พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

คำเตือนด้วยความรัก
ปัจจุบันนี้ ทุกสิ่งที่คุณซื้อดูเหมือนจะมีคำเตือนอยู่ *คำเตือน*เหล่านี้บางส่วนอาจดูไร้สาระเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น *ถั่วลิสง*ของ Sainsbury: ‘คำเตือน - มีส่วนผสมของ*ถั่วชนิดต่างๆ*’ Nytol Nighttime *Sleep-Aid* (ยานอนหลับ) ‘คำเตือน – อาจทำให้*ง่วงนอน’* ข้อความบนสว่าน *DIY* ที่ใช้ในบ้าน ‘ไม่ได้มีไว้สำหรับใช้เป็น*สว่านสำหรับทันตแพทย์*’ เนื่องจากการเตือนจำนวนมากเกือบจะไร้สาระ สิ่งที่อันตรายคือเราเพิกเฉยต่อคำเตือนเหล่านั้น แต่ไม่ใช่ทุกคำเตือนที่ไร้สาระ วันที่หมอกลงจัดในวันที่ 13 มีนาคม 1991 ได้นำไปสู่อุบัติเหตุทางถนนที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของสหราชอาณาจักร มีผู้เสียชีวิต 10 รายและบาดเจ็บ 25 ราย จากเหตุภัยพิบัติบนมอเตอร์เวย์ M4 ท่ามกลางอุบัติเหตุมีชายคนหนึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษ อลัน เบทแมน ปีนขึ้นจากรถที่เสียหายของเขาและวิ่งไปตามพื้นที่เขตสงวนส่วนกลางเพื่อพยายามเตือนยานพาหนะที่จะมาถึงซากปรักหักพังข้างหน้า ไม่ใช่ทุกคนที่ชื่นชมคำเตือน คนขับบางคนบีบเสียงแตรใส่เขาและขับตรงไปยังที่เกิดอุบัติเหตุ คำเตือนของอลันต่อคนขับรถคนอื่น ๆ ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่กล้าหาญเท่านั้น แต่เป็นการแสดงออกถึงความรักของพระเยซูเองมักจะเตือนถึงอันตรายที่อยู่ข้างหน้า (ดูตัวอย่างใน มัทธิว 7:13, 19, 26–27) พระเยซูทรงทราบว่า ในระยะยาวเป็นการดีกว่าที่จะบอกผู้คนด้วยความจริง พระเจ้ารักคุณ พระองค์ไม่อยากให้คุณเจ็บปวด มีคำเตือนมากมายในพระคัมภีร์และทั้งหมดเกิดจากความรักที่พระเจ้ามีต่อคุณสุภาษิต
เตือนเรื่องธรรมชาติของมนุษย์
หลักการที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือสิ่งที่คุณหว่านวันนี้คุณจะเก็บเกี่ยวในภายหลัง คำสอนส่วนใหญ่ในพระธรรมสุภาษิตตอนนี้โดยสรุปคือ ‘คนที่ขุดหลุมพรางจะตกลงไปเอง คนที่กลิ้งก้อนหินขึ้นไป มันจะกลิ้งกลับมาทับเขาเอง’ (26:27) อีกนัยหนึ่งคือคุณจะเก็บเกี่ยวสิ่งที่คุณหว่าน
ผู้เขียนเตือนเรื่องความใส่ร้าย: ‘ความมุ่งร้ายส่งผลในทางตรงกันข้ามและเจตนาร้ายทำอันตรายอย่างไม่คาดคิดกับผู้ริเริ่ม' (ข้อ 27, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ยิ่งเราปกปิดความปรารถนาที่จะทำร้ายผู้อื่น ในที่สุดมันจะต้องเปิดเผย ซึ่งเราจะต้องเก็บเกี่ยวผลของมัน
คำเตือนต่อมาคือเรื่อง ‘ลิ้นที่มุสา’ (ข้อ 28) ให้ระมัดระวังเมื่อพูดถึงผู้อื่นด้วยความจริง มักเป็นอะไรที่ล่อลวงเราที่พูดเกินจริงเมื่อต้องพูดเรื่องเกี่ยวกับศัตรูของเรา แต่ผู้เขียนพระธรรมนี้เตือนว่า ‘ลิ้นมุสาเกลียดพวกที่มันทำลาย’ (ข้อ 28)
และยังคงเตือนต่อเรื่องการคุยโอ้อวด (27:1) อย่าโอ้อวดในสิ่งที่คุณสำเร็จ เพราะคุณไม่รู้อนาคตจะเป็นเช่นไร คุณมีสิทธิ์ที่จะได้รับการชื่นชมจากผู้อื่นแต่ไม่ควรให้มันออกมาจากปากคุณเอง (ข้อ 2)
ผู้เขียนยังเตือนเรื่องการยั่วยุ ‘หินก็หนัก ทรายก็มีน้ำหนัก แต่การยั่วเย้าของคนโง่ก็หนักกว่าทั้งสองอย่างนั้น’ (ข้อ 3)
ท้ายที่สุด ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้ เตือนเราเรื่องความริษยาซึ่งเช็คสเปียร์บรรยายว่าเป็นดั่ง ‘สัตว์ประหลาดตาเขียว’ ที่เย้ยหยัน ‘เนื้อที่มันกิน’ ความริษยามีพลังและอันตรายความโกรธและความเกรี้ยวกราด (ข้อ 4) ‘เราระเบิดอารมณ์ด้วยโกรธและท่วมท้นด้วยความเดือดดาล ใครจะรอดจากความริษยา? (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า โปรดปกป้องใจของข้าพระองค์ โปรดอภัยบาปของข้าพระองค์อย่างที่ข้าพระองค์อภัยผู้อื่น โปรดอย่านำข้าพระองค์ไปสู่การทดลอง แต่ทรงช่วยกู้จากความชั่วร้าย
ฮีบรู 5:11-6:12
ตักเตือนเรื่องความไม่เติบโต
ความปรารถนาของพระเจ้าที่มีต่อคุณคือการที่ให้คุณ ‘เติบโตในพระคริสต์’ (6:1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ให้กลายเป็นผู้ติดตามพระเยซูที่สมบูรณ์ แข็งแรง และเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ
การเติบโตต้องอาศัยท่าทีในการฟัง คริสเตียนที่กล่าวถึงในที่นี้ ‘เก็บเอานิสัยแย่ ๆ ที่ไม่ยอมฟัง’ (5:11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเจ้ากำลังตรัสกับเราอย่างต่อเนื่อง (มัทธิว 4:4) ให้เราพัฒนานิสัยปกติในการฟังในสิ่งที่พระองค์ทรงตรัส ที่หลัก ๆ ทรงตรัสผ่านทางพระคัมภีร์
ผู้เขียนฮีบรูเตือนผู้อ่านของเขาเกี่ยวกับความไม่เติบโตฝ่ายวิญญาณ พวกเขา ‘ควรจะเป็นครูได้แล้ว’ (ฮีบรู 5:12) นี่ไม่ได้หมายถึงคนบางกลุ่มเท่านั้น แต่หมายถึงใครก็ตามที่ได้รับคำสั่งสอนด้วยความเชื่อก็ถูกคาดหวังให้สอนคนอื่น ต่อ (1 เปโตร 3:15) วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการเริ่มเติบโตในความเชื่อของคุณคือการส่งต่อให้ผู้อื่น นี่คือเหตุผลที่เรามักจะเชิญผู้ที่พบพระเยซู ซึ่งอยู่ที่หลักสูตรอัลฟ่าให้กลับมาช่วยสอนในหลักสูตรครั้งต่อไป
เขาต้องการให้บรรดาคนเหล่านั้นเปลี่ยนจากการดื่มนมไปเป็นอาหารแข็ง การสอนเป็นส่วนหนึ่งของความเติบโตของคริสเตียน ผู้เขียนหนุนใจให้ก้าวต่อไปจากคำสอนเบื้องต้นเกี่ยวกับพระคริสต์ การกลับใจ ความเชื่อ การบัพติศมา การวางมือ การเป็นขึ้นจากความตายและการพิพากษาชั่วนิรันดร์ (ฮีบรู 6:1–2)
นี่เป็นรายการสิ่งที่ผู้เขียนเห็นว่าเป็นหลักการพื้นฐาน และเป็นการท้าทายสำหรับพวกเราทุกคนที่สอนในคริสตจักร เราต้องแน่ใจว่าเรากำลังฝึกคนทุกคนในเรื่องเหล่านี้แล้วย้ายพวกเขาไปสู่ ‘อาหารแข็ง’ (5:14) คุณกินอาหารเองได้ผ่านการนมัสการ การเป็นชุมชนคริสตจักร ศึกษาพระคัมภีร์ อ่านหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจ และฟังคำสอนที่ดี
ผู้เขียนกล่าวว่า ‘อาหารแข็งนั้นสำหรับผู้ใหญ่ สำหรับคนที่ฝึกฝนจนมีความสามารถแยกแยะดีชั่วได้แล้ว’ (ข้อ 14) กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความเติบโตเกิดจากการฝึกฝน นั่นคือการนำพระวจนะของพระเจ้ามาใช้กับชีวิตของเรา อย่างที่ จอห์น วิมเบอร์ เคยกล่าวไว้ว่า ‘อาหารแข็งอยู่บนท้องถนน’ การเติบโตไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความรู้ในสมอง แต่คุณสามารภเรียนรู้เมื่อคุณดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อของคุณ คุณสามารถมีสติปัญญา ‘บนท้องถนน’ และนั่นทำให้คุณได้รับ ‘อาหารแข็ง’
จากนั้นผู้เขียนเตือนพวกเขาถึงอันตรายของการละทิ้ง หรือล้มเลิกความเชื่อของพวกเขา (6:4–8) พระคัมภีร์ข้อนี้ยากมาก เพราะในตอนแรกดูเหมือนว่าคริสเตียนสามารถละทิ้งความเชื่อได้และมีบางคนที่ไม่สามารถกลับใจได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสองสิ่งที่ ข้อพระคัมภีร์ส่วนที่เหลือในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่เป็นเช่นนั้น (ดูโดยเฉพาะ โรม 5–8)
เป้าหมายหลักของเขาคือการหนุนใจให้พากเพียรอุตสาหะ ความรุนแรงของคำเตือนเหล่านี้ (ฮีบรู 6:4–8) แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสิ่งนี้สำคัญเพียงใด อย่างไรก็ตาม ประเด็นเกี่ยวกับการหลงไปนั้นไม่ได้ถูกพูดต่อเพราะเขามั่นใจว่าบรรดาคนเหล่านั้นจะไม่ทำเช่นนั้น ‘เราแน่ใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับพวกท่าน มิตรสหายเอ๋ย’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
จากนั้นเขาก็แสดงความยินดีกับบรรดาคนเหล่านั้นต่อผลที่สำแดงออกมาในชีวิตของพวกเขา การกระทำที่สำแดงถึงความเมตตาของพวกเขาพระเจ้าทรงนับไว้แล้วขณะที่เขาทำเพื่อถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า (ข้อ 10) พระองค์จะทรงประทานบำเหน็จแก่พวกเขา
พวกเขาเริ่มต้นด้วยดีและเขาก็หนุนใจให้จบด้วยดีเช่นกัน ‘แสดงความกระตือรือร้นอย่างเดียวกันจนถึงที่สุด’ (ข้อ 11)
โดยทั่วไปแล้ว ในชีวิตนั้น การเริ่มต้นทำสิ่งต่าง ๆ ง่ายกว่าการทำให้เสร็จ เมื่อความกระตือรือร้นในตอนแรกหมดลง การติดตามผลต้องใช้ความพยายาม ความอดทน และความกล้าหาญ ความสำเร็จ การเกิดผล และรางวัลมาถึงผู้ที่ ‘ยึดมั่นในเส้นทางด้วยความเชื่อ ที่มุ่งมั่นและได้รับทุกสิ่งที่ทรงสัญญาไว้กับพวกเขา’ (ข้อ 12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้เติบโตฝ่ายวิญญาณ ให้ข้าพระองค์เลียนแบบผู้ที่มีความเชื่อ และอดทนที่จะได้รับพระสัญญาเป็นมรดก (ข้อ 12)
เอเสเคียล 4:1-6:14
ตักเตือนเรื่องการพิพากษา
ตั้งแต่เริ่มต้น มีความชัดเจนว่าการเตือนผู้คนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย! เนื้อหาตอนนี้เกี่ยวกับการที่พระเจ้าทรงเตือนประชาชนของพระองค์ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเขา ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับอิสราเอลก็ถือเป็น ‘คำเตือน…ของประชาชาติ’ (5:15)
พระเจ้าทรงให้เอเสเคียลประกาศด้วยการทำให้เห็นภาพ เพื่อแสดงถึงความรุนแรงของความบาป และเตือนถึงการพิพากษาที่จะเกิดขึ้นหากผู้คนไม่กลับใจ
การนอนตะแคงเป็นเวลา 430 วันของเอเสเคียล (4:5–6) คงจะดูแปลกไปสักหน่อย แต่มันเป็นภาพสะท้องที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง (อาจเป็นกรณีที่ผู้คนมักจะจดจำสิ่งที่พวกเขาเห็นมากกว่าสิ่งที่พวกเขาได้ยิน) การพิพากษากำลังมาถึงเพราะประชากรของพระเจ้า ‘ไม่ปฏิบัติตามแม้แต่กฎหมายของบรรดาประชาชาติรอบ ๆ [พวกเขา]’ (5:7)
พระเจ้าไม่กล่าวคำเตือนโดยเปล่าประโยชน์: ‘เราไม่ได้พูดพล่อย ๆ’ (6:10) คำเตือนของพระเจ้าเป็นการกระทำด้วยความรักเสมอ พระองค์ทรงปรารถนาให้ทุกคนกลับใจและ ‘รู้ความจริง’ (1 ทิโมธี 2:4)
ทุกวันนี้เราอาจกังวลเรื่องเสียงในแง่ลบ หรือคำวิพากษ์วิจารณ์มากจนเกินไป จนทำให้เราขาดความรัก และความกล้าพอที่จะตักเตือนผู้คนถึงอันตรายที่รออยู่ข้างหน้า
เพราะความรักที่มีต่อพระเจ้า และต่อประชากรของพระเจ้าทำให้เอเสเคียลสำแดงภาพเหล่านี้เพื่อเตือนถึงการพิพากษาของพระเจ้าที่รออยู่ข้างหน้า เอเสเคียลได้รับคำสั่งให้ ‘แบกความผิดบาป’ ของผู้คน (เอเสเคียล 4:4–6) ภาพที่แสดงนี้ยังเป็นสัญญาณของสิ่งที่กำลังจะมาถึง พระเยซูทรงทำในสิ่งที่เอเสเคียลทำได้เพียงทำนายล่วงหน้า นั่นคือการที่ทรงแบกบาปของคุณบนไม้กางเขน (1 เปโตร 2:24) พระองค์ทรงรับการพิพากษาของพระเจ้าไว้กับพระองค์เอง และทำให้คุณและผมได้รับพระสัญญาอันยอดเยี่ยมทั้งหมดแห่งพระพรสำหรับผู้ที่อยู่ในพระคริสต์
ชีวิต การสิ้นพระชนม์ และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง แต่คำเตือนสำหรับเรายังคงเป็นเรื่องจริงและจริงจังเสมอ อันที่จริง คำเตือนเหล่านี้ทำให้ความเป็นจริงของความรอดและพระพรมากมายที่มีในพระคริสต์นั้นน่าทึ่งยิ่งขึ้น พระกิตติคุณเป็นข่าวดี
ข้าแต่พระเจ้า โปรดประทานสติปัญญา ให้ข้าพระองค์ประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซู ด้วยความจริงใจและความเชื่อ โปรดประทานใจกล้าหาญประกาศแผนการทั้งหมดของพระเจ้า
Pippa Adds
เอเสเคียล 4:1–14
เอเสเคียลผู้น่าสงสาร! นอนตะแคงข้างหนึ่งนาน 390 วัน กินอาหารที่ปรุงด้วยมูลสัตว์ ฉันไม่คิดว่าพระเจ้าเคยขอให้ฉันทำอะไรแบบนั้น ขอบคุณพระเจ้า ที่เราทุกคนไม่จำเป็นต้องทำอะไรผิดแผกเช่นนี้
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

The Holy Spirit: God Through Us

BE a PILLAR

Journey Through Esther

Fatherless No More: Discovering God’s Father-Heart

The Creator's Battle: Winning the Inner War for Your Art

When Tithing Feels Impossible: 3 Truths That Free You From Financial Guilt

What Is "The Way of Christ?"

Read the Bible Effectively

When You Are the Problem: The Courage to Look in the Mirror When Your Church Is in Crisis
