YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 92 OF 365

ทั้งหมดนี้เป็นของคุณ

เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ (Chelsea Flower Show) อาจเป็นงานแสดงดอกไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกทวีป มีการจัดอันดับรางวัลออกเป็นสี่อันดับ ได้แก่ เหรียญทอง เงินชุบทอง เงิน และทองแดง เช่นเดียวกับรางวัลสำหรับการจัดสวนและดอกไม้ นอกจากนี้ยังมีรางวัลอัศวินสำหรับการจัดแสดงพืชผักอีกด้วย ครั้งหนึ่งผมเคยได้ยินชายคนหนึ่งถูกสัมภาษณ์เกี่ยวกับความจริงที่ว่าเขากำลังจะเกษียณหลังจากได้รับรางวัลเหรียญทองจากพืชผักของเขาติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี และเมื่อถามถึงเคล็ดลับแห่งความสำเร็จ เขากล่าวว่า *‘ผมมุ่งมั่นไปสู่ความสมบูรณ์แบบ แต่ผมตั้งมั่นไปสู่ความดีเลิศ’* อัครสาวกเปาโลได้กล่าวไว้ว่า ‘กลับสู่สภาพดีดังเดิม’ (2 โครินธ์ 13:11) สิ่งนี้แตกต่างจากการ ‘คลั่งไคล้ความสมบูรณ์แบบ’ มาก ความสมบูรณ์แบบเป็นลักษณะบุคลิกภาพที่โดดเด่นคือการมุ่งมั่นที่จะปราศจากที่ติใด ๆ นำไปสู่การกำหนดมาตรฐานประสิทธิภาพที่สูงมากเกินไป นักรักความสมบูรณ์แบบมักวิจารณ์ตัวเองมากเกินไป และมักจะกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับพวกเขา นำไปสู่ความกลัวที่จะล้มเหลว และทำผิดพลาด อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าจากการวิตกกังวล และพลาดโอกาสต่าง ๆ ไป คนของพระเจ้าถูกเรียกให้มุ่งมั่นให้ถึงที่สุด (ในขณะที่ต้องหลีกเลี่ยงอันตรายที่เกิดจากการหมกมุ่นในความสมบูรณ์แบบมากจนเกินไป) พระเจ้าประทานนิมิตที่ยอดเยี่ยมให้กับประชากรของพระองค์ในพันธสัญญาเดิมเกี่ยวกับ*มรดก*อันเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขา ทั้งหมดนี้เป็นของคุณในพระเยซูคริสต์

สุภาษิต 8:22-31

มุ่งมั่นที่จะเต็มล้นไปด้วยความชื่นชมยินดี

พระเยซูต้องการให้คุณเต็มล้นไปด้วยความชื่นชมยินดี พระองค์ต้องการให้คุณมีประสบการณ์กับความชื่นชม ยินดีอย่างเต็มเปี่ยม พระองค์ตรัสว่า ‘เราบอกสิ่งเหล่านี้กับพวกท่านแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่ในท่าน และให้ความยินดีของท่านเต็มเปี่ยม’ (ยอห์น 15:11)

คำอธิบายที่เฉพาะเจาะจงถึงสติปัญญาในเนื้อหาของวันนี้สะท้อนให้เราเห็นถึงวิธีที่พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่กล่าวถึงองค์พระเยซูคริสต์ ‘ในปฐมกาลพระองค์ทรงอยู่กับพระเจ้า’ (ยอห์น 1:2) (เทียบกับสุภาษิต 8:23,30)

สติปัญญานั้นปรากฏเด่นชัดว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมยินดี ‘วันแล้ววันเล่าข้าพเจ้าก็อยู่ข้างพระองค์ ด้วยความชื่นชมยินดี เปรมปรีดิ์อยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ เปรมปรีดิ์ในสรรพสิ่งทั้งปวงและปีติยินดี ในมนุษย์ทั้งหลาย’ (สุภาษิต 8:30ข–31, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ความชื่นชมยินดีนี้ช่างเปี่ยมล้นไปด้วย ‘ความปีติยินดี’ (ข้อ 30) ที่ดำเนินต่อเนื่องเป็น ‘ประจำวัน’ (ข้อ 30) แล้วความชื่นชมยินดีนี้มาจากไหน?

ประการแรก มาจากการทรงสถิตของพระเจ้า (‘เฉพาะพระพักตร์พระองค์’ ข้อ 30) ประการที่สองมาจาก ความสัมพันธ์กับผู้อื่น (‘มนุษย์ทั้งหลาย’, ข้อ31, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ประการที่สามมาจากการทรงสร้างของพระเจ้า (‘สรรพสิ่งทั้งปวง’ ข้อ 31, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเจ้าทรงประทานทุกสิ่งแก่เราอย่างครบบริบูรณ์ เพื่อให้เราได้ชื่นชมยินดี (1 ทิโมธี 6:17) และทั้งหมดนี้เป็นของคุณในพระเยซูคริสต์

ความชื่นชมยินดีที่องค์พระเยซูทรงมีประสบการณ์ในสัมพันธภาพกับพระเจ้าพระบิดาทำให้พระองค์ได้รับการเสริมกำลังพระองค์ในโลกนี้ ให้เรา ‘จับตามองที่พระเยซู ... พระองค์ทรงสู้ทนต่อกางเขน เพื่อความยินดีที่อยู่ต่อ หน้าพระองค์’ (ฮีบรู 12:2–3) พระเยซูทรงสอนให้เรามุ่งหวังให้สูง ไม่ใช่เพียงแค่ ‘ลงมือทำ’ แต่บากบั่นต่อ ความทุกข์ยากและแสวงหาความชื่นชมยินดีจากการทรงสถิตของพระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงต้องการให้ความความชื่นชมยินดีของพระองค์อยู่ในตัวข้าพระองค์และ เพื่อความชื่นชมยินดีของข้าพระองค์จะเต็มล้นบริบูรณ์ โปรดเมตตาที่ข้าพระองค์จะไม่จดจ่อต่อสิ่งอื่นใดที่ด้อย คุณค่าเมื่อเทียบกับพระองค์

ลูกา 9:10-27

มุ่งมั่นที่จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก

พระเยซูเป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ยมที่สุดของความรัก แม้แต่โลกนี้ก็ตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ นิตยสารไทม์ กล่าวว่า ‘พระเยซู เป็นสัญลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติตะวันตกในเรื่องความบริสุทธิ์ ความไม่เห็นแก่ตัวและความรัก

พระเยซูรักคุณ พระองค์ใส่ใจต่อความต้องการทางร่างกายของคุณ แทนที่จะส่งฝูงชนออกไปอย่างหิวโหย เพื่อหาอาหารกินเอง พระองค์กลับให้เหล่าสาวกเลี้ยงอาหารพวกเขาอย่างน่าอัศจรรย์

เรากลับมาดูอีกครั้งในการอัศจรรย์ที่ (นอกเหนือจากการฟื้นคืนพระชนม์) ในการเลี้ยงอาหารคนห้าพันคน ที่ถูกบันทึกไว้ในพระกิตติคุณทั้งสี่เล่ม เราได้รับการย้ำเตือนว่าพระเยซูสามารถกระทำกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรามอบให้พระองค์ได้มากเพียงใด และย้ำเตือนเกี่ยวกับความจริงที่ว่าพระเยซูทรงนำเราเข้ามาอยู่ในการอัศจรรย์ของพระองค์ นี่เป็นสิทธิพิเศษอันยิ่งใหญ่และทั้งหมดนี้เป็นของคุณโดยผ่านทางพระเยซู

เหล่าสาวกเริ่มเข้าใจว่าแท้จริงแล้วพระเยซูคือใครเมื่อพระองค์ตรัสถามว่า ‘“แล้วพวกท่านเองคิดว่าเราเป็นใคร?”’ เปโตรทูลตอบว่า ‘“เป็นพระคริสต์ของพระเจ้า”’ (ข้อ 20) พระเยซูเริ่มอธิบายให้เหล่าสาวกฟังเกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ (การสำแดงความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์) และการฟื้นคืนพระชนม์ พระองค์ทรงท้าทายเหล่าสาวก ให้ตั้งเป้าหมายให้สูง พระองค์ทรงเรียกให้คุณตั้งเป้าหมายไปที่สามสิ่งต่อไปนี้อันประกอบด้วยความรักต่อผู้อื่น และความรักต่อพระเยซู

  1. อย่าทำบาป ความบาปเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความรัก ตรงกลางคำว่า SIN (ความบาป) คือตัวอักษร ‘I’ พระเยซูตรัสว่า ‘ถ้าใครต้องการจะมาติดตามเรา ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง’ (ข้อ 23) พระเจ้าอาจท้าทายให้คุณเสียสละบางอย่างในชีวิตที่แตกต่างกัน แต่สิ่งเดียวที่เราทุกคน ต้องยอมคือการไม่ทำบาป

ในทุก ๆ วัน ความท้าทายของความรักจำเป็นต้องมีการปฏิเสธตนเอง เล็ก ๆ น้อย ๆ

  1. อย่าเห็นแก่ตนเอง พระเยซูตรัสว่า ‘ถ้าใครต้องการจะมาติดตามเรา ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบก ทุกวันและตามเรามา เพราะว่าใครต้องการจะเอาชีวิตรอด คนนั้นจะเสียชีวิต แต่ใครยอมเสียชีวิต เพราะเห็นแก่เรา คนนั้นจะได้ชีวิตรอด’ (ข้อ 23–24)

พระเยซูทรงเรียกเราให้ ‘มา ... และตาย’ ไม้กางเขนในวันนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง แต่อย่างไร ก็ตามมันเคยเป็นสัญลักษณ์ของความเจ็บปวด ความอัปยศ ความอับอายและความตายในท้ายที่สุด

พระเยซูตรัสว่าถ้าคุณใช้ชีวิตด้วยความทะเยอทะยานที่เห็นแก่ตนเอง แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่ ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาลและ ‘ได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก’ ก็ตาม (ข้อ 25) แต่นั่นจะไม่ส่งผลดี ต่อชีวิตคุณเลย วิธีที่จะพบชีวิตที่บริบูรณ์คือการปฏิเสธชีวิตของคุณเพื่อความรักของพระเยซูและผู้อื่น รับกางเขนของคุณแบกทุกวันและตามพระองค์ไป (ข้อ 23)

การเต็มใจสละชีวิตคือการแสดงความรักขั้นสูงสุด นี่คือแบบอย่างที่พระเยซูตั้งไว้เป็นอันดับแรก พระองค์เรียกคุณและผมให้ทำตามแบบอย่างของพระองค์ ‘ยึดมั่นอย่างมั่นคงในเรา ดำเนินตามแบบ อย่างของเราอย่างครบถ้วนในการดำรงชีวิตและการตาย’ (ข้อ 23, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

  1. อย่าปกปิด พระเยซูตรัสว่า ‘ถ้าใครมีความอายเพราะเราและถ้อยคำของเรา บุตรมนุษย์ก็จะมีความอายเพราะ คนนั้นเมื่อท่านมาด้วยพระรัศมีของท่าน และของพระบิดา และรัศมีของเหล่าทูตสวรรค์บริสุทธิ์’ (ข้อ 26)

ถ้าคุณรักพระเยซูอย่าอับอายต่อพระองค์ บางครั้งการนำพระนามของพระองค์มาทับบนริมฝีปาก ของเราก็เป็นเรื่องท้าทาย อย่าละอายใจกับคำสอนของพระองค์ (‘พระวจนะ’) ถ้าคุณต้องการให้พระเยซูภูมิใจในตัวคุณ คุณต้องภูมิใจในตัวของพระองค์ ถ้าคุณรักผู้คน แน่นอนคุณต้องปรารถนาให้ทุกคนรู้เกี่ยวกับพระเยซู

เมื่อพูดถึงตัวเอง ผมรู้ว่าผมอ่อนแอด้านนี้มากแค่ไหน แต่ความจริงที่ว่าชีวิตของเราอยู่ห่างไกลความสมบูรณ์แบบมากนั้น ไม่ควรหยุดเราต่อความมุ่งมั่นให้ถึงที่สุด

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ในวันนี้ให้มุ่งมั่นให้ถึงที่สุด โปรดช่วยข้าพระองค์ที่จะปฏิเสธตัวเอง และแบกกางเขนตามพระองค์ไป ขอให้ข้าพระองค์ไม่ละอายต่อพระองค์หรือพระวจนะของพระองค์ แต่ประกาศข่าวประเสริฐเรื่องการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์อย่างกล้าหาญเพื่อเราทุกคน

กันดารวิถี 33:1-34:29

มุ่งมั่นที่จะเต็มล้นไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์

คุณมีมรดกที่น่าทึ่ง ทั้งหมดนี้เป็นของคุณในองค์พระเยซูคริสต์ เนื้อหานี้อธิบายถึงมรดกที่พระเจ้ามอบให้กับประชากรของพระองค์ (34:29) แม้ว่าพวกเขาจะออกเดินทางอย่าง ‘อาจหาญ’ (33:3) แต่พวกเขาก็ ท่องไปในถิ่นทุรกันดารถึงสี่สิบปีแล้ว (ข้อ 38) พวกเขาไม่ได้รู้สึกชื่นชมยินดีกับมรดกของพวกเขาเท่าไหร่

อาจารย์เปาโลเทศนาในหนังสือกิจการอธิบายว่าพระเจ้าประทานแผ่นดินของพระองค์ให้เป็นมรดกแก่ประชาชน (กิจการ 13:17–20) ท่านกล่าวต่อไปว่า ‘เรานำข่าวประเสริฐนี้มาแจ้งกับท่านทั้งหลายว่า พระสัญญาที่ประทานแก่บรรดาบรรพบุรุษของเรานั้น พระเจ้าทรงให้สำเร็จตามนั้นเพื่อเรา โดยการที่พระองค์ทรงให้พระเยซูเป็นขึ้นมา’ (ข้อ 32–33) นี่เป็นมรดกของคุณ

พระสัญญาของพระเจ้าที่ทรงมอบแผ่นดินคานาอันให้กับประชาชนของพระองค์นั้นเป็นมากกว่าทรัพย์สินมีค่าทั่วไป แต่นั่นเป็นพระสัญญาแห่งความรุ่งเรือง ในขณะที่ประชาชนของพระเจ้ามีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ภายใต้ความปลอดภัยของการช่วยกู้ของพระเจ้าในสถานที่ที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ สิ่งนี้เองได้เล็งไปถึงแนวคิด ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่เกี่ยวกับ ‘แผ่นดินของพระเจ้า’ ซึ่งเป็นขอบเขตของการทรงสถิตและ การครอบครองของพระเจ้า และนี่คือสิ่งที่สำเร็จเป็นจริงแล้วในพระเยซูคริสต์และตอนนี้ก็เป็นของคุณแล้ว

ในพระคริสต์ มรดกของคุณคือ ‘มรดกนิรันดร์ตามพระสัญญา’ (ฮีบรู 9:15) เป็น ‘มรดกซึ่งไม่เสื่อมสลายและ ไร้มลทินและไม่ร่วงโรย ซึ่งได้เก็บรักษาไว้ในสวรรค์แล้วเพื่อพวกท่าน’ (1 เปโตร 1:4)

คุณไม่เพียงแต่มีมรดกนี้รอคอยในอนาคตเท่านั้น แต่คุณสามารถมีประสบการณ์กับมรดกนี้ได้ในตอนนี้ เมื่อเรา ‘วางใจในพระองค์แล้ว พวกท่านก็ได้รับการประทับตราด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่ทรงสัญญาไว้ พระวิญญาณนั้นเป็นมัดจำในการรับมรดกของเรา’ (เอเฟซัส 1:13–14)

ในภาษากรีกคำว่า deposit (arabone) เป็นคำที่หมายถึง ‘มัดจำ’ กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ คุณสามารถมีประสบการณ์กับมรดกผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ที่นี่และตอนนี้ เมื่อคุณดำเนินชีวิตในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ชีวิตของคุณก็จะเกิดผลของพระวิญญาณอันได้แก่ ‘ความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทน ความกรุณา ความดี ความซื่อสัตย์ ความสุภาพอ่อนโยน การรู้จักบังคับตน’ (กาลาเทีย 5:22) อย่าจัดวางสิ่งที่ดีที่สุดเป็นอันดับสอง แต่จงมุ่งมั่นที่จะเต็มไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และรับเอามรดกของคุณเอง

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะขจัดซึ่งความบาปเพื่อที่ข้าพระองค์ ทั้งหลายจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาเป็น ‘ผงในตา (ของเรา) และจะเป็นเหมือนหนามยอกอก (ของเรา)’ (กันดารวิถี 33:55) โปรดเมตตาข้าพระองค์ให้มุ่งมั่นให้ถึงที่สุด เพื่อรับเอามรดกและเต็มล้นไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์

Pippa Adds

กันดารวิถี 33:6–48

ชาวอิสราเอลออกเดินทางกันอยู่ตลอดเวลา ฉันกำลังนำพระธรรมตอนนี้ออกจากบริบท แต่มันทำให้ฉันนึกถึงค่ายโฟกัส ค่ายวันหยุดประจำปีของคริสตจักรเราที่มีผู้คนกว่า 7,000 คนมาเข้าร่วม สิ่งที่ดีคือเมื่อ เรามาถึง ซัมเมอร์เลย์ เอสเต็ท (Somerley Estate) ในเดือนกรกฎาคมและเริ่มกางเต็นท์ พวกเราก็ปักหลัก กันที่นั่นทันทีโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายไหน ‘ยึดครองแผ่นดิน แล้วเข้าไปอาศัยอยู่ในนั้น เพราะเราได้ให้แผ่นดิน นั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเจ้า’ (ข้อ 53) (ในกรณีของเราใช้เวลาเพียง 6 วัน) ‘แบ่งมรดกที่ดินนั้นด้วยฉลากตาม ตระกูลของเจ้า เผ่าใหญ่เจ้าจงให้มรดกก้อนใหญ่ เผ่าเล็กเจ้าจงให้มรดกก้อนเล็ก’ (ข้อ 54) เรามีคริสตจักรใหม่กำลังเกิดขึ้นมากมาย แต่ละแห่งจะมีพื้นที่เป็นของตัวเอง และถ้าประชากรของพระเจ้าอยู่ในเต็นท์ได้สี่สิบปี เราก็น่าจะจัดการได้หนึ่งสัปดาห์ มาเลย! มันจะเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More