YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 155 OF 365

เสียงจากฟ้าสวรรค์

คุณเคยสังเกตไหมว่า พระคัมภีร์เป็นหนังสือที่เสียงดังเอะอะมาก? ปัญญา*ร้องเรียก* (สุภาษิต 8) หนุนใจให้มีการส่งเสียงสรรเสริญอย่างกึกก้อง (สดุดี 66:8) รวม*เสียงฉิ่ง เสียงฉาบ*เข้าไว้เพื่อสรรเสริญพระองค์ (สดุดี 150) พระเจ้าทรงส่งเสียงดังกังวาน (อิสยาห์ 42) พระสุรเสียงของพระองค์ก็เหมือน*เสียงน้ำไหลเชี่ยว* (เอเสเคียล 43) พระเยซูทรงถวายคำอธิษฐาน และคำร้องขอ*ด้วยเสียงดังและน้ำพระเนตรไหล* (ฮีบรู 5) และแม้แต่สรรพสิ่งที่ทรงสร้างต่างร้องคร่ำครวญ (โรม 8) ในวันเพ็นเทคอสต์ พวกเขาได้ยิน ‘*เสียง*มาจากฟ้าเหมือนเสียงพายุแรงกล้า‘ ซึ่ง ‘มาจาก*ฟ้า*’ (กิจการ 2:2) พระธรรมในวันนี้เราได้ยินเสียงอื่น ๆ ที่ไปสู่และมาจากฟ้าสวรรค์

สดุดี 69:29-36

เสียงแห่งการนมัสการ

พระคัมภีร์นั้นสมเหตุสมผล มีหลายครั้งที่เรา ‘ทุกข์ยากและเจ็บปวด’ (ข้อ 29) ดาวิดไม่ได้พยายามจะเพิกเฉยต่อปัญหาที่ต้องเผชิญ กระนั้นเขายังคงเลือกที่จะนมัสการพระเจ้าทั้งที่อยู่ในสถานการณ์เหล่านั้น แม้ว่าจะในที่ลึกสุด คุณยังคงมั่นใจได้ว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ใดและนมัสการพระองค์ได้

สดุดีบทนี้จบลงด้วยเสียงแห่งการนมัสการ ‘ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระนามพระเจ้าด้วยบทเพลง ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์ด้วยการขอบพระคุณ…ขอฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกสรรเสริญพระองค์’ (ข้อ 30,34) การนมัสการไม่ได้ดำเนินไปเฉพาะบนโลก แต่ยังเกิดขึ้นในสวรรค์ด้วย เมื่อคุณนมัสการ คุณกำลังเข้าร่วมในเสียงแห่งฟ้าสวรรค์ จุดนี้ เราเห็นสามแง่มุมของการนมัสการ:

1. การนมัสการเกี่ยวข้องกับความตั้งใจ
ดาวิดกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระนามพระเจ้าด้วยบทเพลง’ (ข้อ 30) คุณอาจไม่รู้สึกว่าอยากนมัสการพระเจ้าเสมอ แต่นี่เป็นการตัดสินใจของคุณ เป็นการกระทำของความตั้งใจ

2. การนมัสการทำให้พระเจ้าพอพระทัย
‘การนั้นจะเป็นที่พอพระทัยพระยาห์เวห์มากกว่าวัวผู้ หรือวัวหนุ่มทั้งเขาและกีบ’ (ข้อ 31)

3. การนมัสการส่งผลต่อคนอื่น ๆ
‘ขอให้บรรดาผู้ถ่อมตัวเห็นการนั้นและยินดี ท่านผู้เสาะหาพระเจ้า ขอให้ใจของท่านฟื้นชื่นขึ้น’ (ข้อ 32) ผมสังเกตว่า วิธีที่บรรดา ‘ผู้เสาะหาพระเจ้า’ ในอัลฟ่านั้นบ่อยครั้งเคลื่อนโดยการนมัสการ ผลก็คือ ‘ใจของพวกเขาฟื้นชื่นขึ้น’

ข้าแต่พระเจ้า ไม่ว่าสถานการณ์ของข้าพระองค์จะเป็นเช่นไร ขอทรงช่วยลูกให้สรรเสริญพระนามของพระองค์ด้วยบทเพลง และยกย่องพระองค์ด้วยการขอบพระคุณ

กิจการอัครทูต 1:23-2:21

เสียงขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์

นี่สำหรับคุณและผม ประสบการณ์ของวันเพ็นเทคอสต์ไม่ใช่แค่เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ มันสามารถกลายเป็นความจริงในปัจจุบันสำหรับคุณได้ (2:29) อย่างที่โยเอลพยากรณ์ไว้ ‘เราจะเทพระวิญญาณของเราบนมนุษย์ทั้งหมด’ ชายและหญิง คนชราและคนหนุ่มสาว คนมั่งมีและคนยากจน (ข้อ 17–21) นี่รวมทั้งคุณและผมแน่นอน!

  1. แสวงหาประสบการณ์

ประสบการณ์เรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ในวันเพ็นเทคอสต์ประกอบด้วยสามสิ่ง:

อันดับแรก นี่เกี่ยวข้องกับฤทธิ์เดชจากพระเจ้า พวกเขาได้ยินเสียงพายุ ซึ่งไม่ใช่พายุจริง ๆ ‘เหมือนเสียงพายุแรงกล้า’ (ข้อ 2) เสียงซึ่งคล้ายคลึงกับลมพายุฝนฤดูร้อนที่พัดกระหน่ำ นี่อาจเป็นฤทธิ์เดชที่มองเห็นได้ของพระเจ้า เป็นสัญลักษณ์ภายนอกและมองเห็นได้ของความจริงฝ่ายวิญญาณและอยู่ภายใน

ศัพท์ฮีบรู ‘รัวห์’ (Ruach) ความหมายตรงตามตัวอักษรคือ ‘ลมหายใจ’ หรือ ‘ลม’ รัวห์ ถูกใช้พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมเพื่อหมายถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระวิญญาณของพระเจ้า วันเพ็นเทคอสต์นั้นสำเร็จเป็นจริงเมื่อพระเยซูทรงระบายลมหายใจเหนือพวกเขาและตรัสกับเขาว่า ‘จงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด’ (ยอห์น 20:22)

สำคัญที่สุด ประสบการณ์ในพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นประสบการณ์แห่งความรักของพระเจ้าต่อคุณ (โรม 5:5) นี่เป็นวิธีที่คุณจะสัมผัสถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อคุณ เพื่อคุณสามารถพูดได้เหมือนที่อัครสาวกเปาโลพูดไว้ว่า ‘พระบุตรของพระเจ้าผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพ​เจ้า’ (กาลาเทีย 2:20) เหมือนที่ ริค วอร์เรน ว่าไว้ ‘การสัมผัสว่าพระเจ้าทรงรักคุณ…เป็นจุดเริ่มต้นของทุกพันธกิจ ทุกการฟื้นฟู ทุกการเริ่มต้นใหม่ ทุกการตื่นตัวครั้งใหญ่’

พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้เดียวที่ทรงจัดเตรียมฤทธิ์เดชสำหรับทุกการฟื้นฟู และพระองค์ทรงทำสิ่งที่สำคัญที่สุดโดยทำให้ประชากรของพระเจ้าที่จะสัมผัสถึง มีประสบการณ์ และรับรู้ถึงความรักของพระเจ้าได้ในหัวใจของพวกเขา เป็นความรู้ที่เดินทางจากสมองไปถึงหัวใจของคุณ

อย่างที่สอง นี่เกี่ยวข้องกับไฟจากพระเจ้า พวกเขาเห็นเปลวไฟ อีกครั้งนี่ไม่ใช่ไฟจริง ๆ ‘บางสิ่งที่คล้ายเปลวไฟลักษณะเหมือนลิ้นแผ่กระจายอยู่บนตัวพวกเขาทุกคน’ (กิจการ 2:3, Amplified Bible โดยผู้แปล) อีกครั้งที่เป็นสัญลักษณ์ภายนอกและมองเห็นได้ของความจริงฝ่ายวิญญาณซึ่งอยู่ภายใน ไฟแห่งความรักของพระเจ้าแสดงถึงฤทธิ์เดช ความบริสุทธิ์ และความร้อนรนของพระเจ้า

ไม่ว่าที่ใดที่มีประสบการณ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์จะทรงนำเอาไฟและความร้อนรนใหม่เข้าสู่ชีวิตของคุณ

อย่างที่สาม นี่เกี่ยวข้องกับภาษาจากพระเจ้า 'พวกเขาทั้งหมดก็เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์จึงเริ่มต้นพูดภาษาอื่นๆ ตามที่พระวิญญาณทรงให้พูด ’ (ข้อ 4) เป็นภาษาสวรรค์ที่พวกเขาไม่เคยเรียนรู้มาก่อน อัครสาวกเปาโลพูดถึง ‘ภาษาสวรรค์' เช่นเดียวกับภาษาต่าง ๆ ของ ‘มนุษย์’ (1 โครินธ์ 13:1) ภาษาซึ่งเป็นที่รู้จัก และเป็นภาษาที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกได้ถูกพูดออกมา (ข้อ 5–11) นี่ตรงข้ามกับความวุ่นวาย และความไม่เป็นหนึ่งเดียวกันของหอคอยบาเบล (ปฐมกาล 11:1–9)

ประสบการณ์เรื่องความรักของพระเจ้าผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ นำมาซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวกันสู่คริสตจักร เมื่อเราระลึกได้ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์องค์เดียวกันนั้นที่ทำงานในคาทอลิค ออร์ธอดอกซ์ โปรเตสแตนท์ และเพ็นเทคอสต์ หรือไม่ว่าจะเป็นคริสตจักรหรือคณะนิกายใด ๆ ก็ตาม มีการเยียวยาของการแบ่งแยกและประสบการณ์ที่มองเห็นได้ของความเป็นหนึ่งเดียวกัน

ในวันเพ็นเทคอสต์ มีปฏิกิริยาสามแบบเกิดขึ้น (ทั้งหมดนั้นเราพบได้ในปัจจุบันในพันธกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์) ปฏิกิริยาแรกคือความแปลกใจ บางคน ‘แปลกใจ’ (กิจการ 2:7) ปฏิกิริยาอย่างที่สองคือ ฉงนสนเท่ห์ ‘พวกเขาจึงประหลาดใจและฉงนสนเท่ห์พูดกันว่า “นี่อะไรกัน?’ (ข้อ 12) ปฏิกิริยาอย่างที่สามคือ เยาะเย้ย ‘แต่บางคนเยาะเย้ยว่า “พวกเขาเมาเหล้าองุ่นใหม่”’ (ข้อ 13)

  1. ศึกษาคำอธิบาย
    เปโตรอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น (ข้อ 14 เป็นต้นไป)

ประการแรก ท่านตอบโต้คำอธิบายที่ไม่ถูกต้อง (ข้อ 15) บางคนเสนอคำอธิบายตามธรรมชาติต่อบางสิ่งซึ่งเหนือธรรมชาติ อาจดูเหมือนพวกเขาเมาเหล้าองุ่นเพราะว่าพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและสูญเสียการยับยั้งชั่งใจ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ความมึนเมาด้วยเหล้าองุ่นแต่เป็นการเมาพระวิญญาณบริสุทธิ์ การมึนเมาแบบเดียวเท่านั้นที่ทำให้คุณไม่เมาค้าง!

จากนั้น ท่านได้เสนอคำอธิบายที่ถูกต้อง (ข้อ 16 เป็นต้นไป) เปโตรเริ่มต้นคำพูดของท่านโดยชี้ไปว่านี้เป็นสิ่งที่เป็นไปตามพระคัมภีร์ (เราจะมองไปที่คำอธิบายที่เหลือพรุ่งนี้) บางคนดึงเอาความขัดแย้งแบบผิด ๆ ระหว่างพระวจนะและพระวิญญาณ แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นผู้เขียนพระวจนะของพระเจ้า พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม นั่นคือ พระวจนะของพระเจ้า ชี้ไปที่การเทลงมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ข้อ 16–20) เปโตรซึ่งเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ชี้กลับไปที่พระคัมภีร์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำมาซึ่งความหิวกระหายพระวจนะพระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์อธิษฐานขอการเทลงมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่สดใหม่ ขอให้ไฟของพระเจ้าเทลงมาเหนือข้าพระองค์และเหนือคริสตจักรอีกครั้ง ด้วยฤทธิ์เดช ความร้อนรน และความบริสุทธิ์

2 ซามูเอล 5:6-6:23

เสียงแห่งการเฉลิมฉลอง

ก่อนที่เราจะดูที่เสียงแห่งการเฉลิมฉลอง เป็นที่น่าสังเกตว่ามีการกล่าวถึงอีกเสียงในพระธรรมตอนนี้ เมื่อดาวิดทูลถามพระเจ้าว่า เขาควรจะขึ้นไปสู้รบ คำตอบแรกของพระเจ้าคือ ‘จงขึ้นไปเถิด’ (5:19) จากนั้นครั้งที่สองท่านทูลถามพระเจ้า และพระเจ้าทรงตอบว่า ‘เจ้าอย่าขึ้นไป แต่...เมื่อเจ้าได้ยินเสียงกระบวนทัพเดินอยู่ที่ข้างหน้าหมู่ต้นยาง เจ้าจงรุกเข้าไป’ (ข้อ 23–24)

ความหมายตรงนี้ไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตามนี่เป็นการแสดงการกระตุ้น บางทีนี่อาจหมายความว่าทันทีที่เราได้ยินว่าพระเจ้าทรงเคลื่อน เราควรตอบสนองอย่างรวดเร็ว

พระเจ้าทรงประทานชัยชนะให้แก่ดาวิด และนี่นำไปถึงการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ ‘ดาวิดกับพงศ์พันธุ์ทั้งสิ้นของอิสราเอลก็ร่าเริงกันเต็มที่อยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ด้วยเครื่องดนตรี และด้วยพิณเขาคู่และพิณใหญ่ รำมะนา กรับ และฉาบ’ (6:5) นี่น่าจะเป็นเสียงดังอึกทึกครึกโครม!

ดาวิดทรงเต้นรำและนมัสการพระเจ้าในแบบที่เฉพาะเจาะจงอย่างยิ่ง ‘และดาวิดก็ทรงเต้นรำเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ และดาวิดทรงสวมเอโฟดผ้าป่านอยู่…’ (ข้อ 14) มีคาล มเหสีของดาวิดรู้สึกอับอาย และ ‘หมิ่นดาวิดในใจ’ (ข้อ 16) ต่อการแสดงความร้อนรนของท่าน

ดาวิดตอบกลับว่า ท่านจะยังคงนมัสการด้วยความร้อนรนและองอาจยิ่งกว่าเดิม ‘ดาวิดตรัสตอบมีคาลว่า... “...เราจึงเริงโลดเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ เราจะยอมถูกดูหมิ่นยิ่งกว่านี้”' (ข้อ 21–22) จุดนี้เราได้เห็นตัวอย่างตามพระคัมภีร์ถึงการเฉลิมฉลองที่เสียงดังสนั่นและไม่ยั้งใจ มีคำเตือนในพระธรรมตอนนี้ต่อการดูถูกหรือดูหมิ่นวิธีที่คนอื่นแสดงออกถึงการนมัสการพระเจ้าของพวกเขา (ข้อ 23) แน่นอน เราควรหลีกเลี่ยงการแสดงออกแบบอวดตัว แต่ความลิงโลดของดาวิดออกมาจากใจ และเป็นการเฉลิมฉลองอย่างจริงใจ

เราจำเป็นต้องไวต่อความรู้สึกของผู้ที่อยู่รอบตัวเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอยกตัวอย่างในสัปดาห์แรก ๆ ในอัลฟ่า เมื่อมีคนมากมายที่ไม่คุ้นเคยกับการนมัสการแบบลิงโลด อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปคุณสามารถเป็นแสดงออกอย่างอิสระในการนมัสการพระเจ้าอย่างร้อนรนเท่าที่คุณต้องการ โดยไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับคุณ

ข้าแต่พระเจ้า ขอให้คริสตจักรเต็มล้นด้วยเสียงแห่งการนมัสการและการเฉลิมฉลองอีกครั้ง ขอให้อัลฟ่าสุดสัปดาห์ทุกรอบเต็มล้นด้วยเสียงแห่งการเทลงมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์แบบวันเพ็นเทคอสต์ เสียงสวรรค์แห่งการนมัสการและการเฉลิมฉลองเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระนามของพระองค์

Pippa Adds

2 ซามูเอล 6:14–16

‘และดาวิดก็ทรงเต้นรำเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ด้วยสุดกำลังของพระองค์ และดาวิดทรงสวมเอโฟดผ้าป่านอยู่...มีคาลราชธิดาของซาอูลก็มองออกที่ช่องหน้าต่าง เห็นพระราชาดาวิดทรงกระโดดและเต้นรำเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ นางก็ดูหมิ่นดาวิดในใจ’

ฉันเห็นใจมีคาลอยู่บ้าง ฉันเองก็เคยถูกทดลองให้ดูหมิ่นการเต้นรำตามประเพณีในอดีต บางทีฉันคงต้องยับยั้งชั่งใจลงบ้าง ฉันไม่ค่อยแน่ใจว่าจะสวมเอโฟดไหว แต่ไว้รอดูวันอาทิตย์ก็แล้วกันค่ะ!

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More