YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 275 OF 365

ความทะเยอทะยานในทางพระเจ้า

ชัค โคลสัน ในสมัยเป็นนักเรียน เขาปฏิเสธทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดอย่างหยิ่งผยอง เขาเข้าร่วมเป็นทหารนาวิกโยธิน ตั้งสำนักงานกฎหมายของตัวเองและผันชีวิตเข้าสู่การเมือง เมื่ออายุ 40 ปี เขาได้กลายเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาใกล้ชิดของประธานาธิบดีนิกสัน ต่อมาเขาบรรยายตัวเองว่าเป็น ‘ราชาหนุ่ม*ผู้ทะเยอทะยาน*ทางการเมือง' เขาเป็นที่รู้จักในนาม ‘มือขวาน’ ของนิกสัน เขายอมสารภาพความผิดที่ปกปิดข้อมูลโจรกรรมในคดีวอเตอร์เกท และถูกส่งตัวเข้าคุก ที่นั่นเขาได้พบกับพระเยซู เมื่อเขาออกจากศาลหลังจากได้ยินคำพิพากษาให้พ้นโทษ เขากล่าวว่า ‘สิ่งที่เกิดขึ้นในศาลในวันนี้... คือความประสงค์ของศาลและพระประสงค์ของพระเจ้า ผมได้มอบชีวิตของผมไว้กับพระเยซูคริสต์ และผมสามารถรับใช้พระองค์ได้ทั้งใน และนอกเรือนจำ’ หลังจากได้รับการปล่อยตัว โคลสันได้จัดตั้งกลุ่มสามัคคีธรรมในเรือนจำและนำผู้คนหลายพันคนมาถึงพระเยซูคริสต์ ครั้งหนึ่งผมได้ยินเขาพูดว่า *‘ผมเคยทะเยอทะยาน และวันนี้ผมยังมีทะเยอทะยานอยู่* แต่ผมหวังว่าสิ่งนั้นไม่ใช่สำหรับชัค โคลสัน (แม้ว่าผมจะต่อสู้กับเรื่องนั้นค่อนข้างมากก็ตาม) แต่*ผมทะเยอทะยานเพื่อพระคริสต์*’ ความทะเยอทะยานเคยถูกนิยามว่าเป็น ‘ความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ’ ท้ายที่สุดแล้วมีความทะเยอทะยานในการควบคุมเพียงสองอย่างเท่านั้น ซึ่งทำให้ความทะเยอทะยานอื่น ๆ อาจลดลงได้ คือ ความรุ่งโรจน์ของเรา และอีกอย่างคือ พระเกียรติสิริของพระเจ้า

สดุดี 116:1-11

จงทะเยอทะยานเรื่องความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้า

จงทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้าสำคัญเป็นอันดับแรก เช่นเดียวกับผู้เขียนสดุดีที่ประกาศว่า ความทะเยอทะยานของคุณ คือ การดำเนินชีวิตต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้า ‘ข้าพเจ้าดำเนินอยู่ต่อหน้าพระเจ้า’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ขอให้ตรวจสอบจนแน่ใจว่าชีวิตของคุณมีศูนย์กลางอยู่ที่ความสัมพันธ์รักกับพระเจ้า นี่คือวิธีค้นหา ‘ที่หยุดพัก’ สำหรับ ‘จิตวิญญาณ’ ของคุณ (ข้อ 7)

ความสัมพันธ์นี้มีพื้นฐานมาจากหลาย ๆ ทางที่เราประสบกับความช่วยเหลือจากพระเจ้า เช่นเดียวกับผู้เขียนสดุดี ผมจำได้ว่าพระเจ้า ‘ทรงฟังเสียงและคำวิงวอนของข้าพเจ้า’ (ข้อ 1) ‘เมื่อข้าพเจ้าตกต่ำ พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอด’ (ข้อ 6) ‘พระยาห์เวห์ทรงดีต่อข้าพเจ้า’ (ข้อ 7) และวิธีที่พระเจ้า ‘ทรงช่วยข้าพระองค์จากความตาย ช่วยนัยน์ตาข้าพระองค์จากน้ำตา ช่วยเท้าข้าพระองค์จากการสะดุด’ (ข้อ 8) นี่คือพื้นฐานของความปรารถนาของเราที่จะ ‘ดำเนินอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระยาห์เวห์’ (ข้อ 9)

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์รักพระองค์ ข้าพระองค์ปรารถนาให้ความทะเยอทะยานของข้าพระองค์ในวันนี้และตลอดชีวิตที่เหลือของข้าพระองค์ที่จะดำเนินอยู่ต่อหน้าพระพักตร์พระองค์ในดินแดนของคนเป็น

ฟีลิปปี 3:1-4:1

จงทะเยอทะยานเพื่อพระคริสต์

บางครั้งคริสเตียนสงสัยว่าการมีความทะเยอทะยานนั้นถูกต้องหรือไม่ พวกเขาเชื่อมโยงความทะเยอทะยานกับความเย่อหยิ่ง และคิดว่าความอ่อนน้อมถ่อมตนหมายถึงไม่ทะเยอทะยาน

อย่างไรก็ตาม เปาโลมีความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้า ก่อนที่จะเป็นคริสเตียน เปาโลมีความทะเยอทะยานในความเชื่อของชาวยิว อันนำไปสู่ความปรารถนาที่จะข่มเหงคริสตจักร หลังจากที่กลับใจใหม่ ท่านไม่ได้สูญเสียความทะเยอทะยาน แต่ทิศทางของมันเปลี่ยนไป ถ้ามีสิ่งใดขัดขวาง เขาจะยิ่งทะเยอทะยานมากขึ้นอีก ท่านอธิบายตัวเองในข้อนี้ว่าเป็นเหมือนนักกีฬาที่หมดหวังที่จะชนะการแข่งขัน (3:13–14)

เปาโลเปรียบเทียบความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของท่านที่มีต่อพระเยซูกับความทะเยอทะยานผิด 2 ประการ ประการแรก คือ ความทะเยอทะยานของท่านเองก่อนที่เขาจะมาเป็นคริสเตียน โดยอธิบายว่าท่านวางใจในเนื้อหนังอย่างไร ('สิทธิพิเศษ ข้อได้เปรียบและรูปลักษณ์ภายนอก’, ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) โดยวางใจมาตรฐานต่าง ๆ ในความเชื่อเดิม (ข้อ 3–6) แต่อย่างที่ คาร์ล บาร์ธ นักศาสนศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่เคยกล่าวไว้ว่า ‘พระเยซูคริสต์เสด็จมาเพื่อทำลายความเชื่อของมนุษย์’

พระเจ้าต้องการให้คุณมีความมั่นใจ แต่ไม่ใช่ ‘ในเนื้อหนัง’ แต่ความมั่นใจของคุณควรอยู่ในพระเจ้าเท่านั้น ความรักและการจัดเตรียมของพระองค์ ความทะเยอทะยาน และความกระตือรือร้นทางความเชื่อของเปาโลนำไปผิดทาง ท่านจบลงด้วยการ ‘ข่มเหงคริสตจักร’ (ข้อ 6)

ความทะเยอทะยานผิดๆ ประการที่สอง คือ วัตถุและจุดสนใจของโลกจำนวนมากรอบตัวเรา ‘พระเจ้าของพวกเขาคือท้องของพวกเขา [‘ความอยากอาหารของพวกเขา, ความเย้ายวนของพวกเขา’, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล] และสง่าราศีของพวกเขาอยู่ในความอัปยศ จิตใจของพวกเขาอยู่ที่โลก’ (ข้อ 19)

ตอนนี้เปาโลทะเยอทะยานในพระเจ้า ท่านบรรยายถึงความล้ำเลิศของการรู้จัก ‘พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า’ (ข้อ 8) และความทะเยอทะยานที่หลั่งไหลออกมา (ข้อ 8–11)

เปาโลตระหนักว่าตนเองไม่สามารถบรรลุถึงความสมบูรณ์แบบได้ ความทะเยอทะยานทั้งหมดของตนที่จะบรรลุ ‘ความชอบธรรมด้วยตัวเอง’ ตอนนี้เขาจึงนับว่าเป็น ‘ขยะ’ (ข้อ 9) เช่นเดียวกับเปาโล จงชื่นชมยินดีกับข้อเท็จจริงที่ว่า โดยการไว้วางใจในพระคริสต์ ตอนนี้คุณเองก็ได้รับ ‘ความชอบธรรมที่มาจากพระเจ้าและโดยความเชื่อ’ (ข้อ 9) เช่นเดียวกัน

เราจะไม่มีวันบรรลุความสมบูรณ์แบบในชีวิตนี้ ความอ่อนแอของเราทำให้เราไว้วางใจพระเจ้า พึ่งพาพระองค์ในความรักและพระคุณของพระองค์

ความทะเยอทะยานของคุณควรเป็นแบบไหน?

1. รู้จักพระคริสต์อย่างใกล้ชิด
ความทะเยอทะยานของเปาโลคือการ ‘รู้จักพระคริสต์’ (ข้อ 10) คำภาษากรีกสำหรับ ‘รู้’ มีความหมายมากกว่าความรู้ทางปัญญา หรือการรู้จักสิ่งต่าง ๆ แต่เป็นความรู้จักส่วนตัวเช่นเดียวกับเปาโล จงสร้างความทะเยอทะยานของคุณไม่ใช่แค่การรู้เกี่ยวกับพระคริสต์ แต่เพื่อรู้จักพระองค์อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น

2. มีประสบการณ์ในพลังแห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสต์
เปาโลอธิบายว่า ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระคริสต์มีหน้าตาเป็นอย่างไร หมายถึงการรู้จัก ‘ฤทธิ์เดชแห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์’ (ข้อ 10) ไม่ใช่แค่เพียงเหตุการณ์ในอดีตเท่านั้น แต่ยังหมายถึงพลังที่เปี่ยมด้วยความกระตือรือร้น และมีชีวิตชีวาที่ทำงานในชีวิตของคุณด้วย

พระวิญญาณของพระเจ้านำพลังการฟื้นคืนพระชนม์มาสู่ชีวิตของคุณ โดยการตายและการเป็นขึ้นของพระองค์ พระเยซูทรงปลดอาวุธของซาตาน ทำลายบาปและมีชัยชนะเหนือความตาย พลังนี้มีให้คุณเพื่อให้คุณมีชีวิตที่บริสุทธิ์และปรนนิบัติผู้อื่นด้วยพลังแห่งการฟื้นคืนพระชนม์ ทำให้ความทะเยอทะยานของคุณที่จะรู้จักพลังนั้นมากขึ้นและมากขึ้น

3. ร่วมทนทุกข์กับพระเยซูคริสต์
สำหรับเปาโล ‘การรู้จักพระเยซูคริสต์’ เกี่ยวข้องกับ ‘การมีส่วนร่วมในความทุกข์ของพระองค์ และเป็นเหมือนกับพระองค์ในความตายนั้น’ (ข้อ 10) ท่านมองว่าความทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของการรู้จักพระคริสต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นสิทธิพิเศษ

การทนทุกข์และการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูนั้นแตกต่างจากของเราตรงที่พระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อบาปของเรา เพื่อช่วยเราให้รอดจากสิ่งที่เราสมควรได้รับ คุณจะไม่มีวันทนทุกข์อย่างที่พระองค์ทำ แต่บางครั้งคุณจะต้องทนทุกข์เพื่อความทะเยอทะยานของคุณในทางพระเจ้า

ความทุกข์ทรมานนี้เป็นผลจากชีวิตคริสเตียนของเรา สำหรับบางคน นี่จะหมายถึงการข่มเหงอย่างรุนแรง

สำหรับเราทุกคน สิ่งนี้รวมถึง ‘ความเจ็บปวดและความทุกข์ทั้งหมด... ในการต่อสู้กับบาปไม่ว่าจะภายในหรือไม่มีก็ตาม’ (เจ บี ไลท์ฟุทท์) ในช่วงเวลาแห่งความทนทุกข์นี้เรามี ‘ส่วนร่วม’ กับพระคริสต์ จงมีส่วนร่วมในทะเยอทะยานของคุณไม่ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไร

4. รู้จุดหมายปลายทางของคุณ
การรู้จักพระคริสต์หมายถึงการมีส่วนในพระองค์ ‘อย่างไรก็ตาม เพื่อจะได้เป็นขึ้นจากความตาย’ (ข้อ 11) เมื่อเปาโลพูดว่า ‘อย่างไร’ ท่านไม่ได้สงสัยในความหวังนี้ แต่ยอมรับว่านี่เป็นความล้ำลึกที่ยอดเยี่ยม

แจ๊คกี้ พูลลิงเกอร์ กล่าวว่า พระเจ้าประทาน ‘ดวงตาแห่งการฟื้นคืนชีพ’ ให้เธอ เธอกล่าวว่า ‘พระเยซูเท่านั้นที่มีสายตาที่เปิดออก... แต่ทุกคนที่เชื่อในการฟื้นคืนพระชนม์จะรู้ว่าปลายทางของพวกเขาคือดินแดนแห่งความสุขใจ คือประเทศที่ดีกว่า คือแผ่นดินสวรรค์’

เปาโลบอกว่าเขายังไม่ได้ไปที่นั่น แต่นี่เป็นเป้าหมาย และความทะเยอทะยานของท่าน (ข้อ 12) ‘ข้าพเจ้าจับตาดูเป้าหมาย’ (ข้อ 14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) อย่าเพ่งเล็งไปที่อดีต คุณล้มมาไกลแค่ไหน ความล้มเหลวของคุณ หรือแม้แต่ความสำเร็จของคุณ แทนที่จะ ‘ลืมสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง’ ให้จดจ่ออยู่กับพระเยซู มีใจเดียว มุ่งไปข้างหน้า และตอบสนองต่อการเรียกของพระองค์

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้ทะเยอทะยานอย่างถูกต้อง โปรดช่วยข้าพระองค์ให้จดจ่ออยู่กับ ‘ความยิ่งใหญ่ที่เหนือชั้นของการรู้จักพระเยซูคริสต์ ​องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์’ (ข้อ 8)

เยเรมีย์ 4:10-5:31

จงทะเยอทะยานที่จะกล่าวพระวจนะของพระเจ้า

พระเจ้าตรัสผ่านเยเรมีย์และตรัสว่า 'เพราะประชากรของเราโง่เขลา พวกเขาไม่รู้จักเรา..เขาช่ำชองในการทำชั่ว และพวกเขาไม่รู้ว่าจะทำความดีอย่างไร’ (4:22) เขาเตือนว่าการพิพากษากำลังมาถึงเพราะผู้คนมุ่งความทะเยอทะยานไปในทิศทางที่ผิด

เยเรมีย์คิดว่าผู้นำจะต้องรู้วิธีที่ถูกต้องแน่นอน ‘ข้าพระองค์จะไปหาพวกผู้ใหญ่ และจะพูดกับพวกเขา เพราะเขารู้จักพระมร​คาของพระยาห์เวห์ และรู้จักพระบัญญัติของพระเจ้าของเขา’ (5:5) แต่พวกเขา ‘ปฏิเสธที่จะกลับใจ’ เช่นเดียวกับประชาชน (ข้อ 3ค) ความทะเยอทะยานของพวกเขามุ่งหาเทพเจ้าจอมปลอมแห่งเงิน เพศ และอำนาจ

พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถตอบสนองความต้องการส่วนลึกที่สุดของเราได้ (ข้อ 7ข) พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเจ้าตรัสกับพวกเขาว่า ‘เราจัดหาสิ่งจำเป็นทั้งหมดให้กับพวกเขา แต่พวกเขาก็ล่วงประเวณีและถูกรุมเร้าไปที่บ้านของหญิงแพศยา เป็นเหมือนม้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีอาหารดี มีกำลังวังชา ต่าง ​ร้องหาภรรยาของเพื่อนบ้านของตน’ (ข้อ 7ข–8)

เขาพูดต่อไปว่าบ้านของพวกเขาเต็มไปด้วยการหลอกลวง พวกเขา ‘ใหญ่โตและมั่งมี เขาจึงตัวอ้วนอ่อนนิ่ม’ (ข้อ 27–28ก) แม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวยและมีอำนาจ แต่พวกเขาก็ไม่สนใจคนยากจน ‘ความถูกและความผิดไม่มีความหมายสำหรับพวกเขา พวกเขาไม่ได้ยืนหยัดเพื่อใคร พวกเขาโยนเด็กกำพร้าให้เป็นเหยื่อของหมาป่า หาประโยชน์จากคนยากจน’ (ข้อ 28, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระเจ้าทรงเรียกเยเรมีย์ให้เปี่ยมด้วยคำพูดที่ทรงพลัง ‘เราจะใส่คำพูดของเราเป็นไฟในปากของเจ้า’ (5:14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คุณเองก็สามารถมีประสบการณ์ในการกล่าวพระวจนะอันทรงพลังที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคนรอบข้าง

ข้าแต่พระเจ้า ขอถ้อยคำในปากของข้าพระองค์เป็นเหมือนไฟ เพื่อคนอื่น ๆ จะได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่อันหาที่สุดมิได้ของการรู้จักพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์

Pippa Adds

ฟีลิปปี 3:13ข

‘ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมา แล้วโน้มตัวไปยังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า...’

เป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่ถูกขัดขวางโดยอดีตไม่ว่าในทางใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นความล้มเหลว และความผิดหวัง หรือความสำเร็จซึ่งอาจทำให้เรามั่นใจมากเกินไป แทนที่จะทำเช่นนั้น เราต้องจับตาดูที่พระเยซู

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More