พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

ปลดล็อกวิวรณ์
มาร์ติน ชีน และ มาร์ลอน แบรนโด้ เป็นนักแสดงนำในมหากาพย์หนังสงครามเวียดนาม เรื่อง *‘กองทัพอำมหิต (Apocalypse now)'* ในปี 1979 การใช้คำว่า ‘*การเปิดเผย (apocalypse)*' อยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจคำนี้ผิดไปอย่างแพร่หลายว่าหมายถึง 'การทำลายล้าง (destruction)' คำภาษากรีก อะพอคาลูพสิส (apokalupsis) ซึ่งแปลว่า ‘สำแดง’ (วิวรณ์ 1:1) ประกอบด้วย 2 คำ คือ apo (ออกมาจาก) และ kalupsis (‘การซ่อนอยู่’) ที่จริงแล้วคำนี้ แปลว่า ‘สำแดง’ ในพระธรรมวิวรณ์ ผ้าคลุมถูกเปิดออก และเรื่องราวอันล้ำลึกถูกเปิดเผย ‘วิวรณ์ของพระเยซูคริสต์’ (ข้อ 1) มีความหมายด้วยกัน 2 ประการ ประการแรก คือการสำแดงจากพระเยซู ประการที่สองคือการเปิดเผยเกี่ยวกับพระเยซู ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม และสำแดงในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ในพระธรรมวิวรณ์ พระเยซูทรงได้รับการเปิดเผย โดยเราเห็นการเปิดเผยนี้ชัดเจนขึ้นผ่านความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อเรา และชัยชนะของพระองค์เหนือความชั่วร้ายสดุดี 140:1-5
การสำแดงความชอบธรรมของพระเจ้า
ดาวิดอธิษฐานให้รอดพ้นจากคนชั่วร้าย ที่ปลุกปั่นตามแผนร้ายที่อยู่ในใจ (ข้อ 2ก) ถ้อยคำชั่วร้าย (ข้อ 3) และการกระทำอันชั่วร้าย (ข้อ 4)
ความชั่วร้ายไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนอื่นเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของตัวเราด้วย เราทุกคนล้วนเคยมีความคิดชั่วร้าย กล่าวถ้อยคำทำร้ายจิตใจ และกระทำผิด เราทุกคนต่างล้มเหลวที่จะเป็นเป็นผู้ชอบธรรม
อัครสาวกเปาโล เขียนไว้ว่า 'ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียวไม่มีเลย’ (โรม 3:10) แล้วอธิบายต่อไปถึงประเด็นโดยใช้ข้อพระคัมภีร์จากพระธรรมสดุดีของเรา ‘พิษของงูพิษอยู่ใต้ริมฝีปากของเขา’ (สดุดี 140:3 และ โรม 3:13)
แต่เปาโลได้อธิบายว่าความชอบธรรมจากพระเจ้าได้ ‘ปรากฏ’ (โรม 3:21, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Good News Bible โดยผู้แปล) ความชอบธรรมจากพระเจ้าได้เข้ามาสู่ผู้เชื่อทุกคนผ่านทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์’ (ข้อ 22)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับ การสำแดงความชอบธรรมของพระองค์ ซึ่งมาถึงเราทุกคนผ่านทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์
วิวรณ์ 1:1-20
การสำแดงของพระเยซูคริสต์
พระธรรมเล่มนี้เป็นบันทึกของอัครสาวกยอห์นถึงการเปิดเผยสำแดงของพระเยซู ซึ่งมาถึงเขาในขณะที่กำลังนมัสการ ยูจีน ปีเตอร์สัน เขียนไว้ว่า ‘เราได้อยู่ในรายชื่อของผู้ที่มีส่วนร่วมในการนมัสการพระเจ้าของคริสเตียนในหลากหลายมิติ’ ยอห์น ‘ได้นมัสการพระเจ้าภายในใจของเขาและได้คิดใคร่ครวญเกี่ยวกับการนมัสการนั้น’ พระเจ้าตรัสผ่านยอห์น ในขณะที่เขากำลังนมัสการ และพระเยซูทรงปรากฏขึ้น
พระธรรมวิวรณ์เขียนถึงคริสตจักรทั้งเจ็ดในแคว้นเอเชียไมเนอร์ (ข้อ 11) ซึ่งอัครสาวกยอห์นผู้ซึ่งถูกเนรเทศมาที่เกาะปัทมอสเป็นผู้อภิบาลอยู่ ‘เพราะเหตุพระวจนะของพระเจ้าและคำพยานของพระเยซู’ (ข้อ 9) ยอห์นได้เห็น ‘คันประทีปทองคำเจ็ดคัน’ (ข้อ 12) ซึ่งเขาบอกเราว่า นี่เป็นตัวแทนของ ‘คริสตจักรทั้งเจ็ด’ (ข้อ 20)
เลขเจ็ด (7) ในพระคัมภีร์เป็นตัวเลขแห่งความสมบูรณ์ และความบริบูรณ์ ดังนั้น นี่อาจหมายถึงคริสตจักรทั้งหมด จดหมายนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อคุณและผม พระเยซูทรงเรียกยอห์นให้เขียนสิ่งที่เขาเห็น เขาจึงเริ่มที่จะปลดล็อก ‘ความล้ำลึก’ “ดาวเจ็ดดวงก็คือบรรดาทูตสวรรค์ของคริสตจักรทั้งเจ็ด และคันประทีปเจ็ดคันนั้นก็คือคริสตจักรทั้งเจ็ด” (ข้อ 20) สิ่งนี้บอกเราว่า ในทุกคริสตจักรรวมถึงคริสตจักรของคุณด้วย มีทูตสวรรค์เป็นของตัวเอง พระเยซูทรงถือทุกคริสตจักรเอาไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์
ยอห์นได้เปิดเผยถึงธรรมชาติของความจริงฝ่ายวิญญาณ โดยใช้บทประพันธ์ บทเพลง ภาพเปรียบเทียบ นิมิต สัญลักษณ์ และรูปภาพ ส่วนต่าง ๆ ในพระธรรมวิวรณ์นั้นยากที่จะเข้าใจได้ แต่คุ้มค่าที่จะค้นคว้าต่อไป นี่เป็นพระธรรมเพียงเล่มเดียวจากพระคัมภีร์ทั้งเล่มที่ถูกกล่าวไว้อย่างเจาะจงว่า บุคคลที่อ่านพระธรรมเล่มนี้จะได้รับพระพร ‘ความสุขมีแก่ผู้ที่อ่านและแก่บรรดาผู้ที่ฟังคำเผยพระวจนะ แล้วประพฤติตามสิ่งต่าง ๆ ที่เขียนไว้ในนั้น’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ดูเหมือนว่า คริสเตียนในยุคแรกเริ่มได้เปลี่ยนวันหยุดพักและการนมัสการพระเจ้าจากวันเสาร์ (วันสะบาโต) มาเป็นวันอาทิตย์ การเปิดเผยเริ่มต้นขึ้น ‘ในวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า...’ (ข้อ 10) คือ วันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ฟื้นคืนพระชนม์ หรือวันอาทิตย์นั่นเอง
เช่นเดียวกับพระคัมภีร์ทั้งเล่ม ศูนย์กลางของพระธรรมวิวรณ์อยู่ที่พระเยซู ‘พระเยซูคริสต์ พยานผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นผู้แรกที่ทรงเป็นขึ้นจากตาย และเป็นผู้ทรงครอบครองเหนือบรรดากษัตริย์ในโลก’ (ข้อ 5) ง่ายมากที่จะจมลงในรายละเอียดของพระธรรมวิวรณ์ สิ่งสำคัญคือ จดจ่อที่พระเยซู สาระกว้างๆ ของพระธรรมเล่มนี้ชี้ชัดว่า พระเยซูชนะ!
พระเยซูทรงเป็นผู้เดียวที่ ‘ทรงรักเรา ทรงปลดปล่อยเราจากบาปของเราด้วยพระโลหิตของพระองค์ และทรงตั้งเราให้เป็นอาณาจักรและเป็นพวกปุโรหิตของพระเจ้าพระบิดาของพระองค์’ (ข้อ 5ข-6) ผ่านทางพระเยซู คุณเป็นที่รัก และได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการของคุณ และได้รับการยกชูขึ้น
คุณค่าของคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณทำ หรือสิ่งที่คุณเป็น หรือสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ คุณมีค่า และคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะพระเยซูทรงรักคุณมาก จนหลั่งพระโลหิตของพระองค์เพื่อคุณ
พระเยซูกำลังจะเสด็จมาอีกครั้ง และจะไม่เกิดขึ้นอย่างลับ ๆ ทุกคนจะได้เห็น ‘นี่แน่ะ พระองค์จะเสด็จมาพร้อมกับหมู่เมฆ และนัยน์ตาทุกดวงจะเห็นพระองค์ แม้แต่คนทั้งหลายที่แทงพระองค์’ (ข้อ 7) คุณอยู่ฝ่ายผู้ชนะ พระเยซูกำลังเสด็จกลับมา และคุณจะได้ชื่นชมยินดีชั่วนิรันดร์ร่วมกับพระองค์
ยอห์นเห็น ‘ผู้หนึ่ง “เหมือนบุตรมนุษย์”’ (ข้อ 13) นี่คือวิธีการที่พระเยซูชอบใช้ในการอ้างถึงพระองค์เอง เขาเห็นพระเยซูทรงเต็มไปด้วยพระสง่าราศีทั้งสิ้น ‘ทรงฉลองพระองค์ยาวคลุมพระบาท และทรงคาดแถบทองคำที่พระอุระ’ (ข้อ 13) เขาเห็นพระองค์ในความบริสุทธิ์และทรงอยู่เหนือกาลเวลา ‘พระเศียรและพระเกศาของพระองค์… ขาวเหมือนอย่างหิมะ พระเนตรของพระองค์เหมือนอย่างเปลวไฟ พระบาทของพระองค์เหมือนทองสัมฤทธิ์ประหนึ่งหลอมบริสุทธิ์แล้วในเตาไฟ พระสุรเสียงของพระองค์เหมือนอย่างเสียงน้ำมากหลาย’ (ข้อ 14-15)
เขาเห็นความงดงามทั้งสิ้นในการปรากฎของพระองค์ ‘พระหัตถ์ขวาของพระองค์ทรงถือดวงดาวเจ็ดดวง และมีดาบสองคมที่คมกริบออกมาจากพระโอษฐ์ และพระพักตร์ของพระองค์เหมือนอย่างดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงแรงกล้า’ (ข้อ 16) บางครั้ง เมื่อผู้คนได้ใช้เวลาอยู่ในการทรงสถิตของพระเยซู ใบหน้าของพวกเขาดูเหมือนจะทอแสง สิ่งนี้ทำให้เราสัมผัสว่า องค์พระเยซูเองทรงเป็นอย่างไร
การตอบสนองของยอห์นต่อการปรากฏของพระเยซูคือนมัสการ: ล้มลง ‘แทบพระบาทของพระองค์เหมือนอย่างคนตาย’ (ข้อ 17) พระเยซูทรงวางพระหัตถ์บนเขา กล่าวว่า ‘อย่ากลัวเลย เราเป็นเบื้องต้นและเป็นเบื้องปลาย เป็นผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์ และเราถือกุญแจทั้งหลายแห่งความตายและแห่งแดนคนตาย’ (ข้อ 17-18 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
องค์พระเยซูพระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์อยากล้มตัวลงแทบพระบาทพระองค์ และนมัสการพระองค์ในวันนี้ ข้าพระองค์ขอมอบความกลัวของข้าพระองค์ในวันนี้ให้กับพระองค์ ขอบพระคุณที่ในที่สุดแล้ว ข้าพระองค์นั้นปลอดภัยอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์
เศคาริยาห์ 9:1-11:17
การสำแดงของพระผู้ช่วยให้รอด
ทำไมบางคนจึงสามารถคิดบวกได้ตลอดเวลา? ทั้งหมดล้วนเกิดจากคำสั้นๆ ว่า ‘ความหวัง’ ดังที่ปรากฏในบทนี้ พระเยซูทรงปลดปล่อยให้ผู้ถูกคุมขังได้เป็นอิสระจาก ‘คุกที่ไร้ซึ่งความหวังของพวกเขา’ (9:11 , พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระเยซูทรงเติมคุณด้วยความหวัง ไม่ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของคุณจะเลวร้ายเพียงใด อย่าหมดหวัง เราต่างเป็น ‘เชลยที่มีความหวัง’ (ข้อ 12) จอยซ์ ไมเยอร์ เขียนไว้ว่า ‘ความหวังที่แท้จริง คือ ทัศนคติแง่บวกแบบคงเส้นคงวา ที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสถานการณ์ตอนนี้ สิ่งต่างๆ จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น’
ถ้อยคำของเศคาริยาห์นั้นเป็นจริงในหลายระดับ ซึ่งไปไกลเกินกว่าที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของบทที่ 9 (ผ่านทางพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชและกองทัพแมคคาบีส์)ซึ่งสำเร็จเป็นจริงแล้วในพระเยซู
‘นี่แน่ะกษัตริย์ของเธอเสด็จมาหาเธอ ทรงความชอบธรรมและความรอด พระองค์ทรงอ่อนสุภาพและทรงลา ทรงลูกลา’ (ข้อ 9) ถ้อยคำเหล่านี้ได้เกิดขึ้นจริงในวันอาทิตย์ทางตาลแรก เมื่อพระเยซูเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มด้วยการทรงลา (มัทธิว 21:1-5, มาระโก 11:1-11)
เศคาริยาห์เห็นล่วงหน้าว่า กษัตริย์ผู้ถ่อมใจและชอบธรรมจะนำความรอดมา พระองค์ทรงอ่อนน้อม มีใจถ่อม และยากจนแต่เพียงภายนอก ราชอาณาจักรของพระองค์นั้นมิได้มาโดยการสู้รบเหมือนอาณาจักรทั่วไป พระองค์ไม่ใช่กษัตริย์นักรบ (เศคาริยาห์ 9:10)
พระองค์จะนำสันติภาพมาสู่ชาวยิวและคนต่างชาติ (ข้อ 10 ดูเอเฟซัส 2:17) แผ่นดินของพระองค์จะตั้งอยู่จากทะเลนี้ไปถึงทะเลโน้น (เศคาริยาห์ 9:10) คุณจะได้มีประสบการณ์ในพระพรอันยิ่งใหญ่ ‘เพราะโลหิตแห่งพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่อเจ้า’ (ข้อ 11)
พระองค์นำอิสรภาพมาสู่เชลย(ข้อ 11 ดู อิสยาห์ 61:1, ลูกา 4:18) พระองค์ทรงนำความมั่นคงมา ‘เชลยที่มีความหวังเอ๋ย จงกลับไปยังที่กำบังเข้มแข็งของเจ้า’ (เศคาริยาห์ 9:12) พระองค์นำพระพรยิ่งใหญ่มา ‘เราจะคืนแก่เจ้าสองเท่า’ (ข้อ 12) ไม่มีใครสามารถเอาชนะพระองค์ได้ ‘อย่างดาบของนักรบ’ (ข้อ 13 ดูวิวรณ์ 1:16) พระองค์นำความรอดมา (เศคาริยาห์ 9:16, ดูลูกา 12:32, ยอห์น 10:1-16)
มีพระสัญญาอันงดงามอีกมากมายในคำพยากรณ์ของเศคาริยาห์ รวมถึงพระเยซู ‘ศิลามุมเอก’ (เศคาริยาห์ 10:4) และผู้ ‘เลี้ยงดูฝูงแกะ’ ผู้ซึ่งจะอภิบาลฝูงแกะด้วย ‘พระคุณ’ และ ‘สหภาพ’ (11:7) ในทางตรงกันข้ามกับเหล่าผู้เลี้ยงแกะ ‘ผู้ไร้ค่า’ ที่ถูกกล่าวถึงในที่นี้ (ข้อ 15) คุณถูกเรียกให้ ‘แสวงหาตัวที่หลงหาย’ ‘รักษาตัวที่กระดูกหัก’ และ ‘เลี้ยงดูตัวที่ปกติ’ (ข้อ 16)
เรายังเห็นในพระธรรมตอนนี้ ถึงสิ่งที่เป็นเงาล่วงหน้าเรื่อง การทรยศของยูดาส ‘เงิน 30 แผ่น’ (ข้อ 12) ที่เป็นราคาค่าหัวของพระเยซู (ดูมัทธิว 26:15)
แทบทุกรายละเอียดของชีวิตพระเยซู บุคลิกลักษณะ พันธกิจ การวายพระชนม์ การฟื้นคืนพระชนม์ และชัยชนะนั้นได้ถูกกล่าวไว้ล่วงหน้าในทางใดทางหนึ่งในพันธสัญญาเดิม และถูกเปิดเผยในพันธสัญญาใหม่
พระบิดา ขอบพระคุณสำหรับการเปิดเผยของพระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอด และองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
Pippa Adds
วิวรณ์ 1:13-17
ในการเห็นพระเยซู ยอห์นเขียนไว้ว่า ‘เมื่อข้าพเจ้าได้เห็นพระองค์ ก็ล้มลงแทบพระบาทของพระองค์เหมือนอย่างคนตาย’
เป็นการง่ายที่จะคิดถึงพระเยซูในฐานะพระอาจารย์ผู้อ่อนโยนที่เดินอยู่รอบ ๆ เมืองกาลิลี และทำสิ่งดีงาม แต่ในที่นี้ เราได้เห็นพระองค์ฟื้นคืนพระชนม์ ในพระสง่าราศีทั้งสิ้นของพระองค์ ที่ซึ่งการตอบสนองอย่างเหมาะสมมีเพียงการก้มกราบนมัสการพระองค์
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

The Creator's Battle: Winning the Inner War for Your Art

The Holy Spirit: God Through Us

What Is "The Way of Christ?"

When God Makes Things Right: A 5-Day Devotional on Nahum

Read the Bible Effectively

HomeFirst: Finding Balance, Embracing Ease, and Living a Christ-Centered Life

BE a PILLAR

When Tithing Feels Impossible: 3 Truths That Free You From Financial Guilt

Journey Through Esther
