของพระองค์ควรมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระองค์ ความสัมพันธ์นี้อธิบายไว้ในแง่ของพันธสัญญา พระเจ้าได้ทรงช่วยกู้ประชากรของพระองค์ออกจากอียิปต์ พระองค์อุทิศตัวให้กับพวกเขาทั้งหมด จากนั้นพระองค์ก็อธิบายให้พวกเขาฟังว่า พวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระองค์ได้อย่างไร พระองค์ประทานธรรมบัญญัติเพื่อนำให้พวกเขารักษาความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าและต่อกันและกัน จุดประสงค์ของกฎเกณฑ์เหล่านี้คือเพื่อให้พวกเขาเจริญรุ่งเรือง
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เราได้เห็นในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมว่าพวกเขาไม่เชื่อฟังกฎเกณฑ์เหล่านี้อย่างไรบ้าง ด้วยเหตุนี้ภัยพิบัติจึงบังเกิดขึ้นมา บางครั้งมีความหวังเล็กน้อยเมื่อพวกเขายอมอุทิศตนต่อพันธสัญญาในความสัมพันธ์กับพระเจ้า
ความหวังเล็ก ๆ ครั้งหนึ่งปรากฏขึ้นในรัชกาลของโยสิยาห์ ‘กษัตริย์ยืนอยู่ข้างเสาและต่อหน้าพระเจ้า ท่านก็อุทิศให้พวกเขาทั้งหมดทำตามพันธสัญญาอย่างเคร่งครัด ติดตามพระเจ้าโดยการเชื่อและเชื่อฟัง ทำตามคำสั่ง จิตใจและจิตวิญญาณของพระองค์ ในสิ่งที่จะเชื่อ และกระทำ เพื่อนำพันธสัญญาทั้งหมดซึ่งเขียนไว้ในหนังสือนั้นมาปฏิบัติ ประชาชนยืนขึ้นและเห็นพ้อง การอุทิศตนของพวกเขาถือเป็นเอกฉันท์’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
โยสิยาห์ได้ดำเนินการปฏิรูปหลายครั้ง (ข้อ 1–25) น่าเศร้าที่ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ส่งผลกระทบยาวนานพอต่อผู้คน และหลังจากการเสียชีวิตของโยสิยาห์ สิ่งต่าง ๆ กลับเป็นเช่นเดิม ชีวิตของโยสิยาห์นั้นไม่ง่ายดายและจบลงอย่างน่าเศร้าใจ แต่กระนั้นเขาก็พยายามติดตามพระเจ้าในทุกสิ่งที่กระทำ ‘ด้วยสุดจิตสุดใจและด้วยสุดกำลัง’ (ข้อ 25) โยสิยาห์เป็นที่จดจำในฐานะหนึ่งในวีรบุรุษแห่งความเชื่อ
ขอบคุณพระเจ้าที่ภายใต้พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ กฎเกณฑ์ไม่ได้ถูกเขียนไว้บนแผ่นศิลา แต่เขียนไว้ในใจของคุณ ทันทีที่คุณวางใจในพระเยซู พระสัญญาทั้งหมดในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมจะสำเร็จในชีวิตคุณ คุณได้รับความชอบธรรมจากพระเจ้า พระเจ้าประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้คุณเพื่อให้คุณเดินในความสัมพันธ์ที่ได้รับการฟื้นฟูกับพระองค์ และความสัมพันธ์ที่ได้รับการฟื้นฟูกับผู้อื่น
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ขอหันกลับมาหาพระองค์ในวันนี้ด้วยสุดจิตสุดใจและสุดกำลัง โปรดเติมเต็มข้าพระองค์ด้วยพระวิญญาณของพระองค์และช่วยให้ข้าพระองค์เชื่อฟังพระองค์ทั้งสิ้น
Pippa Adds
สดุดี 84:7
‘พวกเขาไปด้วยกำลังที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เขาจะเข้าเฝ้าพระเจ้าแห่งพระทั้งหลายในศิโยน’
นี่เป็นสิ่งที่หนุนใจที่จะให้ชีวิตเราจบดี โดยการก้าวต่อไปและเชื่อว่าปีต่อ ๆ ไปจะเกิดผลมากกว่าปีที่ผ่านมา
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Faith in Action: A Journey Through James

Reimagine Transformation Through the Life of Paul

My Problem With Prayer

How to Love Your Work and God

How to Love Like Jesus

The Letter to the Philippians

Lighting Up Our City Video 2: Avoiding Insider Language

The Discipline of Study and Meditation

How Is It With Your Soul?
