พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

ทั้งหมดที่พระองค์ต้องการคือคุณ
ในหนังสือของบิชอปแซนดี้ มิลลาร์ ที่ชื่อว่า **All I Want Is You** (ทั้งหมดที่ลูกต้องการคือพระองค์ - ผู้แปล) ท่านได้บรรยายถึงการเข้าร่วมการประชุมใหญ่ในแคลิฟอร์เนียเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งท่านได้เห็นพระวิญญาณของพระเจ้าทำงานด้วยวิธีอันทรงฤทธิ์เดช เมื่อเสร็จสิ้นแล้วท่านก็เดินไปตามชายฝั่งเป็นระยะทางไกล ท่านได้บรรยายว่า ‘ขณะที่ผมกำลังเดินอยู่ ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าและความเร้าใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า ผมพูดออกไปว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์จะให้ทุกสิ่งที่พระองค์ต้องการ… ข้าพระองค์จะทำทุกอย่างที่พระองค์ต้องการให้ข้าพระองค์ทำ”’ แซนดี้กล่าวต่อว่า ‘ผมสามารถอ้างได้อย่างตรงไปตรงมาเลยว่าเคยได้ยินการทรงตรัสของพระเจ้าในลักษณะนี้ถึงสามครั้ง แต่เท่าที่เคยได้ยินอย่างชัดเจน พระองค์ทรงตรัสว่า “ทั้งหมดที่เราต้องการคือเจ้า” ... มันเป็นเรื่องถ่อมตัวที่สุด … พระองค์สามารถทำทุกสิ่งอย่างที่พระองค์ปรารถนา แต่สิ่งที่พระองค์ต้องการกลับเป็นคุณเท่านั้น’สดุดี 61:1-8
ให้พระเจ้าทรงนำ
คุณเคยพบว่าตัวเองจมอยู่กับปัญหามากมายในชีวิตหรือไม่? ดาวิด ‘หมดแรงและอ่อนกำลัง’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Amplified Bible โดยผู้แปล)
เขาเป็นผู้นำ (‘พระราชา’ ข้อ6) ผู้ที่เป็นผู้นำผู้อื่นจำเป็นต้องได้รับการทรงนำจากพระเจ้า คำอธิษฐานนี้ใช้ได้กับเราทุกคน เขาร้องทูลพระเจ้าเพื่อให้พระองค์ทรงสดับฟังคำอธิษฐานและทรงนำ (ข้อ 1–2)
เหนือสิ่งอื่นใด คำอธิษฐานนี้เป็นคำอธิษฐานเพื่อขอการช่วยกู้ มีบางครั้งที่เราอยากจะวิ่งหนีและหลบซ่อน ซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียม ‘ที่ลี้ภัย’ ให้กับเรา (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระองค์ทรงเป็น ‘ที่ลี้ภัย’ (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระองค์ทรงประทานการปกป้องทางร่างกายแก่เราด้วยฤทธานุภาพดั่งศิลา (ข้อ 2) การปกป้องทางอารมณ์ด้วยการโอบล้อมเราด้วยปีกของพระองค์ (ข้อ 4) และการปกป้องทางฝ่ายจิตวิญญาณด้วย ‘ความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์’ (ข้อ 7)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงนำข้าพระองค์เข้าสู่การทรงสถิตของพระองค์ในวันนี้ และโปรดนำข้าพระองค์ในการตัดสินใจ ในการพูดคุย รวมถึงถ้อยคำที่ข้าพระองค์ต้องพูดออกไป
ยอห์น 8:31-59
เป็นไทในพระองค์
เนลสัน แมนเดลา พูดถึงผู้คุมขังที่บอกกับเขาว่า ‘นายรู้ไหมว่าฉันมีอำนาจพอที่จะฆ่านายได้?’ แมนเดลาตอบว่า ‘แล้วคุณหล่ะไม่รู้หรือว่าผมมีอำนาจที่จะไปสู่ความตายอย่างอิสระ?’
คุณต้องการมีชีวิตที่เป็นไทอย่างแท้จริงหรือไม่? พระเยซูทรงเป็นพระผู้ปลดปล่อยเราให้เป็นไท หากพระเยซู ‘ปลดปล่อยท่าน แสดงว่าท่านเป็นไทอย่างแท้จริงและไม่ต้องสงสัยเลย’ (ข้อ 36 ,พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)
แต่พระเยซูผู้นี้เป็นใคร? (ข้อ 12–59) อันที่จริง พระเยซูถูกถามคำถามนั้นด้วยเช่นกันว่า ‘ท่านจะอวดอ้างว่าท่านเป็นใคร?’ (ข้อ 53) คำตอบของพระองค์ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันเป็นเอกลักษณ์ของพระองค์กับพระบิดา ที่สิ้นสุดด้วยการอ้างอิงที่ไม่ธรรมดา ‘ก่อนอับราฮัมเกิด เราเป็นอยู่แล้ว!’ (ข้อ 58) นี่เป็นวิธีเดียวกับที่พระเจ้าได้ทรงสำแดงพระองค์แก่โมเสสที่พุ่มไม้ที่มีเปลวไฟ (อพยพ 3:14) พระเยซูใช้ถ้อยคำ ที่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ แต่อีกฝ่ายกลับหยิบก้อนหินขว้างใส่พระองค์ด้วยความดูหมิ่น (ยอห์น 8:59)
แม้ว่าความสัมพันธ์ของพระเยซูกับพระบิดาจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แต่โดยทางพระเยซู คุณก็สามารถรู้จักพระเจ้าได้เช่นกัน ความสัมพันธ์นำเสรีภาพมาสู่ชีวิตของคุณ แต่เสรีภาพนี้หมายความว่าอย่างไร?
พระเยซูตรัสว่าการรู้จักพระองค์คือการรู้จักสัจจะ และ ‘สัจจะจะทำให้ท่านเป็นไท’ (ข้อ 32) ในความเชื่อของชาวยิว สัจจะก็คือธรรมบัญญัติ และการศึกษาและการปฏิบัติตาม ตัวกฎเกณฑ์จะทำให้แต่ละคนเป็นอิสระ พระเยซูตรัสว่า ‘ถ้าพวกท่านยึดมั่นในคำสอนของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง’ (ข้อ 31)
คริสเตียน…บางครั้งถูกกล่าวหาว่าเป็นคนใจแคบหรือเป็นพวกต่อต้านสติปัญญา ตรงกันข้ามกับผู้ที่เรียกตัวเองว่า ‘นักคิดอิสระ’ พระเยซูตรัสว่าแท้จริงแล้วตรงกันข้าม การติดตามพระเยซูเป็นหนทางแห่งเสรีภาพทางปัญญาและความมั่นคง
ความจริงได้รับการเปิดเผยโดยองค์พระผู้เจ้า พระเยซูทรงเป็น ‘ความจริง’ (14:6) พระองค์ทรงเป็น การเปิดเผยสูงสุดของพระเจ้า การรู้ความจริงไม่ใช่การเห็นพ้องต้องกันต่อแนวคิดนั้น ๆ แต่คือการรู้จักมีความสัมพันธ์ส่วนบุคคล การรู้จักพระเยซูเป็นการขยายพื้นที่ในจิตใจของคุณ เพิ่มความเข้าใจเชิงลึก และขยายขอบเขตความเข้าใจของคุณให้กว้างขึ้น การดำเนินชีวิตตามความจริงคือการดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์แห่งความรักกับพระเยซูผู้ทรงเป็นความจริง
นี่ไม่ได้หมายความว่าเรามีคำตอบสำหรับทุกสิ่ง แต่ว่าเรามีกรอบความคิดที่เป็นความจริง กฎทางวิทยาศาสตร์กำหนดกรอบการทำงานที่ให้อิสระเราในการตรวจสอบทางด้านกายภาพ แต่การเปิดเผยจากพระเจ้า ช่วยให้เรามีกรอบความคิดที่นำมาถึงสติปัญญาในการพิจารณาโลกฝ่ายวิญญาณอย่างมีอิสระ ความเชื่อจะนำเราไปสู่ความเข้าใจ
การตอบสนองต่อคำตอบของพระเยซูคือ ‘เราเป็นลูกหลานของอับราฮัมและไม่เคยเป็นทาสของใครเลย เจ้าพูดได้อย่างไรว่าเราจะถูกปล่อยตัวให้เป็นอิสระ?’ (8:33) แต่พระเยซูตรัสตอบว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่าน ทุกคนที่ทำบาปก็เป็นทาสของบาป’ (ข้อ 34) การทำบาปคือการตกเป็นทาสของการบีบบังคับ การเสพติด ความกระหายซึ่งอำนาจและการสรรเสริญ ทั้งยังตกเป็นทาสของสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับเรา เป็นทาสของความกลัวผู้อื่น หากปราศจากพระเยซูคริสต์ เราทุกคนก็เป็นทาสของบาป แต่ ‘ถ้าพระบุตรปลดปล่อยท่าน แสดงว่าท่านเป็นไทอย่างแท้จริงและไม่ต้องสงสัยเลย’ (ข้อ 36, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Amplified Bible โดยผู้แปล)
-
เป็นไทจากความอับอาย
พระเยซูทรงปลดปล่อยคุณจากความผิดและความอับอาย พระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อคุณจะได้รับการอภัย และความผิดและความอับอายของคุณจะถูกรับไป -
เป็นไทจากการเสพติด
พระองค์ทรงปลดปล่อยคุณจากการเสพติด คือเป็น ‘ทาสของบาป’ (ข้อ 34) บนไม้กางเขนอำนาจแห่งการเสพติดถูกทำลายไป แม้ว่าคุณอาจจะยังล้มอยู่บ้าง แต่อำนาจแห่งการเสพติดนั้นจะถูกทำลายลงเมื่อพระเยซูปลดปล่อยคุณให้เป็นไทแล้ว บางคนอาจได้รับการปลดปล่อยจากการเสพติดบางอย่าง อย่างสมบูรณ์เมื่อพวกเขาได้มาหาพระเยซู แต่สำหรับคนอื่น ๆ นั้นอาจเป็นกระบวนการที่ยาวนานกว่านั้น -
เป็นไทจากความกลัว
พระเยซูทรงปลดปล่อยคุณจากความกลัว พระองค์เสด็จมาเพื่อ ‘บุตรทั้งหลายที่มีเลือดและเนื้อเช่นกันอย่างไร พระองค์ก็ทรงมีส่วนเช่นนั้นด้วยอย่างนั้น เพื่อโดยทางความตายนั้น พระองค์จะทรงทำลายมารผู้มีอำนาจแห่งความตาย และจะทรงปลดปล่อยบรรดาคนเหล่านั้นที่ตกเป็นทาสมาตลอดชีวิตเนื่องจากความกลัวตาย” (ฮีบรู 2:14–15) พระเยซูตรัสไว้ดังนี้ว่า ‘เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ถ้าใครประพฤติตามคำสอนของเรา คนนั้นจะไม่ประสบความตายเลย’ (ยอห์น 8:51)
ความตายไม่ใช่จุดจบสำหรับผู้ที่พระเยซูทรงไถ่แล้ว แต่เป็นประตูไปสู่สวรรค์ เมื่อพระเยซูปลดปล่อยคุณให้พ้นจากความกลัวความตาย พระองค์ยังทรงปลดปล่อยคุณให้มีเสรีภาพจากความกลัวอื่น ๆ อีกด้วย
- เป็นไทในการรู้จักพระเจ้า พระเยซูทำให้คุณมีอิสระที่จะมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าเหมือนอย่างพระองค์เอง พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างอันล้ำค่าของผู้ที่พระเจ้าทรงนำ พระองค์ตรัสเกี่ยวกับตัวพระองค์เองว่า ‘เราได้ยินมาจากพระเจ้า’ (ข้อ 40) แต่พระองค์ยังตรัสต่อไปอีกว่า ‘คนที่มาจากพระเจ้าก็ย่อมฟังพระดำรัสของพระเจ้า’ (ข้อ 47) เป็นไปได้ที่เราทุกคนจะสามารถได้ยินการทรงตรัสจากพระเจ้า
พระเยซูตรัสว่า ‘เรารู้จักพระองค์’ (ข้อ 55) พระองค์ทรงทำให้เป็นไปได้สำหรับคุณที่จะรู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า
-
เป็นไทที่จะเป็นตัวของตัวเอง แทนที่จะพยายามเลียนแบบใครสักคน พระเยซูคริสต์ทรงปลดปล่อยให้คุณได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง ในแบบที่พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้คุณเป็น
-
เป็นไทในความรัก
พระเยซูทำให้คุณมีอิสระในความรัก (ตรงกันข้ามกับบาปที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง)
พระองค์ทรงมอบการปลดปล่อย ทางด้านสติปัญญา ศีลธรรมและอารมณ์ ให้คุณเป็นอิสระ นี่คือเสรีภาพที่แท้จริง ‘…ถ้าพระบุตรทรงทำให้พวกท่านเป็นไท ท่านก็เป็นไทจริง ๆ’ (ข้อ 36)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์สำหรับเสรีภาพที่ทรงประทานมาสู่ชีวิตของข้าพระองค์ ขอบคุณที่ข้าพระองค์สามารถรู้จัก และได้ยินเสียงของพระองค์
ผู้วินิจฉัย 20:1-21:25
จงรักภักดีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
เนื่องจากช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายในประวัติศาสตร์ของอิสราเอลนี้ได้มาถึงตอนท้ายในพระธรรมผู้วินิจฉัย ผู้เขียนจึงสรุปเรื่องราวทั้งหมดไว้ว่า ‘ในสมัยนั้นไม่มีกษัตริย์ในอิสราเอล ผู้คนทำในสิ่งที่ตนอยากทำ’ (21:25, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเจ้าได้ประทานระบบการปกครองแก่พวกเขา อันมีพื้นฐานมาจากความภักดีต่อพระเจ้าองค์เดียว แต่ความภักดีนั้นช่างแสนสั้นและทั้งระบบก็เริ่มล่มสลายไป
ดังที่เราจะได้เห็นเมื่อเราดูพระธรรม 1 ซามูเอล การจัดเตรียมให้มีกษัตริย์ในอิสราเอลไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเรื่องดีซะทีเดียว แต่ทว่าในสถานการณ์ที่ชุลมุนวุ่นวายเช่นนี้กลับเป็นอะไรที่ดีกว่าที่ทุกคนต่างทำแต่ ‘สิ่งที่ตนอยากทำ’ (ผู้วินิจฉัย 21:25, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ท่ามกลางความโกลาหลก็ยังมีช่วงเวลาที่คนของพระเจ้า ‘ทูลถามพระเจ้า’ (20:18) พวกเขาทูลขอการทรงนำจากพระองค์ บทเรียนในเรื่องการสื่อสารกับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ และการทูลขอการทรงนำจากพระองค์เป็นสิ่งที่เห็นกันอย่างดาษดื่นตลอดพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม หากอิสราเอลทำผิดพลาด นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้ทูลถามพระเจ้าว่าควรเข้าสู่สนามรบหรือไม่ พวกเขาแค่ถามว่าควรจะต่อสู้จะดำเนินไปอย่างไร
เรายังเรียนรู้ด้วยเช่นกันว่า แม้ว่าพระเจ้าจะอยู่เบื้องหลังในทุกแผนการ แต่เราก็สามารถเผชิญกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ได้เช่นกัน เช่นเดียวกับคนของพระเจ้าในตอนนี้ แม้ว่าพระองค์จะทรงมอบพระสัญญาถึงชัยชนะ แต่ก็มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายไม่น้อยเลยทีเดียว หากสิ่งนี้เป็นจริงในการต่อสู้ทางเนื้อหนังที่พวกเขาเผชิญ การต่อสู้ทางฝ่ายจิตวิญญาณที่คุณเผชิญอยู่นั้นย่อมเป็นจริงด้วย อย่าแปลกใจหากเราล้มลงบ้าง นั่นไม่ได้แปลว่าคุณไม่ได้รับการทรงนำที่มาจากพระเจ้า บทเรียนจากพระธรรมผู้วินิจฉัยคือ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จงภักดีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะทั้งหมดที่พระองค์ต้องการคือคุณ
ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงช่วยให้ข้าพระองค์สัตย์ซื่อต่อพระองค์ตลอดเวลา อย่าให้ข้าพระองค์ท้อถอยกับความพ่ายแพ้ ขอให้ข้าพระองค์แสวงหาน้ำพระทัยของพระองค์ในชีวิตอยู่เสมอ
Pippa Adds
สดุดี 61:2ข
ขอทรงนำข้าพระองค์มาถึงศิลาที่สูงกว่าข้าพระองค์
เมื่อเราจมอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เราต้องไปถึงศิลาที่สูงกว่าที่เราเป็นอยู่ พระเจ้าสามารถเปลี่ยนมุมมองของคุณเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ได้
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Everyday Prayers for Christmas

Gospel-Based Conversations to Have With Your Preteen

Simon Peter's Journey: 'Grace in Failure' (Part 1)

Reimagine Influence Through the Life of Lydia

Never Alone

Who Am I, Really? Discovering the You God Had in Mind

The Holy Spirit: God Among Us

Sharing Your Faith in the Workplace

Positive and Encouraging Thoughts for Women: A 5-Day Devotional From K-LOVE
