YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 98 OF 365

หยุดความกังวลได้อย่างไร

ผมจำชื่อของชายคนนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำและผมก็นึกถึงคำพูดของเขาได้ไม่มากนัก เราทั้งคู่อายุสิบแปดปี เขาเพิ่งเข้าร่วมในกองทัพ ขณะที่เขายืนขึ้นเพื่อกล่าวคำบรรยาย เขาได้หยิบรองเท้าบูททหารขึ้นมาเพื่อประกอบการเล่าเรื่องให้เห็นภาพมากขึ้น เขาได้เรียกรองเท้าบูทข้างหนึ่งว่า *‘วางใจ’* และอีกข้างหนึ่ง *‘เชื่อฟัง’* เขาพรรณาว่าสิ่งนี้เปรียบเสมือนรองเท้าบูทข้างซ้ายและขวาของชีวิตคริสเตียน ถึงแม้เขาพูดเพียงแค่เจ็ดนาที แต่ภาพตัวอย่างนั้นตราตรึงใจและผมไม่อาจลืมมันได้เลย คำว่า *‘วางใจ’* และ *‘เชื่อฟัง’* เป็นบทสรุปที่ดีมากของชีวิตคริสเตียน เราจะเห็นในเนื้อหาสำหรับวันนี้ว่านี่คือทางออกสำหรับการล่อลวง การทดลอง ความกระวนกระวาย ความวิตกกังวล ความกลัว การล้มลงต่อบาปและการต่อสู้ดิ้นรนอื่น ๆ ในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเยซูทรงสำแดงให้เราเห็นถึงวิธีหยุดความกังวลและดำเนินชีวิตต่อไป

สดุดี 42:6ข-11

การล่อลวงและการทดลอง

บ่อยครั้งที่เราหยั่งรากลึกลงไปในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก ผู้เขียนพระธรรมสดุดีบรรยายสิ่งนี้ออกมาด้วยคำที่ลึกซึ้งกินใจ ‘ที่ลึกกู่เรียกที่ลึก’ (ข้อ 7) สิ่งใดที่ไม่ได้มาจากส่วนลึกในตัวเราจะมิอาจไปถึงส่วนลึกในตัวผู้อื่นได้

จิตใจของผู้เขียนพระธรรมสดุดีนั้นกำลัง ‘ฝ่ออยู่ภายใน’ (ข้อ 6ข) เขารู้สึกราวกับว่าพระเจ้าลืมเขาเสียแล้ว (ข้อ 9) เขา ‘ทุกข์โศกเพราะการบีบบังคับของศัตรู’ (ข้อ 9ข) เขาทรมานดั่งกระดูกที่ ‘แหลกละเอียด’ (ข้อ 10ก) ผู้คนกำลังเยาะเย้ยเขาโดยพูดว่า ‘พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน?’ (ข้อ 10ข) สิ่งนี้คลับคล้ายคลับคลากับวิธีที่บางคนเหน็บแนมคริสเตียนในทุกวันนี้

การล่อลวงและการทดลองของชีวิตปกคลุมเขาได้เหมือนดั่งเสียงน้ำตกของพระองค์ (ข้อ 7) ถึงกระนั้นเขาก็รู้ว่าแม้จะจมอยู่ใต้คลื่นแห่งชีวิต เขาก็วางใจในพระเจ้า เพราะ ‘พระยาห์เวห์ทรงบัญชาความรักมั่นคงของพระองค์ทั้งกลางวัน’ (ข้อ 8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ต่อด้วยภาพของสายน้ำที่เชี่ยว เขาได้ร้องเรียกพระเจ้าว่าเป็น ‘พระศิลาของข้าพเจ้า’ (ข้อ 9) แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าพระเจ้าลืมเขาไปแล้ว แต่เขาก็รู้ถึงความจริงว่าพระเจ้าคือความมั่นคงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้

แต่ใจกลางของเรื่องราวทั้งหมดนี้ เขาได้กล่าวกับตัวเองว่า ‘จิตใจของข้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่? ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายใน? จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าจะยกย่องพระองค์อีก ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระเจ้าของข้า’ (ข้อ 11) โดยการต่อสู้ การล่อลวงและการทดลองทั้งหมดนี้ ให้สายตาของเราจับจ้องที่พระเจ้า ไว้วางใจและเชื่อฟังพระองค์

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงประทานความรักของพระองค์มาสู่ข้าพระองค์ โปรดช่วยข้าพระองค์ที่จะคงไว้ซึ่งความวางใจและเชื่อฟังพระองค์ ‘พระผู้ช่วยให้รอดและพระเจ้าของข้า’ (ข้อ 11)

ลูกา 12:1-34

ความกังวลและความกระวนกระวาย

คุณกังวลมากไหม? คุณเคย ‘จมอยู่กับความหวาดกลัว’ หรือ ‘ตื่นตระหนก’ (ข้อ 7,32, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) หรือไม่? คุณเคย ‘กระวนกระวายถึงปัญหา’ (ข้อ 22, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) หรือไม่?

พระเยซูไม่เคยตรัสว่า ‘อย่ากังวลเพราะไม่มีอะไรต้องกังวล’ แต่พระองค์ตรัสว่า ‘อย่ากังวลแม้ว่าจะมีเรื่องให้ต้องกังวลมากมายก็ตาม’ หลายครั้งพระเยซูตรัสกับสาวกของพระองค์ว่า ‘อย่ากลัว’ (ข้อ 4,7,32) และ ‘อย่ากระวนกระวาย’ (ข้อ 11,22,29) ทางออกสำหรับความกลัวและความกังวลคือการวางใจและเชื่อฟัง พระเยซูทรงประทานเจ็ดวิธีในการจัดการกับความกังวล ความกระวนกระวายและความหวาดกลัว

  1. ยำเกรงพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
    หากคุณมีความยำเกรงพระเจ้าอย่างถูกต้องและมั่นคง คุณก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว (ข้อ 5) ‘อย่าเงียบหรือนิ่งเฉยต่อการข่มเหงของศัตรู ... ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำกับจิตวิญญาณของท่านได้ มอบความยำเกรงของท่านต่อพระเจ้าผู้ทรงครอบครองชีวิต ร่างกายและจิตวิญญาณ ไว้ในพระหัตถ์ทรงฤทธิ์ของพระองค์’ (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

  2. รู้จักคุณค่าในตัวคุณที่มีในองค์พระผู้เป็นเจ้า
    พระเยซูทรงตรัสให้คุณไม่ต้องกังวลหรือกลัว เพราะคุณมีค่าอย่างไร้ขีดจำกัดต่อพระเจ้า พระองค์ทรงรักคุณ ‘ท่านก็มีค่ามากกว่านกกระจาบหลายตัว’ (ข้อ 7ข) พระองค์รู้จักคุณอย่างใกล้ชิดสนิทสนม ‘ถึงผมของพวกท่านก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น' (ข้อ 7ก)

  3. เชื่อในฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์
    พระองค์ทรงตรัสให้คุณไม่ต้องกังวลเพราะคุณสามารถวางใจในการช่วยกู้ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ เมื่อคุณเผชิญการต่อต้านจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก การชุมนุมและอื่น ๆ พระเยซูตรัสว่า ‘อย่ากระวนกระวายว่าจะตอบอย่างไร หรือจะกล่าวอะไร เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงสอนท่านในเวลานั้นเองว่าควรจะพูดอะไรบ้าง’ (ข้อ 11–12)

  4. อย่าพลาดสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
    พระเยซูตรัสว่าความกระวนกระวายจะทำให้คุณพลาดสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตไป ‘ชีวิตของท่านไม่ได้ถูกกำหนดโดยสิ่งที่ท่านมี แม้ว่าท่านจะมีมากแล้วก็ตาม’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระองค์ทรงเล่าเรื่องของเศรษฐีที่มีกิจการที่ประสบความสำเร็จและทำเงินได้มากมายมหาศาล โลกน่าจะต้องชื่นชมเขามาก อย่างไรก็ตามพระเยซูกลับเรียกว่าเขาเป็นคนโง่และคนที่ล้มลงต่อบาป (ข้อ 20) เศรษฐีคนนั้นตั้งสมมติฐานผิด ๆ ว่าเขาอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายปี (ข้อ 19–20) เขาไม่มีความเข้าใจอะไรเกี่ยวกับชีวิตเอาเสียเลย (ข้อ 20)

ชีวิตของเขาจดจ่ออยู่แต่กับตัวเอง คำว่า ‘ข้า’ หรือ ‘ของข้า’ ปรากฏขึ้นถึงสิบเอ็ดครั้ง (ข้อ17–19) ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ‘คนที่ห่อหุ้มเอาไว้แต่ตัวเอง ก็ทำให้ห่อของเขาเล็กน้อยลงตาม’ เขาคิดว่าเขาคู่ควรกับสิ่งที่ทรัพย์สมบัติอันมีค่าของเขา แต่เขากลับล้มเหลวในการเข้าใจหนทางที่จะมั่งมีอย่างแท้จริง เขาไม่ได้ ‘มั่งมีฝ่ายพระเจ้า’ เลย (ข้อ 21) คุณเป็นใครในแบบตัวตนของคุณเองสำคัญยิ่งไปกว่าคุณทำอะไรเพื่อให้มีชีวิตอยู่

  1. ตระหนักว่าความกระวนกระวายเป็นเรื่องไร้ผล
    พระเยซูหนุนใจให้คุณมองข้ามทรัพย์สินทางวัตถุและความต้องการทางกายภาพ ‘อย่ากระวนกระวายว่ามีอะไรวางอยู่บนโต๊ะอาหารหรือจะเอาอะไรนุ่งห่มร่างกาย' (ข้อ 22, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) สิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรผิด แต่ไม่ควรให้ความสำคัญมากเกินไป ‘เพราะว่าชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอาหาร และร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเครื่องนุ่งห่ม’ (ข้อ 23)

  2. วางใจในการทรงเลี้ยงดูและการทรงจัดเตรียมของพระเจ้า
    พระเยซูชี้ให้เห็นว่า ความกังวลนั้นตรงกันข้ามกับความเชื่อ (ข้อ 28) ถ้าคุณเชื่อคุณจะไม่กังวล 'และถ้าพระเจ้าทรงตกแต่งหญ้าที่ทุ่งนาอย่างนั้น ซึ่งเป็นอยู่วันนี้และรุ่งขึ้นต้องทิ้งในเตาไฟ โอ พวกที่มีความเชื่อน้อย พระองค์จะทรงตกแต่งท่านยิ่งกว่านั้นมากนัก!’ (ข้อ 28) ความเชื่อเกี่ยวข้องกับความวางใจในการทรงเลี้ยงดูและการทรงจัดเตรียมของพระเจ้า

  3. แสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า
    ความวางใจมาพร้อมกับการเชื่อฟัง แทนที่จะสะสมทรัพย์สมบัติไว้ใช้เอง คุณต้อง ‘มั่งมีฝ่ายพระเจ้า’ (ข้อ 21) แทนที่จะกังวลเกี่ยวกับสิ่งของวัตถุ คุณควร ‘แสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า’ (ข้อ 31) ซึ่งพระเจ้าทรงประทานให้คุณด้วยเต็มใจ (ข้อ 32) นี่ควรเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของคุณ ‘เพราะว่าทรัพย์สมบัติของพวกท่านอยู่ที่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย’ (ข้อ 34)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์สำหรับการย้ำเตือนของพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ไม่ต้องกังวลและไม่ต้องกลัว โปรดช่วยข้าพระองค์แสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าและวางใจว่า ‘พระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้ให้ (ข้าพระองค์)’ (ข้อ 31)

เฉลยธรรมบัญญัติ 9:1-10:22

ความกลัวและการล้มลงต่อบาป

พระพรของพระเจ้าเป็นพระคุณอันแสนบริสุทธิ์ ‘ไม่ใช่เพราะความชอบธรรมของท่าน หรือความซื่อตรงในใจของท่าน’ (9:5) โมเสสเตือนคนของพระเจ้าถึงสิ่งที่ผิดพลาดไปของพวกเขาในอดีต โมเสสบอกพวกเขาถึงสาเหตุที่มาจากการ ‘ไม่ยอมเชื่อฟังหรือประพฤติตามพระสุรเสียงของพระองค์’ (ข้อ 23)

โมเสสเรียกร้องให้พวกเขาวางใจและเชื่อฟังพระเจ้า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านมีพระประสงค์อะไรจากท่าน? นอกจากให้ยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินตามทางทั้งสิ้นของพระองค์ ให้รักพระองค์ ให้ปรนนิบัติพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน และให้รักษาพระบัญญัติของพระยาห์เวห์และกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้ากำลังบัญชาท่านในวันนี้ เพื่อประโยชน์ของท่าน’ (10:12–13)

เมื่อเราถูกทดลองให้ไม่เชื่อฟังพระเจ้า นั่นเป็นเพราะเราไม่เชื่อว่าพระองค์ทรงประทานผลดีต่อจิตใจของเรา เรามักคิดว่าเรารู้ดีกว่าพระเจ้าว่าอะไรดีที่สุดสำหรับตัวเอง อย่างไรก็ตามความจริงก็คือพระมหาบัญชาทั้งหมดของพระเจ้านั้นก็ ‘เพื่อประโยชน์ของท่าน’ พระเจ้ารักคุณ ทรงห่วงใยคุณและทรงรู้จักคุณ และนั่นคือเหตุผลที่พระองค์ปรารถนาให้คุณเชื่อฟังพระองค์

ความจริงก็คือคุณสามารถวางใจพระเจ้าได้แม้ว่าคุณจะพบว่าพระบัญญัติของพระองค์ยากหรือเข้มงวดมากเพียงใดก็ตาม พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์อำนาจ ทรงเป็นพระเจ้าแห่ง ‘ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงสุด และโลกกับทุกสิ่งที่อยู่ในโลกเป็นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน’ พระองค์ ‘ทรงผูกพัน’ คุณ ‘และทรงรัก’ คุณ ‘และพระองค์ทรงเลือกคุณ’ (ข้อ 14–15)

ความเชื่อนี้อยู่ภายในไม่ใช่แค่ภายนอก ‘จงมีใจเชื่อฟัง’ (ข้อ 16) กระนั้นนี่เป็นความเชื่อที่นำไปสู่การกระทำ คุณถูกเรียกให้ทำตามแบบอย่างของพระเจ้าและประทานความยุติธรรมแก่ลูกกำพร้า และหญิงม่าย และทรงรักคนต่างด้าว จึงประทานอาหารและเครื่องนุ่งห่มแก่เขา (ข้อ 18) จะไม่มีการเหยียดเชื้อชาติเกิดขึ้น เราควรมีความรักและการให้เป็นพิเศษสำหรับคนยากจนและคนต่างด้าว

พระเจ้าทรงสัญญาว่าหากคุณวางใจและเชื่อฟังพระองค์คุณจะเห็นการเติบโตและการทวีคูณ ‘เมื่อบรรพบุรุษของท่านลงไปอียิปต์นั้นมีเพียงเจ็ดสิบคน แต่เดี๋ยวนี้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงให้ท่านมีจำนวนมากมายดุจดวงดาวในท้องฟ้า’ (ข้อ 22)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงประทานความรักให้กับข้าพระองค์ พระองค์ทรงรัก และทรงเลือกข้าพระองค์ ขอโปรดช่วยข้าพระองค์ในวันนี้ให้ยำเกรงและดำเนินชีวิตในทางของพระองค์ รักและรับใช้พระองค์ด้วยสุดใจและสุดชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์อธิษฐานให้คริสตจักรของพระองค์ทวีคูณมากมายเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า

Pippa Adds

ลูกา 12:22

‘อย่ากระวนกระวายถึงชีวิตว่าจะเอาอะไรกิน และอย่ากระวนกระวายถึงร่างกายว่าจะเอาอะไรนุ่งห่ม’

มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะหมกมุ่นอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอก สุขภาพและโภชนาการ ฉันต้องยอมรับว่าเมื่อนึกถึงงานเลี้ยงที่กำลังจะมาถึง สิ่งแรกที่ต้องนึกถึงเลยคือฉันจะใส่อะไรดี?!

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More