พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

ค้นหาวัตถุประสงค์ของคุณในชีวิต
‘*เสียเปล่า*จริงๆ !’ ผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเพื่อนของผม เธอกำลังพูดถึงบิชอปแซนดี้ มิลลาร์ ผู้เคยมีอาชีพเป็นทนายความ และประสบความสำเร็จมากกว่าสิบปี ก่อนที่เขาจะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังเพื่อมาเป็นผู้รับใช้ในคริสตจักร ‘*เสียเปล่า*อย่างนั้นหรือ?’ เพื่อนของผมอุทานอย่างโกรธเคือง ‘ใช่แล้ว’ ผู้หญิงคนนั้นพูด ‘เสียเปล่าจริงๆ ! เขาน่าจะทำเงินได้มากโขและอยู่ในอันดับต้น ๆ ของวิชาชีพกฎหมายเชียวนะ คิดถึงสิ่งที่เขา*ควรจะ*ได้มาซิ!’ ‘คิดถึงสิ่งที่เขา*ควร*ได้มาอย่างนั้นหรือ!’ ตอบกลับโดยเพื่อนของผมผู้กำลังคิดถึงอิทธิพลจากพันธกิจของแซนดี้ที่มีต่อคนหลายพันคนทั่วโลก ผู้ ซึ่งชีวิตของพวกเขาได้รับการเปลี่ยนแปลง มีชีวิตสมรสที่บริบูรณ์ยิ่งขึ้น และคริสตจักรที่ได้รับการฟื้นฟู พวกเขาเหล่านั้นได้พบความเชื่อ ความรัก ความหวัง และสันติสุข ผ่านการพบกับพระเยซูคริสต์อันเป็นผลมาจากพันธกิจของแซนดี้ หลายๆคนละทิ้งอาชีพที่ประสบความสำเร็จ ค่าตอบแทนสูง และละทิ้งทุกโอกาสอันดีในมุมมองของโลกนี้ เพื่อรับใช้ ‘พระเจ้าในพันธกิจเต็มเวลา’ โดยได้รับค่าจ้างเพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้รับเลย พวกเขารู้ว่าการทรงเรียกของพวกเขาเป็นการทรงเรียกพร้อมกับวัตถุประสงค์ในระดับสูงระดับสูงเกินกว่าที่โลกสามารถสัญญาว่าจะให้แก่พวกเขาได้ แน่นอนว่าผู้คนที่ได้รับการทรงเรียกให้รับใช้พระเจ้าในสถานที่ทำงานทางโลก พวกเขามีการทรงเรียกและวัตถุประสงค์ในระดับที่สูงพอๆ กัน หากพวกเขากำลังทำสิ่งที่กำลังทำอยู่เพื่อทำให้พระเจ้าพอพระทัย และเพื่อเห็นแก่อาณาจักรของพระองค์ กุญแจสำคัญไม่ใช่งานหรืออาชีพ แต่เป็นเป้าหมายที่คุณไล่ตาม ผู้คนจำนวนมากใช้ชีวิตของพวกเขาอย่างเสียเปล่า พวกเขาไม่มีวัตถุประสงค์ ไม่มีสิ่งที่มีความหมาย หรือเป้าหมาย หลายคนอาจมีเป้าหมาย แต่เป็นเป้าหมายที่ผิด พวกเขาจึงลงเอยด้วยการไล่แสวงหาบางอย่างซึ่งท้ายที่สุดแล้วกลับไม่มีความหมาย หลายคนไปถึงจุดสูงสุดของบันไดแห่งความสำเร็จเพียงเพื่อจะพบว่าบันไดที่ปีนขึ้นไปนั้นพิงกำแพงผิดด้าน วัตถุประสงค์ในชีวิตสำคัญกว่าทรัพย์สิน หรือของที่อยู่ในการครอบครองใด ๆ การสั่งสมไว้มากเพื่อใช้ชีวิตกับมัน มิอาจทดแทนการสั่งสมไว้มากเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีวัตถุประสงค์ ว่ากันว่า ‘สองวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคุณ คือ วันที่คุณเกิด และวันที่คุณค้นพบว่าคุณเกิดมาทำไม’ พระเจ้าทรงสร้างคุณโดยมีเป้าหมายไว้ในใจ (2 โครินธ์ 5:5)สุภาษิต 21:17-26
ติดตามความชอบธรรมและความกรุณา
หลายคนในทุกวันนี้ดำเนินชีวิตแบบนิยม ‘ลัทธิสุขนิยม’ คือ การแสวงหาความสุขเป็นเป้าหมายสูงสุด นักสุขนิยมจะเสพติดสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุข
‘ท่านเสพติดความตื่นเต้นอย่างนั้นหรือ ช่างเป็นชีวิตที่ว่างเปล่า! การแสวงหาความสุขไม่เคยเป็นที่พอใจ’ (ข้อ 17 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ความสุขไม่ใช่เรื่องผิด (เช่นเดียวกับการเก็บออม ไม่ใช่เรื่องผิด) ‘คลังทรัพย์ล้ำค่าและน้ำมันมีอยู่ในที่อาศัยของคนมีปัญญา’ (ข้อ 20) แต่ความสัมพันธ์นั้นสำคัญกว่าความร่ำรวยมาก ‘อาศัยอยู่เต็นท์ที่ในป่าดีกว่าอยู่กับไม้ทรงกางเขนและคู่ครองที่เย่อหยิ่ง’ (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
วัตถุประสงค์และเป้าหมายในชีวิตของคุณไม่ควรวนเวียนอยู่กับวัตถุทางโลก ตรงกันข้าม ‘คนที่ติดตามความชอบธรรมและความกรุณา จะพบชีวิต ความชอบธรรม และเกียรติยศ’ (ข้อ 21) จงทำให้สิ่งนี้เป็นเป้าหมายของชีวิตคุณ โดยการที่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตเพื่อแสวงหาความสัมพันธ์กับพระเจ้า และความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับผู้อื่น
ความรักควรเป็นเป้าหมายของคุณ ‘คนโลภก็โลภสิ่งที่พวกเขาไม่มีแต่คนภักดีต่อพระเจ้ามักจะให้สิ่งที่พวกเขามี’ (ข้อ 26, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
สิ่งที่น่าขัน คือ บรรดาผู้ที่แสวงหาความชอบธรรมและความรักได้พบกับสิ่งที่บรรดาคนเจ้าสำราญกำลังตามหาเช่นกัน นั่นคือ ‘ชีวิต ความชอบธรรม และ เกียรติยศ’ (ข้อ 21ข) แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงผลพลอยได้ มันไม่ควรเป็นความมุ่งหมายและวัตถุประสงค์หลักของคุณ แต่ควรที่จะปรารถนาแผ่นดินของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ต่างหาก เพราะพระเยซูสัญญาว่า ‘แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงนี้ให้’ (มัทธิว 6:33)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ไม่ให้เสียเวลาชีวิตไปกับการค้นหาความพึงพอใจทางเนื้อหนัง แต่เอาเวลามาใช้ในการค้นหาอาณาจักรของพระองค์ เพื่อแสวงหาความชอบธรรมและความรักในทุกสิ่งที่ลงมือทำ
2 โครินธ์ 5:1-10
มุ่งหมายที่จะทำให้พระเจ้าพอพระทัย
ความมุ่งหมายและวัตถุประสงค์หลักในชีวิตของเปาโล คือ การทำให้พระเจ้าพอพระทัย ‘การทำให้พระเจ้าพอพระทัยเป็นเรื่องหลัก เป็นสิ่งที่เรามุมานะโดยไม่คำนึงถึงเงื่อนไขใด ๆ ของเราเอง’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
คุณอาจเผชิญกับความท้าทายทางกายภาพอยู่ วันหนึ่งร่างกายของคุณจะไม่สามารถทำสิ่งที่คุณเคยทำได้อยู่เสมอ ถึงวันหนึ่ง ‘ร่างกายนี้ของท่าน’ จะ ‘ถูกรื้อลงมาเหมือนเต็นท์และพับเก็บ จะถูกแทนที่ในสวรรค์ด้วยกายซึ่งฟื้นขึ้นมาใหม่จากความตาย’ (ข้อ 1-2 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เมื่อคุณวางความเชื่อไว้ที่พระเยซูคริสต์ คุณได้รับพระสัญญาถึงพระพรทั้งหมดในแผ่นดินของพระเจ้า ทว่าเรายังคงรู้สึกอ่อนแอ และเต็มไปด้วยบาป ยังประสบกับความทุกข์ยากและความอึดอัดคับข้องใจ และยังอยู่ในโลกที่แตกสลาย คุณต้องรอพระพรแห่งแผ่นดินสวรรค์มากน้อยเพียงใดในอนาคตหรือในวันสุดท้าย และคุณมีประสบการณ์มากน้อยเพียงใดที่นี่และตอนนี้ในปัจจุบัน?
มีสมดุลระหว่างสิ่งที่คุณจะได้เจอในอนาคตกับสิ่งที่คุณเจอในตอนนี้ ตอนนี้คุณ ‘อยู่ห่างจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะว่าเราดำเนินโดยความเชื่อ ไม่ใช่โดยสิ่งที่มองเห็น’ (ข้อ 6-7) ในอนาคตคุณจะ ‘อาศัยอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้า’ (ข้อ 8) ความตายจะ ‘ถูกกลืนโดยชีวิตอมตะ’ (ข้อ 4) ซึ่งในตอนนี้คุณยังไม่ได้รับพระพรอันสมบูรณ์ของอาณาจักรพระเจ้า
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้คุณมีประสบการณ์ในคำพยากรณ์ถึงอนาคต พระเจ้า ‘ทรงเป็นผู้เตรียมเราไว้สำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ และพระองค์ประทานพระวิญญาณเป็นมัดจำแก่เรา’ (ข้อ 5) ‘พระเจ้าทรงใส่ส่วนเล็ก ๆ ของสวรรค์ไว้ในใจของเราเพื่อเราจะไม่มีวันเป็นเพียงผู้เล็กน้อย’ (ข้อ 5ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) การมัดจำนั้นไม่ได้เป็นเพียงการรับประกัน แต่เป็นส่วนหนึ่งของพระพรของพระเจ้าที่ยังไม่มาถึงคือการครอบครองและอำนาจในการปกครองในตอนนี้ พระวิญญาณได้นำพระพรมามอบไว้แก่ท่านแล้ว
‘นั่นคือเหตุผลที่เราดำเนินชีวิตด้วยใจร่าเริง สภาพที่จำกัด ณ ที่แห่งนี้ไม่ทำให้เราจมลงกับความผิดหวัง แต่ย้ำเตือนถึงสภาพอันไม่จำกัดในวันข้างหน้า’ (ข้อ 6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ในขณะที่พวกเรารอคอย ‘ฉะนั้นเราตั้งเป้าว่าจะอาศัยอยู่ในกายนี้ก็ดีหรือจะจากไปก็ดี เราก็จะเป็นคนที่พระเจ้าพอพระทัย’ (ข้อ 9) ‘ไม่ช้าก็เร็ว... เราจะปรากฎตัวต่อหน้าพระคริสต์และรับสิ่งที่เป็นผลมาจากการกระทำของเรา ไม่ว่าจะดีหรือร้าย’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยให้ข้าพระองค์จดจ่อต่อเป้าหมายนี้ในชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ต้องการทำให้พระองค์พอพระทัยในทุกสิ่งที่ข้าพระองค์ลงมือทำ พูด และคิด
มีคาห์ 5:1-7:20
ก้าวขึ้นไปสู่ความท้าทายของมีคาห์
เป็นไปได้ที่จะมีจิตวิญญาณที่สูญเปล่า พระเจ้าทรงเตือนผ่านผู้เผยพระวจนะมีคาห์ว่า:
‘ทรัพย์สมบัติที่ได้มาจากการชั่วร้าย…
|สั่งสมจากการโกงและฉ้อฉล…
ข้อตกลงในเงาอธรรม และอุบายหลอกลวง...
ไม่ว่าแสวงได้เท่าไร มันจะไม่เคยเพียงพอ –
|ท้องกลวง หัวใจว่างเปล่า
ไม่ว่าลงแรงหนักเพียงใด เจ้าไม่มีสิ่งใดให้อวดได้ –
|ชีวิตร้างเปล่า จิตวิญญาณสูญเปล่า’ (6:10-14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ในเวลานั้นมีคาห์มองไปข้างหน้า (ตัวอย่าง ดู 7:7-20) ในตอนหนึ่งเขายังไม่รู้ถึงคำเผยพระวจนะเกี่ยวกับพระเยซู (มัทธิว 2:5-12) เขาเห็นผู้ปกครองมาจากเบธเลเฮม ‘ต้นตระกูลของท่านมาจากสมัยเก่า จากสมัยโบราณกาล… และท่านจะเป็นสันติสุขของพวกเขา’ (มีคาห์ 5:2,5ก) ท่านผู้นั้นจะถูกรับรู้ว่าเป็น ‘ผู้นำสันติภาพมาสู่โลก’ (ข้อ 4ข พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เมื่อเวลาผ่านไป มีคาห์มองย้อนไป เขาดูสิ่งต่าง ๆ ที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทำเพื่อคนของพระองค์ (ดู 6:3 เป็นต้นไป) พระองค์ทรงไถ่พวกเขา ทรงนำพวกเขา (ข้อ 4) และเตือนให้พวกเขา ‘ระลึก’ (ข้อ 5)
พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งความรัก และความเมตตาอันน่าอัศจรรย์ 'พระเมตตาทรงเป็นพระลักษณะของพระองค์ นั่นเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงรักที่สุด พระเมตตากำลังหวนกลับมาหาเรา พระองค์จะทรงเหยียบความผิดทั้งหลายของเราไว้ พระองค์จะทรงเหวี่ยงบาปทั้งสิ้นของเราลงไปในที่ลึกของทะเล’ (7:18-19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
โดยทางพระเยซู อดีตของคุณได้รับการให้อภัยทั้งหมดทั้งสิ้น อย่ามองย้อนกลับไปและรู้สึกเสียใจ พระเจ้าทรง ‘เหวี่ยงบาปทั้งสิ้นของเราลงไปในที่ลึกของทะเล’ (ข้อ 19) และมีป้าย 'ห้ามตกปลา'
อะไรคือการตอบสนองของคุณต่อพระคุณอันน่าอัศจรรย์นี้ มีคาห์นำเสนอความท้าทายไว้ดังนี้ ‘ให้ทำความยุติธรรมและให้รักความเมตตา และให้ดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้าของเจ้าด้วยความถ่อมใจ’ (6:8ค) ความท้าทายสามประการนี้ทำให้เรามีวัตถุประสงค์และเป้าหมายในชีวิตของเรา:
1. กระทำความยุติธรรม
ความยุติธรรมสำคัญอย่างมากในแผนการของพระเจ้า ความอยุติธรรมทำให้เกิดความทุกข์ทรมานมากมายในโลกทุกวันนี้ ผมต้องให้ความยุติธรรมเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นในชีวิตของผมและในชุมชนของเรา เราต้องลงมือทำมากขึ้นเพื่อให้เห็นว่าคนจน คนกลุ่มน้อย และคนไร้อำนาจ จะได้รับความยุติธรรม
2. รักความเมตตา
พระเจ้าได้แสดงความเมตตาแก่เรา การตอบสนองของเราควรเป็นการแสดงความเมตตา ไม่กดดันผู้อื่นว่าต้องดีพร้อมให้ได้ แต่จงรักและยอมรับพวกเขาอย่างที่พวกเขาเป็น พวกเขาต้องนำข่าวประเสริฐแห่งความรักและพระเมตตาของพระเจ้าส่งต่อออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่งต่อให้ทุกคน รวมถึงผู้ต้องขัง คนจรจัดไร้บ้าน คนชรา และคนยากจน
3. ดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ
อย่ามองว่าตัวเองดีกว่า เหนือกว่า หรือสำคัญกว่าคนอื่น คนหยิ่งยโสประเมินความสำคัญของพวกเขาสูงเกินไป พวกเขาไม่สามารถหัวเราะเยาะตัวเองได้ ‘อย่าจริงจังกับตัวเองมากเกินไป จงให้ความสำคัญกับพระเจ้า’ (ข้อ 8ค, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เราจะไม่สามารถถ่อมใจลงจริง ๆ ได้เลยเว้นแต่ว่าเรากำลังดำเนินอยู่ในความสัมพันธ์กับพระเจ้า
ทั้งสามประการนี้ดำเนินไปด้วยกัน หลักฐานสำแดงความเชื่อที่แท้จริงคือวิธีการที่คุณดำเนินชีวิต นี่คือเหตุผลที่เปาโลเขียนว่า ‘การกระทำในกายนี้’ (2 โครินธ์ 5:10) เป็นเรื่องสำคัญมาก คุณจะถูกตัดสินโดยหลักฐานของความเชื่อนั่นเอง
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้กระทำความยุติธรรม ให้รักความเมตตา และเดินอย่างถ่อมใจไปกับพระองค์
Pippa Adds
2 โครินธ์ 5:10
‘เพราะว่าเราทุกคนจำเป็นต้องปรากฎตัวต่อหน้าบัลลังก์ของพระคริสต์ เพื่อแต่ละคนจะได้รับสิ่งที่สมกับการกระทำในกายนี้ ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว’
ในความสว่างนั้น ฉันยินดีเหลือเกินที่จะอ่านในพระธรรมมีคาห์ ‘ใครเล่าจะเป็นพระเจ้าเหมือนพระองค์ผู้ทรงอภัยบาป และทรงมองข้ามการทรยศของคนที่เหลืออยู่อันเป็นมรดกของพระองค์ท่าน… และจะทรงเหยียบความผิดทั้งหลายของเราไว้ พระองค์จะทรงเหวี่ยงบาปทั้งสิ้นของเราลงไปในที่ลึกของทะเล’ (มีคาห์ 7:18-19)
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Spiritual Portals

Victory Is Yours: Overcome Life’s Challenges God's Way

Helping Your Kids Know God's Good Design

Living LifeWise: The Good Samaritan

Be Fruitful

God With Us: Lessons From the Incarnation

Letting Go of Your Past

THE PRAYER of JABEZ

The Power of Generosity: Sharing God’s Abundance
