การนับถือตนเองในมุมมองพระคัมภีร์ (Self Esteem)ตัวอย่าง

การเริ่มต้นใหม่

บางทีหนทางที่ดีที่สุดที่จะสรุปจบนั้นคือด้วยการกล่าวถึงข้อคิดเห็นของผู้ที่ได้พบความช่วยเหลือในเส้นทางสู่การเห็นคุณค่าในตนเอง/การนับถือตนเอง ชายผู้นี้ตอบสนองต่อบทความเรื่องการนับถือตนเอง/การเห็นคุณค่าในตนเองซึ่งปรากฏครั้งแรกในจดหมายข่าวของพันธกิจ RBC (ปัจจุบันคือพันธกิจ มานาประจำวัน) โดยเขียนเล่าว่า บทความนี้บอกถึงต้นตอของปัญหาที่ผมมีมาตลอดชีวิตมากกว่าสิ่งใดๆที่ผมเคยอ่าน ผมค้นดูหนังสือต่างๆด้านจิตวิทยาและพูดคุยกับผู้คนมากมาย และผมได้เรียนเรื่องจิตวิทยาในวิทยาลัย เวลานี้เป็นครั้งแรกที่ผมรู้ว่าจะเริ่มต้นในการพยายามคลี่คลายปัญหาของผมได้ตรงจุดใด ผมรู้สึกเหมือนถูกคำแช่งสาปอยู่ตลอดเวลากับ การมีความรู้สึกที่อ่อนไหวมากเกินไป และรู้สึกโกรธไม่พอใจได้ง่ายดายเหลือเกิน ผมได้เห็นสิ่งที่ผมกระทำกับคนอื่นโดยเฉพาะกับพ่อแม่ของผม ผมจึงไม่อยากทำอย่างนี้กับครอบครัวของผมเอง (แม้ผมคิดว่าได้ทำไปแล้วในระดับหนึ่ง) หลังจากที่ผมได้มอบชีวิตให้กับพระเจ้าและถวายตัวอีกครั้งให้อยู่ภายใต้ความรักของพระองค์เมื่อ ปีที่แล้ว ผมมีปัญหาน้อยลงกับการมองว่าตัวเองด้อยค่า เพราะผมพยายามดำเนินชีวิตเพื่อพระ องค์มากกว่าเพื่อตนเอง การยอมจำนนได้กลาย มาเป็นหลักการชี้นำในชีวิตของผมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่ผมคงรู้สึกผิดถ้าจะโกหกว่าปัญหาเกี่ยวกับตัวตนของผมไม่มีอีกแล้ว!

ผม ยังคงต่อสู้กับมัน สิ่งที่แตกต่างตอนนี้คือความหวังที่ผมสัมผัสได้ในองค์พระผู้ช่วยให้รอดของผม ผมทูลขอให้พระองค์เป็นเจ้านายในชีวิตของผม ให้ทรงนำย่างเท้าของผม ให้ทรงหล่อหลอมผมเป็นผู้ที่ถูกสร้างใหม่อย่างที่ทรงต้องการให้ผมเป็น และพระองค์ทรงกำลังทำอยู่! กระบวนการนี้อาจใช้เวลานานกว่าที่ผมอยากให้เป็น แต่พระเจ้าทรงทราบถึงสิ่งที่จำเป็นสำหรับผม เป็นเรื่องยากมากที่จะตายต่อตนเอง ที่จะ “ปฏิเสธตัวเอง แบกกางเขนของตนและตามเรามา” บางครั้งผมก็สำลักความเย่อหยิ่งของตัวเอง มันท่วม ท้นขึ้นมาถึงคอและผมอยากจะตอบโต้ สาปแช่ง ตะโกน และร้องไห้ออกมาเมื่อผมรู้สึกว่าคนอื่นปฏิบัติต่อผมอย่างไม่ถูกต้อง แต่ผมกลับพูดว่า “ขอบคุณพระเจ้า สรรเสริญพระองค์ที่ประทานสิ่งนี้ให้กับผม ผมรู้ว่า ‘ในทุกๆสิ่งพระเจ้าทรงทำให้เกิดผลดีแก่บรรดาผู้ที่รักพระองค์’” และมันได้ผลจริงๆไม่นานมานี้พระเจ้าทรงเปลี่ยนวันที่เริ่มต้นอย่างเลวร้ายของผม ให้กลับกลาย เป็นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้ผมรู้สึกถึงความอบอุ่น ถึงความรักที่เปล่งประกายจากภายใน และผมกำลังยิ้มและคิดถึงผู้อื่นมากกว่าตัวเอง สรรเสริญพระเจ้า! สำหรับผมแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็น การอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่กว่าการกล่าวกับคนง่อยให้ลุกขึ้น ยกแคร่ของตน แล้วเดินไปเถิด! ขอบคุณพระเจ้า! ผมอธิษฐานทูลขอให้ประสบการณ์ของชายผู้นี้ จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในพวกเราทุกคน เมื่อเราค้น พบความหมายของการไว้วางใจในคำชี้แนะสั่งสอน ในความรัก และในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ผู้ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิตเรา