YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 157 OF 365

ความกรุณา

สตีฟ โชเกรน เขียนหนังสือชื่อ *ทฤษฎีสมคบคิดแห่งความกรุณา (Conspiracy of Kindness)* เขาเริ่มต้นคริสตจักรในเมืองซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วจนมีผู้เข้าร่วมเฉลี่ยเกิน 7,000 คน คำขวัญของพวกเขาก็คือ ‘ทำสิ่งเล็ก ๆ ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้’ พวกเขาแสดงออกซึ่งการกระทำแห่งความกรุณาที่ไม่เจาะจงเช่น จ่ายค่ากาแฟให้กับคนแปลกหน้า หรือเขียนคำ ‘ขอบคุณ’ ให้กับคนขายของตามร้าน ความกรุณาเป็นความรักที่แสดงออกเป็นการกระทำ การสำแดงความรักของพระเจ้าด้วยการลงมือทำ พวกเขาพบว่าพลังแห่งความกรุณาส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ทั้งในชีวิตของพวกเขาและชีวิตของคนรอบตัว ความกรุณาที่ไม่ได้คาดคิดนั้นทรงพลังที่สุด จ่ายราคาน้อยที่สุด และถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่เป็นจริงที่สุดในการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ เมื่อความกรุณาถูกแสดงออกมา ความสัมพันธ์ที่ดีก็ถูกสร้างขึ้น การเชื่อมโยงในชุมชนก็ได้รับการหล่อเลี้ยงและผู้คนก็ได้รับแรงบันดาลใจที่จะส่งต่อความกรุณา

สดุดี 70:1-5

วางใจในพระกรุณาของพระเจ้า

พระเจ้าทรงพระกรุณา พระองค์ทรงรักคุณ ไม่ว่าคุณจะต้องการสิ่งใดในวันนี้ คุณสามารถร้องทูลต่อพระองค์ และพระองค์จะทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ และผู้ช่วยกู้ของคุณ

ดาวิดอธิษฐานว่า 'ข้าแต่พระเจ้า! ขอทรงรีบมาช่วยกู้ข้าพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงรีบมาอยู่ข้าง ๆ ข้าพระองค์เถิด’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาทูลต่อไปว่า ‘แต่ข้าพระองค์ยากจนและขัดสน ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงรีบมาช่วยข้าพระองค์เถิด ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขออย่าทรงรอช้า พระองค์ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์และผู้ช่วยกู้ของข้าพระองค์’ (ข้อ 5) เมื่อพระองค์ร้องทูล พระองค์ทรงระลึกได้ถึงความกรุณาของพระเจ้าที่มีต่อพระองค์ในอดีต

เมื่อผมมองกลับไปที่พระธรรมตอนนี้ในพระคัมภีร์ของผม และเห็นถึงการร้องขอความช่วยเหลือ ที่ผมจดไว้ข้าง ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมอธิษฐานว่า

‘ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์อย่างยิ่งต่อพระกรุณาและความรักของพระองค์ วันนี้ ข้าพระองค์ขอร้องทูลพระองค์เรื่อง…’

กิจการอัครทูต 3:1-26

การแสดงความกรุณาต่อผู้ที่ขัดสน

หนึ่งในการกระทำแห่งความกรุณาสามารถเปลี่ยนแปลงวันของคน ๆ หนึ่ง หรือแม้แต่ชีวิตของเขาได้ ตามที่กล่าวไป ‘จงกรุณา เพราะทุกคนที่คุณพบเจอกำลังต่อสู้อย่างหนักหน่วง’ ความกรุณาเป็นหนึ่งในผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (กาลาเทีย 5:22) ภายหลังจากที่พวกเขาได้เต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราเห็นในพระธรรมตอนนี้ถึงสิ่งซึ่งภายหลังถูกอธิบายว่าเป็น ‘การดี’ (กิจการ 4:9) ซึ่งทำโดยเปโตรและยอห์น (3:1–10)
การดี’ นี้นำไปสู่เหตุการณ์ต่อเนื่องที่น่าจดจำ ซึ่งบางทีอาจถูกอธิบายได้ดีที่สุดว่าเป็น ‘การประกาศด้วยฤทธิ์เดช’ ที่นำไปสู่การเติบโตของคริสตจักรอย่างน่าอัศจรรย์ นี่เป็นส่วนของจุดเริ่มต้นของการปะทุออกซึ่งในที่สุดแล้วก็เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกทั้งโลก

หากเราถูกขอให้เริ่มตั้งคริสตจักรใหม่ ผมสงสัยว่าเราควรทำในแบบที่พวกเขาทำไหม พวกเขาไม่มีตัวอาคาร ไม่มีทุน และไม่มีทรัพยากรใด ๆ เริ่มต้นด้วยกลุ่มชาวประมงและคนเก็บภาษี นอกจากนี้ยังเป็นพวกกลุ่มคนที่พูดภาษาแปลก ๆ อีกด้วย กระนั้นคริสตจักรก็ขยายออกอย่างมีชีวิตชีวาด้วยการเติบโตอย่างอัศจรรย์

ผู้คนจากภายนอกถูกดึงดูดเนื่องจากสิ่งที่พวกเขาเห็นเกิดขึ้นจากภายใน พวกเขาถูกดึงดูดด้วยฤทธิ์เดชเข้มข้นแท้จริงของพระเจ้าที่ถูกปลดปล่อยผ่านทาง ‘การดี

ชายสองคนนี้กำลังเดินทางไปร่วมการนมัสการรอบค่ำ เมื่อพวกเขาไปถึงพวกเขาก็เห็นคนหนึ่งที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างยิ่ง ร้องขอความช่วยเหลืออยู่ นี่เป็นคนประเภทที่เราอาจคาดว่าจะพบได้ในสถานที่ไม่กี่แห่งพวกเขาอาจหวังจะได้รับความกรุณาทางใดทางหนึ่ง

ชายคนนี้ ‘ถูกหามเข้ามา ทุกๆ วันคนจะวางเขาไว้ที่ริมประตูพระวิหารซึ่งมีชื่อว่าประตูงาม เพื่อให้ขอทานจากคนทั้งหลายที่เข้าไปในพระวิหารนั้น’ (ข้อ 2) ประตูนั้นถูกเรียกว่าประตูงาม กระนั้น สิ่งที่พวกเขาเห็นไม่ใช่สิ่งที่โลกเห็นว่างดงาม คนที่พิการตั้งแต่เกิดกำลังขอทานอยู่

ใจของพวกเขาไม่ได้ตกลงเมื่อพวกเขาเห็นความขัดแย้งนั้น แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ความเชื่อของพวกเขาทวีขึ้น พวกเขาทำบางอย่าง พวกเขารักษาชายคนนั้น พวกเขาเห็นบางคนที่ลำบากอยู่ พวกเขาระลึกถึงความงดงามภายในของมนุษย์ทุกคน พวกเขาไม่ได้มีเงินทองใด ๆ แต่เปโตรพูดว่า ‘เงินและทองเราไม่มี แต่สิ่งที่เรามีนั้นเราจะให้ท่าน คือในพระนามของพระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธ จงเดินเถิด’ (ข้อ 6)

นี่เป็นฤทธิ์เดชอันยิ่งใหญ่ในพระนามพระเยซู ในความคิดของคนฮีบรู ชื่อของคน ๆ หนึ่งเผยให้เห็นคุณลักษณะของเขา นี่ไม่ใช่สูตรสำเร็จหรือแค่คำพูดปิดท้ายคำอธิษฐาน นี่เป็นความแตกต่างของพันธกิจของพระเยซูและของสาวกของพระองค์ พระเยซูทรงรักษาด้วยสิทธิอำนาจของพระองค์เอง ในขณะที่สาวกทำในพระนามของพระองค์ ในแบบเดียวกัน เราพึ่งพาพระองค์ ในความอ่อนแอของเรา ทั้งคุณและผมสามารถทำพันธกิจของพระองค์ต่อไปได้ ด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ และในพระนามของพระองค์

ไม่เพียงแค่ชายคนนี้ได้รับการรักษา (เขากระโดดขึ้นยืน และเริ่มเต้นสรรเสริญพระเจ้า ข้อ 8) แต่หลายคนยังได้กลับใจเชื่อ การดีอันหนึ่งส่งผลกระทบอย่างน่าทึ่ง ผู้คน ‘จึงประหลาดใจและอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนนั้น…ฝูงคนก็วิ่งไปหาท่านทั้งสองด้วยความอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง‘ (ข้อ 10–11) การสำแดงฤทธิ์เดชของพระเจ้านั้นมาพร้อมกับการประกาศพระกิตติคุณ พวกเขาจึงมีโอกาสได้พูดเรื่องพระเยซู การสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นจากความตายของพระองค์ และความจำเป็นในการเชื่อวางใจ (ข้อ 14–16)

คำเทศนาของเราควรมีพระเยซูเป็นศูนย์กลางเสมอ คำเทศนาครั้งที่สองของเปโตร เหมือนกับครั้งแรกของเขา คือ เน้นไปที่พระเยซู เขาเริ่มต้นพูดว่า ‘ชนชาติอิสราเอลทั้งหลาย ทำไมท่านทั้งหลายอัศจรรย์ใจเพราะเรื่องของคนนี้? และทำไมท่านทั้งหลายจ้องดูเราราวกับว่าเราทำให้คนนี้เดินได้โดยฤทธิ์เดชหรือความชอบธรรมของเราเอง?’ (ข้อ 12) เปโตรไม่ได้อยากให้คนสนใจตัวเขา แต่ให้เพ่งความสนใจไปที่พระเยซู

การบรรยายทั้งหมดเป็นเรื่องพระเยซู พระเยซูทรงเป็น ‘ผู้รับใช้’ ของพระเจ้า (ข้อ 13) ‘องค์บริสุทธิ์และชอบธรรม’ (ข้อ 14) ‘แหล่งกำเนิดของชีวิต‘ (ข้อ 15) และ ‘ผู้เผยพระวจนะ‘ ที่โมเสสบอกไว้ล่วงหน้า (ข้อ 22) เขาพูดว่า ‘โดยความเชื่อในพระนามของพระองค์ พระนามนั้นจึงทำให้คนนี้ที่ท่านทั้งหลายเห็นและรู้จักมีกำลังขึ้น เป็นความเชื่อที่มาทางพระองค์ ทำให้คนนี้หายเป็นปกติต่อหน้าท่านทั้งหลาย’ (ข้อ 16)

เปโตรเล่าข่าวดีเรื่องพระเยซู เขาพูดเรื่องความบาป กางเขน การเป็นขึ้นจากความตาย และความจำเป็นในการกลับใจและหันไปหาพระเจ้า เขารับรองกับบรรดาคนเหล่านั้นถึงพระสัญญาของพระเจ้าในการให้อภัยความบาปของพวกเขา และรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระเจ้า เขาพูดว่า ‘เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงกลับใจและหันมาหาพระเจ้า เพื่อที่ว่าความผิดบาปของพวกท่านจะได้รับการลบล้าง เพื่อวาระแห่งการฟื้นชื่นจะได้มาจากพระพักตร์พระเจ้า’ (ข้อ 19)

‘วาระแห่งการฟื้นชื่น’ มาถึงเมื่อคุณใช้เวลาในการทรงสถิตของพระเจ้า เมื่อคุณเหนื่อยล้าหรือหมดแรง คุณสามารถสดชื่นขึ้นได้โดยการใช้เวลากับพระเจ้า บางครั้งคุณจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะแยกตัวออกจากความวุ่นวายในชีวิต และใช้เวลากับพระเจ้าในแบบที่พระเยซูทรงทำ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ในพระกรุณาของพระองค์ อยากจะนำเอา ‘วาระแห่งการฟื้นชื่น‘ มาสู่คุณ

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระนามพระเยซูมีฤทธิ์เดชอย่างยิ่ง ข้าพระองค์อธิษฐานเผื่อโอกาสวันนี้ในการแสดงความกรุณาต่อบางคน และช่วยพวกเขา ในพระนามพระเยซู

2 ซามูเอล 9:1-10:19

ให้และรับความกรุณา

พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระกรุณาอย่างไม่สิ้นสุด ดาวิดพูดถึง ‘ความรักมั่นคงของพระเจ้า’ (9:3) เมื่อคุณแสดงความกรุณา นี่เป็นวิธีที่แสดงความรักมั่นคงของพระเจ้าที่มีต่อคุณ

ดาวิดรับสั่งว่า ‘พงศ์พันธุ์ของซาอูลนั้นมีเหลือไหม? เพื่อเราจะแสดงความรักมั่นคงแก่ผู้นั้นโดยเห็นแก่โยนาธาน’ (ข้อ 1) จากนั้นพระองค์ถามศิบา ‘ไม่มีใครในพงศ์พันธุ์ซาอูลเหลืออยู่บ้าง เพื่อเราจะได้แสดงความเมตตาและความรักมั่นคงของพระเจ้าที่ไม่หยุดยั้ง ไม่ได้ร้องขอ และไม่มีข้อจำกัดต่อเขาเลยหรือ?’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

เมฟีโบเชทมีอายุเพียงห้าปีเมื่อบิดาของเขาเสียชีวิต (4:4) และบัดนี้ก็มีลูกชายเล็ก ๆ คนหนึ่ง (9:12) ดาวิดได้ครองราชย์อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มอย่างน้อยเจ็ดปี และเมฟีโบเชทน่าจะอายุราว ๆ ยี่สิบปี ความกรุณาที่ดาวิดสำแดงแก่เมฟีโบเชทเป็นเหมือนกับพระกรุณาที่พระเจ้าทรงสำแดงแก่เรา ไม่หยุดยั้ง ไม่ได้ร้องขอ และไม่มีข้อจำกัด

อีกครั้งที่บางคนที่พิการ (ข้อ 3) ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับความกรุณาเป็นพิเศษ ดาวิดตรัสกับท่านว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเราจะแสดงความรักมั่นคงต่อท่านแน่นอน...เราจะคืนที่ดินทั้งหมด...และท่านจะรับประทานอาหารอยู่ที่โต๊ะของเราเสมอไป’ (ข้อ 7)

จากนั้น ดาวิดมองหาโอกาสมากขึ้นที่จะแสดงความกรุณา 'เราจะซื่อสัตย์ต่อฮานูนโอรสของนาหาช ดังที่พระราชบิดาของเขาซื่อสัตย์ต่อเรา’ (10:2) น่าเศร้าที่เมื่อบางสิ่งเกิดขึ้น ความกรุณาก็ถูกเข้าใจผิดไป (ข้อ 3 เป็นต้นไป) อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ควรทำให้เราผิดหวัง นี่เป็นธรรมชาติ เป็นธรรมดาที่อยากจะแสดงความกรุณาต่อลูกๆที่พ่อแม่มีเมตตาต่อเราเป็นพิเศษ

เมฟีโบเชททูลว่า ‘ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเป็นใครเล่า? ซึ่งฝ่าพระบาทจะทรงสังเกตเห็นสุนัขตายอย่างข้าพระบาทนี้’ (ข้อ 8 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขามองตัวเองต่ำมาก เหมือนเราหลายคน เขาสนใจที่ความไม่สมบูรณ์แบบของเขา แต่พระเจ้าทรงอวยพรเราแม้ว่าเราจะไม่สมบูรณ์แบบ พระองค์ทรงต้องการให้เรารู้และมีประสบการณ์กับพระกรุณาอันไม่จำกัดของพระองค์ อย่าจดจ่อกับสิ่งที่ผิดพลาด ความบาป ความผิดพลาด ความอ่อนแอ และความล้มเหลวของคุณ ในพระคริสต์ พระเจ้าทรงประทานความชอบธรรมของพระองค์ให้กับคุณ และทรงอยากเทพระคุณอันอุดมเหลือล้นของพระองค์ ด้วยพระกรุณาที่มีต่อเราในพระเยซูคริสต์ (เอเฟซัส 2:7)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับพระคุณอันอุดมเหลือล้นของพระองค์ ด้วยพระกรุณาที่มีต่อข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้มองหาโอกาสที่จะสำแดงความกรุณาต่อผู้ที่ขัดสนอยู่

Pippa Adds

2 ซามูเอล 10:1-19

ตรงจุดนี้เราเห็นว่า คนอัมโมนระแวงและตั้งข้อรังเกียจคนของดาวิดที่นำเอาสารแห่งความเห็นอกเห็นใจที่แท้จริงไปให้ พวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจนกระทั่งถึงช่วงเวลานั้น อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการกระทำของพวกเขาคือเกิดสงครามและการสูญเสียชีวิต

แน่นอน นี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะมีปัญญาและรู้จักแยกแยะ อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรกลายเป็นคนที่ช่างเหยียดหยาม นี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะเชื่อในสิ่งที่ดีที่สุดเรื่องแรงจูงใจของคนอื่น ๆ

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More