พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

รักจากภายในสู่ภายนอก
เซลีน หญิงสาวคนนี้มาร่วม[หลักสูตรอัลฟ่า](https://thailand.alpha.org/)เพราะเธออธิบายไว้ว่าเป็นดั่ง ‘การแสวงทางจิตวิญญาณ’ และได้เขียนไว้ว่า ‘ฉันไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น! ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฉันกระหายการทรงสถิตของพระเจ้า มากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนตอนฤดูร้อนที่อากาศแห้งแล้ง และได้จิบน้ำเย็น ๆ อุณหภูมิที่เหมาะสม ใคร ๆ ก็อยาก ดื่มและก็ดื่มมันไป แต่ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ’ ‘ตอนนี้ฉันกระโดดและหัวเราะร่าตลอดเวลาและอยากจะบอกทุกคนว่าพระเจ้านั้นอัศจรรย์เพียงใด แถมดูเหมือนฉันจะรักทุกคนมากขึ้นด้วย! ฉันเคยพยายามที่จะให้อภัยใครสักคน แต่ดูเหมือนมันขมขื่นและ ขุ่นเคืองมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งฉันได้มาเข้าร่วม[หลักสูตรอัลฟ่า](https://thailand.alpha.org/) ทุกอย่างมันหายไป ฉันสามารถให้อภัยคน ๆ นั้น แล้วฉันก็รักพวกเขาด้วย!’ เธอบอกว่าตอนนี้เธอ ‘หลงรักพระคริสต์อย่างสุดใจ!’ ความกระหายภายในของเธอกำลังได้รับเติมเต็ม เธอมีแสงสว่างใหม่ภายในและความรักใหม่ภายในสดุดี 42:1-6ก
ความหิวกระหายที่ออกมาจากภายใน
มีบางครั้งไหมที่คุณรู้สึกคลุมเครือและคุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไรที่ทำให้คุณ ‘ใจฝ่อ’? คุณไม่ได้อยู่คนเดียว ผู้เขียนสดุดีรู้ดีถึงความรู้สึกนี้ ‘จิตใจของข้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่? ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายใน?’ (ข้อ 5ก) พระเจ้าไม่ต้องการให้คุณจมอยู่กับความรู้สึกนี้ เพราะพระองค์ทรงรักคุณ และปรารถนาที่จะเสริมเรี่ยวแรงให้กับคุณ
ผู้เขียนพระธรรมสดุดีกล่าวถึงความกระหายภายในว่าเป็นดั่ง ‘กวางกระเสือกกระสนหาธารน้ำฉันใดข้าแต่ พระเจ้า จิตใจข้าพระองค์ก็กระเสือกกระสนหาพระองค์ฉันนั้น’ (ข้อ 1) เขากล่าวต่อว่า ‘จิตวิญญาณของข้าพระองค์กระหายหาพระเจ้า’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)
พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถตอบสนองความกระหายนี้ได้ ความรู้เกี่ยวกับพระเจ้าเพียงอย่างเดียวไม่สามารถ เติมเต็มความกระหายฝ่ายวิญญาณของคุณได้ ให้เราทูลร้องขอการทรงสถิตของพระเจ้า เข้าเฝ้าพระองค์ (ข้อ 2) และระบายความในใจของคุณต่อพระองค์ (ข้อ 4)
การนมัสการเป็นกุญแจสำคัญ ‘ข้าพระองค์ระลึกถึงตอนที่เดินอยู่กับฝูงชนและนำหน้าขบวนของพวกเขาขึ้นไป ยังวิหารของพระเจ้า ด้วยเสียงโห่ร้องยินดีและเสียงเพลงโมทนา คือมวลชนกำลังฉลองเทศกาลเลี้ยง!’ (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ให้เราใคร่ครวญจากประสบการณ์ในอดีตเกี่ยวกับความ โปรดปรานของพระเจ้าและพระพรของพระองค์ในชีวิต สิ่งนี้จะเป็นที่หนุนจิตชูใจให้คุณวางใจในพระเจ้าต่อไป และทำให้คุณมีกำลังที่จะนมัสการพระองค์อีกครั้ง (ข้อ 5ข-6ก)
ข้าแต่พระเจ้า จิตวิญญาณข้าพระองค์กระหายหาพระองค์ มีเพียงการทรงสถิตของพระองค์เท่านั้นที่สามารถ ตอบสนองความกระหายภายในลึก ๆ ของข้าพระองค์ได้ ข้าพระองค์มีความหวังและสรรเสริญพระผู้ช่วยให้รอด และพระเจ้าของข้าพระองค์
ลูกา 11:33-54
แสงสว่างจากภายใน
เนื่องจากการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาไปทั่วโลก การล้างมือจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม พระเยซูตรัสว่าใจที่สะอาดและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีสำคัญกว่ามือที่สะอาดด้วยซ้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นในใจ และความคิดของคุณนั้นสำคัญจริง ๆ ดวงตาของคุณเป็นกุญแจสำคัญ มันเป็นประตูสู่ชีวิตภายใน นั่นคือเหตุผลที่สิ่งที่คุณมองนั้นมีความสำคัญมาก คุณสามารถปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ เข้ามาในชีวิตภายในของคุณผ่านทางสายตาของคุณ ดวงตาของคุณยังสะท้อนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของคุณด้วยเช่นกัน
พระเยซูทรงเรียกคุณให้เติมความสว่างภายใน: ‘ดวงตาของท่านเปรียบเสมือนแสงประทีปส่องสว่างทั่วร่างกาย หากตาของท่านเปิดกว้างด้วยความอัศจรรย์ใจและความเชื่อ ร่างกายของท่านก็เต็มไปด้วยความสว่าง แต่ถ้าท่านดำเนินชีวิตด้วยตาที่มืดบอดหันเข้าหาความบาปและความโสโครกทั้งตัวก็พลอยมืดไปด้วย เปิดดวงตาของท่าน ให้ประทีบสว่างอยู่เสมอ เพื่อที่ท่านจะไม่อับแสงไป รักษาชีวิตให้ส่องสว่างอยู่เสมอ’ (ข้อ 34–36, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระเยซูทรงเรียกคุณให้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักกับองค์พระผู้เป็นเจ้า เข้าไปยังสถานที่ลี้ลับนั่นก็คือ หัวใจ ที่ซึ่งการใกล้ชิดกับพระเจ้าอย่างแท้จริงเกิดขึ้น พระองค์ทรงเรียกให้คุณบริสุทธิ์จากภายในไม่ใช่แค่ภายนอก (ข้อ 39) สิ่งที่ออกมาภายนอกนั้นจะไม่ดีเลยหากภายในของคุณเต็มไปด้วย ‘ความโลภและความชั่วร้าย’ (ข้อ 39)
สิ่งสำคัญของชีวิตภายในตามที่พระเยซูตรัสคือ คนยากจน ‘จงให้ทานตามซึ่งเจ้ามีอยู่ภายใน และดูเถิด สิ่งสารพัดก็บริสุทธิ์แก่เจ้าทั้งหลาย’ (ข้อ 41, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) จงชำระล้างจิตใจของคุณ
พระเยซูตรัสต่อไปว่า การให้และการถวายนั้นไม่เพียงพอหากคุณไม่มี ‘ความยุติธรรมและความรักต่อพระเจ้า’ (ข้อ 42)
ดังที่คุณพ่อราเนียโร แคนตาลาเมซซา เขียนไว้ว่า ‘คงเป็นเรื่องผิดพลาดที่จะคิดว่า การเรียกร้องเรื่องชีวิตภายใน อาจส่งผลเสียต่อการอุทิศตัวอย่างแรงกล้าของเราต่อแผ่นดินของพระเจ้า และความยุติธรรม นี่ไม่ใช่การลดความสำคัญของการกระทำเพื่อพระเจ้า แต่เพราะชีวิตภายในเป็นการวางรากฐาน และทำให้การอุทิศตัวเพื่อพระเจ้าสามารถดำเนินต่อไปได้’
พระเยซูทรงเตือนผู้นำทางความเชื่อเกี่ยวกับท่าทีภายในใจที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราก็สามารถล้มลงได้ อย่างง่ายดายเช่นกัน พระคำเหล่านี้เป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับพวกเราในการเป็นผู้นำทุกรูปแบบ พระเยซูเตือน ไม่ให้กระทำดังนี้:
-
ให้ความสำคัญในตนเอง
‘ท่านชอบที่นั่งอันมีเกียรติ’ (ข้อ 43) -
หลงใหลการเป็นที่ยอมรับ
‘ชอบให้เขาคำนับกลางตลาด’ (ข้อ 43) -
ความหน้าซื่อใจคด
ถือเป็นสิ่งที่อันตรายมากเมื่อเราสอนถึงมาตรฐานที่เราเองก็ไม่สามารถดำเนินชีวิตแบบนั้นได้ ‘ท่านเอาของที่หนักเหลือรับให้มนุษย์เป็นคนแบก แต่ตัวพวกท่านเองกลับไม่ช่วยยกเลยแม้แต่นิ้วเดียว’ (ข้อ 46)
พระเยซูไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับผู้คนเรื่องชีวิตภายในของพวกเขา พระองค์ไม่กลัวการเผชิญหน้าและ ไม่กลัวการสร้างศัตรู ไม่น่าแปลกใจที่ผู้นำทางความเชื่อเหล่านั้นเริ่มต่อต้านพระองค์อย่างดุเดือด (ข้อ 54)
ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ตาของข้าพระองค์มองเฉพาะสิ่งที่สว่างจากภายใน โปรดเจิมพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ลงมาที่ข้าพระองค์ในวันนี้ ขอให้หัวใจของข้าพระองค์เต็มไปด้วยความเมตตากรุณา ความยุติธรรม และความรักของพระองค์
เฉลยธรรมบัญญัติ 6:1-8:20
รักจากภายใน
หัวใจของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมเช่นเดียวกับในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ คือ ความรัก ‘ท่านจงรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจและสุดกำลังของท่าน’ (6:5) ซึ่งในภาษาฮีบรู นั้นมีความหมายกว้างและลึกซึ้งมากเกินกว่าที่คำแปลใด ๆ จะสามารถให้คำนิยามออกมาได้ทั้งหมด นี่เองอาจสะท้อนให้เห็นว่าทำไมในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่จึงใช้การแปลออกเป็นสี่รูปแบบด้วยกัน (หัวใจ จิตวิญญาณ กำลัง จิตใจ) วลีเหล่านี้มีขึ้นเพื่อเป็นข้อสรุปทั้งหมดของชีวิต รวมทั้งจิตใจภายใน และภาระใจด้วย
พระเจ้าทรงจงใจให้กฎแห่งความรักเป็นสิ่งที่ออกมาจากภายใน นั่นคือภายในจิตใจ ‘จงให้บัญญัติเหล่านี้ ที่ข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้อยู่ในใจของท่าน และในใจลูกหลานของท่าน’ (ข้อ 6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ความรักที่คุณมีต่อพระเจ้าหลั่งไหลออกมาจากความรักที่พระองค์มีต่อคุณ ความรักที่พระองค์มีต่อ คุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพทางศีลธรรมใด ๆ ที่คุณมี แต่เป็นพระคุณของพระเจ้าต่างหาก ที่ทรงรักเราทั้งที่เราทำบาป อ่อนแอ และเป็นคนล้มเหลว ‘ที่พระยาห์เวห์ทรงรักและทรงเลือกท่านทั้งหลายนั้น ไม่ใช่เพราะท่านทั้งหลายมีจำนวนมากกว่าชนชาติอื่น เพราะในบรรดาชนชาติทั้งหลาย ท่านมีจำนวนน้อยที่สุด แต่เพราะพระยาห์เวห์ทรงรักท่านทั้งหลาย’ (7:7–8ก) พระเจ้ารักคุณเพราะพระองค์รักคุณ!
พระเจ้าทรงเทความรักมาเหนือคุณเพราะนั่นเป็นพระลักษณะแห่งความรักและความสัตย์ซื่อของพระองค์ ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคงกับท่าน...พระองค์จะทรงรักท่าน ทรงอวยพรท่านและทรงทำให้ท่านทวีจำนวนขึ้น’ (ข้อ 12–13)
คุณถูกเรียกให้เข้าสู่สัมพันธภาพอันใกล้ชิดและเต็มเปี่ยมด้วยความรักกับพระเจ้า อย่างไรก็ตามมีคำเตือนสามประการในบทที่ 6 นี้:
-
อันตรายจากการละทิ้งพระเจ้าเพราะการบูชารูปเคารพอื่น - ‘ห้ามท่านทั้งหลายติดตามพระอื่น’ (6:14)
มีการทดลองที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมและรับเอาความเชื่อของสังคมเข้ามาในชีวิต อย่างไรก็ตาม พระเจ้าต้องการให้คุณยังคงสัตย์ซื่อต่อพระองค์แทนที่จะคล้อยตาม -
อันตรายจากการสงสัยในพระเจ้าอันเนื่องมาจากความยากลำบาก – ‘ห้ามทดลองพระยาห์เวห์’ (6:16)
เมื่อความยากลำบากมาถึง อาจจะทำให้คิดไปได้ว่าพระเจ้าทอดทิ้งคุณ แต่คุณต้องยึดมั่นในความ สัตย์ซื่อและพระวจนะของพระเจ้าไว้อยู่เสมอ
|พระเจ้าอนุญาตให้คุณเข้าสู่การทดสอบและการทดลองต่าง ๆ เพื่อที่คุณจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ ว่าการทำสิ่งต่าง ๆ ในแบบของพระองค์เป็นวิธีที่ดีที่สุด หากคุณจะไม่รับใช้และนมัสการพระองค์ใน ช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิต (ในหุบเขา) คุณอาจไม่รับใช้และนมัสการพระองค์อย่างสม่ำเสมอในช่วงเวลาที่ดีเช่นกัน (บนยอดเขา) จำไว้ว่าบนยอดเขาเสริมกำลังคุณ แต่หุบเขาจะทำให้คุณเติบโต
- อันตรายจากการลืมพระเจ้าอันเนื่องมาจากความมั่งคั่ง – ‘เกรงว่าพวกท่านจะลืมพระยาห์เวห์’ (6:12)
ในการเพลิดเพลินอยู่กับสิ่งที่ได้มามากเกินไป บางครั้งอาจทำให้คุณอาจลืมผู้ที่ให้สิ่งเหล่านั้นมาก็ เป็นได้ ‘ท่านจงระลึกถึงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานกำลังแก่ท่านที่จะได้ทรัพย์สมบัตินี้’ (8:18)
การปฏิบัติตามคำเตือนทั้งสามประการนี้ คือการตระหนักว่าสิ่งที่เป็นวัตถุเพียงอย่างเดียวไม่ว่าจะเป็นสมบัติส่วนตัวหรือ ‘รูปเคารพ’ ไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของคุณได้ ‘มนุษย์ไม่ได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงสิ่งเดียว แต่มนุษย์จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกสิ่งที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระยาห์เวห์' (8:3)
พระเยซูทรงใช้พระวจนะข้อนี้เมื่อพระองค์ถูกมารทดลองในถิ่นทุรกันดารเพื่อตอบสนองความหิวกระหายทางร่างกายในทางที่ผิด การตอบสนองของพระองค์ต่อมารซาตานเหล่านั้นคือชีวิตที่อยู่ภายใน คือความหิวกระหาย ฝ่ายวิญญาณ ซึ่งสำคัญกว่าสิ่งที่เป็นวัตถุภายนอก ความหิวกระหายฝ่ายวิญญาณนี้สามารถเต็มอิ่มได้ด้วยทุกคำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
ไม่ว่าคุณจะมีความสุขทางวัตถุหรือไม่ก็ตาม สิ่งสำคัญในชีวิตของคุณควรอยู่ที่ชีวิตภายใน ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่สามารถตอบสนองความปรารถนาอันลึกล้ำภายในที่พระเจ้าได้ใส่ไว้ในหัวใจของมนุษย์ทุกคน
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์สำหรับความรักที่ยิ่งใหญ่ที่ทรงประทานให้ข้าพระองค์ ขอบคุณสำหรับพระสัญญาแห่งความรักและการอวยพร โปรดช่วยให้ข้าพระองค์รักพระองค์ด้วยสุดใจสุดจิตและสุดกำลัง
Pippa Adds
เฉลยธรรมบัญญัติ 6:12; 8:11
‘… จงระวังตัวเกรงว่าจะลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน…’
ฉันต้องพูดกับลูก ๆ หลายพันครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาว่า ‘ระวังด้วย’ และฉันก็ยังทำอยู่ ส่วนใหญ่เพื่อความปลอดภัยทางร่างกาย แต่ความปลอดภัยทางจิตวิญญาณของพวกเขานั้นเป็นสิ่งสำคัญกว่าที่ต้องระวัง
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More