พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

กษัตริย์ของคุณ
การเสด็จพระราชสมภพของเจ้าชายจอร์จแห่งเคมบริดจ์ในเดือนกรกฏาคม 2013 นำมาซึ่งความชื่นชมยินดี และการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ทรงเป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ในอนาคตของประเทศอังกฤษ และเป็นผู้สืบทอดลำดับที่ 3 ของการครองราชย์แห่งราชวงศ์อังกฤษ สหราชอาณาจักร ถูกปกครองโดยกษัตริย์และราชินีมานับศตวรรษ และราชวงศ์ของเราเป็นส่วนสำคัญของชีวิตชนทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม ราชวงศ์ในยุคปัจจุบันมีอำนาจที่จำกัด ตรงกันข้ามยุคโบราณ ที่ความเป็นกษัตริย์มีอำนาจเหนือทุกสิ่งอย่าง และกษัตริย์ทรงเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดในทุกด้านของราชการแห่งชาติ ในพันธสัญญาเดิมตอนนี้ เราอ่านถึงการปกครองของกษัตริย์แห่งเปอร์เซียและอิสราเอล แต่ควบคู่ไปกับสิ่งนี้ แต่ละตอนที่เราอ่านยังชี้ไปที่*กษัตริย์*ผู้ทรงยิ่งใหญ่กว่า นั่นคือ พระเจ้า แนวคิดสำคัญในคำสอนของพระเยซู คือ *แผ่นดินของพระเจ้า* ซึ่งไม่ได้สื่อถึงอาณาจักรทางการเมืองหรือในแง่ภูมิประเทศ แต่สื่อถึงเจตนาของพระราชกิจ การปกครองและการครอบครอง *แผ่นดินของพระเจ้า* หมายถึง ‘*การปกครองและการครอบครองของพระเจ้า*’สดุดี 145:1-7
นมัสการองค์จอมกษัตริย์ของคุณ
‘ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ผู้ทรงเป็นกษัตริย์ ข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์ และจะถวายสาธุการแด่พระนามของพระองค์เป็นนิตย์นิรันดร์’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ดาวิดนมัสการองค์จอมกษัตริย์แห่งสรรพสิ่งทั้งปวง: ‘ข้าพระองค์ยกย่องพระองค์ในการสรรเสริญ’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขากล่าวต่อไปว่า ‘ความยิ่งใหญ่ในศักดิ์ศรีอันสูงส่งของพระองค์’ (ข้อ 5ก) และ ‘พระสิริแห่งราชอาณาจักรของพระองค์” (ข้อ 11) ‘ศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่แห่งราชอาณาจักรของพระองค์’ (ข้อ 12) และ ‘ราชอาณาจักรของพระองค์เป็นราชอาณาจักรนิรันดร์ และการครอบครองของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์’ (ข้อ 13)
เขานมัสการองค์จอมกษัตริย์ของเขาทุกวัน: ‘ทุก ๆ วันข้าพระองค์จะถวายสาธุการแด่พระองค์’ (ข้อ 2ก) และกล่าวว่าเขาจะนมัสการต่อไป ‘บัดนี้จนถึงนิตย์นิรันดร์’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาสามารถ ‘นมัสการอย่างไม่หยุดหย่อน’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ดาวิดแต่งบทเพลงแห่งการนมัสการ: ‘ข้าพระองค์แต่งเพลงจากการอัศจรรย์ของพระองค์’ (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
สรรเสริญพระเจ้าในอำนาจและการปกครองของพระองค์ และใน ‘คุณความดีอันอุดมของพระองค์และ ... ความชอบธรรมของพระองค์’ (ข้อ 7) ความชื่นบาน และความปิติยินดีของพระธรรมสดุดี เกิดจากความจริงสองประการที่ว่าพระเจ้าเป็นกษัตริย์ และพระเจ้าทรงแสนดีคุณสามารถวางใจได้ว่า พระองค์ทรงควบคุมอยู่ และนี่คือข่าวดี!
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ครอบครอง พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์แห่งกัลปจักรวาล พระองค์ทรงสมควรแก่การสรรเสริญของข้าพระองค์ ทุก ๆ วันข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์
วิวรณ์ 11:1-19
หวังใจในองค์จอมกษัตริย์ของคุณ
ทำไมชีวิตจึงต่อสู้ดิ้นรนเช่นนี้?? ทำไมผู้บริสุทธิ์จึงยังคงต้องทุกข์ยาก? แล้วมันจะเป็นเช่นนี้ต่อไปหรือไม่? ความทุกข์ยากลำบากนี้จะมาถึงจุดสิ้นสุดหรือไม่? ยังคงมีความหวังเหลืออยู่บ้างไหม? อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร?
ในพระคัมภีร์ของวันนี้ เราได้เห็นแวบหนึ่งว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา อาณาจักรของโลกนี้จะเปลี่ยนแปลงเป็นราชอาณาจักรของพระเจ้าของเรา และองค์พระเมสสิยาห์ผู้ที่ ‘จะปกครองตลอดนิตย์นิรันดร’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระเยซูเสด็จมาประกาศถึงแผ่นดินของพระเจ้า มีทั้งในแง่ของ ‘ตอนนี้’ และ แง่ที่‘ยังมาไม่ถึง’
ทุกสิ่งที่พระเยซูทรงทำในพันธกิจของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงความจริงเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าในตอนนี้ การปกครองและการครอบครองของพระเจ้าถูกแสดงให้เห็นด้วยการปราบปรามความชั่วร้าย พิธีเปิดแผ่นดินของพระเจ้าเห็นได้จาก ตัวอย่างเรื่อง การอภัยบาป การขับผี และการรักษาคนป่วย
ในอีกด้านหนึ่ง แง่มุมอนาคตของแผ่นดินพระเจ้าปรากฏชัดขึ้นโดยทางพระเยซู พระองค์สอนสาวกให้อธิษฐานว่า ‘ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่’ (มัทธิว 6:10) พระองค์กล่าวถึงฤดูเก็บเกี่ยวว่า ‘เวลาสิ้นยุค’ (13:39) ดูเหมือนว่าแผ่นดินของพระเจ้ายังไม่ถูกตระหนักอย่างเต็มที่จนกว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมา
พระธรรมวิวรณ์ในวันนี้พรรณนาถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนที่แผ่นดินของพระเจ้าจะมาตั้งอยู่อย่างบริบูรณ์ ประชากรของพระเจ้า ถูกข่มเหง และได้รับการปกป้องไปในขณะเดียวกัน
จะมีพยานทั้งสอง (วิวรณ์ 11:3) ระบบทางกฏหมายในพันธสัญญาเดิมระบุว่าต้องมีพยาน 2 ปากเสมอ (เฉลยธรรมบัญญัติ 19:15; ยอห์น 8: 17) พระเยซูทรงส่งพยานออกไปทีละคู่เสมอ
พยานทั้งสองนี้ น่าจะหมายถึง โมเสส (ผู้ที่เปลี่ยน ‘น้ำจะกลายเป็นเลือดได้ อพย.7:17-19’ วิวรณ์ 11:6) และเอลียาห์ (‘ปิดท้องฟ้าได้’, ข้อ 6) ‘เพราะผู้เผยพระวจนะทั้งสองนี้ได้ทรมานคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก ทำให้การมีความสุขในความบาปของพวกเขานั้นเป็นไปไม่ได้’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พยานทั้งสองเผยพระวจนะเป็นเวลา 1,260 วัน (42 เดือน หรือ สามปีครึ่ง) นี่เป็นสัญลักษณ์ของช่วงเวลาระหว่างการเสด็จมาครั้งแรกและครั้งที่สองของพระเยซู
พวกเขาถูกสัตว์ร้ายฆ่าตายก่อนสิ้นยุคเพียงเล็กน้อย ศพของเขาทั้งสองอยู่บน ‘ถนนในมหานครนั้น’ (ข้อ 8) นั่นก็คือกรุงโรมหรือบาบิโลน ที่มีชื่อสัญลักษณ์ว่า ‘โสโดมและอียิปต์' และ ‘ซึ่งเป็นเมืองที่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเขาถูกตรึงกางเขน’ (ข้อ 8) คือ กรุงเยรูซาเล็ม
ในช่วงเวลาอันแสนสั้น ๆ (‘3 วันครึ่ง’, ข้อ 9) คนทั้งหลายยินดีด้วยเรื่องการตายเขาทั้งสอง (ข้อ 10) แล้วพระเจ้าก็ทรงให้เขาทั้งสองฟื้นคืนชีพ: ‘ลมปราณจากพระเจ้าก็เข้าสู่ศพของเขา และเขาทั้งสองก็ลุกขึ้นยืนด้วยขาตัวเอง –คนทั้งหลายที่ยินดีจากการตายของเขาทั้งสองเมื่อได้เห็นดังนั้นก็ตกอยู่ในความกลัวอย่างยิ่ง’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) แล้วเขาทั้งสองก็ขึ้นสู่สวรรค์เพราะช่วงเวลาแห่งการพิพากษาครั้งสุดท้ายนั้นได้ใกล้เข้ามาแล้ว (ข้อ 12-13)
นี่คือช่วงเวลาที่แตรคันที่เจ็ดถูกเป่าขึ้นมีสามลำดับต่อเนื่องกันในเรื่องนี้ อย่างแรก แผ่นดินพระเจ้าได้มาถึงความบริบูรณ์ (ข้อ 15) อย่างที่สอง คริสตจักรที่บริบูรณ์ (‘ผู้อาวุโส 24 คน’, ข้อ 16) นมัสการองค์กษัตริย์ ซบหน้าลงนมัสการพระเจ้าและทูลว่า
‘ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด
|ผู้ที่เป็นอยู่และผู้ที่ทรงเคยเป็นอยู่
|เพราะพระองค์ทรงถือครองฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์แล้ว
|และทรงเริ่มครอบครอง’ (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
อย่างที่สาม การพิพากษาครั้งสุดท้ายได้เริ่มต้นขึ้น (ข้อ 18) ผู้ที่ทำลายจะถูกทำลาย พระเจ้าจะประทานบำเหน็จแก่ ‘ผู้เผยพระวจนะและธรรมิกชน’ ของพระองค์ ทั้ง ‘ใหญ่และเล็ก’ จะได้รับบำเหน็จ
เช่นเคย ในพระธรรมวิวรณ์ ฉากต่าง ๆ เหล่านี้เป็นดั่งสัญลักษณ์ โมเสสและเอลียาห์ เขาทั้งสองเป็นพยานของพระเจ้า พวกเขาเป็นภาพแห่งความกล้าหาญและอำนาจอันใหญ่ยิ่ง ที่เผชิญการต่อต้านและทุกข์ก่อนที่จะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นไทครั้งสุดท้าย
นี่คือความเป็นจริงของสิ่งที่คุณคาดหวังได้ในช่วงเวลาระหว่างการเสด็จมาครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ของพระเยซู ช่วงเวลาที่คุณมีชีวิตอยู่ในตอนนี้นี่คือการต่อสู้ระหว่างราชอาณาจักรของพระเจ้าและอาณาจักรของ ‘สัตว์ร้าย’ แต่คือการต่อสู้ที่คุณรู้ว่าจะลงเอยเช่นไร
การต่อสู้ในชีวิตของคุณจะมาถึงจุดจบ ผู้บริสุทธิ์จะไม่ทนทุกข์อีกต่อไป นี่คือความหวังอันยิ่งใหญ่แห่งอนาคต พระเยซูจะเสด็จกลับมา พระองค์จะครอบครองตลอดไปเป็นนิตย์
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่วันหนึ่งแผ่นดินโลกจะกลายมาเป็นแผ่นดินขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และของพระคริสต์ และที่พระองค์จะครอบครองตลอดไปเป็นนิตย์
เอสรา 4:6-5:17
วางใจในองค์จอมกษัตริย์ของคุณ
คุณเคยถูกใส่ร้าย หรือถูกวิพากษ์วิจารณ์กับเจ้านาย หรือบางคนที่มีอำนาจเหนือคุณ อย่างไม่ยุติธรรมหรือไม่?
คุณเคยรู้สึกบ้างไหมว่า การงานของพระเจ้านั้นถูกขัดขวาง หรืออาจจะต้องหยุด เพราะการต่อต้าน จากเขตเทศบาล จากเจ้านายของคุณในที่ทำงาน หรือจากองค์กรอื่น ๆ ที่มีอำนาจ
ผู้นำที่เป็นมนุษย์นั้นเต็มไปด้วยอำนาจ และพวกเขาสามารถใช้มันในการทำสิ่งที่ดีหรือชั่วก็ได้ อารทาเซเซอร์ซีสเป็นกษัตริย์แห่งเปอร์เซีย (4:7) ทรงได้รับสิ่งที่ถูกอธิบายไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าเป็น 1 ใน ‘จดหมายที่น่าหวาดกลัว’ เป็นจดหมายจากผู้ที่ต่อต้านงานของพระเจ้า ในจดหมายนั้นเต็มไปด้วยคำเยินยอ ความจริงเพียงครึ่งเดียวและแม้กระทั่งคำโกหก
ผู้ที่เขียนจดหมายนั้นพยายามที่จะทำให้มันดูราวกับว่า พวกเขากำลังช่วยเหลือองค์กษัตริย์อยู่ ‘ขอพระองค์ทรงทราบ.....’ (ข้อ 12-13) มันพรรณนาถึงกรุงเยรูซาเล็มว่าเป็นเมืองแห่งการกบฏและความชั่วร้าย จากนั้นในตอนนี้เงินในเมืองนี้ถูกบริหารจัดการอย่างไม่เหมาะสม และคำขู่ว่า ‘เขาจะไม่ส่งบรรณาการ ค่าธรรมเนียม หรือภาษี และเงินรายได้ของหลวงก็จะขาดไป’ (ข้อ 13) เป็นสิ่งที่ทรงพลัง เพราะบอกเป็นนัยว่า องค์กษัตริย์จะถูกทำให้ ‘เสื่อมเกียรติ’ (ข้อ 14) โดยเมืองที่กบฏและสร้างปัญหานี้ ผลก็คืองานของการสร้างพระวิหารและกรุงเยรูซาเล็มขึ้นต้องหยุดชะงัก (ข้อ 24)
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องรับความเกลียดชังเช่นนั้นเป็นสิ่งหนุนใจที่ได้ทราบว่าคุณไม่ใช่แค่เพียงคนเดียวที่ได้รับจดหมาย ‘กล่าวหา’ นั้น (ข้อ 6) จากประชากรผู้ถูกข่มขู่ (ข้อ 22) และผู้ที่อยากให้งานนี้หยุด (ข้อ 21) เรารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะไม่มีใครต่อต้านได้สำเร็จ หากพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังแผนการณ์นั้น อย่างไรก็ตาม มันสามารถถ่วงเวลา และทำให้งานนี้หยุดลงแค่ชั่วคราวเท่านั้น
สุดท้ายแล้ว บรรดาผู้ใส่ร้ายก็ทำไม่สำเร็จ เมื่อกษัตริย์องค์ใหม่ขึ้นครองอำนาจและเราได้รับทราบว่า ‘แต่พระเนตรของพระเจ้าอยู่เหนือเหล่าผู้นำ’ (5:5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
คำรายงานที่ดีถูกส่งไปยังกษัตริย์ดาริอัส ในจดหมายได้กล่าวถึงกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอิสราเอลผู้สร้างพระวิหารจนสำเร็จ (ข้อ 11) และการอนุญาตครั้งนี้มาจากพระราชกฤษฎีกาของกษัตริย์ไซรัสแห่งบาบิโลน (ข้อ 13)
ที่สุดแล้วคุณสามารถวางใจในอธิปไตยของพระเจ้า ‘พระทัยพระราชาเหมือนธารน้ำในพระหัตถ์พระยาห์เวห์ พระเจ้าจะทรงชักนำไปทางไหนก็ตามแต่จะโปรด’ (สุภาษิต 21:1) อย่าฝากความหวังอันสูงสุดของคุณไว้กับผู้นำที่เป็นมนุษย์ จงหวังใจในพระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์กษัตริย์ของคุณ
ผู้นำที่เป็นมนุษย์มาแล้วจากไป บางคนก็ดี บางคนชั่วร้าย แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุมสูงสุดอยู่เหนือประวัติศาสตร์
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ความเป็นกษัตริย์ทั้งปวงล้วนชี้ไปยังความเป็นกษัตริย์ของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ได้เห็นราชอาณาจักรของพระเจ้ามาตั้งอยู่ ในชนชาติ ในเมือง และในชุมชนที่ข้าพระองค์อาศัยอยู่
Pippa Adds
สดุดี 145:4
‘คนรุ่นหนึ่งจะยกย่องพระราชกิจของพระองค์ให้คนอีกรุ่นหนึ่งฟัง และจะประกาศกิจการอันทรงอานุภาพของพระองค์’
เรามีความรับผิดชอบในการส่งต่อพระกิตติคุณ เพื่อบอกให้คนรุ่นต่อไปได้รู้ถึงการรักษาโรค คำพยาน และเรื่องราวอันอัศจรรย์เหล่านี้ ที่พระเจ้าทรงกำลังกระทำอยู่ในชีวิตของเรา ที่เราได้ยินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันตลอดชีวิตของเรา
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Faith in Action: A Journey Through James

Reimagine Transformation Through the Life of Paul

My Problem With Prayer

How to Love Your Work and God

How to Love Like Jesus

The Letter to the Philippians

Lighting Up Our City Video 2: Avoiding Insider Language

The Discipline of Study and Meditation

How Is It With Your Soul?
