พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

การเผชิญปัญหาที่ยิ่งใหญ่
โกลิอัทเป็นยักษ์ใหญ่ สูงกว่า 9 ฟุต เป็นยอดทหารสวมเสื้อเกราะ เขายืนตะโกนท้าทายประชากรของพระเจ้า (1 ซามูเอล 17:1–11) ยังมีการเปรียบเปรยอื่น ๆ อีกเช่นเดียวกับการเปรียบในทางกายภาพ คำว่า ‘ยักษ์’ เปรียบได้กับปัญหาใหญ่ที่ยากเกินกว่าจะเอาชนะได้ ปัจจุบันโลกของเรากำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่คือโรค COVID-19 ที่ระบาดทั่วโลก * ‘ปัญหาส่วนตัว’ ปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต้องเผชิญ อาจเป็นเรื่องสุขภาพ การแต่งงาน ครอบครัว การมีความสัมพันธ์หรือไม่มีความสัมพันธ์ (มีแฟนหรือไม่มีแฟน) เรื่องงาน หรือว่างงาน ความบาป การทดลอง การติดสารเสพติด ความกลัว ความเหงา ความท้อใจ หรือหนี้สิน * ‘ปัญหาระดับประเทศ’ ปัญหาที่มีในประเทศสหราชอาณาจักร คือ ปัญหาผู้ก่อการร้าย กลุ่มอันธพาลก่อความรุนแรง คนไร้บ้าน การหย่าร้าง ปัญหาครอบครัวและชุมชน ดังนั้นจึงมีงานประกาศใหญ่ ๆ ระดับประเทศ งานฟื้นฟูคริสตจักร และงานปฏิรูปสังคม * ‘ปัญหาระดับโลก’ ที่ต้องเผชิญ คือ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เกิดความยากจนขั้นรุนแรง (เป็นผลให้ในแต่ละวันมีเด็กหลายพันคนเสียชีวิต) โรคที่สามารถป้องกันได้ (แต่มีหลายล้านคนต้องเสียชีวิตจากโรคที่แม้รักษาได้ง่าย) ความต้องการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (มีคนจำนวนหนึ่งล้านคนอ่านหนังสือไม่ออก) ความต้องการน้ำที่ถูกสุขลักษณะ (ซึ่งต้องใช้เงินเท่ากับจำนวนที่ชาวยุโรปใช้ซื้อไอศกรีม ทุก ๆ ปี) มีสองท่าทีที่เป็นไปได้เมื่อเผชิญกับปัญหาหรือยักษ์ใหญ่ มีบางคนคิดว่า ‘ยักษ์ตัวนี้ใหญ่จริง ๆ ฉันทำอะไรไม่ได้เลย’ อาจมีบางคนคิดว่า ‘ยักษ์ตัวนี้ใหญ่มากจริง ๆ ผมไม่พลาดแน่ ๆ!'สดุดี 67:1-7
คิดในระดับโลก
พระเจ้าทรงรักทุกคนในโลก พระองค์ต้องการให้ทุกชนชาติและคนทุกคนรู้จักพระองค์ นมัสการพระองค์ และรักพระองค์
ผู้เขียนพระธรรมสดุดีได้อธิษฐานขอพระเจ้าอวยพรประชากรของพระองค์เพื่อ ‘พระมรรคาของพระองค์เป็นที่รู้จักในแผ่นดินโลก การช่วยกู้ของพระองค์จะเป็นที่ทราบท่ามกลางประชาชาติทั้งสิ้น’ (ข้อ 2)
เราเห็นจากพระธรรมสดุดีนี้ว่า นิมิตระดับโลกสำหรับประชากรของพระเจ้าอยู่เหนือความจำกัดของเรา เป็นนิมิตที่เป็นเงาสะท้อนล่วงหน้าในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม
ผู้เขียนพระธรรมสดุดี อธิษฐานเผื่อคนทั่วโลก (ข้อ 3-5) ถ้าเราต้องการรับมือปัญหาระดับโลก เราจำเป็นต้องมีนิมิตในระดับโลก พระคำในพระธรรมสดุดีเกี่ยวกับพระเจ้า ขนาดของนิมิตขึ้นอยู่กับนิมิตของคุณกับพระเจ้า ไอเดน วิลสัน โทเซอร์ กล่าวว่า ‘เมื่อเราคิดถึงพระเจ้าสิ่งที่เข้ามาในความคิด คือสิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับตัวเรา’
ข้าแต่พระเจ้า ขอพระเจ้าทรงพระเมตตาและทรงอวยพร ข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอให้พระพักตร์ของพระองค์ทอแสงแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย เพื่อพระมรรคาของพระองค์จะเป็นที่รู้จักในแผ่นดินโลก การช่วยกู้ของพระองค์จะเป็นที่ทราบท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย ขอให้ชนชาติทั้งหลายยกย่องพระองค์
ยอห์น 15:1-16:4
เป็นพยานเรื่องพระเยซู
ไม่มีสิ่งใดสำคัญมากกว่าและไม่มีสิทธิพิเศษในชีวิตที่ดีกว่าการเป็นสหายของพระเยซู พระเยซูตรัสว่า ‘ท่านเป็นมิตรสหายของเรา...เราจะไม่เรียกพวกท่านว่าบ่าวอีก...เราเรียกท่านว่ามิตรสหาย’ (15:14–15)
การมีพระเยซูเป็นมิตรสหายทำให้เราจัดการปัญหาชีวิต ปัญหาในคริสตจักร ปัญหาในสังคมได้จากจุดยืนที่ไม่เหมือนใคร
- ชีวิตส่วนตัว พระเยซูตรัสว่ามีความลับในการเกิดผลของคริสเตียนอยู่ 2 อย่าง
สิ่งแรกคือ การลิด (ข้อ 1-2) วัตถุประสงค์ของการลิด คือเพื่อให้เราสามารถออกผลได้มากขึ้น ความเจ็บปวด ความเศร้าโศก ความเจ็บป่วยและการทุกข์ทรมาน ความสูญเสีย การสูญเสียญาติหรือเพื่อนสนิท ความล้มเหลว ความท้อใจ และความผิดหวังจากเป้าหมาย สิ่งเหล่านี้เป็นวิธีที่บอกว่าชีวิตกำลังถูกลิด
การลิดดูเหมือนโหดร้าย ซึ่งแขนงต่าง ๆ ถูกตัดแต่ง และปล่อยให้เผชิญกับฤดูหนาวอันโหดร้าย แต่วัตถุประสงค์ของการลิด เป็นการทำให้แขนงงอกขึ้นใหม่ เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน จะมีการผลิดอกออกผลมากมาย ท้ายที่สุดมีดที่ใช้ลิดแขนงที่คมจะทำให้เกิดผลและการอวยพร
สิ่งที่สอง คือ ความสนิทสนมกับพระเยซู (ข้อ 4) คุณไม่สามารถล้มยักษ์ได้ด้วยตัวคุณเอง พระเยซูกล่าวว่า ‘เมื่อเจ้าอยู่ในเราและเราอยู่กับเจ้า ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเป็นธรรมชาติ การเก็บเกี่ยวจะอุดมสมบูรณ์อย่างแน่นอน การแยกจากกัน เจ้าไม่สามารถออกผลอะไรได้’ (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คุณจะไม่ประสบความสำเร็จในการล้มยักษ์ ถ้าคุณไม่สนิทสนมกับพระเยซู
ให้เราปลูกความสัมพันธ์กับพระเยซู (ข้อ 14–15) โดยใช้เวลากับพระองค์ เดินไปกับพระองค์ อธิษฐานและฟังเสียงพระองค์ผ่านพระวจนะ ทำตามพระประสงค์ของพระองค์
พระเยซูตรัสว่า ถ้าท่านติดสนิทอยู่ในเรา (พักอยู่ในพระองค์) จะมีสามสิ่งเกิดขึ้นในแง่ของการเกิดผล สิ่งแรก คำอธิษฐานจะได้รับคำตอบ (ข้อ 7) สิ่งที่สอง พระเจ้าจะได้รับพระเกียรติ (ข้อ 8) สิ่งที่สามคือ ความยินดีจะสมบูรณ์และเต็มเปี่ยม (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)
พระเยซูต้องการให้เราเต็มไปด้วยความยินดีและมีชีวิตที่เต็มเปี่ยม ไม่มีความยินดีใดที่ดีกว่าการที่รู้ว่าคุณมีคุณค่า ล้ำค่า และเป็นที่รักของพระเจ้า และรักผู้อื่นเหมือนกับการรักตนเองนั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่า
-
คริสตจักร
ปัจจุบันมีปัญหาใหญ่หลายเรื่องที่คริสตจักรต้องเผชิญ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือ เรื่องความไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่มีสิ่งใดที่เป็นอุปสรรคต่อถ้อยคำของพระเยซูคริสต์ มากเท่ากับการแตกแยกระหว่างคริสเตียน ความไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันสามารถเอาชนะได้ด้วยความรัก พระเยซูตรัสว่า ‘บัญญัติของเราคือ ให้พวกท่านรักกันและกัน เหมือนอย่างที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่านี้ คือสละชีวิตเพื่อมิตรสหายของตน... สิ่งที่เราสั่งพวกท่านไว้คือ จงรักกันและกัน' (ข้อ 12–13, 17) -
ด้านสังคม
พระเยซูเตือนเราว่าเราจะเผชิญปัญหาในโลกนี้ที่เกลียดชังเรา (ข้อ 18-19) พระองค์ตรัสว่า ‘ถ้าพวกเขาข่มเหงเรา เขาจะข่มเหงพวกท่านด้วย’ (ข้อ 20) ทรงตรัสว่า ‘ทุกคนที่ประหารชีวิตของพวกท่าน จะคิดว่าเขากำลังปรนนิบัติพระเจ้า’ (ข้อ 16:2) ปัจจุบันยังมีบางพื้นที่ในโลกที่มีสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง
แต่ยังมีการกดขี่ข่มเหงที่ซ่อนเร้นในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย ไม่มีใครชอบการถูกปฏิเสธ ดูถูก ล้อเลียนหรือเยาะเย้ย พระเยซูเตือนเราว่า ไม่ว่าคุณไปที่ไหน คุณเตรียมรับมือว่าจะเจอการต่อต้าน ความเกลียดชัง หรือแม้แต่การข่มเหงแน่นอน
เราคงคิดหาคำตอบไม่ได้ด้วยตัวเอง แต่พระเยซูตรัสว่า ‘แต่เมื่อองค์ผู้ช่วยเสด็จมา ซึ่งเป็นผู้ที่เราจะใช้จากพระบิดามาหาพวกท่าน คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งมาจากพระบิดานั้นพระองค์จะเป็นพยานให้เรา และพวกท่านก็จะเป็นพยานด้วย’ (15:26–27) พระวิญญาณช่วยเราเป็นพยานเรื่องพระเยซูและรับมือกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ เพื่อดูว่าสังคมของเราจะเปลี่ยนแปลง
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงเรียกข้าพระองค์ว่ามิตรสหาย โปรดช่วยข้าพระองค์ให้รักผู้อื่นเหมือนที่พระองค์รักข้าพระองค์
1 ซามูเอล 16:1-17:37
วางใจพระเจ้า
ดาวิดเป็นผู้มีความสามารถมาก มีทั้งความสามารถทางธรรมชาติและเหนือธรรมชาติ มีหน้าตาดีและรูปร่างงามและมีสุขภาพดี (ข้อ 16:12) มีความสามารถด้านดนตรี (ข้อ 18) มีความสามารถในการพูด (ข้อ 18) มีความสามารถด้านกีฬา (17:1–37, 18:11) มีความเป็นผู้นำ (18:13) เป็นคนประสบความสำเร็จ (ข้อ 14,30) เป็นคนมีชื่อเสียงดี (ข้อ 30)
ถึงกระนั้น ไม่ใช่เพราะสิ่งที่ดาวิดมีเป็นเหตุผลที่พระเจ้าจะใช้เขา พระยาเวห์ตรัสกับซามูเอลว่า ‘พระยาเวห์ไม่ได้ทอดพระเนตรเหมือนมนุษย์ดู เพราะมนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอก แต่พระยาเวห์ทอดพระเนตรที่จิตใจ’ (ข้อ 16:7)
ดาวิดรู้สึกโกรธการท้าทายของโกลิอัทต่อพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ (ข้อ 17:26) ดาวิดเป็นผู้นำที่กล้าหาญ ดาวิดพูดว่า ‘อย่าให้จิตใจของใครฝ่อไปเพราะชายคนนั้น (โกลิอัท)’ (ข้อ 32) บทเรียนอะไรที่เราได้เรียนรู้จากวิธีการที่ดาวิดจัดการกับโกลิอัท?
- ไม่ยอมรับการถูกปฏิเสธ
เอลีอับกล่าวกับดาวิดว่า ‘เจ้ามาทำอะไรที่นี่! ทำไมไม่ยุ่งเรื่องของตัวเองบ้างและดูแลฝูงแกะที่ผอมแห้งนั่น? ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังทำอะไร เจ้ามาที่นี่เพื่อดูโดยหวังว่าจะได้ที่นั่งริมในศึกนองเลือด!’ (ข้อ 28, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ถึงกระนั้นดาวิดก็ ‘หันไป' จาก เอลีอับ (ข้อ 30)
บทเรียนที่เราได้เรียนรู้ คือ ไม่ควรท้อใจถ้าถูกปฏิเสธหรือถูกปฏิบัติไม่ดี ตามที่ จอยซ์ ไมเยอร์ เขียนไว้ว่า ‘พระเจ้าไม่ได้มองหาคนที่มีความสามรถแต่มองหาคนที่พร้อมที่จะรับใช้.... รักษาใจให้บริสุทธิ์โดยไม่ให้ความเกลียด ความขุ่นเคืองใจ ความขมขื่น ความไม่พอใจ หรือความไม่ให้อภัย มาหยุดเรา’
-
การมีส่วนร่วม
ดาวิดกล่าวแก่กษัตริย์ซาอูลว่า ‘อย่าให้จิตใจของใครฝ่อไปเพราะชายคนนั้น ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทจะไปสู้รบกับคนฟีลิสเตียคนนี้’ (ข้อ 32) ดาวิดอาสารับใช้ ผมรู้สึกหนุนใจและประทับใจที่คริสตจักรของเราเต็มใจอาสาทำงานรับใช้ต่าง ๆ เช่น การอธิษฐาน งานรับใช้อื่น ๆ และการถวาย -
การวางใจพระเจ้า
ซาอูลตรัสกับดาวิดว่า ‘เจ้าไม่สามารถไปต้านคนฟีลิสเตียนี้ เพื่อสู้รบกับเขา เพราะเจ้าเป็นแต่เด็กหนุ่ม’ (ข้อ 33) แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า ‘พระยาเวห์ผู้ทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากอุ้งเท้าของสิงโต และจากอุ้งเท้าของหมี จะทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากมือคนฟีลิสเตียนี้’ (ข้อ 37ก) ดาวิดวางใจพระเจ้าเพราะรู้ว่าพระเจ้าอยู่ด้วย (ข้อ 16:18, 17:37ข, 18:14)
ท้ายที่สุดแล้ว เหตุผลที่ดาวิดจัดการกับโกลิอัทได้คือเขาได้รับการเจิมจากพระเจ้า ‘ซามูเอลนำเขาสัตว์ที่มีน้ำมันเจิมเขาไว้ท่ามกลางพวกพี่ชายของเขา และพระวิญญาณของพระยาเวห์ทรงสวมทับดาวิดราวกับสายลมที่พัดมา พระเจ้าให้กำลังแก่เขาอย่างยิ่งตลอดชีวิตที่เหลือของเขา’ (ข้อ 16:13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) มีเพียงวิธีเดียวที่คุณสามารถ จัดการกับปัญหาในชีวิต ปัญหาในสังคม และปัญหาในโลกนี้ได้ คือมีการเจิมของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ข้าแต่พระเจ้า ขณะที่ข้าพระองค์ เผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ข้าพระองค์ต้องการการเจิมลงมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และการทรงสถิตของพระองค์ โปรดประทานใจกล้าหาญอย่าให้ข้าพระองค์หลีกหนีไป หรือมีใจฝ่อหรือล้มเลิกเลย
Pippa Adds
1 ซามูเอล 16:7ข
‘พระยาเวห์ไม่ได้ทอดพระเนตรเหมือนมนุษย์ดู เพราะมนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอก แต่พระยาเวห์ทอดพระเนตรที่จิตใจ’
ฉันรู้สึกผิดที่ตัดสินคนที่รูปร่างภายนอก บ่อยครั้งที่ฉันพบเจอคนที่ดูภายนอกเป็นคนไม่ค่อยพูดและถ่อมตัว ฉันแทบไม่สังเกตุเห็นพวกเขา แต่คนเหล่านี้ กำลังเปลี่ยนแปลงโลกรอบ ๆ ตัวเขาให้ไปในทางที่ยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม ดาวิดก็มีรูปร่างหน้าตาดี และเป็นคนผิวแดง ๆ ฉันก็รู้สึกประทับใจดาวิดแล้ว!
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Seasons of Hardship: Live the Jesus Way

UNPACK This...Being a Good Teammate in Life

Every Thought Captive

The Rapture of the Church

Forever Welcomed: A Five-Day Journey Into God’s Heart for All

The Origin of Our Story

3 - LORD'S PRAYER - the Lord´s Requirements

As He Purposeth in His Heart by Vance K. Jackson

Don’t Know What You’re Doing After Graduation? Good.
