พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

การทำให้จิตวิญญาณของคุณอิ่มเอม
แบร์นฮาร์ด แลงเกอร์ เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่เก่งที่สุดในรุ่นนั้น โดยคว้าแชมป์ยูเอส มาสเตอร์สถึง 2 ครั้ง และครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในการจัดอันดับกอล์ฟโลกในคราวเดียว เขากล่าวว่า ‘ผมเคย... ชนะ 7 รายการใน 5 ประเทศ ผมเป็นอันดับหนึ่งของโลก และผมมีภรรยาสาวสวย แต่ยังมี*บางสิ่งที่ขาดหายไป*’ 'วิถีชีวิตเราทุกคน (โดยเฉพาะนักกีฬา) เป็นผู้นำ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเงิน คุณเป็นใคร คุณรู้จักใคร สิ่งที่คุณมี และสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดจริง ๆ ผมคิดว่าคนที่มีสิ่งเหล่านี้ พวกเขาตระหนักดีว่า... ยังมี*บางสิ่งที่ขาดหายไป*ในชีวิตของพวกเขา และ*ผมเชื่อว่านั่นคือพระเยซูคริสต์*’ ความว่างเปล่าในจิตวิญญาณที่ แบร์นฮาร์ด แลงเกอร์ อธิบายนั้นเป็นเรื่องปกติสำหรับมนุษยชาติทั้งหมด หญิงสาวคนหนึ่งบอกกับผมว่าเธอรู้สึกว่ามี ‘ชิ้นส่วนที่ขาดหายไปในจิตวิญญาณของเธอ' คุณไม่ได้เป็นเพียงร่างกายและจิตใจ คุณเป็นวิญญาณที่สร้างขึ้นสำหรับความสัมพันธ์กับพระเจ้า แล้วคุณจะ*สนองต่อจิตวิญญาณของคุณ*ได้อย่างไร?สดุดี 63:1-11
แสวงหาพระเจ้าทั้งกลางวันและกลางคืน
‘อาหาร’ ฝ่ายจิตวิญญาณ จริง ๆ แล้วก็เหมือนกับอาหารฝ่ายร่างกาย แต่อาหารฝ่ายจิตวิญญาณเติมเต็มจิตวิญญาณของเราในแบบที่อาหารฝ่ายร่างกายให้ไม่ได้
ขณะที่ดาวิดอยู่ในทะเลทราย เขารู้ว่าความกระหายและความหิวทางร่างกายเป็นอย่างไร แต่ดาวิดก็รู้และมีประสบการณ์กับความกระหายทางจิตวิญญาณด้วย: 'จิตใจของข้าพระองค์กระหายหาพระองค์ เนื้อหนังของข้าพระองค์กระเสือกกระสนหาพระองค์ ในดินแดนที่แห้งแล้งและอ่อนระโหย ที่ซึ่งไม่มีน้ำ’ (ข้อ 1) และเขารู้ดีว่าความหิวกระหายจิตวิญญาณของเขาเป็นอย่างไร: ‘จิตใจของข้าพระองค์จะอิ่มหนำดังได้กินอาหารชั้นเลิศ’ (ข้อ 5ก)
ความหิวกระหายทางจิตวิญญาณของเขาได้รับการสนองตอบเมื่อเขานมัสการพระเจ้า ‘ดังนั้นที่นี่ข้าพระองค์อยู่ในสถานนมัสการ ด้วยตาใจที่เปิดออก และ ดื่มด่ำในพระกำลังและพระสิริของพระองค์’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ดาวิดยกมือขึ้นเพื่อแสดงการเทิดทูน ความเคารพ และการยอมจำนน ‘เพราะว่าความรักมั่นคงของพระองค์ดีกว่าชีวิต ริมฝีปากของข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์ เช่นนั้นแหละ ข้าพระองค์จะถวายสาธุการแด่พระองค์ ตราบที่ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ ข้าพระองค์จะชูมือต่อพระนามของพระองค์’ (ข้อ 3-4) การยกมือขึ้นเป็นท่าทีของการอธิษฐานที่เก่าแก่ที่สุด ดังที่พระสันตะปาปาอเมริตัส เบเนดิกต์ เขียนว่า ‘เป็นท่าทางการนมัสการในรูปแบบต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง... เพื่อเปิดใจต่อพระเจ้า ยอมจำนนต่อพระองค์ทั้งสิ้น’
คุณจะทำอย่างไรเมื่อนอนไม่หลับหรือมีช่วงเวลาที่ตื่นตัวในตอนกลางคืน? ดาวิดกล่าวว่าเขานมัสการและสรรเสริญพระเจ้าว่า ‘ข้าพเจ้าระลึกถึงพระองค์เมื่ออยู่บนเตียงและนั่งตรึกตรองถึงพระองค์ในยามกลางคืน’ (ข้อ 6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)
ขณะที่ดาวิดทุ่มเทหัวใจในการนมัสการทั้งกลางวันและกลางคืนต่อพระเจ้า ดาวิดค้นพบความเข้มแข็งและการค้ำจุนจากพระเจ้า เขาเขียนว่า ‘เพราะพระองค์ทรงเป็นความอุปถัมภ์ของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะร้องเพลงด้วยความยินดีอยู่ในร่มปีกของพระองค์ จิตใจของข้าพระองค์แนบสนิทกับพระองค์ พระหัตถ์ขวาของพระองค์ค้ำจุนข้าพระองค์ไว้’ (ข้อ 7–8)
ข้าแต่พระเจ้า วันนี้ข้าพระองค์แสวงหาพระองค์ ขอบคุณพระองค์ ที่ทรงตอบสนองจิตวิญญาณของข้าพระองค์ ด้วยอาหารชั้นเลิศ และดับความกระหายฝ่ายวิญญาณ ของข้าพระองค์ ขอบพระคุณที่ความรักของพระองค์ดีกว่าชีวิต
ยอห์น 10:22-42
สื่อสารกับพระเจ้าผ่านทางพระเยซู
ทั้งคุณและผมจะสื่อสารกับพระเจ้าอย่างไร?
การสื่อสารกับพระเยซูคือการสื่อสารกับพระเจ้า พวกยิวที่พบพระเยซูเข้าใจว่าพระองค์อ้างตนเองว่าเป็นพระเจ้า (ข้อ 33) เมื่อพระองค์ตรัสว่า ‘เรากับพระบิดาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน’ (ข้อ 30) และ ‘พระบิดาทรงอยู่ในเราและเราอยู่ในพระบิดา’ (ข้อ 38) หูของผู้ที่ฟังพระองค์จะไม่มีความเคลือบแคลงใจใด ๆ แต่บรรดาผู้ที่ต่อต้านพระองค์เข้าใจว่าเป็นการดูหมิ่นประมาทพระเจ้า ‘เพราะท่านเป็นเพียงมนุษย์แต่ตั้งตัวเป็นพระเจ้า’ (ข้อ 33) และพวกเขาหยิบก้อนหินเพื่อขว้างพระองค์ให้ตาย (ข้อ 31–33)
พระเยซูทรงสื่อสารกับสาวกของพระองค์และพระองค์ยังทรงสื่อสารกับเราต่อไป ทรงตรัสว่า ‘แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักแกะเหล่านั้น และแกะนั้นก็ตามเรา’ (ข้อ 27) เราจะเห็นเครื่องหมายของคริสเตียนแท้ ดังนี้
-
เชื่อในพระเยซู
ข้อนี้มีความแตกต่างระหว่างผู้ที่ ‘วางใจในพระองค์’ (ข้อ 42) กับผู้ที่ ‘ไม่เชื่อ’ (ข้อ 25–26) ความเชื่อในพระเยซูหมายถึงการเชื่อในพระองค์เมื่อตรัสว่า ‘เราเป็นบุตรของพระเจ้า' (ข้อ 36) และวางใจในพระองค์ -
รู้จักพระเยซู
พระเยซูตรัสว่า ‘แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักแกะเหล่านั้น …’ (ข้อ 27) การเป็นคริสเตียนคือการจดจำและทำตามเสียงของพระเยซู นี่คือคำจำกัดความของคริสเตียน หาใช่ความรู้มากมายเกี่ยวกับพระเยซู แต่คือการรู้จักพระองค์จริง ๆ และสิ่งนี้ก็ตามมาด้วยคำยืนยันที่ยอดเยี่ยมว่าพระเยซูทรงรู้จักเราด้วยเช่นกัน -
ติดตามพระเยซู
พระเยซูตรัสว่า ‘แกะนั้นก็ตามเรา' (ข้อ 27) สิ่งนี้ส่งผลต่อชีวิตของคุณ ดังที่พระเยซูตรัสไว้ในข้ออื่นว่า ‘พวกท่านจะรู้จักพวกเขาด้วยผลของพวกเขา’ (มัทธิว 7:16, 20) ยากอบเขียนว่า ‘ลำพังความเชื่อ ถ้าไม่มีการปฏิบัติ ก็เป็นสิ่งที่ตายแล้ว’ (ยากอบ 2:17) หลักฐานเบื้องต้นของความเชื่อคือความรัก ผู้ที่ติดตามพระเยซูจะทำตามแบบอย่างความรักของพระองค์
พระเยซูสัญญากับคริสเตียนแท้ทุกคนว่า ‘เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะทั้งหลาย’ (ยอห์น 10:28) นี่ไม่ใช่เพียงด้านปริมาณของชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นคุณภาพด้วย พระเยซูทรงสนองความหิวกระหายฝ่ายวิญญาณของเรา ในความสัมพันธ์กับพระเยซูเราจะพบความพึงพอใจในจิตวิญญาณลึก ๆ ที่ไม่สามารถพบได้ในที่อื่น
พระเยซูสัญญาว่าความสัมพันธ์เช่นนี้กับพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป มันได้เริ่มต้นแล้ว และเป็น ‘นิรันดร์’ (ข้อ 28) ผู้ที่ติดตามพระเยซูจะ ‘ไม่มีวันพินาศ’ (ข้อ 28) นี่คือของประทาน (‘เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะทั้งหลาย’) (ข้อ 28) เป็นสิ่งที่เราทำเพื่อให้ได้มา และ สิ่งนี้ก็หายไม่ได้ พระเยซูทรงสัญญาว่า ‘ไม่มีใครแย่งชิงแกะนั้นไปจากมือของเราได้… และไม่มีใครสามารถชิงไปจากพระหัตถ์ของพระบิดาได้’ (ข้อ 28–29)
อาจมีอุปสรรค์และการทดลองมากมายระหว่างทาง แต่ในที่สุดพระหัตถ์ของพระเยซูและพระหัตถ์ของพระบิดาก็ร่วมมือกันคุ้มครองคุณ คริสเตียนอาจสูญเสียงาน เงิน ครอบครัว เสรีภาพ และแม้กระทั่งชีวิต แต่พวกเขาไม่มีวันสูญเสียชีวิตนิรันดร์
ขอบพระคุณพระเจ้า ที่ข้าพระองค์สามารถฟังเสียงของพระองค์ ข้าพระองค์ได้รู้จักพระองค์ และพระองค์ประทานชีวิตนิรันดร์แก่ข้าพระองค์ ขอบพระคุณที่พระองค์สัญญาว่าข้าพระองค์จะไม่มีวันพินาศ และไม่มีใครแย่งข้าพระองค์ไปจากมือของพระองค์ได้ ขอบพระคุณในความสัมพันธ์นี้ ข้าพระองค์พบความพึงพอใจในจิตวิญญาณทั้งในขณะนี้และตลอดไป
1 ซามูเอล 1:1-2:26
ระบายความในใจและจิตวิญญาณของคุณกับพระเจ้า
มีสิ่งที่คุณต้องการอย่างยิ่งจากพระเจ้าหรือไม่?
เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่บางครั้งในชีวิตเราอาจะรู้สึก ‘ขมขื่นใจ’ (1:10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) อย่าปล่อยให้ความขมขื่นกัดกินจิตใจของคุณ แต่จงเทมันออกแด่พระเจ้าเช่นเดียวกับนางฮันนาห์ ‘ฮันนาห์รู้สึกเหมือนถูกบดขยี้ในจิตวิญญาณ นางจึงอธิษฐานอ้อนวอนต่อพระเจ้าและร้องไห้อย่างหนัก’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ไม่มีอะไรดีไปกว่าการรู้สึกหลุดพ้นมากไปว่าการได้ระบายความในใจของคุณต่อพระพักตร์พระเจ้านั่นคือการทูลต่อพระองค์ถึงปัญหาของคุณ แทนที่จะแบกรับปัญหาเหล่านั้นไว้กับตัว แต่ให้เราทูลขอให้พระองค์หาทางแก้ไข และจากนั้นเพื่อรับสันติสุขของพระเจ้า (ฟีลิปปี 4: 6–7)
ฮันนาห์คลายความปวดร้าวของเธอเป็นเวลานาน ก่อนที่เธอจะเห็นคำตอบสำหรับคำอธิษฐานของเธอจริง ๆ
นี่คือภาพที่สวยงามของการอธิษฐานจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ ‘อยู่มาเมื่อนางยังวิงวอนเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์อยู่นั้น เอลีก็สังเกตดูปากของนาง ฮันนาห์นั้นนางพูดแต่ในใจ ริมฝีปากของนางขยับอยู่เท่านั้น ไม่ได้ยินเสียงของนาง’ (1 ซามูเอล 1:12–13ก) เอลีกล่าวหาว่าเธอเมา เธอตอบว่า ‘ไม่ใช่เช่นนั้นค่ะเจ้านายของดิฉัน ดิฉันเป็นหญิงที่ทุกข์ใจยิ่งนัก... แต่ดิฉันระบายความในใจของดิฉันออกเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ...ที่ดิฉันพูดตลอดมานั้น ก็พูดด้วยความกระวนกระวายและความเศร้าใจมาก’ (ข้อ 15–16)
เอลีบอกนางว่า ‘จงกลับไปเป็นสุขเถิด ขอพระเจ้าแห่งอิสราเอลโปรดประทานตามคำขอที่เจ้าได้ทูลขอจากพระองค์’ (ข้อ 17) และเมื่อเธอจากไป ใบหน้าของเธอก็ไม่เศร้าโศกอีกต่อไป ‘เธอกินตุ้ย ๆ ใบหน้าของเธอก็เปล่งปลั่ง’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เธอรู้ลึก ๆ ว่าพระเจ้าได้ยินคำอธิษฐานของเธอแล้ว และที่จริงแล้ว ‘พระยาห์เวห์ทรงระลึกถึงนาง’ (ข้อ 19) ที่จริงแล้ว พระเจ้าทรงทำมากกว่าตอบคำอธิษฐานของเธอ พระองค์ไม่เพียงแต่มอบบุตรตามที่เธอใฝ่ฝันเท่านั้น แต่เธอยังให้กำเนิดบุตรธิดาหกคน (ข้อ 2:21)
ขณะเดียวกัน ‘ส่วนกุมารซามูเอลก็เติบโตขึ้น และเป็นที่ชอบมากขึ้น เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์และต่อหน้ามนุษย์’ (ข้อ 26) พระคัมภีร์ข้อนี้เราใช้บ่อยในการอธิฐานเผื่อเด็ก ๆ
คำอธิษฐานของฮันนาห์หลังจากซามูเอลเกิดเป็นการแสดงที่ชัดเจนถึงความพึงพอใจของจิตวิญญาณที่เธอได้รับผ่านความสัมพันธ์ของเธอกับพระเจ้า เธออธิษฐานและขอบพระคุณพระเจ้าว่า ‘แต่บรรดาคนที่หิวก็หยุดหิว’ (ข้อ 5)
การเปิดเผยที่น่าอัศจรรย์ในคำอ้อนวอนของฮันนาห์คือแหล่งสูงสุดของความชื่นชมยินดีของเธอนั้นไม่ใช่ลูกของเธอ แต่คือในพระเจ้า เธอกล่าวว่า ‘จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมในพระยาห์เวห์’ (ข้อ 1) พระองค์ทรงเป็นแหล่งของความอิ่มเอมใจ
‘ข้าพระองค์มีความสุขมากมาย...พระเจ้าทรงชุบชีวิต...พระองค์ทรงจุดชีวิตที่มอดไหม้อีกครั้งด้วยความหวังใหม่ ฟื้นฟูศักดิ์ศรีและความเคารพต่อชีวิตของพวกเขา’ (ข้อ1,6,8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับคำตอบอันน่าอัศจรรย์ต่อคำอธิษฐานซึ่งพระองค์ประทานเมื่อข้าพระองค์เทจิตวิญญาณให้กับพระองค์ ขอบพระคุณที่บางครั้งพระองค์ตอบคำอธิษฐานของข้าพระองค์อย่างน่าทึ่ง แต่ไม่ว่าข้าพระองค์จะได้รับสิ่งที่ข้าพระองค์ขอโดยเฉพาะเจาะจงหรือไม่ ข้าพระองค์ก็ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงสัญญากับข้าพระองค์ว่า จะทรงมอบสันติสุข
Pippa Adds
1 ซามูเอล 1:1–2:26
ฉันค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับฮันนาห์และซามูเอลอยู่เสมอ ฮันนาห์เลือกที่จะยอมมอบลูกชายของเธอ ซามูเอลต้องออกไปใช้ชีวิตร่วมกับปุโรหิตชราคนหนึ่ง และลูกชายที่ชั่วร้ายสองคนของเขา ไม่ใช่สถานการณ์การเลี้ยงดูที่ดี
ฉันสงสัยว่าฮันนาห์งดให้นมซามูเอลได้กี่ปีก่อนที่เขาจะหย่านมได้ หวังว่าอย่างน้อยก็สิบปี! แม้ว่าจะไม่ใช่สถานการณ์การเลี้ยงดูที่ดีเยี่ยม อาจจะไม่ได้เตะฟุตบอลและเล่มเกมส์กับครอบครัวมากนัก แต่ซามูเอลเติบโตมากับพระเจ้า รู้จักพระเจ้า และเรียนรู้ที่จะได้ฟังเสียงของพระองค์
เป็นสิ่งที่โล่งใจที่เด็กๆ สามารถทำได้ดี แม้ว่าการเลี้ยงดูของเราจะห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบก็ตาม
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Everyday Prayers for Christmas

Gospel-Based Conversations to Have With Your Preteen

Simon Peter's Journey: 'Grace in Failure' (Part 1)

Reimagine Influence Through the Life of Lydia

Never Alone

Who Am I, Really? Discovering the You God Had in Mind

The Holy Spirit: God Among Us

Sharing Your Faith in the Workplace

Positive and Encouraging Thoughts for Women: A 5-Day Devotional From K-LOVE
