พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

การปกครองที่ดี?
รัฐบาลคือระบบ หรือกลุ่มคนที่ปกครองชุมชนที่ถูกจัดระเบียบ บ่อยครั้งคือ รัฐ มักประกอบด้วยฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ รัฐบาลเป็นกลไกในการตัดสินใจนโยบายของรัฐและวิธีการบังคับใช้นโยบายเหล่านั้น ในอดีต รูปแบบของรัฐบาลได้รวมถึงระบอบเผด็จการ (เช่น ราชาธิปไตย) คณาธิปไตย (ปกครองโดยกลุ่มบุคคล เช่น ทหาร หรือกลุ่มปฏิวัติ - ผู้แปล) อภิชนาธิปไตย (ปกครองโดยขุนนางหรืออภิสิทธิ์ชน - ผู้แปล) และประชาธิปไตย ครั้งหนึ่งเซอร์วินส์ตัน เชอร์ชิลเคยกล่าวว่า ‘ระบอบประชาธิปไตยเป็นรูปแบบการปกครองที่แย่ที่สุด ยกเว้นรูปแบบอื่น ๆ ทั้งหมดที่ได้มีการทดลองเป็นครั้งคราว’ รัฐบาลมีขาขึ้นและขาลง นักการเมืองของเราเป็นมนุษย์ที่มีความอ่อนแอแบบมนุษย์เหมือนเราทุกคน มีความสับสนเกี่ยวกับฝ่ายปกครองของมนุษย์ในพระคัมภีร์ มีบางส่วนที่การปกครองของมนุษย์ได้รับการยืนยันว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้ (อาทิเช่น ใน โรม 13) และในที่อื่น ๆ ซึ่งมีภาพของการอยู่ภายใต้การควบคุมของมาร (อาทิเช่น ใน วิวรณ์ 13) ทั้งหมดรวมกันเป็นตัวแทนของความเป็นจริงของการปกครองของมนุษย์ การปกครองสะท้อนถึงสิ่งที่ดีและจริงปะปนอยู่ในตัวเรา ควบคู่ไปกับสิ่งที่เป็นบาปและข้อบกพร่อง อย่างไรก็ตาม จงแน่ใจว่า วันหนึ่งจะมีการปกครองแบบใหม่เกิดขึ้น คือความเป็นกษัตริย์ของพระเยซู (ยอห์น 12:12–36)สดุดี 65:1-13
การปกครองของพระเจ้า
คุณตระหนักไหมว่า พระเจ้าทรงแสนดีเพียงใด? พระองค์ทรงรักคุณและปรารถนาให้คุณเพลิดเพลินกับพระพรในวันนี้ของพระองค์ในชีวิตของคุณ สดุดีตอนนี้ล้วนเป็นเรื่องของความดีงามของพระเจ้า มันให้ภาพที่สวยงามว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรเมื่ออยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้า จงใคร่ครวญถึงความดีงามของพระองค์ในวันนี้
พระเจ้าทรงได้ยินคำอธิษฐานของคุณ (ข้อ 2) พระองค์ทรงอภัยบาปของคุณ แม้ว่าคุณอาจรู้สึกว่า ‘ความชั่วชนะข้าพระองค์ทั้งหลาย’ (ข้อ 3) การทรงอภัยของพระเจ้านั้นช่างน่าอัศจรรย์
‘ข้าพระองค์ทั้งหลายจะอิ่มเอมด้วยความดี’ (ข้อ 4) ที่อยู่ในการทรงสถิตของพระองค์ พระองค์ประทาน ‘ความหวัง’ (ข้อ 5ข) และ ‘ความยินดี’ (ข้อ 8ข) ให้แก่คุณ
การเห็นความรักยิ่งใหญ่ของพระองค์ในแบบที่พระองค์ทรงปฏิบัติต่อสิ่งทรงสร้าง (การรดน้ำแผ่นดิน การทรงจัดหาข้าว ผลิตผล ฝูงสัตว์ และอื่น ๆ ข้อ 9–13)
เราไม่ได้ดำเนินชีวิตในสังคมที่พระเจ้าทรงปกครองโดยตรง แต่ผ่านทางพระคริสต์ คุณมีความสัมพันธ์โดยตรงกับพระเจ้าในชีวิตส่วนตัวของคุณ คุณสามารถดำเนินตามกฎของพระองค์ และได้รับพระพรแห่งการทรงสถิตของพระเจ้า นี่เป็นหนึ่งในวิธีที่คุณสามารถมีประสบการณ์กับ ‘แผ่นดินของพระเจ้า’ ในชีวิตของคุณตอนนี้
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่วันหนึ่งแผ่นดินของพระองค์จะมาถึง และทุกเข่าจะก้มกราบลงต่อพระเยซู และพระองค์จะทรงปกครองด้วยความชอบธรรมใน ‘การทรงสร้างใหม่’
ยอห์น 12:12-36
การปกครองของพระเยซู
คุณกำลังลำบากใจกับบางสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่ไหม? คุณกำลังทุกข์ทรมานจากการทดลองบางเรื่องในชีวิตของคุณหรือไม่ ? ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณมีผู้นำที่เข้าอกเข้าใจ พระเยซูตรัสว่า ‘จิตวิญญาณของเราวุ่นวายใจและเป็นทุกข์…’ (ข้อ 27ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplifiled Bible โดยผู้แปล)
พระเยซูประทานแบบอย่างให้แก่เราถึงวิธีตอบสนองต่อความยากลำบากในชีวิตเรา และต่อโลกที่ทุกข์ทรมาน จากนั้น เหมือนกับตอนนี้ เป็นช่วงเวลาวิกฤติ ดังที่พระเยซูตรัสว่า ‘โลกอยู่ในภาวะวิกฤติ’ (ข้อ 30, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ในช่วงเทศกาลปัสกา ‘มหาชน’ ได้มาที่กรุงเยรูซาเล็ม (ข้อ 12) โจซีฟัสประมาณว่ามีราว 2.7 ล้านคนมารวมตัวกัน นี่อาจพูดเกินความจริง ถึงกระนั้นก็เป็นเทศกาลใหญ่ และน่าจะต้องรู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังกันอย่างยิ่ง
ในยุคของพระเยซู คนกำลังรอคอยพระเมสซิยาห์ พวกเขามองหากษัตริย์มนุษย์ เช่น เชื้อสายของดาวิด ผู้ที่ปลดปล่อยพวกเขาจากผู้ที่ข่มเหง เมื่อพระเยซูเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม พระองค์ถูกมองว่ากษัตริย์องค์นั้น ‘พระมหากษัตริย์แห่งอิสราเอลทรงพระเจริญ”!’ (ข้อ 13ข) ฝูงชนอาจเห็นพระเยซูทรงเป็นกษัตริย์นักรบ และหวังว่าจะเป็นไททันทีจากการปกครองของโรม
จากนั้น เหมือนในตอนนี้ มีทัศนคติที่แตกต่างกันต่อการปกครอง พวกฟาริสี (ข้อ 19) เห็นว่าการยึดครองของชาวโรมันแม้จะถูกกดขี่ แต่ต้องอดทนจนกว่าพระเจ้าจะทรงกำจัดมันออกไป พวกสะดูสีชอบให้ความร่วมมือกับทางราชการมากกว่า พรรคชาตินิยมซีล็อทได้รับความนิยมจากประชาชนมากที่สุด พวกเขาอยากให้มีการจลาจลรุนแรงนำโดยกษัตริย์ผู้ช่วยกู้
พระเยซูทรงเป็นกษัตริย์อย่างแท้จริง แต่พระองค์ไม่ได้เสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มอย่างผู้พิชิต ทรงพลัง บนรถรบ หรือม้าศึก พระองค์ทรงเป็นผู้นำอีกแบบหนึ่ง ‘จงดู กษัตริย์ของเธอเสด็จมา ประทับบนลูกลา’ (ข้อ 15ข) ถ่อมใจ สุภาพ นั่งมาบนลูกลา พระองค์ทรงเป็นจอมกษัตริย์ผู้ช่วยกู้แต่ไม่ใช่กษัตริย์นักรบ อุปมาเรื่องการกระทำนี้ออกแบบมาเพื่อแก้ไขความคาดหวังที่ผิด ๆ ของฝูงชน และแสดงให้กรุงเยรูซาเล็มเห็นวิถีแห่งสันติสุข
พระองค์เสด็จมาอย่างจอมกษัตริย์ผู้ทรงมีชัย ไม่ใช่ด้วยความรุนแรง ต่อผู้ที่กดขี่ แต่โดยยอมให้ทำทารุณต่อพระองค์ พระองค์ตรัสว่า ‘ถึงเวลาแล้วที่บุตรมนุษย์จะได้รับพระเกียรติ’ (ข้อ 23) และกระนั้นพระองค์ยังทรงพูดถึงกางเขน "เมื่อเราถูกยกขึ้นจากแผ่นดินโลกแล้ว เราจะชักนำทุกคนให้มาหาเรา” พระองค์ตรัสอย่างนั้นเพื่อแสดงว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์อย่างไร’ (ข้อ 32–33)
เราเห็นข้อมูลเชิงลึกที่นี่ถึงการปล้ำสู้ภายในพระทัยของพระเยซู เมื่อพระองค์ทรงเผชิญกับการล่อลวงความทุกข์ทรมาน และความตายที่ใกล้เข้ามา ‘เดี๋ยวนี้ใจของเราเป็นทุกข์ จะให้เราพูดอย่างไร? ‘ข้าแต่พระบิดา ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากช่วงเวลานี้อย่างนั้นหรือ? แต่เพื่อจุดประสงค์นี้เอง เราจึงมาถึงช่วงเวลานี้ ข้าแต่พระบิดา ขอพระองค์ทรงให้พระนามของพระองค์รับพระเกียรติ”!’ (ข้อ 27–28ก)
ชัยชนะของพระเยซูไม่ได้มาด้วยแสนยานุภาพทางการทหาร แต่ผ่านทางการวายพระชนม์อย่างเสียสละของพระองค์ ซึ่งเอาชนะอำนาจมารได้ (ข้อ 31) การสิ้นพระชนม์ของพระเยซู หมายความถึงการพิพากษาโลก การล้มล้างความชั่วร้าย การถวายเกียรติแด่พระเยซู และนำทุกคนมาถึงพระองค์
แน่นอนว่าจุดนี้เป็นกษัตริย์ผู้ทรงมีชัยที่แตกต่างต่างออกไป พระเยซูไม่เพียงทำให้คำเผยพระวจนะเรื่องกษัตริย์ผู้ทรงช่วยกู้สำเร็จ พระองค์ยังทรงทำให้คำเผยพระวจนะเรื่องผู้รับใช้ที่ทนทุกข์สำเร็จอีกด้วย พระองค์ทรงนำเอาคำเผยพระวจนะสองสายมาบรรจบกัน
วันหนึ่งพระเยซูจะเสด็จกลับมาอย่างกษัตริย์ผู้ทรงมีชัยเพื่อปกครองและครอบครองไปชั่วนิรันดร์ ระหว่างนั้น คุณถูกเรียกให้เป็นความสว่างในความมืด หากคุณดำเนินชีวิตภายใต้การนำของพระเยซู ‘จากนั้นความสว่างจะอยู่ในท่าน และฉายแสงออกไปผ่านทางการดำเนินชีวิตของท่าน คุณจะเป็นลูกแห่งความสว่าง’ (ข้อ 36, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และพระเจ้าจะทรงให้เกียรติคุณ พระเยซูตรัสว่า ‘ถ้าใครปรนนิบัติเรา พระบิดาจะประทานเกียรติแก่ผู้นั้น’ (ข้อ 26)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รับใช้พระองค์ในแบบที่ชีวิตของข้าพระองค์จะนำความสว่างเข้าสู่โลกที่มืดมิด
1 ซามูเอล 8:1-10:8
การปกครองของมนุษย์
พระเจ้าทรงวางแผนว่า ประชากรของพระองค์จะแตกต่างจากคนอื่น ๆ พระองค์ทรงวางแผนสังคมที่องค์พระเจ้าเองทรงเป็นกษัตริย์ แต่อิสราเอลอยากเป็นเหมือนกับคนอื่น ๆ การปกครองโดยตรงจากพระเจ้าได้ผลต่อเมื่อประชาชนอุทิศตัวทั้งสิ้นต่อพระเจ้า หากไม่เป็นเช่นนั้น ผลก็คือความโกลาหลดังที่เราเห็นในผู้วินิจฉัย เป็นการมีกษัตริย์มนุษย์ดีกว่าไม่กษัตริย์เลย เราอาจจะลำดับรายการดังนี้
ก. พระเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ (เทวาธิปไตย) เป็นการปกครองที่พระเจ้าทรงต้องการ คือตามน้ำพระทัยอันบริบูรณ์ของพระองค์
ข. กษัตริย์ที่เป็นมนุษย์ (ราชาธิปไตย) เป็นการปกครองที่พระเจ้าทรงอนุญาต คือตามที่พระองค์ทรงอนุญาต
ค. ไม่มีกษัตริย์ (อนาธิปไตย) การปกครองในผู้วินิจฉัย อันก่อให้เกิดความโกลาหล
ประชากรของพระเจ้าปฏิเสธการปกครองของพระองค์ พระเจ้าตรัสว่า ‘แต่พวกเขาละทิ้งเรา ไม่ให้เราเป็นกษัตริย์เหนือพวกเขา’ (8:7) ประชากรร้องขอกษัตริย์ พวกเขาพูดว่า ‘บัดนี้ขอท่านได้ตั้งพระราชาให้วินิจฉัยพวกเราอย่างประชาชาติทั้งปวงเถิด’ (ข้อ 5)
ซามูเอลเตือนพวกเขาว่า การปกครองของมนุษย์นั้นอ่อนแอและผิดพลาด มักใช้อำนาจในทางทุจริต ซามูเอลเตือนว่ากษัตริย์ผู้ซึ่งจะปกครองพวกเขา จะเอาคนในครอบครัวพวกเขาบางคน ที่ดิน สมบัติ และคนใช้ของพวกเขาไป และใช้พวกเขาเพื่อประโยชน์ของเขาเอง และพวกคนวงในของเขา (ข้อ 11–16)
พูดอีกอย่างก็คือ ท่านเตือนพวกเขาถึงความล้มเหลวและอ่อนแอของการปกครองมนุษย์ทั้งหมด และยังเตือนพวกเขาอีกด้วยเรื่องการเก็บภาษี และ ‘ข้าราชการมากมาย’! (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ทั้ง ๆ ที่มีการเตือน แต่ประชาชนกลับกล่าวว่า ‘เราไม่ยอม เราจะต้องมีพระราชาปกครองเรา’ (ข้อ 19) พระเจ้าทรงยอมให้ใช้ ‘แผนสอง’ พระองค์ประทานกษัตริย์ให้แก่พวกเขา (ข้อ 22) ซาอูลถูกเลือกให้เป็นผู้นำที่ถูกเจิมตั้งไว้ของอิสราเอลเพื่อนำประชากรของพระองค์ (9:16) ช่วงเวลาที่ซามูเอลเห็นซาอูล ในพริบตาเขาตระหนักว่านี่คือชายที่จะปกครองคนของพระเจ้า (ข้อ 17) ซาอูลผู้ที่มาจากภูมิหลังที่ต่ำต้อย (ข้อ 21) และกลายเป็นกษัตริย์ที่ถูกเจิมตั้ง (10:1)
พระเจ้าทรงอวยพรแผนการใหม่นี้ด้วยพระกรุณา สามสิ่งที่โดดเด่นเกิดขึ้นกับซาอูล (ซึ่งบัดนี้เกิดขึ้นกับคุณและคริสเตียนทุกคน) อันดับแรก เมื่อเขาได้รับการเจิมตั้ง พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าสวมทับด้วยฤทธิ์เดช (ข้อ 6ข) อันดับสอง เขา ‘ถูกเปลี่ยนเป็นคนละคน’ เขากลายเป็นคนใหม่ (ข้อ 6ค, ดู 2 โครินธ์ 5:17) อันดับสามซามูเอลบอกเขาว่า ‘ไม่ว่าท่านได้รับมอบหมายให้ทำงานอะไร จงทำเถิด เพราะพระเจ้าสถิตกับท่าน’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
นี่เป็นความจริงสำหรับซาอูล และนี่เป็นความจริงสำหรับคุณ ไม่ว่าคุณจะรู้สึกแย่กับสถานการณ์อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะรู้สึกว่าพระเจ้าทรงห่างไกลแค่ไหนก็ตาม ไม่ว่าคุณจะพบว่ายากที่จะอธิษฐานเพียงใดก็ตาม ไม่ว่าคุณจะสงสัยยังไงก็ตาม พระวิญญาณของพระเจ้าสวมทับคุณ คุณจะถูกเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกับพระองค์ และพระเจ้าสถิตอยู่กับคุณ
ข้าแต่พระเจ้า ขอประทานสติปัญญาแก่ผู้นำของเราให้พวกเขาละทิ้งวาระส่วนตัวของตนเอง และทำงานร่วมกันเพื่อรักษาความยุติธรรม สันติภาพ และความสามัคคีในประเทศ เพื่อถวายเกียรติแด่พระนามของพระองค์
Pippa Adds
1 ซามูเอล 8:3
บุตรชายของซามูเอลไม่ได้เดินในทางเดียวกับบิดาของพวกเขา ซามูเอลนำคนมากมายไปในทางของพระเจ้า น่าเศร้าที่บุตรชายของท่านเองไม่ได้เป็นหนึ่งในคนพวกนั้น เราจำเป็นต้องอธิษฐานเผื่ออย่างเจาะจงถึงลูกหลานผู้นำคริสเตียน
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Everyday Prayers for Christmas

Gospel-Based Conversations to Have With Your Preteen

Simon Peter's Journey: 'Grace in Failure' (Part 1)

Reimagine Influence Through the Life of Lydia

Never Alone

Who Am I, Really? Discovering the You God Had in Mind

The Holy Spirit: God Among Us

Sharing Your Faith in the Workplace

Positive and Encouraging Thoughts for Women: A 5-Day Devotional From K-LOVE
