พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระสัญญาของพระเจ้า
บิลลี่ เบรย์ เกิดในปี 1794 เป็นคนงานเหมืองจากมณฑลคอร์นวอล เขาเป็นคนติดเหล้า เขามักจะเข้าไปพัวพันกับการชกต่อย และการโต้เถียงในครัวเรือน เมื่ออายุได้ยี่สิบเก้าปีเขาได้พบกับพระเยซู เขากลับบ้าน และพูดกับภรรยาว่า ‘คุณจะไม่เห็นผมเมาอีกโดยความช่วยเหลือจากพระเจ้า’ จากนั้นภรรยาของเขาก็ไม่เคยเห็นเขาเมาเหล้าอีกเลย คำพูด น้ำเสียง และรูปลักษณ์ของเขาเหมือนมีพลังแม่เหล็ก ราวกับว่าเขาถูกชาร์จไฟของพระเจ้า คนงานเหมืองจำนวนมากจะมาฟังเขาเทศน์นา หลายคนกลับใจใหม่และได้รับการเยียวยาที่น่าทึ่งบางอย่าง เขารักพระคัมภีร์และกล่าวว่า ‘*พระสัญญาของพระเจ้า*นั้นดีพอ ๆ กับวันใดก็ตามที่มีเงินสด’ พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งพระสัญญา ความเชื่อเกี่ยวข้องกับการไว้วางใจพระสัญญาของพระเจ้า พระเจ้าทรงสัญญา ความเชื่อจะเชื่อมั่น ความหวังจะคาดหวัง ความอดทนจะรออย่างเงียบ ๆสดุดี 119:161-168
พบความชื่นชมยินดี ความพอใจ สันติสุขในพระสัญญา
ผู้เขียนพระธรรมสดุดีกล่าวว่า ‘บรรดาผู้ที่รักธรรมบัญญัติของพระองค์ มีความสมบูรณ์พูนสุขอย่างมาก ไม่มีสิ่งใดทำให้พวกเขาสะดุดได้’ (ข้อ 165) ผมจำได้ว่ามีวัยรุ่นที่ไม่เชื่อในพระเจ้าคนหนึ่งเข้าร่วมหลักสูตรอัลฟ่าได้เล่าถึงความรู้สึกว่างเปล่าและเปล่าประโยชน์ในชีวิตของเธอ สิ่งที่เธอสังเกตเห็นเกี่ยวกับคริสเตียนคือพวกเขามีสันติสุขอย่างยิ่ง เธอตระหนักว่าสิ่งนี้มาจากความเชื่อ
ที่สุดท้ายที่หลายคนคาดหวังว่าจะพบสันติสุข ความพอใจ และความชื่นชมยินดีคือถ้อยคำในพระคัมภีร์ไบเบิล ถึงกระนั้นผู้เขียนพระธรรมสดุดีกล่าวว่า ‘ข้าพระองค์ปีติยินดีเพราะพระดำรัสของพระองค์อย่างผู้ที่ได้พบของที่ริบมาเป็นอันมาก’ (ข้อ 162)
ผู้เขียนบรรยายพระวจนะของพระเจ้าโดยใช้สำนวนต่าง ๆ มากมาย เขาใช้คำว่า ‘พระวจนะของพระองค์’ (ข้อ 161) ‘ธรรมบัญญัติของพระองค์’ (ข้อ 163, 165) ‘พระบัญญัติ’ (ข้อ 166) ‘พระโอวาท’ (ข้อ 167, 168) และ ‘ข้อบังคับ’ (ข้อ 168) แต่ผู้เขียนอธิบายในพระธรรมตอนนี้ว่า พระคำของพระเจ้าเป็น ‘พระสัญญา’ (ข้อ 162)
พระคำของพระเจ้าคือพระสัญญาของพระองค์ การพบพระคำเหมือนกับการค้นพบขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งคุณขุดลึกมากเท่าไหร่ ก็จะค้นพบขุมทรัพย์ที่น่าอัศจรรย์และงดงามมากขึ้นเท่านั้น นี่ทำให้ผู้เขียนสดุดี กล่าวว่า ‘ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์วันละเจ็ดครั้ง’ (ข้อ 164)
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์สำหรับขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ ที่อยู่ในพระคำของพระองค์ โปรดประทานสันติสุขในวันนี้ที่ข้าพระองค์ได้วางใจในพระสัญญาของพระองค์
ฮีบรู 6:13-7:10
วางใจในพระสัญญาและอดทนรอคอย
อับราฮัมรอมา 25 ปี โจเซฟรอ 13 ปี โมเสสรอ 25 ปี พระเยซูรอ 30 ปี ถ้าพระเจ้าทำให้คุณรอ แสดงว่าคุณเป็นพวกเดียวกัน
ผมมักพบว่าช่องว่างระหว่างพระสัญญาของพระผู้เป็นเจ้ากับความสัมฤทธิ์ผลนั้นยาวนานกว่าที่ผมคาดไว้มาก ผมเรียนรู้ที่จะอดทนมากขึ้น พระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่อเราเป็นสมอของจิตวิญญาณเรา (6:19) มีความแน่นอนและมั่นคง พระองค์ทรงรักษาคำพูดของพระองค์ แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้หรือแม้ว่าสถานการณ์จะชี้ไปในทางตรงกันข้ามก็ตาม แต่กระนั้นความล่าช้าไม่ได้ลบล้างพระสัญญาของพระเจ้า
อับราฮัมขนานนามตนเองว่าเป็น ‘ผู้ได้รับพระสัญญา’ (7:6) เมื่อพระเจ้าเรียกอับราฮัมและนางซาราห์ พระองค์ทรงสัญญาว่าจะมีชนชาติที่ยิ่งใหญ่เกิดจากทั้งคู่ ทรงสัญญาว่าจะให้ทั้งสองมีบุตร แต่ต้องรอหลายปีกว่าที่พระสัญญาจะสำเร็จ ทั้งสองรอแล้วรอเล่า ทั้งยังได้เดินในทางผิดเพื่อให้พระสัญญานั้นสำเร็จโดยทำผ่านน้ำมือของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ในที่สุด ‘พระยาเวห์ทรงทำแก่ซาราห์ ดังที่พระองค์ปฏิญาณไว้’ (ปฐมกาล 21:1) เมื่ออับราฮัมอายุได้ 100 ปี! ในที่สุด พระเจ้าทรงทำตามพระสัญญา ‘เช่นนั้นแหละ เมื่ออับราฮัมได้อดทนคอยแล้ว ท่านก็ได้สิ่งที่ทรงสัญญาไว้นั้น’ (ฮีบรู 6:15)
พระสัญญาของพระเจ้านั้นจริงแท้แน่นอน ‘เมื่อผู้คนให้คำมั่นสัญญา พวกเขารับประกันโดยอ้อนวอนไปยังผู้มีอำนาจเหนือพวกเขา เมื่อพระเจ้าต้องการรับประกันคำสัญญาของพระองค์ พระองค์ก็ทรงให้คำมั่นสัญญาอย่างมั่นคงหนักแน่น’ (ข้อ 16–17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ความหวังของคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับการมองโลกในแง่ดีที่คลุมเครือ หรือความปรารถนาที่ไร้เหตุผล เป็นการวางใจในพระสัญญาที่ไม่คืนคำของพระเจ้า มีศูนย์กลางอยู่ที่พระเยซู ผู้ทรงเป็น ‘มหาปุโรหิตชั่วนิรันดร์ ตามแบบอย่างเมลคีเซเดคนั้น’ (ข้อ 20) เมลคีเซเดคไม่ปรากฏที่ใดเลยในพระธรรมปฐมกาล และเราไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหลังจากนั้น เขาเป็นดั่งเงาสะท้อนล่วงหน้าของพระเยซู ‘เป็นเหมือนบุตรของพระเจ้า ที่ทรงเป็นปุโรหิตโดยไม่มีการหยุดชะงักและไม่มีผู้สืบทอดต่อ’ (ข้อ 7:3, ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)
ผู้เขียนแสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่สูงสุดของพระเยซู (การเป็นปุโรหิตตามอย่างเมลคีเซเดค) ที่อยู่เหนือปุโรหิตคนอื่น ๆ (ของเผ่าเลวี) (ข้อ 1–10)
พระเยซู ผู้เป็นมหาปุโรหิต ทั้งยังทรงเป็นกษัตริย์แห่งสันติสุขตามอย่างเมลคีเซเดค ชื่อของ ‘เมลคีเซเดค’ หมายถึง ‘กษัตริย์แห่งความชอบธรรม’ และ ‘กษัตริย์เมืองซาเล็ม’ ซึ่งหมายถึง ‘กษัตริย์แห่งสันติสุข’ (ข้อ 2)
ความเป็นมหาปุโรหิตของพระเยซูนั้นถาวร ไม่มี ‘การกล่าววันตายของท่าน’ (ข้อ 3, 8) เช่นเดียวกับพระเยซู พระองค์เป็นปุโรหิตที่ทรงพระชนม์ตลอดไป สดุดี 110 ได้กล่าวไว้ว่า ‘พระองค์เป็นปุโรหิตเป็นนิตย์ตามอย่างเมลคีเซเดค’ (ข้อ 4)
พระเยซู (เมลคีเซเดค) ได้รับสิบลดจากอับราฮัม (ฮีบรู 7:4) ของถวายจากอับราฮัมแสดงให้เห็นว่าอับราฮัมตระหนักถึงความด้อยกว่าเมลคีเซเดคของตัวเอง เลวีเป็นเหลนของอับราฮัม ถึงแม้อับราฮัมเป็นบรรพบุรุษของของเขาทั้งหมด (ข้อ 9–10) ดังนั้นฐานะปุโรหิตของพระเยซู (เมลคีเซเดค) มีสถานะที่สูงกว่าฐานะปุโรหิตของเลวี
เมลคีเซเดคอวยพรอับราฮัม (ข้อ 6–7) พระเจ้าสัญญาว่าบรรดาประชาชาติในโลกจะได้รับพรจากอับราฮัม (ปฐมกาล 22:18) ดังนั้น ถ้าเมลคีเซเดคสามารถอวยพรอับราฮัมได้ สถานะของเมลคีเซเดคต้องเหนือกว่าลำดับพงศ์พันธ์ของเลวีอย่างแน่นอน (ฮีบรู 7:7)
พระเยซูเป็นมหาปุโรหิต ‘ตามอย่างเมลคีเซเดค’ สิ่งนี้เตือนใจเราว่าเราสามารถวางใจได้ว่าพระสัญญาของพระเจ้าจะมั่นคงอย่างสมบูรณ์ พระเยซูรับรองพระสัญญานั้นสำหรับเรา ‘เพื่อเรา’ ทรงเป็น ‘มหาปุโรหิตชั่วนิรันดร์ ตามแบบอย่างของเมลคีเซเดคนั้น’ (6:20)
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ถึงแม้ข้าพระองค์รอคอยอย่างอดทน พระองค์ทรงทำให้สัญญานั้นสำเร็จเสมอ พระสัญญาของพระองค์นั้นแน่นอน และมั่นคง เป็นสมอให้จิตวิญญาณของข้าพระองค์
เอเสเคียล 7:1-9:11
ฟังพระสัญญาของพระเจ้าและรับเอา
ผู้ที่รับพระสัญญาของพระเจ้าจะไม่มีวันอดอยากอาหารฝ่ายจิตวิญญาณ แต่หลายคนกลับวางใจในสิ่งที่ผิด บางคนวางใจในเงินเพื่อความมั่นคง อย่างไรก็ตาม พระเจ้าตรัสว่า ‘เงินและทองของพวกเขาจะไม่อาจจะช่วยกู้เขา’ (7:19ก) ความมั่งคั่งของพวกเขา ‘จะไม่ทำให้พวกเขาหายหิว’ (ข้อ 19ข)
อริสโตเติล โอนาสซิส หนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก กล่าวในวาระสุดท้ายของชีวิตว่า ‘เงินนับล้านก็ไม่สามารถเต็มเต็มความต้องการในชีวิตของมนุษย์ได้’ หลายคนพยายามเติมความว่างเปล่าในส่วนลึกของพวกเขาในแบบที่ไม่เติมเต็ม นั่นเป็นเพราะพวกเขาแสวงหาความสุขผิดที่
ความมั่งคั่ง เป็นอะไรที่อยู่ห่างไกลจากความพึงพอใจและความชื่นชมยินดี มักจะนำเราไปสู่ความจองหอง บาป และการบูชารูปเคารพได้ (ข้อ1–11) นอกจากนี้ ความมั่งคั่งจะไม่มีวันให้ความมั่นคงได้เสมอ ภาวะตลาดตกต่ำและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้คนทั้งประเทศล้มละลายได้ (ข้อ 12–20)
ในทางกลับกัน พระสัญญาของพระเจ้านั้นมั่นคงถาวร สิ่งที่พระองค์ตรัส พระองค์ทรงพระสัญญา เอเสเคียลประกาศพระสัญญาของพระเจ้าว่า ‘พระวจนะของพระเจ้ามาถึงข้าพเจ้า “เจ้าบุตรมนุษย์เอ๋ย นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัส...”’(ข้อ 1–2) ข้อความนั้นคือ ‘การอวสานของทุกกิจการจะเกิดขึ้น’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เอเสเคียลสัญญาว่าการพิพากษาของพระเจ้านั้นเที่ยงธรรม ‘เราจะจัดการกับพวกเขาตามวิถีทางของเขาและเราจะพิพากษาตามหลักการพิพากษาของเขา’ (ข้อ 27; ดูโรม 2:1) สิ่งนี้จะเกิดขึ้น ‘ในวันที่พระเจ้าจะทรงพิพากษาความลับของมนุษย์โดยพระเยซูคริสต์’ (โรม 2:16)
เอเสเคียลได้ชี้ให้เห็นผู้ที่มาจะพิพากษาโลก ‘แล้วข้าพเจ้าก็มองดู และเห็นรูปลักษณ์ของชายคนหนึ่ง จากส่วนที่มีลักษณะของเอวลงไปนั้นเป็นไฟเหนือเอวขึ้นไปมีลักษณะสุกใสเหมือนทองสัมฤทธิ์แวววาว’ (เอเสเคียล 8:2) คำอธิบายนี้ใกล้เคียงกับคำอธิบายเกี่ยวกับพระเยซูในพระธรรมวิวรณ์ 1:10–16
วิธีเดียวที่จะหลุดพ้นจากการพิพากษาคือต้องมีเครื่องหมายที่หน้าผาก (เอเสเคียล 9:4) และพระยาห์เวห์ตรัสสั่งเขาว่า ‘จงเข้าไปในนครคือกรุงเยรูซาเล็มและทำเครื่องหมายไว้ที่หน้าผากของบรรดาผู้ที่ถอนหายใจและคร่ำครวญเนื่องจากสิ่งน่าสะอิดสะเอียดทั้งหมดที่ทำกันในเมือง ... อย่าเข้าใกล้ผู้ที่มีเครื่องหมาย’ (ข้อ 4, 6)
คนที่มีเครื่องหมายบนหน้าผากจะมีเครื่องหมายการปกป้องเมื่อมีการพิพากษา คำว่า ‘mark’ อักษรฮีบรู คือ tav เป็นอักษรฮีบรูตัวสุดท้าย ในเวลานั้นตัวอักษรนั้นคงจะถูกเขียนเป็นเครื่องหมาย X คือเครื่องหมายไม้กางเขน สิ่งนี้เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่? หรือมีนัยสำคัญที่ผู้ซึ่งได้รับการปกป้องคือผู้ที่มีเครื่องหมายกางเขนอยู่บนหน้าผากของพวกเขา?
ในพระธรรมวิวรณ์ เราอ่านเกี่ยวกับทูตสวรรค์ที่ร้องว่า ‘จงอย่าทำอันตรายแผ่นดิน ทะเล หรือต้นไม้ จนกว่าเราจะได้ประทับตราบนหน้าผากของบรรดาผู้รับใช้ของพระเจ้าของเรา’ (วิวรณ์ 7:3; ดูวิวรณ์ 9:4; 14:1)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงแบกรับบาปและการพิพากษาของข้าพระองค์ไว้บนไม้กางเขน ขอบพระคุณที่ทรงทำเครื่องหมายบนหน้าผากของข้าพระองค์ ขอบพระคุณที่ข้าพระองค์สามารถไว้วางใจในคำสัญญาของพระองค์สำหรับอนาคต และมีความหวังนี้ เป็นสมอของจิตวิญญาณของข้าพระองค์
Pippa Adds
ฮีบรู 6:15
‘เมื่ออับราฮัมอดทนคอยแล้ว ท่านก็ได้รับสิ่งที่ทรงสัญญาไว้นั้น’
การรอสิ่งใด ๆ นั้นเป็นเรื่องยาก ตัวอย่างของอับราฮัมเป็นการหนุนใจให้อธิษฐานต่อ ๆ ไปแม้เมื่อรู้สึกราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

The Holy Spirit: God Through Us

BE a PILLAR

Journey Through Esther

Fatherless No More: Discovering God’s Father-Heart

The Creator's Battle: Winning the Inner War for Your Art

When Tithing Feels Impossible: 3 Truths That Free You From Financial Guilt

What Is "The Way of Christ?"

Read the Bible Effectively

When You Are the Problem: The Courage to Look in the Mirror When Your Church Is in Crisis
