พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

มีฤทธิ์อำนาจในพระนามของพระองค์
บาร์บาร่า แคลปแฮม อายุ 33 ปี มาอาศัยอยู่ในลอนดอน เธอตัดสินใจว่าจะไปหาคริสตจักร เช้าวันอาทิตย์วันหนึ่ง เธอมาถึงคริสจักรโฮลี่ ทรินิตี้ บรอมพ์ตั้น หญิงสาวที่ต้อนรับที่ประตูยิ้มให้เธอและถามชื่อเธอ เพราะรอยยิ้มนั้น บาร์บาร่ากลับมาในสัปดาห์ต่อมา เมื่อเธอเดินเข้ามาอีกในวันอาทิตย์ต่อมา คนต้อนรับคนเดียวกันก็ทักทายว่า ‘สวัสดีบาร์บาร่า’ เพราะคนที่อยู่หน้าประตูจำชื่อเธอได้ เธอจึงตัดสินใจว่าจะกลับมาทุกวันอาทิตย์ นั่นคือในปี 1947 จากนั้นบาร์บาร่ามาเกือบทุกวันอาทิตย์จนกระทั่งเธอเสียชีวิต หลังจากฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของเธอได้ไม่นาน เธอส่งต่อผลกระทบอย่างยิ่งต่อชีวิตของคริสจักรโฮลี่ ทรินิตี้ บรอมพ์ตั้น (รวมถึงการบริหารการเงินของคริสตจักรมาหลายปี) ผมสงสัยว่าผู้หญิงยืนต้อนรับที่ประตูคิดถึงความแตกต่างที่เธอสร้างขึ้นจากการจำชื่อบาร์บาร่าหรือไม่ มีพลังอันยิ่งใหญ่ในชื่อ ชื่อมีความสำคัญ นี่เป็นเรื่องจริงในทุกวันนี้ แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งในวัฒนธรรมฮีบรูที่เราอ่านในพระคัมภีร์ ชื่อในภาษาฮีบรูไม่ได้เป็นเพียงป้ายกำกับ แต่พระนามของพระเจ้าเปิดเผยว่าพระองค์เป็นใครสดุดี 68:1-6
สรรเสริญพระนามของพระเจ้า
ดาวิดร้องว่า ‘จงร้องเพลงถวายพระเจ้า จงร้องเพลงสดุดีพระนามของพระองค์จงยกย่องพระองค์ผู้ทรงเมฆเป็นพาหนะ พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์’ (ข้อ 4)
พระเจ้าสำแดงพระองค์เองผ่านพระนามของพระองค์ พระองค์บอกนามพระองค์กับโมเสส (‘เราเป็นซึ่งเราเป็น’) เมื่อทรงมาเพื่อปลดปล่อยประชาชนของพระองค์จากการเป็นทาสในอียิปต์ (อพยพ 3:14) ในทำนองเดียวกัน ในสดุดีนี้เราเห็นว่าพระเจ้าผู้ทรงพระนามนี้มีความห่วงใยเป็นพิเศษต่อคนชายขอบในสังคม
พระเจ้าทรงเป็น ‘พระบิดาของเด็กกำพร้า’ และ ‘ผู้ป้องกันหญิงม่าย’ (สดุดี 68:5) ‘พระเจ้าทรงให้คนโดดเดี่ยวมีบ้านอยู่’ (ข้อ 6ก) ‘พระเจ้าทรงสร้างบ้านให้คนไร้บ้าน’ (ข้อ 6ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘พระองค์ทรงนำเชลยออกมาถึงความรุ่งโรจน์’ (ข้อ 6ข)
วิธีหนึ่งในการถวายเกียรติแด่พระนามของพระเจ้า คือ การรักและรับใช้คนชายขอบคือ หญิงม่ายและเด็กกำพร้า คนโดดเดี่ยว คนเร่ร่อน และผู้ที่อยู่ในคุก
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์สรรเสริญพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ ขอให้พระนามของพระองค์ได้รับเกียรติในชีวิตของข้าพระองค์ ในขณะที่ข้าพระองค์รักและรับใช้คนชายขอบในสังคม
ยอห์น 16:5-17:5
ฤทธิ์อำนาจในพระนามพระเยซู
คุณรู้หรือไม่ว่ามีพลังมากแค่ไหนในพระนามของพระเยซู? เมื่อพระเยซูทรงละสาวกของพระองค์ พระองค์ตรัสกับพวกเขา ‘เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ถ้าท่านขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะประทานสิ่งนั้นแก่ท่าน จนบัดนี้พวกท่านก็ยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเรา จงขอเถิดแล้วจะได้ เพื่อความชื่นชมยินดีของท่านจะมีเต็มเปี่ยม...ในวันนั้นพวกท่านจะทูลขอในนามของเรา’ (16:23ข–26ก)
เมื่อเราเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยการอธิษฐาน เราจะไม่ขอในนามของเรา แต่ในนามของพระเยซู ตัวเราเองไม่มีสิทธิ์ขอสิ่งใดเลย แต่พระเยซูทรงทำให้เป็นไปได้สำหรับคุณที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้าในพระนามของพระองค์โดยทางไม้กางเขน และการฟื้นคืนพระชนม์
การอธิษฐานในพระนามของพระเยซูคือการทำให้ตัวคุณสอดคล้องกับพระเยซู ในขณะที่คุณอธิษฐาน คำอธิษฐานของคุณสอดคล้องกับความปรารถนาของพระเจ้าสำหรับชีวิตของคุณ และคุณสามารถอธิษฐานขอให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ คุณไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วยตัวเอง คุณต้องการพระวิญญาณบริสุทธิ์
พระเยซูบอกเหล่าสาวกว่าการจากไปของพระองค์ก็เพื่อประโยชน์ของพวกเขา เพราะ ‘ถ้าเราไม่ไป องค์ผู้ช่วย (‘เพื่อน’, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ก็จะไม่เสด็จมาหาพวกท่าน แต่ถ้าเราไปแล้ว เราก็จะใช้พระองค์มาหาท่าน’ (ข้อ 7) พระเยซูทรงอยู่ได้ครั้งละแห่งเท่านั้น แต่โดยพระวิญญาณของพระองค์ พระองค์สามารถอยู่กับคุณและผม ในฐานะเพื่อนและผู้ช่วยของเราได้ตลอดเวลาทุกที่ที่เราไป
พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงโน้มน้าวโลกเกี่ยวกับความรู้สึกผิด (เพราะ ‘พวกเขาไม่วางใจใน’ พระเยซู ข้อ 9) และ ‘พระองค์จะทรงนำ (เรา) ไปสู่ความจริงทั้งมวล’ (ข้อ 13ก) ทุกครั้งที่เราออกนอกลู่นอกทางหรือไปผิดทาง พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเตือนเรา เราสามารถรู้สึกในจิตวิญญาณของเราว่าสิ่งที่เราทำไม่ถูกต้อง
พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่เคยปรักปรำเรา (โรม 8:1) พระองค์ทรงเตือนให้เรากลับใจแล้วไปในทิศทางที่ถูกต้อง พระองค์ทรงนำทาง ค้ำจุน และเสริมสร้างคุณและผมให้เป็นเหมือนพระเยซูมากขึ้น
พระองค์ทรงนำคุณไปสู่ความจริงทั้งหมด ความจริงถูกเปิดเผยโดยพระวิญญาณแห่งความจริง (ยอห์น 16:13ก) เหนือสิ่งอื่นใด พระองค์ทรงเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับตัวคุณ สัจจะจะทำให้ท่านเป็นไท
พระเยซูทรงสัญญากับคุณสามสิ่ง:
1. ความชื่นชมยินดีท่ามกลางความโศกเศร้า
‘เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ท่านจะร้องไห้และคร่ำครวญ แต่โลกจะชื่นชมยินดี พวกท่านจะเป็นทุกข์ แต่ความทุกข์ของท่านจะกลับกลายเป็นความชื่นชมยินดี’ (ข้อ 20) ความยุติธรรมจะมีชัย ความชั่วร้ายจะไม่ชนะ เมื่อพระเยซูทรงฟื้นจากความตาย ความปิติยินดีของเหล่าสาวกก็มากจนบดบังความเศร้าโศกของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง เหมือนมารดาที่คลอดทารกและลืมความเจ็บปวดจากการคลอด (ข้อ 21–22)
2. ความรักท่ามกลางความเกลียดชัง
คุณเป็นที่รัก แม้ในขณะที่ ‘โลกเกลียดชังพวกท่าน' (15:18) พระเยซูตรัสกับคุณว่า ‘เพราะว่าพระบิดาเองก็ทรงรักพวกท่าน เพราะท่านรักเราและเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า’ (16:27) พระวิญญาณแห่งความจริงจะเปิดเผยความรักทั้งหมดที่พระบิดามีต่อคุณ
3. สันติสุขท่ามกลางปัญหา
พระเยซูไม่เคยสัญญากับคุณว่าจะมีชีวิตที่ปราศจากปัญหา อันที่จริง พระองค์ตรัสว่าในโลกนี้ คุณจะประสบกับ ‘ความทุกข์ยากและการทดลอง ความเจ็บปวดและความคับข้องใจ’ (ข้อ 33, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) แต่พระองค์สัญญากับคุณว่า ‘มีสันติสุขและความมั่นใจที่สมบูรณ์อยู่ท่ามกลางการทดลองเหล่านี้’ เพราะพระองค์ได้ ‘ชนะโลก (เราได้ลิดรอนอำนาจที่จะทำร้ายพวกท่านและได้เอาชนะมันเพื่อพวกท่าน)’ (ข้อ 33, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)
ของประทานที่สำคัญที่สุดที่คุณได้รับจากพระวิญญาณบริสุทธิ์คือสัมพันธภาพกับพระเจ้า ในคำอธิษฐานนี้ พระเยซูเน้นว่านี่เป็นหัวใจที่แท้จริงและคำจำกัดความของ ‘ชีวิตนิรันดร์’ ‘และนี่แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือการที่พวกเขารู้จักพระองค์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และรู้จักพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ทรงใช้มา’ (ข้อ 17:3)
นี่เป็นคำอธิบายที่น่าทึ่งของชีวิตนิรันดร์ที่รายล้อมไปด้วยคำอธิษฐานของพระเยซูที่ขอให้พระนามของพระเจ้าได้รับเกียรติ ทุกสิ่งที่พระเยซูทรงทำในขณะที่พระองค์อยู่บนแผ่นดินโลก และความสัมพันธ์ของเรากับพระบิดาผ่านทางพระเยซู ท้ายที่สุดล้วนแต่นำไปสู่พระสิริแห่งพระนามของพระเจ้า
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ไม่เคยขอบพระคุณมากพอสำหรับสิทธิพิเศษอันยิ่งใหญ่ที่สามารถอธิษฐานในนามของพระเยซูได้ วันนี้ข้าพระองค์อธิษฐาน… ในนามของพระองค์
1 ซามูเอล 17:38-18:30
การปกป้องในพระนามของพระเจ้า
ดาวิดตระหนักว่าการปกป้องที่ดีที่สุดไม่ใช่ยุทธภัณฑ์ของซาอูล แต่เป็นพระนามของพระเจ้า (ข้อ 17:45)
ในตอนแรก ดาวิดพยายามเผชิญหน้ากับโกลิอัทในชุดเกราะของซาอูล จากนั้นเขาก็ตระหนักว่า ‘ข้าพระบาทไม่สามารถสวมเครื่องเหล่านี้ออกไป เพราะว่าข้าพระบาทไม่ชิน’ (ข้อ 39) ดาวิดจึงถอดชุดเกราะออก เขาตัดสินใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง นี่คือบทเรียนในชีวิต การสวมชุดเกราะของคนอื่นไม่ดี มันดูปลอมและไม่เป็นธรรมชาติเมื่อเราพยายามนำเสนอตัวเองราวกับว่าเราเป็นคนอื่น
มีพลังอันยิ่งใหญ่ในความเป็นตัวตนที่แท้จริง ออสการ์ ไวลด์ กล่าวว่า ‘จงเป็นตัวของตัวเอง การเป็นคนอื่นถูกเอาไปหมดแล้ว!’ คุณมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อคุณเป็นตัวของตัวเอง ดังที่กาเตรีนาแห่งซีเอนากล่าวไว้ว่า ‘จงเป็นคนที่พระเจ้าต้องการให้คุณเป็นและเจ้าจะทำให้โลกลุกเป็นไฟ’
ดาวิดกังวลเรื่องพระนามของพระเจ้าและพิสูจน์พระนามพระองค์ (ข้อ 45) ดาวิดพูดกับโกลิอัทว่า ‘ท่านมาหาข้าด้วยดาบ ด้วยหอกและด้วยหอกซัด แต่ข้ามาหาท่านในพระนามแห่งพระยาห์เวห์จอมทัพ’ (ข้อ 45) ดาวิดตระหนักถึงข้อจำกัดของความพยายามของมนุษย์ (ข้อ 47) เขามีความมั่นใจในพระเจ้าของเขาเท่านั้น พระนามของพระองค์เพียงพอที่จะโจมตีผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดให้ล้มลงกับพื้นได้ (ข้อ 46) เขาพร้อมที่จะวางใจในพระนามของพระเจ้าเมื่อเผชิญกับการต่อต้านครั้งใหญ่
คุณอาจเผชิญการต่อต้านครั้งใหญ่ โลกที่คุณอาศัยอยู่อาจดูมีพลังมหาศาลและท่วมท้นคุณ ในทางตรงกันข้าม คุณอาจรู้สึกอ่อนแอและน่าสมเพช แต่จงออกไปในพระนามของพระเจ้า คือรู้ในข้อจำกัดของคุณแต่ยังวางใจในพระองค์ที่จะพิสูจน์พระนามของพระองค์ เพราะพระเจ้าสถิตอยู่กับดาวิด เขาจึงประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่เขาทำ (18:5, 12, 14)
ความสำเร็จของดาวิดทำให้ซาอูลโกรธและริษยา (ข้อ 8–9) ดังที่ จอยซ์ ไมเยอร์ ชี้ให้เห็นว่า ‘พระเจ้ามักจะวางเราไว้รอบ ๆ คนที่เป็นเหมือนกระดาษทรายเพื่อทำให้ขอบหยาบของเราเรียบขึ้น... คือการทดสอบที่จะเกิดขึ้นก่อนที่เราจะได้เลื่อนตำแหน่ง หากคุณต้องการเป็นผู้นำ คุณต้องรับใช้ในสถานการณ์ที่อาจไม่สมบูรณ์แบบและเรียนรู้ที่จะประพฤติตนอย่างฉลาดก่อน สิ่งนี้เตรียมเราให้พร้อมที่จะรับใช้พระเจ้าอย่างมาก’
พระเจ้าประทานความสำเร็จให้ดาวิดมากขึ้น สิ่งนี้น่าสนใจ เนื่องจากเป็นความใส่ใจในพระนามของพระเจ้า ‘ชื่อเสียงของเขาจึงโด่งดังมาก’ (ข้อ 30) แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายหรือความตั้งใจของเขา หรือจุดสนใจในชีวิตของเขา
ข้าแต่พระเจ้า ขอให้คริสตจักรในประเทศนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่นมัสการพระนามของพระเยซูอีกครั้ง ข้าพระองค์ อธิษฐานขอให้ทุกสิ่งที่เราทำ เป็นการมุ่งไปที่การเห็นพระนามของพระเยซูได้รับการยกย่องและถวายเกียรติอีกครั้งในสังคมของเรา
Pippa Adds
1 ซามูเอล 18:1
มิตรภาพเป็นสิ่งดีเลิศ เดวิดและโจนาธาน ‘กลายเป็นหนึ่งเดียวกันในจิตวิญญาณ’ ซึ่งเป็นเพื่อนฝ่ายวิญญาณที่แท้จริง เป็นเรื่องที่น่าพอใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับมิตรภาพที่ลึกซึ้ง มิตรภาพสร้างความแตกต่างอย่างมาก มีการสนับสนุนจากเพื่อนรักที่ยืนเคียงข้างคุณในยามยาก และหัวเราะไปกับคุณในยามสุข
มิตรภาพคือสิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไป ในสวรรค์จะไม่มีการจำกัดเวลาและความอิจฉาที่ดาวิดต้องเผชิญ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Everyday Prayers for Christmas

Gospel-Based Conversations to Have With Your Preteen

Simon Peter's Journey: 'Grace in Failure' (Part 1)

Reimagine Influence Through the Life of Lydia

Never Alone

Who Am I, Really? Discovering the You God Had in Mind

The Holy Spirit: God Among Us

Sharing Your Faith in the Workplace

Positive and Encouraging Thoughts for Women: A 5-Day Devotional From K-LOVE
