พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระองค์ทรงประทานฤทธิ์เดชแก่คุณ
ผมเล่นสควอชเป็นประจำกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง เรามีฝีมือพอ ๆ กัน เราผลัดกันแพ้ชนะอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างไรชัยชนะทำให้รู้สึกดี ความรู้สึกเพลิดเพลิน และอิ่มอกอิ่มใจที่มาพร้อมชัยชนะนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ แน่นอนว่านี่เป็นตัวอย่างเล็กน้อย ชัยชนะซึ่งเป็นศูนย์กลางของพระธรรมในวันนี้เป็นสิ่งที่มีลำดับและความสำคัญที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยที่สุดหรือสำคัญมากที่สุด ชัยชนะทำให้เราได้ลิ้มรสความหมายของมันและความชื่นชมยินดี ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าซึ่งเราได้อ่านในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่นั้นเป็นสิ่งที่พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมบอกเอาไว้ล่วงหน้า ชัยชนะสูงสุดของพระเจ้ามาพร้อมกับชีวิต การสิ้นพระชนม์ การเป็นขึ้นจากความตาย และการถูกรับขึ้นของพระเยซู และการเทลงมาขององค์พระวิญญาณของพระองค์ที่ทรงประทานฤทธิ์เดชให้คุณเพื่อดำเนินชีวิตแห่งชัยชนะสุภาษิต 14:5-14
ชัยชนะแห่งความดีงาม
คำว่า ‘คนโง่’ ในพระธรรมสุภาษิตไม่ได้หมายถึงคนที่ขาดความเฉลียวฉลาด แต่หมายถึงคนที่มีใจกบฏ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อพระเจ้าและธรรมบัญญัติแห่งความเหมาะสมและความยุติธรรม) ‘คนที่ชอบเยาะเย้ย…คนโง่…คนอธรรม…คนเลว’ (ข้อ 6,7,9,11,14) ก็จะต้องตายอย่างน่าอนาถ (ข้อ 11–14) เส้นทางของพวกเขาสิ้นสุดลงที่ความตาย
ในทางตรงกันข้ามพระธรรมสุภาษิตเต็มไปด้วยคำสอนเรื่องความสำคัญของความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ เราอ่านตรงนี้เรื่อง ‘พยานที่ซื่อสัตย์… คนเที่ยงธรรม…คนดี’ (ข้อ 5,9,11,14)
สิ่งที่บ่งชี้เป็นตรงนี้คือคนที่ชอบธรรมจะมีทางออกจากความตายครั้งสุดท้าย และจะ ‘รุ่งเรือง’ และได้รับ ‘ผลตอบแทน’ (ข้อ 11–14) พูดอีกอย่างก็คือ พวกเขาจะได้มีชัยในท้ายที่สุด ‘ชีวิตที่ชอบธรรมเป็นชีวิตที่ได้รับความโปรดปราน’ (ข้อ 9ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้าขอทรงช่วยข้าพระองค์โดยฤทธิ์เดชขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ ที่จะสัตย์ซื่อในทุกทาง และทำการดีต่าง ๆ ซึ่งพระองค์ทรงจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อให้ข้าพระองค์ได้ทำ (เอเฟซัส 2:10)
กิจการอัครทูต 2:22-47
ชัยชนะของพระเยซู
คริสตจักรควรเป็นสถานที่แห่ง ‘การเฉลิมฉลอง การเจริญเติบโต และความชื่นชมยินดี’ (ข้อ 46, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เราควรเป็นคนที่คิดบวกที่สุดในโลก ให้เราไม่หยุดเฉลิมฉลองพระเยซูและชัยชนะของพระเจ้า
ในวันเพ็นเทคอสต์ เปโตรซึ่งเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ อธิบายถึงชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระเยซู เขาเริ่มพูดถึงชีวิต พันธกิจ การสิ้นพระชนม์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นขึ้นจากความตายของพระองค์ เขายกสี่เหตุผลว่าทำไมคุณสามารถแน่ใจได้ว่า พระเยซูทรงเป็นขึ้นจากความตาย และจากนั้นคุณจึงแน่ใจได้ว่า ผ่านทางฤทธิ์เดชของพระองค์ภายในคุณ คุณจะเป็นขึ้นสู่ชีวิตใหม่กับพระองค์
1. ตามหลักเหตุผล
ฤทธิ์เดชแห่งความตายของมารไม่อาจเข้มแข็งกว่าฤทธิ์เดชแห่งชีวิตในพระเมสสิยาห์ของพระเจ้า เปโตรอธิบายว่า ‘แต่พระเจ้าทรงทำให้พระองค์คืนพระชนม์ ทรงให้พ้นจากความตายอันปวดร้าว เพราะว่าความตายจะครอบงำพระองค์ไว้ไม่ได้’ (ข้อ 24)
2. ตามหลักการพระคัมภีร์
เปโตรชี้ว่า การเป็นขึ้นมาจากความตายถูกพยากรณ์ไว้ในสดุดี 16:8–11 (กิจการ 2:25–28) เปโตรพูดว่า ‘(ดาวิด)เป็นผู้เผยพระวจนะ และทราบว่าพระเจ้าตรัสสัญญาไว้กับท่านด้วยพระปฏิญาณว่าพระองค์จะประทานผู้หนึ่งในวงศ์ตระกูลของท่านให้นั่งบนบัลลังก์ของท่าน ท่านก็ล่วงรู้เหตุการณ์นี้ก่อน จึงกล่าวถึงการคืนพระชนม์ของพระคริสต์’ (ข้อ 30–31)
3. รายบุคคล
เปโตรพูดถึงคำพยานของท่านเอง ‘พระเยซูองค์นี้พระเจ้าได้ทรงให้คืนพระชนม์แล้วซึ่งเราทุกคนคือสักขีพยานของเรื่องนี้’ (ข้อ 32) เปโตรพูดถึงโดยสาระสำคัญว่า ‘เราทุกคนคือสักขีพยานของเรื่องนี้’
4. ตามประสบการณ์ส่วนตัว
ประสบการณ์เรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยตัวมันเองเป็นหลักฐานถึงการเป็นขึ้นมาจากตาย หลังจากชีวิต การสิ้นพระชนม์ การเป็นขึ้นมาจากความตาย และการถูกรับขึ้นของพระเยซู ก็มาถึงการกระทำสุดท้ายในพันธกิจการช่วยกู้ของพระองค์ ‘เพราะฉะนั้นเมื่อทรงเชิดชูพระองค์ขึ้นอยู่ที่พระหัตถ์เบื้องขวาของพระเจ้าแล้ว และเมื่อพระองค์ทรงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์จากพระบิดาตามพระสัญญาแล้ว พระองค์ทรงเทลงมาดังที่ท่านทั้งหลายได้ยินและได้เห็น’ (ข้อ 33)
ประสบการณ์นี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ที่อยู่ในวันเพ็นเทคอสต์ นี่มีไว้เพื่อคริสเตียนทุกคน นี่มีไว้เพื่อคุณ ‘เพราะว่าพระสัญญานั้นตกแก่ท่านทั้งหลายกับลูกหลานของพวกท่านด้วย และแก่ทุกคนที่อยู่ไกล คือทุกคนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของเราทรงเรียกให้มาเฝ้า’ (ข้อ 39) ทุกครั้งที่บางคนมีประสบการณ์กับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็เป็นหลักฐานเพิ่มเติมของการเป็นขึ้นจากการตาย ทุกครั้งที่คุณเห็นบางคนเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือฟังคำพยานของพวกเขาว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเขาไปอย่างไร นี่เป็นหลักฐานเพิ่มเติมของการเป็นขึ้นจากการตาย
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำให้เราตระหนักถึงความจริงในถ้อยคำของเปโตร ‘ท่านทั้งหลายตรึงไว้บนกางเขน’ พระเยซูชาวนาซาเร็ธ (ข้อ 36) พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของผม ผมฆ่าพระเยซู ความบาปส่วนตัวของผมถูกตรึงไว้ที่กางเขน วันที่ผมตระหนักสิ่งนี้ ผมเองก็รู้สึก ‘แปลบปลาบใจ’ ด้วยเช่นกัน (ข้อ 37) นี่เป็นการเปิดเผยสำแดงที่นำมาซึ่งการกลับใจที่แท้จริง”
วิธีที่คุณรับพระสัญญานี้คือโดยการกลับใจใหม่ เชื่อในพระเยซู บัพติศมาและรับเอาของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ข้อ 37–38) หลักฐานว่าคุณได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเห็นได้จากชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปและชุมชนได้รับการเปลี่ยนแปลง (ข้อ 42–47) คริสตจักรไม่ใช่แค่สถานที่แห่งการเฉลิมฉลอง การเจริญเติบโต และความชื่นชมยินดี แต่ควรเป็นสถานที่แห่งความรักสูงสุด
1. ความรักต่อพระเจ้า
คริสตจักรเป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความรักต่อพระเจ้า พวกเขามีความรักใหม่ต่อพระคัมภีร์
‘เขาทั้งหลายอุทิศตัวเพื่อฟังคำสอนของบรรดาอัครทูต’ (ข้อ 42) คำสอนเหล่านี้ส่วนมากถูกบรรจุไว้ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่
พวกเขามีความรักใหม่ต่อศีลระลึก ‘เขาทั้งหลายอุทิศตัว...หักขนมปัง‘ (ข้อ 42) ‘พวกเขาอุทิศตัว...หักขนมปังตามบ้านของพวกเขา’ (ข้อ 46)
พวกเขามีความรักใหม่ต่อการอธิษฐาน (ข้อ 42) คริสตจักรที่เต็มล้นด้วยพระวิญญาณ จะเป็นคริสตจักรแห่งการอธิษฐาน
2. ความรักต่อกันและกัน
คริสตจักรควรมีลักษณะสำคัญของการรักซึ่งกันและกัน พวกเขามีความปรารถนาใหม่ที่จะพบกัน ‘เขาทั้งหลายอุทิศตัว...ร่วมสามัคคีธรรม’ (ข้อ 42) ‘พวกเขาอุทิศตัวอยู่ด้วยกัน‘ และ ‘รับประทานอาหารร่วมกันด้วยความชื่นชมยินดีและจริงใจ’ (ข้อ 46) มีการปลดปล่อยครั้งใหม่เรื่องการเงินและความใจกว้างในการถวาย (ข้อ 44–45)
คริสตจักรที่เต็มล้นด้วยพระวิญญาณ จะเป็นคริสตจักรที่เป็นหนึ่งเดียวกัน
3. ความรักต่อโลก
คริสตจักรควรเต็มล้นด้วยความรักต่อโลก เป็นชุมชนที่เน้นออกไปภายนอก ทำการอัศจรรย์ และหมายสำคัญมากมาย (ข้อ 43) ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าก็โปรดให้คนทั้งหลายที่กำลังจะรอด เพิ่มจำนวนเข้ามามากยิ่งขึ้นทุกๆ วัน’ (ข้อ 47) คริสตจักรที่เต็มล้นด้วยพระวิญญาณ ควรเป็นคริสตจักรที่มองออกไปภายนอก
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของพระเยซูที่มีเหนือความบาปและความตาย โปรดเติมลูกอีกครั้งด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์
2 ซามูเอล 7:1-8:18
ชัยชนะไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน
ชัยชนะของพระเยซูนั้นถูกพูดถึงไว้ล่วงหน้าในชีวิตของดาวิด มีการอ้างถึงดาวิดนับพันครั้งในพระคัมภีร์ ท่านเป็นกษัตริย์ที่ถูกเจิมตั้งไว้ (เมสสิยาห์) พระเจ้าทรงประทานให้ท่าน ‘พักสงบจากเหล่าศัตรูรอบด้านของพระองค์’ (7:1) ผู้เผยพระวจนะนาธันทูลดาวิดว่า ‘ขอทรงทำทุกสิ่งตามพระทัยของฝ่าพระบาทเพราะพระยาห์เวห์สถิตกับฝ่าพระบาท’ (ข้อ 3) ‘พระยาห์เวห์ประทานชัยชนะแก่ดาวิดในทุกแห่งที่ดาวิดเสด็จไป’ (8:6,14)
เราเห็นตัวอย่างต่อไปนี้ในคำอธิษฐานของดาวิด:
1. สรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
ดาวิดมีความรู้สึกถึงทั้งความไม่คู่ควรของตนเองต่อการทรงสถิตของพระเจ้า (7:18) และในขณะเดียวกันก็สำนึกถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ฉะนั้นพระองค์ทรงยิ่งใหญ่ ไม่มีใครเหมือนพระองค์ ไม่มีพระเจ้านอกเหนือพระองค์’ (ข้อ 22) ท่านสรรเสริญพระเจ้าสำหรับการทรงไถ่ของพระองค์ต่อประชากรของพระองค์ (ข้อ 23)
2. ร้อนรนเพื่อพระนามพระเจ้า
ดาวิดร้อนรนที่จะเห็นพระนามพระเจ้าได้รับเกียรติ ‘...และทรงทำดังที่พระองค์ตรัสไว้ ขอพระนามของพระองค์เป็นที่สรรเสริญตลอดนิรันดร์‘ (ข้อ 25–26)
3. พระสัญญาสำหรับครอบครัวของพระเจ้า ดาวิดเชื่อในพระวจนะของพระเจ้า (ข้อ 28) ท่านทูลขอเพิ่มอีกสิ่งหนึ่ง คือ: ‘ขอทรงอวยพรครอบครัวของข้าพระองค์ ขอทรงเฝ้าดูพวกเขาอยู่เป็นนิตย์ เพราะพระองค์ตรัสแล้ว ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ขอทรงอวยพรครอบครัวของข้าพระองค์ตลอดไป’ (ข้อ 29, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับดาวิด ในขณะที่พระเจ้าทรงประทับอยู่ในเต็นท์ (7:2) พระองค์ทรงสัญญาจะสถาปนาราชวงศ์ของดาวิด (ข้อ 7,10–11) พระองค์ทรงสัญญาว่า ‘เราจะตั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้าคนหนึ่งสืบต่อจากเจ้า...และเราจะสถาปนาบัลลังก์แห่งราชอาณาจักรของเขาให้อยู่เป็นนิตย์…ราชวงศ์ของเจ้าและอาณาจักรของเจ้าจะตั้งมั่นอยู่ต่อหน้าเจ้านิรันดร และบัลลังก์ของเจ้าจะมั่นคงนิรันดร’ (ข้อ 12–13,16)
มีเพียงในพระเยซูเท่านั้นที่พระสัญญาต่าง ๆ ที่ทรงทำกับเชื้อสายของดาวิดนั้นสำเร็จเป็นจริง กษัตริย์ที่เป็นมนุษย์นั้นล้มเหลว แต่ยังคงมีความหวังสำหรับกษัตริย์ในอนาคตผู้ทรงทำให้แนวคิดเรื่องการเป็นกษัตริย์สำเร็จ พระเยซูทรงเป็นเชื้อสายของดาวิด (มัทธิว 1:1) เมื่อพระองค์เสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม ประชาชนก็ร้องตะโกนว่า ‘ความเจริญรุ่งเรืองจงมีแก่แผ่นดินที่จะมาตั้งอยู่ ซึ่งเป็นของดาวิดบรรพบุรุษของเรา’ (มาระโก 11:10)
อย่างไรก็ตามชัยชนะของพระเยซู และอาณาจักรของพระเยซูนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่ใคร ๆ คาดคิด ซึ่งไม่ได้บรรลุผลสำเร็จโดยกษัตริย์ผู้พิชิตที่ชนะการต่อสู้ทางกายภาพ แต่โดยพระผู้ช่วยให้รอดที่สิ้นพระชนม์เพื่อรับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ฝ่ายจิตวิญญาณ มีชัยเหนือความบาป ความรู้สึกผิด การเสพติด ความกลัว และแม้กระทั่งความตาย
เราเห็นได้จากตัวอย่างของพระเยซูว่า ชัยชนะไม่ได้สง่างาม หรือแม้แต่ชัดเจนเสมอไป แต่พระเจ้าทรงสัญญากับคุณเหมือนดังที่พระองค์ทรงสัญญากับดาวิดว่า ฤทธิ์เดชของพระองค์จะอยู่กับคุณไม่ว่าคุณจะไปไหน และในพระคริสต์ คุณจะเป็นผู้มีชัยในท้ายที่สุด
ข้าแต่พระเจ้า เช่นเดียวกับดาวิด ข้าพระองค์รู้สึกถึงความไม่คู่ควรในการทรงสถิตของพระองค์ ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ข้าพระองค์เป็นใครเล่า?’ (7:18) ขอบพระคุณที่ในพระคริสต์ พระองค์ทรงสัญญาว่าจะประทานฤทธิ์เดชของพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์ ที่จะสถิตอยู่กับข้าพระองค์ และช่วยข้าพระองค์ไม่ว่าข้าพระองค์จะไปที่ใดก็ตาม
Pippa Adds
กิจการอัครทูต 2:22–41
เพื่อนทุกคนของเปโตรต้องดีใจและภูมิใจ (ในทางที่ดี) เมื่อท่านยืนขึ้น และเทศนาเป็นครั้งแรก พวกเขาเคยอยู่กับเปโตรทั้งช่วงเวลาที่ชีวิตขึ้นและลง และความล้มเหลวต่าง ๆ ตอนนี้การเจิมของพระเจ้าอยู่เหนือท่าน สามปีสุดท้ายเป็นการเตรียมเพื่อช่วงเวลานี้
เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นคนที่เคยผ่านการปล้ำสู้พบการทรงเรียกของตัวเอง
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Seasons of Hardship: Live the Jesus Way

UNPACK This...Being a Good Teammate in Life

Every Thought Captive

The Rapture of the Church

Forever Welcomed: A Five-Day Journey Into God’s Heart for All

The Origin of Our Story

3 - LORD'S PRAYER - the Lord´s Requirements

As He Purposeth in His Heart by Vance K. Jackson

Don’t Know What You’re Doing After Graduation? Good.
