YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 134 OF 365

ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้ โดยพระเจ้า

ผมอายุสิบแปดปีเมื่อผมพบพระเยซูเป็นครั้งแรก ผมจำการสนทนาที่พูดคุยกับผู้นำคริสเตียนได้อย่างชัดเจน หลังจากนั้นไม่นาน ผมพูดว่า ผมดีใจที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนเร็วกว่านี้ เพราะว่าผมสามารถมีประสบการณ์ในความแตกต่าง ระหว่างชีวิตที่ไม่มีพระเจ้าและชีวิตที่มีพระเจ้า เขาชี้ให้เห็นถึงตรรกะวิบัติของวิธีคิดแบบนั้น และแน่นอนว่า ยิ่งเรามีประสบการณ์ชีวิตกับพระเจ้าเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ตอนนี้เมื่อมองย้อนไปดูชีวิตของผม ผมเห็นว่าถ้อยคำของเขาเต็มไปด้วยปัญญา ผมรู้สึกขอบคุณพระเจ้าอย่างยิ่งที่ลูก ๆ ของเราสามารถมองย้อนไปในชีวิตของพวกเขาเอง และพูดว่า พวกเขาไม่เคยต้องมีเวลาในชีวิตที่อยู่โดย ‘ปราศจากพระเจ้า’ หลายปีมานี้ ผมสัมภาษณ์คนไปนับร้อย ๆ คนที่ได้พบพระเยซูใน[หลักสูตรอัลฟ่า](https://thailand.alpha.org/) พวกเขาเปรียบเทียบชีวิตของพวกเขาที่ปราศจากพระเจ้ากับชีวิตที่มีพระเจ้า มีความรู้สึกชื่นบานและโล่งใจอย่างยิ่ง และบ่อยครั้งก็นึกเสียใจว่าพวกเขาไม่ได้เริ่มต้นชีวิตกับพระเจ้าเร็วกว่านี้ คุณถูกสร้างมาเพื่อดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์กับพระเจ้า หากปราศจากเรื่องนี้ ชีวิตไม่เคยมีความหมาย การได้อยู่กับพระเจ้ายิ่งสำคัญกว่าสิ่งที่คุณทำเพื่อพระเจ้า โดยพระเจ้าทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้

สดุดี 60:5-12

ได้รับชัยชนะ

เมื่อเทียบกับความช่วยเหลือจากพระเจ้า ความช่วยเหลือของมนุษย์ช่างไร้ค่า ‘โดยพึ่งพระเจ้า’ ดาวิดตรัสว่า ‘เราจะสู้อย่างเข้มแข็ง’ (ข้อ 12) พระองค์ไม่ได้พูดถึงสงครามทางกายภาพ อัครสาวกเปาโลเขียนว่า สงครามหลัก ๆ ของเราไม่ใช่ในทางกายภาพ ไม่ใช่การต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด ‘แต่...ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน’ (เอเฟซัส 6:12)

ดาวิดอธิษฐานว่า ‘ขอประทานชัยชนะโดยพระหัตถ์ขวาของพระองค์และขอทรงตอบข้าพระองค์ทั้งหลาย เพื่อว่าผู้ที่พระองค์ทรงรักจะได้รับการช่วยกู้ … ขอประทานความช่วยเหลือแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเพื่อต่อต้านศัตรู เพราะความช่วยเหลือของมนุษย์ก็ไร้ผล โดยพึ่งพระเจ้า เราจะสู้อย่างเข้มแข็ง ’ (สดุดี 60:5, 11–12ก)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่โดยพระองค์ ข้าพระองค์สามารถมั่นใจได้ ในทุกการศึกที่ข้าพระองค์กำลังเผชิญอยู่ ข้าพระองค์เชื่อวางใจในพระองค์

ยอห์น 8:12-30

ทำให้พระเจ้าชอบพระทัย

คุณตระหนักมั้ยว่า คุณสามารถทำให้พระเจ้าชอบพระทัยได้? พระเยซูตรัสว่า ​‘เราทำตามชอบพระทัยพระองค์เสมอ’ (ข้อ 29) นี่ควรเป็นเป้าหมายของคุณในชีวิต ‘ทำให้พระเจ้าชอบพระทัย’

พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างชีวิตกับพระเจ้าให้เราเห็น พระองค์ตรัสว่า ‘เพราะเราไม่ได้พิพากษาโดยลำพัง แต่เราพิพากษาร่วมกับพระบิดาผู้ทรงใช้เรามา’ (ข้อ 16) พระองค์ตรัสว่า ‘และพระองค์ผู้ทรงใช้เรามาก็สถิตอยู่กับเรา พระองค์ไม่ได้ทรงทิ้งเราไว้ตามลำพัง' (ข้อ 29ก) ผ่านทางพระธรรมตอนนี้ เราพบบางสิ่งเรื่องความสัมพันธ์ของพระเยซูกับพระบิดาของพระองค์

พระเยซูตรัสว่า ‘เรารู้ว่าเรามาจากไหนและจะไปที่ไหน’ (ข้อ 14) หลายคนดิ้นรนในชีวิต เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขามาจากที่ไหน หรือพวกเขากำลังจะไปไหน พวกเขาดิ้นรนกับการขาดวัตถุประสงค์และทิศทางในชีวิต ในความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า คุณสามารถรู้ว่าคุณมาจากไหน และสุดท้ายแล้วคุณกำลังจะไปที่ไหน

ความสัมพันธ์ของพระเยซูกับพระบิดายังเป็นที่มาของวัตถุประสงค์ และทิศทางของพระองค์แบบวันต่อวัน พระองค์ตรัสว่า ‘เราไม่ได้ทำอะไรตามใจชอบ พระบิดาทรงสอนเราอย่างไร เราก็กล่าวอย่างนั้น’ (ข้อ 28) พระองค์ตรัสว่า ‘และพระองค์ผู้ทรงใช้เรามาก็สถิตอยู่กับเรา พระองค์ไม่ได้ทรงทิ้งเราไว้ตามลำพัง’ (ข้อ 29ก)

นี่เป็นแบบอย่างสำหรับเรา พระเจ้าทรงสถิตอยู่กับพระเยซู พระเยซูทรงทราบว่าพระองค์ไม่เคยอยู่ตามลำพัง ไม่มีสักสิ่งหนึ่งที่พระองค์ทรงกระทำโดยปราศจากพระเจ้า ในทุก ๆ ชั่วขณะ ความปรารถนาของพระองค์คือการทำให้พระเจ้าชอบพระทัย: ‘เพราะว่าเราทำตามชอบพระทัยพระองค์เสมอ’ (ข้อ 29ข) นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของพระองค์มีพลังและเกิดผลอย่างมาก: ‘เมื่อพระเยซูตรัสอย่างนี้ก็มีคนจำนวนมากวางใจในพระองค์ ’ (ข้อ 30)

ไม่เพียงแค่พระเยซูทรงอยู่กับพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า

พระเยซูตรัสสองครั้งในพระธรรมวันนี้ว่า ‘เราเป็นผู้นั้น’ (8:24, 28) คำที่แปลว่า ‘เราเป็นผู้นั้น’ เป็นคำเดียวกับที่ใช้ในคำแปลภาษากรีกในอพยพ 3:14–16 ที่นั่น…พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์เองกับโมเสสว่า ‘เราเป็นผู้ซึ่งเราเป็น’ พระนามที่แสดงถึงทั้งพระลักษณะของพระเจ้า และความใกล้ชิดของพระเจ้ากับประชากรของพระองค์

พระเยซูทรงใช้พระนามนี้ด้วยพระองค์เอง เราไม่ได้ครอบครองการมีอยู่ใด ๆ เราเกิดมาและเราก็ตายไป เราได้รับการมีตัวตนของเรา พระเยซูทรงเป็นอยู่ พระองค์ทรงกำลังบอกผู้คนว่า อีกครั้งที่พระเจ้าเสด็จมาใกล้พวกเขาในพระองค์ พระเยซูทรงเป็นองค์อิมมานูเอล พระเจ้าทรงสถิตกับเรา

เหมือนกับเมื่อคุณมองไปยังกางเขนที่พระเยซูตรัสว่า คุณมีตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดถึงอัตลักษณ์ของพระองค์ ‘พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “เมื่อพวกท่านยกบุตรมนุษย์ขึ้น ท่านก็จะรู้ว่าเราเป็นผู้นั้น"’ (ยอห์น 8:28)

พระเยซูทรงมั่นใจเต็มร้อยในอัตลักษณ์ของพระองค์เอง กุญแจของความมั่นใจและอัตลักษณ์พระเยซู วางอยู่บนความสัมพันธ์ของพระองค์กับพระบิดา สิ่งเดียวกันนี้ก็เป็นจริงสำหรับคุณด้วยเช่นกัน เมื่อคุณใช้เวลากับพระบิดาในการอธิษฐาน ในการนมัสการ หรือในการอ่านพระวจนะ ความรู้สึกของคุณถึงอัตลักษณ์และความมั่นใจว่าคุณเป็นใครในพระเจ้าจะเพิ่มมากขึ้น คุณสามารถรู้ได้ว่า คุณมาจากไหน และคุณกำลังไปที่ไหน

ไม่สำคัญว่าคนอื่นพูดถึงคุณว่าอย่างไร คุณสามารถเดินด้วยความมั่นใจ ด้วยการเชิดหน้าขึ้นได้ อัตลักษณ์ของคุณอยู่ในพระคริสต์ มันฝังรากลงในสิ่งที่พระองค์ตรัสเกี่ยวกับคุณและการทรงสถิตของพระองค์กับคุณ

ข้าแต่พระบิดา ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงสถิตกับข้าพระองค์ พระองค์ไม่ได้ให้ข้าพระองค์อยู่ตามลำพัง ขอทรงช่วยข้าพระองค์เหมือนกับพระเยซู ที่มุ่งทำตามชอบพระทัยพระองค์เสมอ และจะกล่าวเฉพาะสิ่งที่พระองค์ทรงสอนข้าพระองค์

ผู้วินิจฉัย 18:1-19:30

ฉายแสงของพระเจ้า

ความโหดร้ายที่น่าตกใจที่กระทำโดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิส คือการตัดหัว และตรึงเหยื่อผู้บริสุทธิ์ ทารุณกรรมเด็กในวงกว้าง ความชั่วร้ายอันเลวร้ายของการค้ามนุษย์และการเป็นทาสในยุคปัจจุบัน เราดำเนินชีวิตอยู่ในโลกที่มืดมิด แต่เราไม่ได้ปราศจากความหวัง โดยพระเจ้า แสงสว่างสามารถขับไล่ความมืดมิดได้

อิสราเอลอยู่ในยุคมืดในประวัติศาสตร์ตอนนี้ ประชาชนถูกเรียกให้เดินในความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า ภายใต้การนำและปกครองโดยตรงของพระเจ้าในฐานะกษัตริย์ของพวกเขา ถ้าพวกเขาดำเนินชีวิตเช่นนี้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาดำเนินชีวิตในสถานการณ์ที่แย่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตภายใต้ความเป็นกษัตริย์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า และไม่แม้กระทั่งกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์เพื่อรักษาระเบียบ และควบคุมความโกลาหล

นี่เป็นวันที่มืดมน ‘ในสมัยนั้นไม่มีกษัตริย์ในอิสราเอล’ (18:1, 19:1) พวกเขาหันไปนมัสการรูปเคารพ (18) เราได้อ่านถึงเรื่องราวที่น่าสยดสยองและน่าวิตกเกี่ยวกับความชั่วร้ายในดินแดนที่ไม่มีกฎหมาย การข่มขืน ข่มเหง และชำแหละผู้หญิงอย่างน่าสยดสยอง ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นต้องพูดอย่างตกตะลึงว่า ‘เรื่องอย่างนี้ไม่มีใครเคยพบเคยเห็นตั้งแต่สมัยคนอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์จนถึงวันนี้ จงตรึกตรองปรึกษากันดูแล้วก็ว่ากันไปเถิด’ (19:30) นี่เป็นช่วงเวลาที่มืดมนสุด ๆ ของชีวิตที่ปราศจากพระเจ้า

ความโหดร้ายนี้สยดสยองดังที่มันเป็น นี่ไม่ใช่ครั้งเดียวในประวัติศาสตร์โลก ความโหดร้ายที่น่าสยดสยองอาจเกิดขึ้นได้ เมื่อสังคมปฏิเสธพระเจ้าและกฎหมายของพระองค์ บางครั้งก็เข้าสู่ความโกลาหลอย่างที่สุด

พล.ท.โรมิโอ ดัลแลร์ ผู้ซึ่งในปี ค.ศ.1994 เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของสหประชาชาติไปยังประเทศรวันดา และได้เห็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ถูกถามว่า เขายังคงเชื่อพระเจ้าได้อย่างไร เขาตอบว่า ‘ผมรู้ว่ามีพระเจ้า เพราะว่าในรวันดา ผมได้จับมือกับปีศาจ ผมเห็นเขา ผมได้กลิ่นเขา และผมได้สัมผัสเขา ผมรู้ว่าปีศาจมีอยู่จริง ดังนั้นผมจึงทราบว่า พระเจ้าทรงมีอยู่จริง’

ในภาษาพระคัมภีร์ ‘ความมืด’ ไม่ได้หมายถึงแค่กลางคืน แต่ยังหมายถึงพลังปีศาจที่สามารถล่อลวงเรา และนำเราให้เดินออกไปจากทางที่ถูกต้อง ไปยังแสงแห่งชีวิต พระเยซูผู้ทรงนำเอาแสงสว่างเข้ามาสู่โลกที่มืดมิด

ในการกล่าวอ้างที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง พระเยซูทรงวางพระองค์เองอย่างเป็นธรรมชาติในฐานะพระเจ้า และตรัสว่า พระองค์ทรงเป็น ‘ความสว่างของโลก’ (ยอห์น 8:12) โลกที่ปราศจากพระเจ้าเป็นโลกแห่งความมืด กระนั้น พระเยซูจึงตรัสว่า ‘คนที่ตามเรามาจะไม่ต้องเดินในความมืด แต่จะมีความสว่างแห่งชีวิต’ (ข้อ 12)

เมื่อคุณหันไปทางพระเยซู คุณออกจากความมืดมิดแห่งชีวิตซึ่งปราศจากพระเจ้า ไปสู่ความสว่างแห่งชีวิตกับพระองค์ พระองค์ทรงนำเราออกจากความมืด ความขัดแย้ง และความตาย สู่ความสว่างแห่งชีวิตและความรัก พระองค์ทรงให้ความหมายและทิศทางกับชีวิตของคุณ ไม่เพียงแค่นั้น แต่เมื่อคุณดำเนินชีวิตกับพระเจ้า มุ่งทำให้พระองค์ชอบพระทัย คุณรวมตัวกับผู้เชื่อคนอื่น ๆ ‘ความสว่างแห่งชีวิต’ จะนำแสงสว่างเข้าสู่โลกที่มืดมิดของเรา

คุณสามารถสร้างความแตกต่างให้กับโลกรอบตัวคุณได้จริง ๆ ชีวิตของคุณในพระคริสต์สามารถฉายแสงเหมือนกับแสงสว่างในความมืดมิดฝ่ายวิญญาณในโลกรอบตัวคุณ ตามที่มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ว่าไว้ ‘ความมืดไม่สามารถขับไล่ความมืดได้ มีเพียงความสว่างเท่านั้นที่ทำได้ ความเกลียดชังไม่สามารถขับไล่ความเกลียดชังได้ มีเพียงความรักเท่านั้นที่ทำได้’

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้เป็นชุมชนที่นำความสว่างของพระองค์เข้าสู่โลกที่มืดมิด ขอทรงช่วยเราในฐานะบุคคล และในฐานะคริสตจักรที่จะดำเนินชีวิตกับพระองค์ เพื่อให้เป็นที่ชอบพระทัยพระองค์ และนำความสว่างแห่งชีวิต ความรัก และความชื่นบานมาสู่ผู้ที่อยู่รอบตัวเราในวันนี้

Pippa Adds

ผู้วินิจฉัย 19

ฉันตกใจโดยวิธีที่ปฏิบัติต่อผู้หญิงในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม (และยังคงเกิดขึ้นในบางส่วนของโลกในทุกวันนี้) น่าขอบคุณที่เมื่อพระเยซูเสด็จมา พระองค์ได้รื้อฟื้นศักดิ์ศรีของพวกเธอ และทำลายการกีดกั้นทางเพศในยุคนั้น

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More