พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

คำตอบที่พลิกสถานการณ์ของพระเจ้า
‘บางครั้ง เราตกในหลุมพรางของความคิดว่าเราเป็นคนที่แย่ที่สุดบนโลกใบนี้ และไม่มีใครทำสิ่งที่ผิดมากเท่ากับเราอีกแล้ว แต่ในโรม 3:23 เขียนว่าเพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริ (อันเป็นเลิศ) ของพระเจ้า ส่วนจอยซ์ ไมเยอร์เขียนว่า มนุษย์ทุกคน ทั้งชาย หญิง หรือเด็กทุกคนที่เกิดมา หรือที่จะเกิดมานั้น มีปัญหาเรื่องของความบาป แต่ข่าวดีคือพระเจ้าทรง ให้*คำตอบสำหรับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเรา*” เมื่อเซนต์ออกัสติน พบ*คำตอบ*ในปี ค.ศ. 386 ‘แสงสว่างที่ชัดเจนได้ท่วมท้นในหัวใจของเขา’ มาร์ติน ลูเธอร์ได้พบ*คำตอบ*และไม่กี่ปีหลังจากนั้น การปฏิรูปทางความเชื่อได้เริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1517 เมื่อจอห์น เวสลี่ย์เข้าใจถึง*คำตอบ*ใน ค.ศ. 1738 หัวใจของเขา ‘รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด’ และเมล็ดแห่งการฟื้นฟูได้เกิดขึ้น ในแต่ละกรณี ชีวิตของพวกเขาถูกเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง ผ่านความเข้าใจถึง *‘ความชอบธรรมของพระเจ้า’* นั่นคือสิ่งที่พลิกสถานการณ์ เวลาที่ใครก็ตามเข้าใจถึงประโยคนี้ มันจะเปลี่ยนชีวิตของคุณ และสิ่งนี้ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของผมเช่นเดียวกันสดุดี 85:8-13
คำตอบจากพระเจ้าให้สันติสุขของพระองค์แก่เรา
‘ฉันเติบโตในบรรยากาศของความขัดแย้ง และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ฉันรู้จัก’ จอยซ์ ไมเยอร์ เขียนดังนี้ ‘ฉันต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตด้วยวิถีใหม่อย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ฉันเสพติดสันติสุข เมื่อใดก็ตามที่สันติสุข ของฉันหายไป ฉันจะถามตัวเองว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และเริ่มมองหาวิธีที่จะเอาสันติสุขกลับคืนมา’
พระเจ้าทรงสัญญาที่จะให้ ‘สันติสุข’ แก่คนของพระองค์ (ข้อ 8) นั่นไม่ได้หมายถึงสันติสุขภายนอกเสมอไป ความกดดัน ความยากลำบาก การทดสอบ อุปสรรค และความยุ่งเหยิงอาจจะไม่หายไป แต่ท่ามกลางทั้งหมดนี้ พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะให้สันติสุขของพระองค์กับเรา สันติสุขนี้มาจากการฟังสิ่งที่ ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าตรัส’ (ข้อ 8)
สันติสุขนั้นเชื่อมโยงเข้าสนิทกับความชอบธรรม ผู้เขียนสดุดีกล่าวว่า ‘ความชอบธรรมและสันติภาพจะจูบกัน’ (ข้อ 10ข) ในทำนองเดียวกับที่ความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์จะเจอกัน (ข้อ 10ก) ความชอบธรรมและสันติสุขก็จะพบกัน สันติสุขนั้นมาจากการมีชีวิตที่ชอบธรรมเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า (โรม 5:1)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่ทรงช่วยข้าพระองค์ให้เดินในความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระองค์และให้ข้าพระองค์ได้ชื่นชมในสันติสุขที่พระองค์ทรงประทานให้
โรม 3:9-31
คำตอบจากพระเจ้าเป็นของประทานที่เราได้รับ
เราทุกคนปรารถนาสันติสุข เราปรารถนาที่จะมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าและกับคนอื่น ๆ แต่เราจะรับเอา ‘ความชอบธรรมจากพระเจ้า’ ได้อย่างไร?
เปาโลได้พูดข้อโต้แย้งของตนว่า ไม่มีใครสามารถชอบธรรมด้วยตัวของเขาเอง ‘ไม่มีใครใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง ไม่มีสักคนเดียว’ (ข้อ 10ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘พวกเขาล้วนเดินไปผิดทาง และหลงไปในตรอกซอยตัน’ (ข้อ 12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ความชอบธรรมคือหนทางสู่สันติสุข แต่ความจริงคือ ‘เขาไม่รู้จักทางแห่งสันติสุข’ (ข้อ 17)
เปาโลสรุปข้อโต้แย้งของเขาในข้อนี้ว่า ‘มันชัดเจนไม่ใช่หรือว่าพวกเราเป็นคนบาป เราทุกคน อยู่บนเรือลำเดียวกันที่กำลังจะจม’ (ข้อ 20, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) สามคำเล็ก ๆ ต่อจากนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ‘แต่เดี๋ยวนี้...’ (ข้อ 21)
เมื่อแก้ปัญหาได้แล้ว เปาโลจึงได้อธิบายคำตอบที่พลิกสถานการณ์ของพระเจ้าต่อว่า ‘ความชอบธรรมของพระเจ้า’ (ข้อ 21) ความชอบธรรมจากพระเจ้าไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยธรรมบัญญัติ เพราะไม่มีใคร (นอกจากพระเยซู) ที่รักษาธรรมบัญญัติทั้งหมดได้ ในพันธสัญญาเดิม (ธรรมบัญญัติและผู้เผยพระวจนะ) เป็นพยานเกี่ยวกับเรื่องนี้และชี้ไปที่คำตอบของพระเจ้า (ข้อ 21)
‘ความชอบธรรมของพระเจ้า ซึ่งปรากฎโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์แก่ทุกคนที่เชื่อ’ (ข้อ 22) เราไม่สามารถรับความชอบธรรมจากพระเจ้าโดยสิ่งที่เราทำ นี่เป็นของประทานอันบริสุทธิ์ที่เราได้รับ ‘ผ่านทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์แก่ทุกคนที่เชื่อ’ (ข้อ 22)
จากนั้นเปาโลได้ใช้ภาพ 3 ภาพ บรรยายถึงสิ่งที่การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูบนกางเขนได้ทำให้สำเร็จ แต่ละภาพเป็นเหมือนเหลี่ยมของเพชร ซึ่งประสานเข้าด้วยกัน
- ค่าปรับโทษของบาปถูกจ่ายแล้ว
การให้เหตุผลว่าชอบด้วยกฎหมายเป็นการแสดงออกของศาล ‘พระเจ้าทรงมีพระคุณให้เขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่คิดมูลค่า’ (ข้อ 24) พระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษาที่เป็นธรรม พระองค์ไม่สามารถมองข้ามความผิดของเราได้
พระเจ้าเสด็จมาในสภาพของพระบุตร คือพระเยซูคริสต์ เพื่อตายแทนคุณและผม ‘…ในการที่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัย และทรงยกบาปที่ได้ทำไปแล้วนั้น และเพื่อจะสำแดงในปัจจุบันนี้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรม และทรงให้ผู้ที่เชื่อในพระเยซูเป็นผู้ชอบธรรมด้วย’ (ข้อ 25-26) พระองค์ทรงจ่ายค่าปรับโทษด้วยพระองค์เอง
คุณได้ ‘เป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่คิดมูลค่า’ (ข้อ 24) พระคุณหมายถึงความรักที่ไม่คู่ควรจะได้รับ เราไม่ต้องจ่ายราคาใด ๆ และไม่สามารถทำดีเพื่อจะได้รับมา พระคุณนั้นเป็นของประทาน ดังนั้นเราจึงไม่สามารถอวดอ้างได้เลย (ข้อ 27-31)
โดยการสิ้นพระชนม์บนกางเขน พระเยซูได้ทรงจ่ายค่าปรับโทษของทุกการกระทำ คำพูด หรือความคิดที่ผิดบาปของเรา เมื่อคุณเชื่อวางใจในพระเยซู คุณถูกทำให้ชอบธรรม ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไป ค่าปรับโทษได้ถูกจ่ายแล้ว คุณได้รับของขวัญแห่งความชอบธรรมของพระเจ้า
- อำนาจของบาปได้ถูกทำลาย ภาพที่สองที่อาจารย์เปาโลใช้คือตลาด: ‘โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว’ (ข้อ 24)
หนี้สินถือเป็นปัญหาในยุคโบราณเช่นกัน ถ้าใครสักคนมีหนี้มหาศาล เขาอาจถูกบีบให้ขายตัวเองไปเป็นทาสเพื่อจะชำระหนี้
สมมติว่ามีคนหนึ่งยืนอยู่ในท้องตลาดและกำลังเสนอตัวเป็นทาส บางคนอาจจะสงสารเขา ยอมจ่ายค่าหนี้ให้และปล่อยคนนั้นไป โดยการทำเช่นนั้นเขากำลัง ‘ไถ่’ คน ๆ นั้นและจ่ายราคาของ ‘ค่าไถ่’
ในทำนองเดียวกัน ‘โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว’ (ข้อ 24) ความบาปของเราเป็นเหมือนหนี้ที่ค้ำเราอยู่ พระเยซูทรงจ่ายค่าไถ่เราโดยการสิ้นพระชนม์บนกางเขน (มาระโก 10:45) โดยทางนี้เราจึงเป็นอิสระที่จะมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ความสัมพันธ์นั้นได้ถูก รื้อฟื้น คุณได้รับความชอบธรรมจากพระเจ้า
- มลพิษของความบาปได้ถูกกำจัดเสีย ภาพที่สามของอาจารย์เปาโลในข้อนี้มาจากพระวิหาร ‘พระเจ้าได้ทรงตั้งพระเยซูไว้ให้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์ ความเชื่อจึงได้ผล’ (โรม 3:25)
ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม กฎบัญญัติที่ระบุว่าความบาปจะต้องถูกจัดการอย่างไรนั้นเขียนไว้อย่างละเอียด มีระบบของการถวายเครื่องบูชาซึ่งแสดงออกถึงความร้ายแรงของบาปและความจำเป็นที่ต้องชำระล้างตัวจากมัน ขณะที่ความบาปถูกย้ายจากบุคคลที่ทำบาปไปยังสัตว์ที่จะต้องถูกฆ่า
แต่ว่า ‘เลือดวัวผู้และเลือดแพะไม่มีทางชำระบาปให้หมดสิ้นไปได้เลย’ (ฮีบรู 10:4) ระบบการถวายสัตวบูชาแบบเดิมนั้นเป็นเพียง ‘เงา’ (ข้อ 1) ของสิ่งที่จะมาในภายหลัง การสละพระชนม์ของพระเยซูคือความเป็นจริงที่เกิดขึ้น โลหิตของพระคริสต์และ ‘การถวายพระกายของพระเยซูคริสต์ครั้งเดียว’ (ข้อ 10) สามารถชำระความบาปของเราและชำระมลพิษของมันได้ นั่นเป็นเพราะว่าพระเยซูทรงเป็นเครื่องบูชาที่สมบูรณ์ พระองค์เพียงผู้เดียวมีชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ โดยพระโลหิตของพระองค์เราจึงได้รับคำตอบจากพระเจ้าที่พลิกสถานการณ์ได้ คือ ความชอบธรรมของพระองค์
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์จะขอบคุณพระองค์อย่างไรให้เพียงพอสำหรับของขวัญ ‘ความชอบธรรมจากพระเจ้าโดยความเชื่อในพระเยซู’ ขอบคุณที่ข้าพระองค์สามารถรับเอาสันติสุข การยกโทษ เสรีภาพ และการชำระโดยพระโลหิตของพระเยซู ซึ่งเป็นผลจากความชอบธรรมของพระองค์
อาโมส 3:1-4:13
คำตอบจากพระเจ้าท้าทายให้เรามีชีวิตอย่างถูกต้อง
เปาโลบอกกับเราว่าคำตอบจากพระเจ้าที่พลิกสถานการณ์ คือความชอบธรรมของพระเจ้านั้น ‘ได้รับการยืนยันจากหมวดธรรมบัญญัติและพวกผู้เผยพระวจนะ’ (โรม 3:21) อาโมสเป็นหนึ่งในผู้เผยพระวจนะเหล่านั้น
เมื่ออาโมสหันมากล่าวถ้อยคำของพระเจ้าต่อหน้าอิสราเอล เราได้เห็นว่าพระเจ้าทรงปรารถนาความชอบธรรม ที่พวกเขาจะถูกลงโทษตามความผิดบาปทั้งหมดที่ทำไป พระเจ้าตรัสว่า ‘ในบรรดาตระกูลทั้งหมดในโลกนี้ เราได้เลือกเจ้าไว้ ดังนั้น เพราะการทรงเรียกที่พิเศษของเจ้า เจ้าจะต้องรับผิดชอบต่อความบาปทั้งหมดที่เจ้าทำ’ (อาโมส 3:2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ประชาชนอิสราเอลถูกกล่าวโทษในสถานที่ที่เป็นเหมือนศาล ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย พระเจ้าจอมทัพตรัสว่า “ฟังซิ และจงเป็นพยานกล่าวโทษพงศ์พันธุ์ของยาโคบเถิด”’ (ข้อ 13)
ดูเหมือนว่าพระเจ้าทรงเรียกพยานมาให้การคัดค้านคนของพระองค์: “พวกผู้หญิงเอ๋ย! เจ้าทำไม่ดีต่อคนยากจน และโหดร้ายต่อคนขัดสน เจ้าเกียจคร้านและถูกตามใจนัก เจ้าสั่งการสามีว่า ‘เอาเครื่องดื่มเย็น ๆ แก้วโตมาให้ฉันสิ’” (อาโมส 4:1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พวกเธอถูกประณามเพราะความฉาบฉวย การปรนเปรอตนเอง และการกระทำต่อคนยากจนและคนขัดสน
พระเจ้าตรัสกับคนของพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อจะดึงพวกเขากลับมาหาพระองค์ ‘ความจริงคือพระเจ้า องค์เจ้านาย จะไม่กระทำสิ่งใดโดยไม่บอกเรื่องราวทั้งหมดกับผู้เผยพระวจนะของพระองค์ก่อน’ (อาโมส 3:7 พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล) ‘“กระนั้นพวกเจ้าก็ยังไม่กลับมาหาเรา”พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ’ (อาโมส 4:6, 8-11)
เมื่อเราเข้าใจถึงภูมิหลังของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมนี้ ก็ยิ่งสะดุดกับที่อัครทูตเปาโลเขียนว่า ‘คือความชอบธรรมของพระเจ้า ซึ่งปรากฎโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์’ (โรม 3:22) สิ่งที่พลิกสถานการณ์ของพระเจ้าคือพระเยซูทรงจ่ายค่าปรับแทนเรา เรากลายเป็นผู้ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้า ในวันนี้เราสามารถเข้าหาพระองค์ด้วยความมั่นใจ พูดกับพระองค์เหมือนพูดกับพ่อที่รักเรา และรับรู้ถึงสันติสุขของพระองค์ที่อยู่ลึกในหัวใจของเรา
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่ความปรารถนาของพระองค์คือการที่พวกเราจะกลับมาหาพระองค์และดำเนินในความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระองค์ ขอบคุณที่พระองค์กระทำให้สิ่งนั้นสำเร็จแล้วผ่านทางพระเยซู
Pippa Adds
อาโมส 4:9
‘“เราโจมตีพืชผลของเจ้าด้วยโรคและเชื้อรา บรรดาไร่นาของเจ้า และสวนองุ่นของเจ้า ต้นมะเดื่อและต้นมะกอกของเจ้า ตั๊กแตนก็มากิน กระนั้น พวกเจ้าก็ยังไม่กลับมาหาเรา” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
ในสวนของเรา กุหลาบก็มีราขึ้น กระรอกมาขุดรื้อสายไฟของเรา ส่วนไม้เลื้อยก็ปกคลุมไปทั่วสวน ฉันคงต้องกลับใจใหม่หรือทำงานสวนหนักขึ้นกว่าเดิมแล้ว!
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Faith in Action: A Journey Through James

Reimagine Transformation Through the Life of Paul

My Problem With Prayer

How to Love Your Work and God

How to Love Like Jesus

The Letter to the Philippians

Lighting Up Our City Video 2: Avoiding Insider Language

The Discipline of Study and Meditation

How Is It With Your Soul?
